เปิดใจ นายกฯคนใหม่ กับ ‘มหกรรมหนังสือฯ’ ตุลา 68 ‘Melody of Books’

เปิดใจ นายกฯคนใหม่ กับ ‘มหกรรมหนังสือฯ’ ตุลา 68  ‘Melody of Books’

มาทำความรู้จัก ‘นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ’ คนใหม่ พร้อมเผยวิสัยทัศน์ แนวทาง และงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ‘Melody of Books’ วันที่ 9-19 ต.ค. 68

KEY

POINTS

  • สมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ เปิดตัวนายกสมาคมฯ คนใหม่ ‘ณัฐกร วุฒิชัยพรกุล’ พร้อมวิสัยทัศน์ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมหนังสือไทยใน 3 ปีข้างหน้า
  • ชูนโยบายสำคัญ 3 ด้าน ได้แก่ การสนับสนุนสมาชิกให้แข็งแกร่ง, ส่งเสริมการอ่านในคนรุ่นใหม่ และผลักดันไทยสู่ศูนย์กลางการซื้อขายลิขสิทธิ์ในเอเชีย
  • เตรียมจัดงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 30 ภายใต้แนวคิด ‘Melody of Books’ ในวันที่ 9-19 ตุลาคม 2568 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

สมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) เปิดตัว นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ คนใหม่ ทำหน้าที่แล้วตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา

ณัฐกร วุฒิชัยพรกุล นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย (PUBAT) เป็นผู้ที่อยู่ในแวดวงหนังสือมากว่า 15 ปี ด้วยธุรกิจสำนักพิมพ์ เวิร์ด วอนเดอร์ นำเสนอหนังสือจากต่างประเทศมาแปลเป็นภาษาไทย ได้แก่ Fevre Dream เรือรัตติกาล, The Graveyard Book ผจญภัยในสุสาน, The Poppy War สงครามดอกฝิ่น และ Mistborn The Final Empire มิสต์บอร์น อาณาจักรไฟนอล ฯลฯ

 

นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ เผยว่า การขับเคลื่อนอุตสาหกรรมหนังสือไทยในยุคใหม่ ต้องเผชิญกับความท้าทายมากมายทั้งที่ควบคุมได้และควบคุมไม่ได้

"โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุคที่พฤติกรรมการอ่านของประชาชนมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว นักอ่านในปัจจุบันไม่เพียงแต่เลือกหนังสือที่ตัวเองสนใจเท่านั้น แต่ยังมีความนิยมอ่านผ่านอีบุ๊กและคอนเทนต์ออนไลน์มากขึ้น

เปิดใจ นายกฯคนใหม่ กับ ‘มหกรรมหนังสือฯ’ ตุลา 68  ‘Melody of Books’

ทำให้สำนักพิมพ์ต้องปรับตัวอย่างรวดเร็ว เพื่อไม่ให้ล้าหลัง นอกจากนี้การเติบโตในตลาดหนังสือไทยก็มีอัตราการเติบโตที่ชะลอตัวลงในบางกลุ่ม

สมาคมฯ ได้กำหนดวิสัยทัศน์สำคัญ 3 ด้านในการดำเนินงานระยะ 3 ปีข้างหน้า ดังนี้

1. สนับสนุนให้สมาชิกเดินหน้าธุรกิจได้อย่างแข็งแรง ในยุคที่อุตสาหกรรมหนังสือกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงและภาวะเศรษฐกิจก็ท้าทาย การสนับสนุนสำนักพิมพ์และร้านหนังสือเติบโตอย่างยั่งยืน ผ่านการจัดงานหนังสือฯ เป็นสิ่งสำคัญ เพราะสามารถสร้างรายได้ให้กับสมาชิก ขณะเดียวกันก็มีแนวคิดขยายการจัดงานไปยังหัวเมืองรอง พร้อมกับเพิ่มกิจกรรมดึงดูดผู้เข้าร่วมงานให้มากขึ้น

2. ส่งเสริมการอ่าน สมาคมฯ มุ่งเน้นสร้างการอ่านให้เป็นที่นิยมในกลุ่มคนรุ่นใหม่ ซึ่งการมีนักอ่านหน้าใหม่จะสามารถขยายตลาดหนังสือให้เติบโตขึ้นได้ โดยแผนงานระยะยาวมีการปรับกลยุทธ์การตลาดผ่านช่องทางออนไลน์และใช้คอนเทนต์ครีเอเตอร์สร้างแรงจูงใจในการอ่านให้มากขึ้น

3. การจัดการและดูแลลิขสิทธิ์ ที่ผ่านมาประเด็นเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์หนังสือและการจัดการกับหนังสือปลอมถือเป็นปัญหาที่สำคัญ สมาคมฯ ได้ให้ความสำคัญ กำหนดมาตรการเข้มงวดเพื่อจัดการกับสำนักพิมพ์ที่ละเมิดลิขสิทธิ์ และพัฒนาประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการซื้อขายลิขสิทธิ์ (Rights Trading Center) ในเอเชีย เพิ่มการซื้อขายลิขสิทธิ์ของหนังสือไทยในต่างประเทศ

เปิดใจ นายกฯคนใหม่ กับ ‘มหกรรมหนังสือฯ’ ตุลา 68  ‘Melody of Books’

สมาคมฯ มุ่งมั่นส่งเสริมการอ่าน สร้างการตระหนักรู้ในระดับสากล เพิ่มความเข้มแข็งให้กับธุรกิจหนังสือในประเทศ การมีบทบาทต่อเนื่องในการสนับสนุนสมาชิกและการปรับตัวของสำนักพิมพ์ในยุคดิจิทัลจึงเป็นก้าวสำคัญที่สมาคมฯ ต้องมุ่งมั่นเดินหน้าต่อไป

จุดแข็งของสมาคมฯ คือ การมีคณะกรรมการสมาคมฯ ที่มีความรู้ ความชำนาญเฉพาะด้านที่หลากหลาย เข้ามาช่วยขับเคลื่อนพันธกิจให้บรรลุตามเป้าหมายที่วางไว้ คือ ยกระดับอุตสาหกรรมหนังสือไทยให้เติบโตและยั่งยืนในระยะยาว แผนการดำเนินงานนับจากนี้ จะมุ่งไปที่ 

1. การเชื่อมโยงสำนักพิมพ์และร้านหนังสืออิสระให้มากขึ้น เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับระบบนิเวศของอุตสาหกรรมซึ่งต้องรับมือกับภาวะเศรษฐกิจที่ยากลำบาก ผ่านการจัดงานหนังสือที่น่าสนใจและการส่งเสริมการขายหนังสือในรูปแบบที่เข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้น

2. ส่งเสริมการอ่าน กระตุ้นนักอ่านหน้าใหม่ ขยายตลาดในต่างประเทศ ทั้งรูปแบบหนังสือเล่มและอีบุ๊ก ช่วยส่งเสริมการอ่านให้กว้างขวางขึ้น เพื่อให้ตลาดเติบโตในระยะยาว รวมถึงการจัดการป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์และหนังสือปลอม เพื่อรักษาผลประโยชน์ของสำนักพิมพ์และนักเขียน

เปิดใจ นายกฯคนใหม่ กับ ‘มหกรรมหนังสือฯ’ ตุลา 68  ‘Melody of Books’

3. สร้างเครือข่ายการซื้อขายลิขสิทธิ์ในระดับสากล สมาคมฯ จะเป็นศูนย์กลางซื้อขายลิขสิทธิ์ (Rights Trading Center) ในเอเชีย ผลักดันการซื้อขายลิขสิทธิ์ที่มีมูลค่ากว่า 60 ล้านบาท ให้เพิ่มขึ้นเป็น 100 ล้านบาทภายใน 3 ปี พร้อมทั้งส่งเสริมการแปลผลงานเป็นภาษาอังกฤษเพื่อขายลิขสิทธิ์ไปยังต่างประเทศ ทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านการซื้อขายลิขสิทธิ์ในเอเชีย

4. การขยายการจัดงานหนังสือฯ ไปสู่เมืองรองและสร้างรายได้ให้สมาชิกในภูมิภาค เช่น นครราชสีมา, สุราษฎร์ธานี, และภูเก็ต เพื่อให้สำนักพิมพ์สามารถเข้าถึงตลาดในพื้นที่นั้น ๆ และช่วยสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการในท้องถิ่น

5. การผลักดันให้เกิดการสนับสนุนจากรัฐบาล โดยเฉพาะการจัดสรรงบประมาณซื้อหนังสือเข้าห้องสมุดทั่วประเทศ เพื่อสร้างโอกาสในการอ่านให้กับเด็กและเยาวชน และช่วยลดต้นทุนการผลิตหนังสือและส่งเสริมการอ่านอย่างยั่งยืน

เปิดใจ นายกฯคนใหม่ กับ ‘มหกรรมหนังสือฯ’ ตุลา 68  ‘Melody of Books’

คนไทยส่วนใหญ่มองว่าการอ่านหนังสือเป็นกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการสอบหรือการศึกษามากกว่าความสนุกสนาน สมาคมฯ มุ่งมั่นปรับเปลี่ยนแนวคิดนี้ ส่งเสริมการอ่านให้คนไทยมีพฤติกรรมการอ่านที่ดีขึ้น

ขณะที่ภาครัฐก็ควรมีส่วนช่วย อยากเสนอแนะรัฐบาลให้เพิ่มงบประมาณซื้อหนังสือเข้าห้องสมุดทั่วประเทศ เพื่อให้ราคาหนังสือถูกลง และให้ห้องสมุดมีหนังสือใหม่ ๆ

อุตสาหกรรมหนังสือ เป็นหนึ่งใน Soft Power ของประเทศ รัฐบาลต้องสนับสนุนส่งเสริมผู้ประกอบการให้แข่งขันและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมได้อย่างแพร่หลาย มีการซื้อลิขสิทธิ์ไปทำภาพยนตร์ ซีรีส์ สารคดี ยกระดับอุตสาหกรรมไทยให้ก้าวหน้าโดยเฉพาะการลงทุนด้านดิจิทัลและการพัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์ให้เข้าถึงนักอ่านในยุคใหม่

เปิดใจ นายกฯคนใหม่ กับ ‘มหกรรมหนังสือฯ’ ตุลา 68  ‘Melody of Books’

งานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่ 30 (BOOK EXPO THAILAND 2025) ในเดือนตุลาคมนี้ จะเกิดขึ้นภายใต้แนวคิด Melody of Books 

อ่านหรือยัง ฟังหรือเปล่า งานหนังสือที่มีสีสัน ความสนุกสนาน และกิจกรรมน่าสนใจ ไม่แพ้ครั้งก่อนแน่นอน มาพบกันวันที่ 9-19 ตุลาคม 2568 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์"

เปิดใจ นายกฯคนใหม่ กับ ‘มหกรรมหนังสือฯ’ ตุลา 68  ‘Melody of Books’