'ศิวกานท์ ปทุมสูติ' คว้าซีไรต์ปี 68 จากบทกวี 'อีกฟากด้านกระดานหก'

ประกาศผล 'ซีไรต์' ประจำปี 2568 'อีกฟากด้านกระดานหก' โดย 'ศิวกานท์ ปทุมสูติ' คว้ารางวัลซีไรต์ ประเภท 'กวีนิพนธ์' ประจำปี 2568
KEY
POINTS
- 'ศิวกานท์ ปทุมสูติ' ได้รับรางวัล 'ซีไรต์' ประจำปี 2568 จาก 'บทกวี' เรื่อง 'อีกฟากด้านกระดานหก'
- เนื้อหาของบทกวีใช้สัญลักษณ์ 'กระดานหก' นำเสนอแนวคิดเรื่องความแตกต่างทางชนชั้น วัย และอุดมการณ์ พร้อมฉายภาพการต่อสู้ทางอำนาจในสังคม
- คณะกรรมการชี้ว่าผลงานมีความโดดเด่นด้านวรรณศิลป์ โดยผสมผสานร้อยกรองหลากหลายรูปแบบทั้งแบบดั้งเดิมและร่วมสมัย และใช้ภาษาที่คมคาย
คุณหญิงทิพาวดี เมฆสวรรค์ ประธานคณะกรรมการดำเนินงานรางวัลวรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน (ซีไรต์) (ตั้งแต่สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป) แถลงข่าวประกาศผลการตัดสินประจำปี 2568 วันที่ 8 กันยายน 2568 ณ C asean อาคาร CW Tower ถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพฯ ว่า
รางวัลซีไรต์ ประจำปี 2568 ผลงานที่ชนะรางวัลประเภท กวีนิพนธ์ ได้แก่ อีกฟากด้านกระดานหก โดย ศิวกานท์ ปทุมสูติ
Cr. Kanok Shokjaratkul
อีกฟากด้านกระดานหก โดย ศิวกานท์ ปทุมสูติ
ถ่ายทอดความซับซ้อนของชีวิตมนุษย์ด้วยสายตาของผู้เข้าใจโลก ใช้ภาพการต่อสู้ขับเคี่ยวทางวาทกรรมและอำนาจที่แทรกซึมในสังคม แสดงความสำคัญของการสร้างสมดุลระหว่างมนุษย์กับอำนาจ อดีตกับปัจจุบัน รัฐกับประชาชน
กระตุ้นให้ตระหนักถึงสิ่งที่คิดว่าไม่มีหรือการยึดติดในเหตุผลจนลืมหัวใจ หยิบยกปัญหาของผู้ไร้อำนาจ ผู้ถูกเอารัดเอาเปรียบมานำเสนอด้วยน้ำเสียงปลุกเร้าหนักแน่นให้ยึดมั่นในคุณงามความดี ผสานแนวคิดธรรมะอย่างแยบยล สำนวนภาษาคมคาย แสดงถึงความเชี่ยวชาญในภาษา
Cr. Kanok Shokjaratkul
8 ผลงานที่เข้ารอบ Shortlist
การประกวดผลงานวรรณกรรมสร้างสรรค์รางวัลซีไรต์ ประจำปี พ.ศ. 2568 มี 8 เล่ม (เรียงตามลำดับตัวอักษรของชื่อหนังสือ) ดังนี้
1. คนกลืนฝนจนเอ่อล้นพ้นดวงตา โดย ชาย แสงอากาศ / ชายแสงอากาศ
2. นักล่าแสงแรก โดย ธรรมรุจา ธรรมสโรช / สำนักพิมพ์จงสว่าง
3. บทกวีตีพิมพ์บนสรวงสวรรค์ในปีต่อมา โดย ซะการีย์ยา อมตยา / สำนักพิมพ์สมมติ
4. บังฟ้าเบิกอบาย โดย นายทิวา / สำนักพิมพ์ ออน อาร์ต
5. แม่น้ำต่างหากสร้างสะพาน โดย วิศิษฐ์ ปรียานนท์ / ผจญภัยสำนักพิมพ์
6. เราอยู่บนดาวดวงเดียวกันไหม โดย นิตา มาศิริ / สาวิตรี ทนเสน
7. เสียงสวดมนต์ของคนใบ้ โดย องอาจ สิงห์สุวรรณ / ผจญภัยสำนักพิมพ์
8. อีกฟากด้านกระดานหก โดย ศิวกานท์ ปทุมสูติ / โรงเรียนกวีทุ่งสักอาศรม
Cr. Kanok Shokjaratkul
ภาพรวมของกวีนิพนธ์ที่ส่งเข้ามาประกวด ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ชัยรัตน์ พลมุข ประธานคณะกรรมการในรอบ Shortlist กล่าวว่า ผลงานที่ส่งเข้าประกวดมีการตกผลึกเกี่ยวกับตัวตนและสังคมที่ผ่านพ้นวิกฤติรอบด้าน ไม่ว่าการเมือง สิ่งแวดล้อม เทคโนโลยี เกิดเป็นความตระหนักรู้อันลึกซึ้ง ถ่ายทอดผ่านน้ำเสียงอันสุขุม
"ในด้านเนื้อหา หลายเล่มนำเสนอภาพที่ซับซ้อนของโลกภายนอกและภายใน มีการใคร่ครวญเกี่ยวกับประสบการณ์ชีวิตทั้งสุขและทุกข์ สายสัมพันธ์ในครอบครัว การเผชิญหน้ากับความแตกต่างทางเชื้อชาติและศาสนา
วิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปตามยุคสมัย การวิพากษ์วิจารณ์สังคม ด้านความเชื่อ ศาสนา ศรัทธา การดำรงชีวิตท่ามกลางข่าวลวง ความจริงเสมือน ปัญญาประดิษฐ์ ผลกระทบจากความขัดแย้งทางการเมืองและสงคราม
ประเด็นที่แหลมคมคือ การขบคิดเกี่ยวกับช่องว่างระหว่างวัย มีเสียงของคนหลายรุ่นที่ตั้งคำถามต่ออคติจากความแตกต่างนี้ หลายเรื่องสอดแทรกความสำคัญของกวีนิพนธ์ในการเยียวยาบาดแผลทั้งระดับปัจเจกและสังคม
ในด้านรูปแบบ กวีนิพนธ์ส่วนใหญ่แต่งด้วย ร้อยกรอง ฉันทลักษณ์ ตามขนบ ขณะเดียวกันก็มีการทดลองเชิงรูปแบบการเล่าเรื่องที่คล้ายเรื่องสั้น หรือแต่งเป็นเรื่องยาวมีการผูกปมให้ติดตาม
กวีนิพนธ์ไร้ฉันทลักษณ์ มีวิธีการเล่าเฉพาะตัว เช่น การประสานข้อมูลเชิงสารคดีเข้ากับจินตนาการ การใช้จินตภาพที่ปรากฏซ้ำ มีการนำเทคนิคด้านการออกแบบกราฟิกเข้ามาเน้นย้ำสารสำคัญ บางบทกวีมีลักษณะของคำประกาศ แสดงให้เห็นพลังในการปลุกเร้าของกวีนิพนธ์ในวัฒนธรรมมุขปาฐะ
ในแง่ของผู้ส่งผลงานเข้าประกวด พบว่ามี 2 ประเด็นหลัก คือ กวีรุ่นใหม่ Gen Z, Gen Y ที่เขียนงานมากขึ้น พูดถึงเรื่องที่เฉพาะเจาะจง มีมุมมองต่อสิ่งต่าง ๆ ที่แตกต่างออกไป
ยกตัวอย่าง การตัดสินคุณค่า หรือมิติทางศีลธรรมต่อเทคโนโลยีและสื่อสังคม ผู้ใหญ่อาจมองว่ามีแต่ด้านที่ทำลาย ขณะที่คนรุ่นใหม่มองเห็นศักยภาพที่เปิดกว้างมากกว่า โดยเฉพาะเรื่องตัวตนหรืออัตลักษณ์ของคนในโลกสมัยใหม่ สะท้อนออกมาชัดเจนในน้ำเสียงของกวีรุ่นใหม่
ประเด็นที่สอง กวีรุ่นอาวุโส พยายามก้าวข้ามอคติบางอย่างที่มีต่อเยาวชนรุ่นใหม่เช่นกัน จะมีหลายเล่มใน Shortlist หรือ Longlist ที่พูดถึงประเด็นนี้ รวมถึงกวีรุ่นเยาว์ที่เขียนเรื่องปรัชญาของผู้ใหญ่ได้อย่างลึกซึ้งก็มี"
Cr. Kanok Shokjaratkul
- คำประกาศคณะกรรมการตัดสินรางวัลวรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน (ซีไรต์) ประจำปี 2568 ประเภทกวีนิพนธ์
คณะกรรมการตัดสินรางวัลวรรณกรรมสร้างสรรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน (ซีไรต์) ประจำปี 2568 ได้พิจารณาแล้ว มีความเห็นว่า กวีนิพนธ์ เรื่อง อีกฟากด้านกระดานหก ของ ศิวกานท์ ปทุมสูติ มีความโดดเด่นในด้านการนำเสนอแนวคิดที่รื้อสร้างมุมมองเกี่ยวกับความแตกต่างของช่วงวัย ชนชั้น และอุดมการณ์ ฉายภาพการต่อสู้ทางวาทกรรมและอำนาจซึ่งแทรกซึมอยู่ในทุกระดับทั้งสังคมไทยและสังคมโลกผ่านสัญลักษณ์ กระดานหก เพื่อกระตุ้นให้ผู้อ่านมองโลกอีกด้านหนึ่งที่แปลกต่างจากกรอบความคิดเดิม
กวีสืบทอดขนบทางวรรณศิลป์และสร้างสรรค์ใหม่ ใช้ลีลาร้อยกรองหลากหลาย เพื่อสะท้อนภาพสังคมปัจจุบัน ด้วยกลวิธีนำเสนอทั้งแบบมีเรื่องเล่าและแบบตั้งคำถามให้คิด ผสานท่วงทำนองกวีโบราณและร่วมสมัย ใช้ทั้งศัพท์โบราณ ภาษาถิ่น และภาษาพูด เพื่อสร้างวรรรณศิลป์อันมีลักษณะเฉพาะตน
คณะกรรมการตัดสินจึงมีมติให้ กวีนิพนธ์ เรื่อง อีกฟากด้านกระดานหก ของ ศิวกานท์ ปทุมสูติ ได้รับรางวัลวรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน (ซีไรต์) ประจำปีพุทธศักราช 2568
ประกาศ ณ วันที่ 8 กันยายน 2568
Cr. Kanok Shokjaratkul
คณะกรรมการตัดสินรางวัลซีไรต์ ประจำปี 2568
- รองศาสตราจารย์ ดร. ตรีศิลป์ บุญขจร ประธานคณะกรรมการตัดสิน
- ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธเนศ เวศร์ภาดา กรรมการตัดสิน
- นรีภพ จิระโพธิรัตน์ กรรมการตัดสิน
- รองศาสตราจารย์ สุรภีพรรณ ฉัตราภรณ์ กรรมการตัดสิน
- ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ชัยรัตน์ พลมุข กรรมการตัดสิน
- จิระนันท์ พิตรปรีชา กรรมการตัดสิน
- กิตติศักดิ์ มีสมสืบ กรรมการตัดสิน
Cr. Kanok Shokjaratkul
ความเห็นของกรรมการ
- รองศาสตราจารย์ ดร. ตรีศิลป์ บุญขจร
"หนังสือเล่มนี้มีข้อเด่นคือ ผู้เขียนพยายามบอกให้รับฟังเสียงของคนรุ่นใหม่ แก่นสำคัญของเรื่องคือ ถ้าเราคิดต่างไปจากที่เราเคยเชื่อและคิด สังคมไทยและสังคมโลกก็จะดีขึ้น การใช้ความเปรียบของกระดานหกสื่อว่า หากเราเชื่อแต่สิ่งที่เราเคยเชื่อ หรือคิดเหมือนที่เราเคยคิด สังคมก็จะขาดความสมดุล สมดุลจะเกิดขึ้นได้เมื่อเราพยายามคิดในสิ่งที่เราไม่เคยคิด และเข้าใจคนที่คิดต่างจากเรา
ด้วยความอาวุโส ท่านมีประสบการณ์การเขียนมามาก มีผลงานหลายสิบเล่ม เคยเข้ารอบซีไรต์มาแล้วถึง 9 ครั้ง เสน่ห์อีกอย่างคือ การใช้รูปแบบที่หลากหลาย ทั้งกลอนแบบฉบับ แร็ป และเพลงฉ่อย รวมถึงการใช้คำที่รุ่มรวย แม้บางคำอาจจะต้องเปิดพจนานุกรมบ้าง แต่ก็เป็นความรุ่มรวยของคลังคำ บางบทใช้คำง่าย ๆ อย่าง "มึงกับกู" หรือเล่าเรื่องธรรมดา ๆ แต่สะกิดใจให้ฉุกคิดถึงการอยู่ร่วมโลกกัน
ปีนี้มีกวีนิพนธ์ส่งเข้ามาเป็นจำนวนมากและมีความหลากหลายอย่างยิ่ง ตั้งแต่ผู้เยาว์มาก ๆ จนถึงผู้ที่อาวุโส คณะกรรมการเห็นพ้องต้องกันว่า ศิลปะของการใช้คำเป็นสิ่งสำคัญมาก ในกวีนิพนธ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากใช้ฉันทลักษณ์แล้วผิด ก็ถือว่าไม่ถูกต้อง มีบางงานที่น่าเสียดายเพราะปัญหาเรื่องสัมผัสผิดพลาด จึงอยากฝากให้ผู้ที่จะส่งผลงานและบรรณาธิการให้ความสำคัญกับความถูกต้องของต้นฉบับ"
Cr. Kanok Shokjaratkul
- รองศาสตราจารย์ สุรภีพรรณ ฉัตราภรณ์
"กรรมการไม่ได้ตัดสินจากอายุ แต่ดูจากตัวเนื้อหาของงานเป็นหลัก กวีนำเรื่องธรรมดาในชีวิตประจำวันมาให้เห็นประเด็นสำคัญที่เรามักมองข้ามไป อย่างบท "หยดน้ำค้างเหนือเม็ดดิน" ที่พูดถึงยอดเจดีย์และฐานเจดีย์ที่ทำจากดินทรายเหมือนกัน แต่เรากลับให้ความสนใจยอดเจดีย์มากกว่าฐาน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์เปรียบเทียบว่าคนทุกคนมีความสำคัญเท่าเทียมกัน
อีกบทคือ "รัตติวิลเลจ" ที่พูดถึงหมู่บ้านตาบอด กวีเล่นคำว่า "บอด" อย่างชาญฉลาด ไม่ใช่แค่ตาบอดทางกายภาพ แต่เป็นการมองเห็นแต่ไม่เห็นความจริง ไม่เข้าใจ ไม่เปิดใจกว้าง และเชื่อตามๆ กันไปโดยไม่พิสูจน์
ชื่อเรื่อง "อีกฟากด้านกระดานหก" ก็เป็นสัญลักษณ์หลักที่ชีวิตมีสองด้านเสมอ ให้เรามองในด้านอื่นบ้าง เปิดใจให้กว้าง โดยเฉพาะในยุคที่คนส่วนมากมักจะพูดแต่ไม่รับฟังผู้อื่น"
Cr. Kanok Shokjaratkul
- ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ชัยรัตน์ พลมุข
"ในภาพรวม ผมคิดว่างานที่เข้ารอบทั้ง Longlist และ Shortlist ล้วนมีความสำคัญและน่าสนใจ มีประเด็นร่วมสมัยที่ชัดเจน โดยเฉพาะงานของอาจารย์ศิวกานท์นั้น ผมมองว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงของ กวีนิพนธ์การเมือง จากยุคก่อนหน้าที่เน้นการปลุกระดม มาสู่ยุคปัจจุบันที่เน้นการตกผลึกทางความคิดเกี่ยวกับการเมืองมากขึ้น และใช้สัญลักษณ์ที่คมชัด"
Cr. Kanok Shokjaratkul
- จิระนันท์ พิตรปรีชา
"เนื้อหาของ "อีกฟากด้านกระดานหก" มีการจัดเรียงในรูปแบบที่เรียบง่าย แต่การลำดับภาพรวมทำให้เห็นการวางชีวิต ความคิด และความสัมพันธ์ ใช้กระดานหกเป็นตัวเปรียบเทียบว่าชีวิตมีทั้งขึ้นทั้งลง มีผู้ใหญ่ มีเด็ก
กวีใช้ภาษาที่เรียบง่ายไพเราะ แต่เน้นการเล่นเสียง การซ้ำคำ และการตัดจังหวะคำ ทำให้อ่านแล้วเหมือนกระดานหกที่ขึ้นลง เนื้อหาไม่ได้เป็นปัจเจกส่วนตัว แต่ผูกโยงประเด็นร่วมสมัย เช่น ความเหลื่อมล้ำ การต่อสู้ และความมั่นคง
จากการอ่าน 8 เล่มที่เข้ารอบสุดท้าย ทำให้เห็นถึง ความหลากหลาย ที่น่าทึ่ง แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องเน้นที่ สารที่ต้องการสื่อ และ ชั้นเชิงวรรณศิลป์
หากใช้ฉันทลักษณ์ ต้องถูกต้อง หากเป็นกลอนเปล่า ก็ต้องมีวรรณศิลป์ ไม่ใช่เรียงความทั่วไป กวีนิพนธ์ที่ดีควรสามารถเปลี่ยนมุมมองให้ผู้อ่านได้มองอีกด้านหนึ่งของเรื่องเดิม ๆ ซึ่งถือเป็นหน้าที่ของงานวรรณกรรม"
Cr. Kanok Shokjaratkul
พิธีพระราชทานรางวัลซีไรต์ประจำปี 2567 และ 2568 จะจัดขึ้นในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน 2568
กิจกรรมพบนักเขียนซีไรต์ ศิวกานท์ ปทุมสูติ จะมีขึ้นในวันที่ 13 กันยายน 2568 ณ ห้อง 501 หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่เวลา 14.00 น. ถึง 16.00 น.
Cr. Kanok Shokjaratkul
Cr. Kanok Shokjaratkul
Cr. Kanok Shokjaratkul







