แพ็กเกจตรวจสุขภาพประจำปี จำเป็นต้องตรวจแค่ไหน มีมาตรฐานอย่างไร

แพ็กเกจตรวจสุขภาพประจำปี จำเป็นต้องตรวจแค่ไหน มีมาตรฐานอย่างไร

ตรวจสุขภาพประจำปี เป็นเรื่องดีๆ ที่ต้องได้รับคำแนะนำ เพื่อไม่ให้เสียเงินโดยใช่เหตุ แพ็กเกจตรวจมีโปรแกรมมากมายให้เลือก แต่ไม่รู้ว่า...แค่ไหนเหมาะสม

"แพ็กเกจตรวจสุขภาพประจำปี"ตามโรงพยาบาลต่างๆ ส่วนใหญ่จะอัดแน่นด้วยโปรแกรมการตรวจ ทั้งที่จำเป็นและไม่จำเป็น และไม่มีคำอธิบายทางเลือกที่จำเป็นให้ประชาชนรับทราบ 

ทั้งๆ ที่การตรวจสุขภาพประจำปี เพื่อดูความผิดปกติของร่างกาย เป็นเรื่องที่ประชาชนทุกคนควรรู้ และควรตรวจสักครั้งในชีวิต แต่เมื่ออ่านโปรแกรมตรวจ เชื่อได้ว่ามีคนจำนวนมาก ไม่รู้ว่า การตรวจสุขภาพครั้งแรกต้องตรวจอะไรบ้าง ครั้งต่อไปรายการไหนไม่จำเป็นต้องตรวจอีก

ขอย้ำว่า การตรวจสุขภาพประจำปี เป็นสิ่งจำเป็นในการหาค้นพบสิ่งผิดปกติในร่างกาย เพื่อป้องกันการลุกลามของโรค และทำให้การรักษามีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงในการสูญเสียชีวิต และลดค่าใช้จ่ายในการรักษา

พื้นฐานการตรวจสุขภาพ มีตั้งแต่การตรวจความสมบูรณ์ของเลือด ,ตรวจระดับน้ำตาลในเลือด โดยเฉพาะคนป่วยเป็นเบาหวาน การตรวจหาค่าน้ำตาลเฉลี่ยสะสม (HbA1C) ก็จำเป็น,ตรวจระดับไขมันในเลือด เพื่อประเมินความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดสมอง และหลอดเลือดหัวใจ, ตรวจระดับกรดยูริก เพื่อทราบความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเก๊าท์,ตรวจการทำงานของไต ,ตรวจการทำงานของตับ เป็นการตรวจหาเอ็นไซม์

รวมไปถึงสารต่าง ๆ เพื่อตรวจการทำงานของตับ และทางเดินน้ำดีว่ามีภาวะตับอักเสบ, ตรวจการทำงานของต่อมไทรอยด์ ,ตรวจความเสี่ยงจากการเกิดโรคหัวใจ จากค่าโฮโมซิสทีน ไม่ใช่จากค่าคอเลสเตอรอลฯลฯ

ส่วนการตรวจมะเร็งรูปแบบต่างๆ อาทิ มะเร็งเต้านม ผู้หญิงควรตรวจด้วยเมมโมแกรมสักครั้งในชีวิต ส่วนครั้งต่อไปจะตรวจด้วยวิธีการเดิมหรือไม่ อยู่ที่ความเสี่ยงในการเกิดโรค โดยแพทย์ต้องให้แนะนำ  

ปัจจุบันมีโปรแกรมการตรวจสุขภาพประจำปี ตั้งแต่ราคา 2,000 บาทจนถึงหลักหมื่น มีรายการส่งเสริมการขายแตกต่างกันให้เลือกตรวจ ตั้งแต่การตรวจเลือดไปจนถึงการใช้เครื่องมือทันสมัย จึงมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ซึ่งจำเป็นหรือไม่ เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ส่วนใหญ่ไม่ได้อธิบายชัดเจน 

แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือ การรวบรวมผลการตรวจสุขภาพแต่ละโรงพยาบาลไว้ให้ครบ ก่อนเปลี่ยนแพทย์ ซึ่งเป็นเรื่องจำเป็น ทำให้คนไข้ไม่ต้องเริ่มต้นใหม่ เพื่อช่วยให้แพทย์ทราบข้อมูลประวัติของผู้มารับบริการอย่างละเอียด จะได้วิเคราะห์ปัจจัยเสี่ยงในการเกิดโรคได้ และทำให้ไม่ต้องเสียใช้จ่ายในการตรวจใหม่อีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม ควรมีการทบทวนปัจจัยเสี่ยงต่างๆ อย่างน้อยปีละ 1 ครั้งจากผลการตรวจสุขภาพประจำปี อาทิ ประวัติการเคยตรวจสุขภาพในอดีต, ประวัติการเจ็บป่วยในอดีตและปัจจุบัน, ประวัติการใช้ยา, ประวัติการแพ้, ประวัติการได้รับวัคซีน, ประวัติการเจ็บป่วยและสาเหตุของการเสียชีวิตในเครือญาติ, ประวัติการทำงานและสิ่งแวดล้อม และประวัติการทบทวนอาการตามระบบต่างๆอย่างละเอียดถี่ถ้วน

ในยุคที่ผลการตรวจเลือดสามารถบอกได้มากมาย ไม่ว่ากรณีร่างกายกำลังขาดวิตามินตัวไหน หรือความเสี่ยงในการเป็นเบาหวาน สามารถตรวจได้จากค่าน้ำตาลสะสม ,การตรวจค่าธาตุเหล็กในเลือดจากค่า เฟอร์ริติน (Ferritin) ฯลฯ

แม้จะเป็นเรื่องพื้นฐาน แต่บุคลากรทางการแพทย์ไม่ค่อยอธิบายให้ประชาชนรับทราบ หรืออธิบายโดยใช้ศัพท์ทางการแพทย์ที่คนไข้ต้องไปเปิดกูเกิล 

และปัจจุบันความรู้เรื่องการดูสุขภาพมีแพทย์มากมายออกมาให้ความรู้ทางสื่อออนไลน์ ประชาชนก็ต้องกลั่นกรองอีกว่า ต้องการขายของหรืออยากให้ความรู้ที่ถูกต้อง