MIDL Awards 2025 ปลุกอีโคซิสเต็มใหม่ เพราะคนไทย ต้อง 'เท่าทันสื่อ'

"MIDL Awards 2025" จุดประกายเริ่มต้นของการสร้างอีโคซิสเต็มของระบบสื่อที่เปลี่ยนแปลงไป ตอกย้ำเจตนารมณ์ร่วมกันในการสร้าง "พลังพลเมืองตื่นรู้" ผลักดันสังคมไทยให้เท่าทันโลกออนไลน์
จากเด็กวัยมัธยมปีที่ 4 ที่ต้องการ "หารายได้เสริมช่วยพ่อแม่" วรภัทร เด็นเพชรหนัง ถูกชักจูงเข้าสู่พนันออนไลน์ด้วยข้อเสนอที่น่าดึงดูดใจ และสูญเงินไปอย่างรวดเร็วภายในวันเดียว
วันหนึ่ง มีคนทักเข้ามาในโซเชียลมีเดีย พร้อมข้อเสนอ "สนใจหารายได้พิเศษไหมเนี่ย" ซึ่งไม่ได้ระบุว่าเป็น "การพนัน" ชัดเจน
เขาตัดสินใจลองเข้าไปดู โดยลงทุนด้วยเงินเริ่มต้นเพียง 300 บาท ซึ่งในตอนนั้นคิดว่าลงทุน “ไม่เยอะ” หลังจากโอนเงินลงทุนไป เขาถูกเชิญเข้าสู่ "กลุ่มรวม" ซึ่งเต็มไปด้วยคนจำนวนมาก และมี "แม่ทัพ" เป็นผู้ชักชวนให้สมัครเว็บไซต์พนัน ถูกชี้นำให้แทงตามคำแนะนำ และในตอนแรกก็ได้กำไรในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งสร้างความตื่นเต้นและจุดประกายความโลภให้เกิดขึ้น แต่ความสุขจากการได้เงินมาอย่างง่ายดายอยู่เพียงชั่วครู่
“พอเล่นไปเล่นมาก็หมดตัว เงินที่เราลงไป 300 หายไปไหนแล้วกำไรที่เราได้มาแล้วหายไปไหนก็หายหมด” แม้จะสูญเงินไปแล้ว เขายังไม่หยุด เพราะอยากเอาคืน
“หลังจากนั้นก็เล่นอีกก็ไปแอบเอาเงินพ่อมา จาก 300 เป็น 400-500” ทั้งหมดนี้เกิดขึ้น “ภายในวันเดียว”
วรภัทร เด็นเพชรหนัง กล่าวว่า ยังไม่รู้สึกว่าหลอก เพราะด้วยวัยที่คิดว่าโตแล้วทำให้ขาดการไตร่ตรอง แต่เมื่อเงินหมดลงซ้ำแล้วซ้ำเล่า ตอนนั้นสุขภาพจิตเริ่มแย่ กังวล กลัววิตกกังวลมาก จึงตัดสินใจค้นหาคำตอบด้วยตัวเอง หลังจากนั้นก็ไป Search Google ว่าสิ่งที่เล่นมันคืออะไร ก็ได้คำตอบ Google ก็บอกว่าคือการพนันออนไลน์ และกระบวนการของมิจฉาชีพนี่เอง
บทเรียนชีวิตจากเหยื่อออนไลน์ สู่ผู้จุดประกายความรู้
จากเยาวชนที่ครั้งหนึ่งเคยตกเป็นเหยื่อของ พนันออนไลน์ สู่บทบาทของผู้สร้างสรรค์สื่อปลอดภัยและเท่าทัน เพื่อเป็นเกราะป้องกันให้สังคม วรภัทร ได้เปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาส เริ่ม "ส่งต่อความรู้" โดยร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ ในการ "ขับเคลื่อนสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์" เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้สังคม โดยเฉพาะกลุ่มเด็กและเยาวชน
วันนี้ วรภัทร คือผู้ที่ได้รับรางวัลดีเด่น "MIDL Awards 2025" ประเภทบุคคลดีเด่น อายุไม่เกิน 25 ปีบริบูรณ์ปัจจุบัน เขาใช้แพลตฟอร์มอินฟลูเอนเซอร์ของตนเองสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่ไม่ใช่แค่วิชาการ เพื่อให้เข้าถึงและเข้าใจง่าย ทั้งยังขยายประเด็นไปสู่เรื่องไซเบอร์บูลลี่ และบุหรี่ไฟฟ้า สร้างสังคมดิจิทัลที่ปลอดภัยและพร้อมรับมือกับภัยคุกคามผ่านโซเชียลออนไลน์ทุกรูปแบบได้อย่างมีสติ
นี่คือบทเรียนราคาแพง และอีกหนึ่งตัวอย่างของ "พลังพลเมืองตื่นรู้ หรือ Active Citizen" ที่จะร่วมสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้และเสริมสร้างทักษะการรู้เท่าทันสื่อ เพื่อลดปัญหาที่เกิดจากสื่อออนไลน์ในสังคมไทย ภายใต้โครงการ MIDL Awards 2025 โครงการต่อเนื่องปีที่ 2 ที่จัดขึ้นโดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ สมาคมวิทยุและสื่อเพื่อเด็กและเยาวชน (สสดย.) สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) และองค์กรภาคีเครือข่าย ร่วมจัดและประกาศรางวัลดีเด่นด้านการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้และการรู้เท่าทันสื่อ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและยกย่องบุคคลและองค์กรต้นแบบที่ขับเคลื่อนการใช้สื่ออย่างสร้างสรรค์ และลดปัญหาความรุนแรง การกลั่นแกล้ง และอาชญากรรมทางเทคโนโลยี
รู้ไวไม่ได้แปลว่ารู้ทัน
"ภัยไซเบอร์" กำลังเป็นอีกปัญหาที่ “ไม่เล็ก” อีกต่อไป หากกำลังขยับขยายความรุนแรง ซับซ้อนและเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบยิ่งแพร่ขยายวงกว้าง โดยเฉพาะกับกลุ่มที่มีความเท่าทันสื่อในระดับน้อย วันนี้ต่างกำลังตกเป็น “เป้าหมาย” ภัยออนไลน์ ในแทบทุกวัน
เบญจมาภรณ์ ลิมปิษเฐียร รองผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวว่า ความรุนแรงของการกลั่นแกล้งออนไลน์ในประเทศไทยถูกระบุว่าเป็นประเทศที่เผชิญกับการกลั่นแกล้งออนไลน์ในอัตราที่สูง โดย 41% ของเด็กไทยถูกกลั่นแกล้งทางออนไลน์ ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ 39% โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน เด็กและเยาวชน สาเหตุสำคัญเกิดจากการเข้าถึงสื่อที่ง่ายและไร้ขีดจำกัด ยิ่งทำให้เด็กๆ ต้องเผชิญกับความเสี่ยงนี้มากขึ้น เนื่องจากยังขาดทักษะด้านดิจิทัล ปัจจุบันแม้เด็กและเยาวชนจะอ่านออกเขียนได้ แต่ถ้าขาดทักษะรู้เท่าทันสื่อโลกออนไลน์ ไม่สามารถแยกแยะข้อมูลจริงและข้อมูลหลอกลวงที่ถูกปรับแต่งมา เพื่อหลอกล่ออารมณ์ ชักนำความคิด เด็กจะต้องเผชิญกับความเสี่ยงภัยคุกคามและการกลั่นแกล้งบนโลกออนไลน์ สอดคล้องกับรายงานผลการสำรวจดัชนีชี้วัดความปลอดภัยบนสื่อออนไลน์สำหรับเด็ก (COSI) ปี 2566 โดยสถาบันดีคิว (DQ Institute) พบเด็กและเยาวชนอายุ 8-18 ปี ทั่วโลก หรือกว่า 70% ต้องเผชิญกับความเสี่ยงทางไซเบอร์อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง
การรู้เท่าทันสื่อจึงมีความสำคัญในการอยู่รอดในโลกดิจิทัล อย่างไรก็ดี เบญจมาภรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การรู้เร็วเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ แต่ต้องมีการกลั่นกรองข้อมูลอย่างมีวิจารณญาณและเข้าใจอย่างถูกต้อง การกลั่นแกล้งออนไลน์ (cyberbullying) เป็นสิ่งพบเจอได้บ่อยในกลุ่มเด็กและเยาวชนมากกว่าผู้ใหญ่ ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าผลกระทบนี้ สามารถส่งผลรุนแรงต่อสุขภาพจิตของเด็ก นำไปสู่ภาวะซึมเศร้าและแม้กระทั่งการพยายามฆ่าตัวตายได้ มีการเปิดเผยว่าในปีหนึ่งมีจำนวนเด็กไทยจำนวนไม่น้อยที่เผชิญกับภาวะซึมเศร้าจากการกลั่นแกล้งออนไลน์
“การกลั่นแกล้งเป็นเรื่องที่เราก็พบเจอในวัยเด็กมากกว่าผู้ใหญ่อยู่แล้ว ซึ่งมีทั้งในชีวิตประจำวัน และปัจจุบันพบมากขึ้นในโลกออนไลน์ เพราะสื่อออนไลน์ไม่มีการจำกัดขอบเขตทำให้การเข้าถึงสื่อง่ายมาก ขณะที่ประเทศไทยเรายังมีคนที่มีทักษะในเรื่องของดิจิทัลน้อย เป็นที่มาสำคัญว่า ทำไม สสส. ถึงจริงจังในเรื่องนี้ แม้ผู้คนจะตระหนักถึงภัยอันตรายทาง ไซเบอร์ แต่ความตระหนักนี้มักจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่มีเหตุการณ์เกิดขึ้นเท่านั้น และหลังจากนั้นก็มักจะลืมเลือนไป ส่วนหนึ่งเพราะประเทศไทยยังไม่ได้เตรียมความพร้อมของพลเมืองสำหรับการเข้าสู่สังคมดิจิทัลอย่างเต็มที่ และเด็กจำนวนมากยังขาดทักษะดิจิทัลทั้งในด้านการใช้งานและการรับข้อมูล ทำให้พวกเขามักบริโภคสื่ออย่างไม่ตั้งใจและตกเป็นเหยื่อได้ง่าย เพื่อปกป้องตนเองจากกับดักออนไลน์ ตั้งแต่การหลอกลวง การพนันออนไลน์ ไปจนถึงอิทธิพลแฝงเร้นของบุหรี่ไฟฟ้าและสื่ออื่นๆ ที่อาจนำไปสู่พฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรง สสส. จึงก้าวเข้ามามีส่วนร่วมผลักดันเรื่องนี้ โดยเป้าหมายคือหวังว่า ecosystem ของสังคมเท่าทันสื่อที่ปลอดภัยและสร้างสุขภาวะในโลกออนไลน์ไม่ได้มีใครมานั่งกลั่นกรองให้กับเราว่าข้อมูลทั้งหมดนั้นเป็นจริง เพราะเต็มไปด้วยข่าวปลอมหลอกหลวงมากมาย การรู้เท่าทันหมายถึงการรู้พร้อมกับการมีวิจารณญาณ เป็นการรู้ที่มีเกราะคุ้มกันทางความคิดและหมายถึงการรู้อย่างมีสติแล้วก็เข้าใจที่ถูกต้อง" เบญจมาภรณ์ กล่าวปิด
สร้างสังคมแห่งการรู้เท่าทันสื่อ
สุทธิพงษ์ วสุโสภาพล รองเลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ กล่าวยอมรับว่า ภัยเร่งด่วนของสังคมไทยที่กำลังเผชิญคือ ภัยออนไลน์ และการถูกคุกคามเพื่อแสวงหาประโยชน์ และแนวทางการแก้ไขปัญหาว่า การสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้และรู้เท่าทันสื่อ ให้ประสบผลสำเร็จได้ในการแก้ไขปัญหา คือ 1.) การสร้างความรอบรู้ เท่าทันข้อมูลและความสามารถด้านดิจิทัล หรือ Digital Literacy รวมถึงการสร้างเนื้อหาที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม พร้อมสื่อสารเชิงบวก 2.) การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการเสนอแนะนโยบายสาธารณะแบบมีส่วนร่วม โดย สช. ได้มีการผลักดันมติที่เกี่ยวข้องกับผลกระทบของสื่อต่อเด็กและเยาวชน ผ่านกระบวนการสมัชชาสุขภาพแห่งชาติ พร้อมสร้างความร่วมมือกับทุกภาคส่วน 3.) การเสริมพลังความร่วมมือ สร้างความตระหนักรู้และสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้เท่าทันสื่อ ไปพร้อมๆ กับการบังคับใช้กฎหมายที่ที่มีประสิทธิภาพ ร่วมมือกับแพลตฟอร์มต่างๆ
ดร.ธีรารัตน์ พันทวี วงศ์ธนะเอนก นายกสมาคมวิทยุและสื่อเพื่อเด็กและเยาวชน (สสดย.) กล่าวถึงความคาดหวังจากงานนี้ การร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วนจะเป็นเสมือนกำลังสำคัญ ที่จะปลุกกระแสและขยายเครือข่ายแห่งการเฝ้าระวังสื่อ สร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่และองค์กรในทุกระดับชั้น เพื่อลดทอนปัญหาความรุนแรง การกลั่นแกล้ง ความขัดแย้ง และอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่ยังคงคุกคาม สสดย. ร่วมกับ สสส. มุ่งสร้างค่านิยมและแรงบันดาลใจให้แก่สังคม เกี่ยวกับการสื่อสารเพื่อสร้างสุขภาวะดีทุกมิติ เปิดโอกาสให้บุคคลและองค์กรทุกภาคส่วน มีส่วนร่วมในการสร้างระบบนิเวศสื่อสุขภาวะที่ปลอดภัยสำหรับเด็กและเยาวชน
สำหรับ MIDL Awards 2025 ในปีนี้มีผู้ได้รับรางวัลยกย่องเชิดชูเกียรติประเภทบุคคลต้นแบบ 5 คน จากผู้สมัคร 53 คน และประเภทองค์กรภาครัฐ เอกชน และภาคประชาสังคม ที่ขับเคลื่อนด้านการสร้างสรรค์การสื่อสารสุขภาวะต้นแบบ 8 แห่ง จากภาคี 28 แห่ง ถือเป็นกำลังสำคัญที่จะเป็นนักสื่อสารสุขภาวะและองค์กรสุขภาวะที่เข้มแข็ง สามารถสร้างเครือข่ายเฝ้าระวังสื่อได้อย่างกว้างขวาง พร้อมเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นใหม่ และองค์กรในหลายระดับ ให้ตื่นตัวและร่วมสร้างสรรค์การสื่อสารที่ดีสู่สังคม เพื่อลดปัญหาความรุนแรง การกลั่นแกล้ง ความขัดแย้ง และอาชญากรรมทางเทคโนโลยี
MIDL Awards 2025 จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้าง อีโคซิสเต็ม ของระบบสื่อที่เปลี่ยนแปลงไปคือ การตอกย้ำเจตนารมณ์ร่วมกันในการสร้าง "พลังพลเมืองตื่นรู้" ที่จะร่วมกันผลักดันสังคมไทยให้มีสุขภาวะที่ดีในโลกออนไลน์ พร้อมรับมือกับทุกความท้าทายที่ยังรออยู่เบื้องหน้า







