‘เรื่องของเรา’ จากงานวิจัย สู่ ภาพยนตร์ เพื่อสันติสุขชายแดนใต้

‘เรื่องของเรา’ จากงานวิจัย สู่ ภาพยนตร์ เพื่อสันติสุขชายแดนใต้

จากบทสรุปของงานวิจัย สร้างสรรค์มาเป็น ภาพยนตร์สั้น ‘เรื่องของเรา’ แสดงโดย ผู้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์จริง เพื่อสื่อสารให้คนนอกเข้าใจและช่วยกันแก้ปัญหา

สถานการณ์ความรุนแรง การก่อเหตุสร้างความไม่สงบ ที่เกิดขึ้นมา 20 กว่าปีของ 3 จังหวัดชายแดนใต้ สร้างภาพจำให้คนนอกพื้นที่มองว่านี่เป็นพื้นที่สีแดง ส่งผลกระทบกับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ ไม่มีใครมาท่องเที่ยว ไม่มีใครมาลงทุน

ล่าสุด เดือนเมษายน 2568 ยังมีเหตุการณ์รุนแรงทำร้ายชาวไทยพุทธ ทั้งเณร เด็ก ผู้ป่วย ผู้พิการ ผู้สูงอายุ เพิ่มเข้ามาอีกด้วย

คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) จัดงานเปิดตัว ภาพยนตร์ จากงานวิจัย สู่ สันติภาพชายแดนใต้ เรื่องของเรา วันที่ 6 พฤษภาคม 2568 ณ โรงภาพยนตร์ลิโด้ สยามสแควร์

"โอกาสที่คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ครบรอบ 60 ปี ได้รับทุนวิจัยจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ตามแผนยุทธศาสตร์การวิจัยด้านสังคมไทยไร้ความรุนแรง ดำเนินการวิจัยสร้างองค์ความรู้และเสนอมุมมองช่วยให้เกิดความเข้าใจปัญหาความขัดแย้งและความรุนแรงในชายแดนใต้"

‘เรื่องของเรา’ จากงานวิจัย สู่ ภาพยนตร์ เพื่อสันติสุขชายแดนใต้

Cr. Kanok Shokjaratkul

รศ.ดร. ปรีดา อัครจันทโชติ คณบดี คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวถึงที่มาและกล่าวต่อว่า

"ผลวิจัยนำมาสร้างสรรค์เป็นภาพยนตร์ เรื่องของเรา ถ่ายทอดเรื่องราวความขัดแย้ง สะท้อนมุมมองที่หลากหลายของคนในพื้นที่ ขอเชิญทุกท่านเปิดใจรับชมรับฟัง เปิดพื้นที่แห่งความเข้าใจเพื่อร่วมกันเขียนอนาคตใหม่ให้สังคมไทยที่อยู่ร่วมกันได้ โดยยอมรับความหลากหลายของคนในสังคม หวังว่าจะเป็นบทสนทนาเริ่มต้นในใจ เดินทางต่อไปในสังคมไทย"

  • จากบทสรุปงานวิจัย มาสู่ภาพยนตร์สั้น

"โครงการ การแปรเปลี่ยนความขัดแย้งและความรุนแรงจากจังหวัดชายแดนสู่สันติภาพ ด้วยกระบวนทัศน์การเล่าเรื่องที่ข้ามพ้นตัวตน ผ่านภาพยนตร์สั้น เริ่มต้นจากการเก็บข้อมูลผ่านการสนทนากลุ่มที่หลากหลายกับคนในพื้นที่ มีการสัมภาษณ์เชิงลึกกับผู้ที่มีอิทธิพลทางความคิด ทำให้เห็นมุมมองเพิ่มเติมว่า ปัญหาความขัดแย้งและความรุนแรง ได้บดบังอีกหลายปัญหา ไม่ว่า เศรษฐกิจ การศึกษา เด็ก เยาวชน ยาเสพติด"

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธีรดา จงกลรัตนาภรณ์ หัวหน้าภาควิชาการประชาสัมพันธ์ คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และหัวหน้าโครงการวิจัย พูดถึงที่มาของภาพยนตร์เรื่องนี้ให้ฟัง และกล่าวต่อว่า 

"การแก้ปัญหาในอดีต มักใช้มุมมองความขัดแย้งที่มีปมจากประวัติศาสตร์ รัฐปาตานี ซึ่งการเจรจายุติความขัดแย้งระหว่างรัฐกับผู้เคลื่อนไหวในพื้นที่ มองข้ามมุมมองที่เขาเผชิญอยู่จริง ๆ

‘เรื่องของเรา’ จากงานวิจัย สู่ ภาพยนตร์ เพื่อสันติสุขชายแดนใต้

Cr. Kanok Shokjaratkul

งานวิจัยชิ้นนี้ใช้กระบวนทัศน์การเล่าเรื่องที่ ข้ามพ้นตัวตน (Self-transcendental narrative) มาวิเคราะห์ และพัฒนาออกมาเป็น ภาพยนตร์ สื่อสารกับคนในสังคม

ให้เปิดมุมมองปัญหาความขัดแย้ง และความรุนแรงในพื้นที่ชายแดนใต้ เพื่อเปลี่ยนแปลงให้เกิดแนวทางการแก้ปัญหาที่แตกต่างไปจากเดิม

หวังว่าภาพยนตร์ เรื่องของเรา จะช่วยให้พวกเราทุกคนพร้อมจะรับฟัง เรียนรู้ ร่วมกันหาทางออก สู่สันติภาพอย่างยั่งยืน"

  • ภาพยนตร์แนว Omnibus Film คืออะไร

"Omnibus Film หมายถึง ภาพยนตร์ที่มีหลายส่วนมัดรวมอยู่ด้วยกัน แก่นเดียวกัน ธีมเดียวกัน หรือมีกรอบ โครงเดียวกัน

เราคาดการณ์ไว้ก่อนที่จะลงพื้นที่ว่าอยากจะเล่าแบบนี้ แต่พอได้ลงมาจริง ๆ พบว่าวิธีนี้เหมาะที่สุด ถ้าเล่าเป็นเนื้อเดียวทั้งเรื่อง มันอาจมีบางสิ่งหายไป แต่ Omnibus Film จะมีพื้นที่พอที่จะให้ตัวละครที่เป็นตัวแทนของน้ำเสียงได้มีพื้นที่โลดแล่นของเขา" 

ธีรพงศ์ เสรีสําราญ นักวิจัย และผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ กล่าวถึงเบื้องหลังการทำงานให้ฟัง 

"มนุษย์เป็นสัตว์ที่ชอบเล่าเรื่อง แล้วก็ชอบฟังเรื่อง การนินทาคน หรือฟังคนอื่น เรื่องเล่า มีหลายระดับมาก สร้างโบสถ์สร้างวิหารก็ใช้เรื่องเล่า แต่เรื่องก็ทั้งสร้างปัญหา และแก้ปัญหา

‘เรื่องของเรา’ จากงานวิจัย สู่ ภาพยนตร์ เพื่อสันติสุขชายแดนใต้

เรื่องเล่า มักติดที่ตัวตน แต่แนวคิดนี้ Self-transcendental narrative มันข้ามศาสตร์ ทั้งมนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ ปรัชญา มารวมกัน คือการแก้ปัญหาอะไรด้วยศาสตร์หนึ่งมันไม่พอ ก็เกิดสิ่งนี้ ทั่วโลกก็มีแนวทางนี้ แต่เรียกชื่อต่างกันออกไป

หลัก ๆ คือ การมองว่าปัญหาเกิดขึ้นจากตัวตนที่แตกต่างกัน ไม่ว่า อายุ เพศ วัฒนธรรม ความเชื่อ ศาสนา ทำให้เกิดปัญหาในระดับส่วนตัว ระดับสังคม ระดับโลก ขณะเดียวกัน ปัญหาก็ทำให้เราเรียนรู้ วิธีอยู่ร่วมกันได้ดีขึ้น มันเลยมีสองคำ คือ Self กับ transcendental หมายถึง ตัวตน กับคำว่า ข้าม

ในมิตินี้ Self ยังมีอยู่ ทุกคนยังมีตัวเองอยู่ แต่ว่าเราต้องข้ามมัน ที่ไม่ใช้การเพิกเฉย แต่ข้ามไปดูคนอื่น ดูตัวตนคนอื่นว่าเป็นยังไง ดูตัวเอง ดูคนอื่น ดูโน่น ดูนี่ ดูนั่น แล้วสิ่งที่พบหลังจากการข้ามคือ ความเป็นมนุษย์

ไม่ว่าเราจะต่างกันแค่ไหน เราหิวข้าวเหมือนกัน สุข ทุกข์ ร้อน หนาว มีความปรารถนา เหมือนกัน ต่างกันแค่ดีเทล แต่โดยเนื้อแท้มันเหมือนกัน แนวคิดนี้คือ การดึงเรากลับมาที่ราก ที่สุดของการเป็นมนุษย์

‘เรื่องของเรา’ จากงานวิจัย สู่ ภาพยนตร์ เพื่อสันติสุขชายแดนใต้

Cr. Kanok Shokjaratkul

เราเชื่อว่าภาพยนตร์เป็นพื้นที่ปลอดภัย ที่ทำให้คนมาคุยกันได้ เพราะมีตัวละครเป็นซัฟเฟอร์อยู่ เราไม่ได้คุยกับคนนั้น คนนี้ เราคุยถึงตัวละคร ซึ่งเป็นตัวแทนของคน เราจะพูดถึงสิ่งที่พูดได้ยาก

เราเลือก ปัตตานี เป็นพื้นที่นำร่อง เป็นจุดที่เข้มข้นในหลาย ๆ มิติ ยอมรับว่ามีความกลัวในช่วงสั้น ๆ พอได้ไปสัมผัสก็รู้สึกว่าที่นี่น่าเที่ยว และรู้สึกอยากมาอีก

พอได้มา ก็อยู่นานขึ้น ได้สัมผัสกับคนมากขึ้น หลากหลาย ได้คุยกับคนเยอะมาก ทั้งชาวบ้าน ไทยพุทธ ไทยมุสลิม นักเรียนที่เพิ่งจบ เจ้าหน้าที่ ผู้นำศาสนา

การได้ลงไปสัมผัสเรื่องจริง ๆ เล่าเรื่องที่เป็นเสียงของพื้นที่จริง ๆ ท่านหนึ่งเล่าเรื่องเสียสามีที่เป็นเจ้าหน้าที่ไปแล้ว 16 ปี แต่เขาจำได้ทั้งหมดแม้กระทั่งเวลา เขาเล่าละเอียดมาก 16 ปีผ่านไปทุกอย่างยังอยู่เหมือนเดิม มันสะเทือนอยู่ข้างใน เราเข้าใจจริง ๆ ด้วยความคิด และความรู้สึก

‘เรื่องของเรา’ จากงานวิจัย สู่ ภาพยนตร์ เพื่อสันติสุขชายแดนใต้

.

‘เรื่องของเรา’ จากงานวิจัย สู่ ภาพยนตร์ เพื่อสันติสุขชายแดนใต้

พอเราได้ฟังหลาย ๆ ฝ่าย เราก็เห็นการครอสกัน บางมุมเราเห็นว่า ปัญหามันอยู่ตรงนี้ จริง ๆ แล้วเขาอาจจะแค่ไม่มีโอกาสถอยออกมา เพราะทุกคนจะอยู่ตรงจุดของตัวเอง ถ้าเราถอยออกมาไกลพอ เราจะเห็นว่าบางจุด มันเป็นอย่างนี้

คนดูจะได้เห็นภาพชีวิตจริง ๆ ของทุกคน อารมณ์ ความรู้สึกจริง ๆ พยายามเล่าให้มันเรียบง่าย ไม่ปรับแต่ง ไม่บิดเบือนข้อมูล ไม่พยายาม ใส่อัตตา หรือวางให้มันมีชั้นเชิง จะได้ดูว๊าว แต่ละเรื่องจะมีความเพียว ความบริสุทธิ์

งานนี้สื่อสารกับ 1. คนในพื้นที่ 2.คนนอกอย่างเรา ทั้ง 5 เรื่องมีการเดินทางจากภายในตัวเองไปสู่ครอบครัว ไปสู่สังคม

นี่คือเสียงสะท้อนของคนในพื้นที่ นักแสดงก็เป็นคนในพื้นที่ทั้งหมดเลย แล้วเพิ่งเล่นเรื่องแรกทุกคน ทุกคนมีความเกี่ยวข้องกับเรื่อง บางเรื่องเราหานักแสดงไม่ได้ แล้วเขามาเจอบท เขาบอกว่านี่เหมือนชีวิตเขา เขาร้องไห้ แล้วขอเล่น

‘เรื่องของเรา’ จากงานวิจัย สู่ ภาพยนตร์ เพื่อสันติสุขชายแดนใต้

.

‘เรื่องของเรา’ จากงานวิจัย สู่ ภาพยนตร์ เพื่อสันติสุขชายแดนใต้

บางคนกลัวว่าหนังเรื่องนี้จะไปตอกย้ำเหตุการณ์ไม่สงบหรือไปสะกิดแผลหรือเปล่า แต่ดูจบแล้ว บอกว่า มันสมานมากกว่า เพราะวิธีที่หนังเล่า มีความปลอดภัย มีเนื้อหา มีน้ำเสียง มีความพยายามที่จะเข้าใจกันอยู่ มันเลยทำให้คนที่ต่างกันมานั่งดูหนังเรื่องนี้ด้วยกันได้ และกล้าที่จะพูดสิ่งที่ตัวเองคิดให้อีกฝ่ายฟังด้วย

ภาพยนตร์มันเป็นเซฟโซน เอาไปใช้ได้ในหลายระดับ ไม่ว่าในชั้นเรียน ในพื้นที่ของการจัดเสวนา พอมันเป็นเซฟโซน มันทำให้เรากล้าที่จะพูดอย่างที่พูด แลกเปลี่ยน เรียนรู้กัน นี่เป็นจุดเริ่มต้น แล้วมันจะแก้ปัญหา จากกระบวนการนี้ของมัน"

‘เรื่องของเรา’ จากงานวิจัย สู่ ภาพยนตร์ เพื่อสันติสุขชายแดนใต้

เรื่องของเรา เป็นภาพยนตร์สั้น 55 นาที มี 5 เรื่อง

1. 16 ปีแห่งความหลัง : ภรรยาที่ยังสูญเสียสามีที่เป็นเจ้าหน้าที่ ในเหตุการณ์ความไม่สงบ

2. โรงเรียน : เด็กชายที่ครูมาตามให้ไปเรียน ขณะที่พ่อเป็นคนร้าย มีตำรวจกำลังตามจับตัว

3. ปรัชญาโชเล่ : นักเรียนหญิงมุสลิมกับนักเรียนชายชาวพุทธ ที่ขอให้ช่วยพาไปส่งที่หมาย แต่เจ้าหน้าที่ห้ามไม่ให้ผ่านไป

4. พื้นที่สีแดง : เพื่อนสองคน คนปัตตานีชวนคนกรุงมาเที่ยวปัตตานี ที่รู้สึกระแวงกลัวไม่ปลอดภัย

5. เรื่องของเรา : นักเรียนหญิง ม.ปลายสองคนที่เป็นพุทธกับมุสลิม คุยเรื่องหนังสั้นที่ทำส่งครู ว่าจะทำหนังอย่างไร

‘เรื่องของเรา’ จากงานวิจัย สู่ ภาพยนตร์ เพื่อสันติสุขชายแดนใต้

Cr. Kanok Shokjaratkul

รับชมภาพยนตร์ ได้ที่ https://youtube.com/@chulauniversity

ผู้สนใจสามารถนำภาพยนตร์ไปจัดฉาย ติดต่อได้ที่ https://www.facebook.com/commartschulaofficial โทร. 0-2218-2205