'Cassette Management' ศาสตร์และศิลป์ ของผู้บริหารสมิติเวชที่เชื่อเรื่องการนอนดี

'Cassette Management' ศาสตร์และศิลป์ ของผู้บริหารสมิติเวชที่เชื่อเรื่องการนอนดี

คอลัมน์ The Thought Leaders ผู้นำทางความคิด ชวนพูดคุยกับ “นายแพทย์ ชัยรัตน์ ปัณฑุรอัมพร” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มโรงพยาบาลสมิติเวชและโรงพยาบาลบีเอ็นเอช เพื่อสำรวจแนวคิดนอกกรอบเรื่องการใช้ชีวิต บริหารงาน และบริหารคน

ในโลกที่หมุนเร็วและเต็มไปด้วยข้อมูลท่วมท้น การรักษาความสงบภายในและความชัดเจนในการตัดสินใจเป็นเรื่องที่ท้าทายสำหรับผู้บริหารทุกระดับ คุณหมอผู้บริหารระดับสูงของโรงพยาบาลชั้นนำของประเทศอย่างสมิติเวช ได้เผยแนวคิดการบริหารจัดการชีวิตและองค์กรที่ไม่เคยปรากฏในตำราบริหารทั่วไป

กว่ายี่สิบปีในการเป็นผู้นำองค์กรด้านสุขภาพ คุณหมอได้พัฒนาระบบการจัดการตนเองที่เรียกว่า Cassette Management หลักการที่ประยุกต์แนวคิดพื้นฐานของปุ่มควบคุมเทปคาสเซ็ทสมัยก่อน มาเป็นเครื่องมือในการตัดสินใจ ตั้งแต่ Pause (การหยุดคิด) ไปจนถึง Fast Forward (การเร่งฉวยโอกาส) และ Eject (การถอนตัวจากสถานการณ์ไม่พึงประสงค์) ทั้งหมดนี้เป็นระบบที่ช่วยให้การบริหารจัดการทั้งตนเองและทีมงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

จุดเริ่มต้นของความสำเร็จในการบริหารจัดการนี้ มาจากสิ่งพื้นฐานที่สุด นั่นคือการนอนอย่างมีคุณภาพ คุณหมอเชื่อว่า จิตที่นิ่งและความคิดสร้างสรรค์มักเกิดขึ้นในช่วงที่ร่างกายและจิตใจได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ตื่นเช้า ยืดเหยียดร่างกาย รับแสงแดด คือกิจวัตรสำคัญที่ช่วยให้ระบบร่างกายทำงานอย่างสมดุลและสมองพร้อมสำหรับความคิดใหม่ๆ

\'Cassette Management\' ศาสตร์และศิลป์ ของผู้บริหารสมิติเวชที่เชื่อเรื่องการนอนดี

“เวลาคุณนอนหลับลึกๆ 8 ชั่วโมง จิตคุณจะนิ่งไม่ว่อกแว่ก เพราะเวลานอนเราไม่ได้คิดอะไร เราตัดรูปโดยปริยาย ไม่เห็นรูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส เราตัดนามโดยปริยาย ไม่เกิดความโลภ โกรธ หลง พอจิตนิ่งมานาน เมื่อตื่นมาปั๊บ นั่นแหละครับ บางทีตื่นขึ้นมา โอ้โห คิดอะไรได้มหาศาลเลย” คุณหมอกล่าว พร้อมอธิบายว่าการมีจิตใจที่นิ่งคือรากฐานของการคิดอย่างมีประสิทธิภาพและการตัดสินใจที่แม่นยำ

ในยุคที่โซเชียลมีเดียและความวุ่นวายของข้อมูลล้นเกินคอยรบกวนสมาธิ คุณหมอแนะนำให้ใช้หลักการ เท่าทัน ที่ไม่ต่างจากหลักธรรมในพระพุทธศาสนา แต่ประยุกต์ให้เข้ากับโลกของฆราวาส ผ่านการใช้ Cassette Management ในการตัดสินใจว่าอะไรควรเร่ง อะไรควรชะลอ และอะไรควรตัดออกไปจากชีวิต

วันนี้ คอลัมน์ The Thought Leaders ผู้นำทางความคิด ชวนพูดคุยกับ “นายแพทย์ ชัยรัตน์ ปัณฑุรอัมพร” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มโรงพยาบาลสมิติเวชและโรงพยาบาลบีเอ็นเอชเพื่อสำรวจแนวคิดนอกกรอบเหล่านี้ ที่ไม่เพียงช่วยให้คุณหมอประสบความสำเร็จในการบริหารองค์กรสุขภาพชั้นนำ แต่ยังทำให้สามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขและเต็มไปด้วยความหมาย ในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างไม่หยุดนิ่ง

\'Cassette Management\' ศาสตร์และศิลป์ ของผู้บริหารสมิติเวชที่เชื่อเรื่องการนอนดี

 

กิจวัตรประจำวันของคุณหมอเป็นอย่างไรบ้าง

ผมนอนตอน 4 ทุ่ม และตื่นตอน 6 โมงเช้าครับ หลังจากตื่นก็ไปเดินแล้วก็ว่ายน้ำ แต่ตอนนี้ผมต้องเหยียดขาเหยียดกล้ามเนื้อ เพราะว่าเราอายุเยอะแล้ว ทำยังไงให้กล้ามเนื้อมันแข็งแรง ต้องยืดก่อน

แล้วช่วงเวลาไหนที่คุณหมอรู้สึกว่าตัวเองมีประสิทธิภาพในการทำงานมากที่สุด

ช่วงเช้าครับ เพราะว่าคุณนิ่งแล้ว คุณนอนมา 8 ชั่วโมง ถ้าคุณนอนหลับลึกๆ นะ จิตจะอยู่นิ่ง ไม่ว่อกแว่กจิตนิ่งเสร็จปุ๊บ พอตื่นมาปั๊บ นั่นแหละครับ บางทีตื่นขึ้นมา โอ้โหคิดอะไรได้มหาศาลเลย หรือแม้กระทั่งตอนนอน แล้วตื่นมาตี 4 ต้องรีบหยิบกระดาษและปากกามาจดทันที คุณอาจคิดว่าคุณจำได้นะ แต่จำไม่ได้หรอก ต้องรีบจดไว้ก่อน จดแล้วคุณค่อยนอนต่อ ผมบอกเลยว่าไอเดียใหม่ ไอเดียวิเศษต่างๆ เกิดจากความนิ่งของจิตและร่างกายเพราะความสงบมันทำให้เกิดปัญญา

แชร์ได้ไหมว่าโปรเจกต์อะไรล่าสุดที่ได้มาจากช่วงตื่นนอนและต้องรีบจดบันทึก

โอ้โห มีเยอะแยะเลย (หัวเราะ) โปรเจกต์ “โรงพยาบาลเด็กสมิติเวช อินเตอร์เนชันแนล” ที่เพิ่งจะประชาสัมพันธ์ออกไปก็ได้มาจากวิธีนี้แหละ

\'Cassette Management\' ศาสตร์และศิลป์ ของผู้บริหารสมิติเวชที่เชื่อเรื่องการนอนดี

คุณหมอบอกว่าสิ่งที่จะทำให้คิดอะไรพวกนี้ได้ มันต้องมาจากจิตที่นิ่งในตอนเช้า แชร์เทคนิคให้ผู้บริหารและคนทำงานได้ไหมครับว่าทำอย่างไรให้จิตนิ่ง

อันนี้ก็ต้องไปเข้าธรรมะนะ ต้องไปฝึกวิปัสสนา แต่ถ้าเป็นเรา เป็นมนุษย์ทั่วไป คือเราจะต้องมีสติ

เอางี้ก่อนแล้วกัน

การนอนมีส่วนสำคัญมากเพราะมันทำให้จิตนิ่งโดยปริยาย จิตมันนิ่งเพราะว่าคุณหลับคุณก็ไม่ได้คิดอะไรเยอะแยะ เพราะฉะนั้นตรงนั้นแหละคือคีย์ แต่ถ้าคุณจะคิดอะไรบางอย่างที่มันไม่ได้อยู่ในช่วงภาวะนอน อย่างคนใกล้ชิดผมจะรู้เลย ผมชอบไปปลีกวิเวกหรือผมไปนอนพัก ผมพักนอนหลับแล้วก็ชมวิวให้มันสบายๆ พอคุณสบายถึงจุดหนึ่ง ไอเดียดีๆ บางทีก็มาจากวิธีนี้เหมือนกัน

กลับมาเรื่องจิตนิ่ง คุณจะมีจิตนิ่ง ทางพระเขาบอกว่าต้องเท่าทัน คือหมายถึงเท่าทัน รูป รส กลิ่น เสียง เช่น พอคุณรู้ว่าคุณโกรธ คุณเท่าทันมัน คุณก็หายโกรธ คุณเห็นรูป เห็นว่ากระเป๋าใบนี้สวยมาก คุณก็เพียงเห็น คุณก็เท่าทันมัน พอไม่เกิดฉันทะ ความต้องการมาเป็นของตนก็ไม่เกิด ตรงนี้ก็มีส่วนสำคัญทำให้จิตนิ่ง

แต่ถ้าคุณเป็นฆราวาส คุณก็ต้องเท่าทันเหมือนกัน ดังนั้นวิธีสำคัญคือ 'Cassette Management' รู้จักคาสเซ็ทใช่ไหม ที่ตัวแผ่นจะมีตัวพอส (Pause) แล้วก็ตัวเพลย์ (Play) แล้วก็ตัวฟาสต์ฟอร์เวิร์ด (Fast Forward) แล้วก็ตัวฟาสต์รีไวน์ (Fast Rewind) แล้วก็ตัวอีเจคท์ (Eject)

ทีนี้ถ้าคุณอยากเท่าทันสิ่งต่างๆ และมีสติ แบบนั่งวิปัสสนา พอหลายๆ เรื่องกระโจนเข้ามาหาคุณ คุณต้องกด pause ก่อน pause คือสติ pause คือหยุด คุณกดปั๊บ มันหยุดปั๊ป คุณจะมีสติ คุณไม่ต้องรีบ บนโลกนี้ไม่มีเรื่องฉุกเฉินเยอะหรอก น้อยมาก ขนาดผมเป็นหมอผมยังเห็นเรื่องฉุกเฉินอยู่นิดเดียว ส่วนใหญ่ไม่ฉุกเฉิน

พอหยุดแล้ว คุณก็ค่อยมาพิจารณาว่าควรทำอย่างไรต่อ ถ้าเรื่องนี้เล่นต่อได้ ถ้าอย่างนี้ถอยดีกว่า ไม่เอาดีกว่า ผมก็ Fast Rewind แต่ถ้ามีเรื่องแบบนี้มา มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับการตลาดนะ ต้องรีบฉวยนะ ผมก็ Fast Forward นึกออกไหม แต่เรื่องอย่างนี้ โอ้โห มิจฉาชีพแน่นอน ผมก็กด Eject ไม่อยู่แล้ว (หัวเราะ)

\'Cassette Management\' ศาสตร์และศิลป์ ของผู้บริหารสมิติเวชที่เชื่อเรื่องการนอนดี

สุดท้าย คุณหมอเคยให้สัมภาษณ์หลายครั้งว่าชอบเป็นผู้นำความคิด จึงมีคำพูดที่เรียกว่าวิธีการบริหารนอกตำราแบบสมิติเวช เล่าให้ฟังได้ไหมว่าได้แนวคิดแบบนี้มายังไง  

ใช่ครับ (ยิ้ม) อย่างตอนนี้เทรนด์เรื่องการแพทย์คือการรักษาคน ใครก็พยายามหาหมอมา ซื้อเครื่องมือแพงๆ มี Robotic มีอะไรมากมาย ผมมองว่ามันมีแต่ Healthcare Cost เพิ่มมหาศาล ผมก็เลยทำสวนกระแส คุณก็ไปดูให้คนไม่ป่วย ให้เขาแข็งแรง จะดีกว่าไหม

ทีนี้ คนไม่ป่วยแล้วผู้ถือหุ้นบอก 'อย่างนี้แย่สิ สมิติเวชก็แย่สิ' ผลปรากฏว่ามันไม่แย่ คือเราได้รายได้ไม่มากก็จริง แต่จำนวนคนที่เข้ามาหาเรามหาศาล แล้วมันสร้างคุณค่าเยอะกว่า ทำให้เขาไม่ป่วย ไม่ทรมาน ทำให้ Healthcare Cost ลดลง

ผมทำให้คน 500 ชีวิต มาตรวจ Risk Score  ใช้ AI นะ ตรวจว่ามีโรคหัวใจไหม ซึ่งเหมือนกับเราเดินไปเดินมาเราก็ไม่รู้ว่าเป็นโรคหัวใจ แต่พอตรวจลิสก์สกอร์แล้ว 'เฮ้ย คนนี้สีแดง' มีโอกาสเป็นโรคหัวใจ อยู่ดีๆ เขามีโอกาสล้มแล้วก็เสียชีวิต ซึ่งเราเจอเยอะ เอากลุ่มเสี่ยงเหล่านี้มาฉีดสี ฉีดสีเสร็จปั๊บ รักษา คุณก็จ่ายตังค์ไม่เท่าไหร่ แทนที่คุณต้องมาผ่าตัดหรือคุณจะเสียชีวิต คุณรู้ไหมผ่าตัดคุณเสียเป็นล้านนะ แต่ตรวจลิสก์สกอร์ไม่กี่บาท

อันนี้คือการทำก่อน ทำสวนกระแส ทำก่อนกระแส เช่น เขายังไม่ทำเทเลเมดิซีน โชคดีเราใช้เทคโนโลยีนี้ก่อน เราทำก่อนกระแส โควิดมาปั๊บ โอ้โห เรารอดเพราะว่าเรามีเครื่องมือตรงนี้ เราให้คนไทยที่อยู่ในต่างประเทศ แล้วก็ให้มาปรึกษาเรา เพราะตอนนั้นเขายังไม่รู้เรื่องโควิดเลย เพราะฉะนั้นเราเปิดโอกาสแบบนี้ จนกระทั่งสถานทูตในแต่ละประเทศที่เป็นคนไทยอยู่ในประเทศต่างๆ  ชื่นชมกับเรา เราก็ดีใจ (ยิ้ม)