เจาะลึกผลรางวัลเทศกาลภาพยนตร์ BERLIN FILM FESTIVAL 2025

เจาะลึกผลรางวัลเทศกาลภาพยนตร์ BERLIN FILM FESTIVAL 2025

Dreams (Sex, Love) จากนอร์เวย์คว้ารางวัล ‘หมีทองคำ’ จากเทศกาลภาพยนตร์ BERLIN FILM FESTIVAL 2025 พร้อมเจาะลึกผลรางวัลทุกสาขา

จัดงานกันไปเสร็จสิ้นแล้ว กับเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองเบอร์ลิน ครั้งที่ 75 ประจำปี 2025 ระหว่างวันที่ 13-23 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา โดยในปีนี้ก็มีหนังนานาชาติเข้าร่วมประกวดชิงรางวัล ‘หมีทองคำ’ เป็นจำนวนรวม 19 เรื่อง และสามารถคว้ารางวัลในสายทางการไปได้ ในค่ำคืนวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ไปเป็นจำนวน 8 เรื่อง ด้วยกัน

โดยคณะกรรมการที่ร่วมตัดสินรางวัลประจำปีนี้ ก็ประกอบไปด้วย ผู้กำกับ Maria Schrader จากเยอรมนี Nabil Ayouch จากโมร็อกโก Rodrigo Moreno จากอาร์เจนตินา ผู้ออกแบบเสื้อผ้า Bina Daigeler จากเยอรมนี นักแสดงหญิง Fan Bingbing จากจีน นักเขียน/นักวิจารณ์ Amy Nicholson จากสหรัฐอเมริกา โดยมีผู้กำกับ Todd Haynes จากสหรัฐอเมริกา รับหน้าที่เป็นประธานคณะกรรมการตัดสิน

เจาะลึกผลรางวัลเทศกาลภาพยนตร์ BERLIN FILM FESTIVAL 2025

 

ผลรางวัลสาขาต่าง ๆ ประจำปีนี้ ก็ได้แก่

รางวัลด้านเทคนิคยอดเยี่ยม สำหรับทีมงานสร้างสรรค์ภาพยนตร์เรื่อง The Ice Tower ของผู้กำกับหญิง Lucile Hadžihalilovic จากฝรั่งเศส ซึ่งได้ Marion Cotillard มารับบทบาทเป็น Cristina นักแสดงหญิงรุ่นใหญ่ซึ่งกำลังจะได้เล่นในหนังเทพนิยายเรื่อง The Snow Queen (1844) ของ Hans Christian Andersen

 

เจาะลึกผลรางวัลเทศกาลภาพยนตร์ BERLIN FILM FESTIVAL 2025

ตามท้องเรื่องจะเป็นช่วงปี 1970s มีเด็กสาวกำพร้า ณ สถานอุปถัมภ์นาม Jeanne เป็นตัวละครเดินเรื่องหลัก เธอแอบหนีเข้าเมืองมาหลบพำนักอยู่ในกองถ่ายหนังเรื่องนี้ กระทั่งมีโอกาสได้พบ Cristina ต่างฝ่ายต่างรู้สึกถูกชะตา จน Jeanne สามารถมาร่วมเล่นเป็นตัวละครเด่นประกบคู่กับนางเอกดังสมความตั้งใจของฝ่าย Cristina!

จากเนื้อหาในเทพนิยายพาฝันอย่าง The Snow Queen ผู้กำกับ Lucile Hadžihalilovic ได้พลิกอีกมุมด้านให้เห็นว่า ชะตากรรมแท้จริงของ ‘ราชินีหิมะ’ ที่พวกเราเคยประทับใจกันมาจากหนังเรื่อง Frozen (2013) มันไม่เห็นจะมีอะไรสวยงามตามที่ animation เรื่องดังนี้ตีแผ่ไว้

แต่ภาวะภายในของตัวละครแต่ละรายมันช่างดำทะมึนไปด้วยตัณหาราคะที่ออกจะน่ากลัวจะตาย สมจะเป็นเทพนิยายตระกูลสยองขวัญสั่นประสาท ซึ่งผู้กำกับก็รังสรรค์บรรยากาศให้หนังเรื่อง The Ice Tower มีกลิ่นอายที่ละม้ายคล้ายหนังเลือดสาดแนว Giallo โดยเฉพาะของผู้กำกับ Dario Argento อย่างไรอย่างนั้นกันเลย!

 

รางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ตกเป็นของหนังตลกสติแตกเรื่อง Kontinental’25 ของผู้กำกับโรมาเนีย Radu Jude เมื่อจ่าศาลสตรี ดันไปตะเพิดไล่ที่ชายเร่รอนคนจรหมอนหมิ่น ในดินแดนทรานซิลวาเนีย จนสุดท้ายเขาก็เสียชีวิตด้วยการฆ่าตัวตาย!

จ่าศาลหญิงรายนั้นจึงมีอันต้องวิตกกังวลด้วยความรู้สึกผิด จิตตกว่าตนเองได้กระทำอะไรรุนแรงเกินไปไหม หรือทั้งหมดนี้ควรจะโบ้ยความผิดไปให้ความล้มเหลวด้านระบบสวัสดิการของรัฐบาล หรือสันดานไม่รู้จักหาการหางานของคนไร้บ้านรายนั้น?

 

เจาะลึกผลรางวัลเทศกาลภาพยนตร์ BERLIN FILM FESTIVAL 2025

 

หนังถ่ายทำกันแบบบ้าน ๆ ง่าย ๆ ไม่ต้องลงทุนอะไรมากมาย ฉายฉากที่จ่าศาลหญิงหาที่พึ่งพิงทางใจด้วยการนั่งปรับทุกข์ระบาย กับทั้งเพื่อนสาว ลูกศิษย์หนุ่มชาวไรเดอร์ ไปจนถึงบาทหลวงช่างเพ้อ นำเสนอข้อถกเถียงต่าง ๆ อย่างยาวนาน แต่ดูเหมือนนงคราญจะไม่เคยรับฟังคำแนะนำของใคร ๆ เพราะมัวแต่กลุ้มอกกลุ้มใจ และไม่ว่าจะสนทนาปราศรัยอยู่กับใคร ก็ไม่เห็นจะเจอหนทางในการแก้ไขปัญหาหรือบรรเทาอารมณ์ขมขื่น

 

เจาะลึกผลรางวัลเทศกาลภาพยนตร์ BERLIN FILM FESTIVAL 2025

 

สำหรับรางวัลด้านการแสดง เทศกาลเบอร์ลินเองก็ปฏิรูปสาขารางวัลแซงหน้าที่อื่น ๆ หลังความลื่นไหลด้านเพศสภาพทำให้ไม่สามารถแยกเพศนักแสดงหญิงและชายได้อีกต่อไป จึงต้องปรับหมวดเสียใหม่เป็นการแสดงในบทนำและบทสมทบแทน

สำหรับรางวัลนักแสดงในบทสมทบยอดเยี่ยมประจำปีนี้ ก็ได้แก่ Andrew Scott ในบท Richard Rodgers นักประพันธ์ละครเพลงชื่อดังแห่ง Broadway เจ้าของท่วงทำนองอันไพเราะจากละครเพลงเรื่อง Oklahoma! (1943) จากภาพยนตร์เรื่อง Blue Moon ของผู้กำกับ Richard Linklater ซึ่งเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในงานเลี้ยงหลังรอบปฐมทัศน์ของละครเพลงเรื่องดังกล่าว ณ ค่ำคืนของวันที่ 31 มีนาคม ค.ศ. 1943 ที่ Sardi’s Bar โดยมี Ethan Hawke รับบทนำเป็น Lorenz Hart นักประพันธ์เนื้อเพลง ที่มาร่วมแสดงความยินดี

 

เจาะลึกผลรางวัลเทศกาลภาพยนตร์ BERLIN FILM FESTIVAL 2025

 

หนังเล่าเรื่องราวแบบ real time ตลอดระยะเวลา 100 นาที ที่เกิดขึ้น ณ ปาร์ตี้แห่งนั้น ให้ความสำคัญกับทั้ง unity of place และ unity of time ติดตามตัวละครอยู่ในบาร์แห่งนั้น นักแสดงจึงต้องถ่ายทอดทุกมิติของตัวละครภายในระยะเวลาอันสั้น แม้ว่าหนังจะเลือกเล่าด้วย shot สั้น ๆ แทนที่จะถ่ายทำแบบ take เดียวยิงยาว ซึ่งน่าจะเข้ากับเนื้อหาที่ Richard Linklater ต้องการจะเล่ามากกว่า

 

ส่วนรางวัลด้านการแสดงในบทนำ ก็ได้แก่ Rose Byrne ในบท Linda มารดาผู้กำลังภาวะสติแตกจากหนังเรื่อง If I Had Legs I’d Kick You กำกับโดย Mary Bronstein ซึ่งก็เป็นชัยชนะที่ไม่น่าประหลาดใจ เพราะ Rose Byrne ได้แบกหนังเอาไว้ทั้งเรื่องจริง ๆ

 

เจาะลึกผลรางวัลเทศกาลภาพยนตร์ BERLIN FILM FESTIVAL 2025

 

เธอรับบทเป็นหญิงผู้กำลังเผชิญวิกฤติแต่เพียงลำพัง หลังสามีของเธอได้หายตัวไป ทิ้งไว้เพียงบุตรสาวตัวน้อยที่สุขภาพไม่ค่อยจะแข็งแรงเท่าไหร่ Linda จึงต้องใช้เวลาแทบทั้งหมดคอยดูแลและเยียวยาทายาท ทั้ง ๆ ที่จะต้องเจอแต่เรื่องป่วนประสาท เช่น เพดานที่บ้านทะลุพัง จนต้องอุ้มลูกขึ้นข้างเบาะนั่งไปหาเช่าโรงแรมบุโรทั่งพักนอนเพื่อความปลอดภัย อุปกรณ์ที่ใช้ควบคุมอาการลูกสาวก็แจ้งเตือนเธอไม่หยุดหย่อน มีแต่เรื่องที่ทำให้เธอต้องอ่อนอกอ่อนใจจนสติเธอทานทนไม่ไหวแทบจะขาดผึงในทุกวินาที

และถึงแม้ว่าบทหนังจะยังมีช่องโหว่ว่าสุดท้ายแล้ว Linda ‘หลอน’ จากการมโน หรือเธอกำลังพยายามโกหก แต่ Rose Byrne ก็แสดงอาการจิตตระหนกขั้นรุนแรงออกมาได้อย่างน่าสะพรึง ‘ทำถึง’ จนคณะกรรมการต้องยกรางวัลให้ไปกับการแสดงที่น่าจะบ้าคลั่งที่สุดในชีวิตการทำงานของเธอ!

 

รางวัลหมีเงินสำหรับผู้กำกับยอดเยี่ยม ตกเป็นของผู้กำกับ Huo Meng จากผลงานเรื่อง Living the Land จากจีนแผ่นดินใหญ่ เล่าถึงการรุกคืบของเทคโนโลยีใหม่ ๆ ในช่วงตั้งไข่แห่งยุคดิจิทัล ณ ดินแดนชนบทของจีน เมื่อปี 1991

 

เจาะลึกผลรางวัลเทศกาลภาพยนตร์ BERLIN FILM FESTIVAL 2025

 

หนังฉายภาพชีวิตชุมชน โดยมีหนุ่มน้อยจอมซน Chuang เป็นศูนย์กลางของเรื่อง ถ่ายภาพแบบ panorama เลื่อนไหลอย่างต่อเนื่อง ส่องสีสันวัฒนธรรมประจำเมืองในแต่ละห้วงฤดู ของผู้คนที่ไล่ลำดับนับได้ถึงสี่รุ่น Living the Land จึงให้ภาพสังคมชนบทยุคปลายแอนะล็อกที่แสนอบอุ่น ต่างจากหนังจีนเรื่องอื่น ๆ ที่เราเคยคุ้นจากฝีมือของผู้กำกับระดับรุ่นพี่

 

รางวัลหมีเงิน Jury Prize ขวัญใจคณะกรรมการ ได้แก่ หนังขาวดำจากอาร์เจนตินาเรื่อง The Message ของ Iván Fund เล่าเรื่องราวการเดินทางอันอบอุ่นของครอบครัวที่ประกอบไปด้วยพ่อแม่และบุตรีบุญธรรมที่มีพลังอำนาจพิเศษในการติดต่อสื่อสารกับสิงสาราสัตว์ชนิดต่าง ๆ ได้! พวกเขาจึงประกอบอาชีพเป็นแม่หมอขอพยากรณ์ทำนาย ถ่ายทอดภาพนิมิตในอนาคตด้วยการขับรถบ้านตระเวนไปให้บริการแก่ชาวบ้านที่ต้องการที่พึ่งทางใจ แลกกับรายได้โดยอาศัยญาณในการสื่อสารของน้องหนู

 

เจาะลึกผลรางวัลเทศกาลภาพยนตร์ BERLIN FILM FESTIVAL 2025

 

หนังตั้งใจพาเราไปดูความเป็นอยู่ของครอบครัวจำเป็นนี้ ซึ่งแม้ว่าเนื้อเรื่องจะแลดูมีความอภินิหารแฟนตาซี แต่เอาเข้าจริง ๆ หนังก็มีลีลาแบบสัจนิยมผสมความมหัศจรรย์แบบ magical realism ผ่านงานด้านภาพอันขรึมและขลัง ดูเป็นหนังที่แตกต่างจากเรื่องอื่น ๆ ในสายประกวดจนได้รับรางวัล Jury Prize ไปในที่สุด

 

สำหรับรางวัลรองชนะเลิศ หรือรางวัลหมีเงิน Grand Jury Prize ประจำเทศกาลในปีนี้ ก็ตกเป็นของหนังจากบราซิลเรื่อง The Blue Trail ของผู้กำกับ Gabriel Mascaro

 

เจาะลึกผลรางวัลเทศกาลภาพยนตร์ BERLIN FILM FESTIVAL 2025

 

หนังเล่าถึงนโยบายสังคมสูงวัยฉบับใหม่ของรัฐบาล ออกมาตรการให้คนชราย้ายบ้านมาอาศัยอยู่ในชุมชนเดียวกัน เพื่อบรรเทาภาระของเยาวชนและคนหนุ่มสาว จะได้ไม่ต้องเอาเวลามา take care ดูแลคนแก่รุ่นพ่อรุ่นแม่ที่ชีวิตมีแต่การรอคอยความตาย

แต่คุณยาย Tereza วัย 77 ปี จะไม่ขอดำเนินตามกุศโลบายนี้ โดยชีวิตนี้เธอฝันจะได้ลองนั่งเครื่องบินดูสักครั้ง แต่ความตั้งใจต้องล้มพังเมื่อเธอยังต้องพึ่งบุตรสาวในการซื้อตั๋วโดยสาร เธอจึงต้องเปลี่ยนแผนด้วยการหันไปลองเรือตามลำธารกิ่งก้านของแม่น้ำแอมะซอน ตะลอน ๆ ไปจนกลายหนัง comedy สกุลใหม่ซึ่งน่าจะเรียกได้ว่า ‘Boat Movie’!

 

มาถึงรางวัลใหญ่ที่สุดประจำเทศกาล นั่นก็คือรางวัลหมีทองคำ หรือ Golden Bear ผลรางวัลในปีนี้ ได้แก่หนังนอร์เวย์เรื่อง Dreams (Sex, Love) ของผู้กำกับ Dag Johan Haugerud หนึ่งในชุดงานไตรภาคเล่าเรื่องราวความรัก ความสัมพันธ์ และความหฤหรรษ์ทางเพศของผู้คนร่วมสมัย

 

เจาะลึกผลรางวัลเทศกาลภาพยนตร์ BERLIN FILM FESTIVAL 2025

 

Sex-Dreams-Love ซึ่งทั้งหมดได้ออกฉายในนอร์เวย์ไปเมื่อปีกลายแล้ว โดยเรื่อง Dreams (Sex, Love) ขอรอฉายรอบ International Premiere ในสายประกวดเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเมืองเบอร์ลินในปี 2025 ซึ่งก็ต้องนับว่าคุ้มค่ากับการรอคอย เพราะหนังสามารถคว้ารางวัลใหญ่ไปได้ในที่สุด

Dreams (Sex, Love) เรื่องที่สองของชุด เป็นหนังรัก Sapphic ระหว่างสตรีกับสตรี เมื่อ Johanne หญิงวัยรุ่นวัย 17 ปีกำลัง ‘คลั่งรัก’ ครูสาวผิวสีของตน จนต้องตามหาที่อยู่ไปยืนเคาะก๊อก ๆ หน้าประตูบ้าน มารยาว่ามีปัญหาด้านภาระการเรียนหนังสือหนังหา ก่อนที่จะได้เห็นกับตาว่าครูสาวคนนี้มีคู่รักที่เป็นผู้หญิงอยู่เป็นตัวเป็นตน Johanne เลยต้องกลายเป็นคนอกหัก ระบายอาการช้ำรักด้วยการเขียนเป็นนิยายออกมา

เมื่อมารดาและอัยยิกาของเธอได้เห็น ก็หาทางช่วยเข็นให้ได้พิมพ์เป็นเล่ม เติมเต็มความอาภัพอับโชคทางใจ ให้ Johanne ประสบความสำเร็จในแวดวงวรรณกรรมแทน!

 

 

หนังพยายามเล่าด้วย mood & tone อันแสนอ่อนโยน โหนประเด็นกลุ่มคน LGBTQ+ ด้วยทัศนคติที่มองทุกอย่างด้วยความสร้างสรรค์จรรโลง โยงให้เห็นว่า ‘ครอบครัว’ มีบทบาทสำคัญเพียงไหนสำหรับเยาวชนคนรุ่นใหม่ในปัจจุบัน ซึ่งก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามันเป็นเนื้อหาที่มีความร่วมสมัยจนชนะใจคณะกรรมการตัดสินรางวัลในปีนี้ไปได้ในที่สุด