'ธนิดา ดลธัญพรภคภพ' สร้างแบรนด์ 'Ira' ให้สวยปลอดสารสไตล์ 'Regenerative'

'ธนิดา ดลธัญพรภคภพ' สร้างแบรนด์ 'Ira' ให้สวยปลอดสารสไตล์ 'Regenerative'

8 ปีที่แล้ว แบรนด์เครื่องสำอาง 'Ira' (ไอรา) เผย 'ลิปบาล์ม' สำหรับคนแพ้ง่าย ปลอดสารเคมี ไม่ทำให้แพ้ จากนั้นเริ่มนำกระดาษมาเป็นบรรจุภัณฑ์เพื่อย่อยสลายได้ทั้งหมด จากแนวคิด beauty + environment ให้ผู้หญิงสวยอย่างปลอดภัยสไตล์ Regenerative

ปีนี้ ลิปบาล์ม เผยโฉมตัวเองในแท่งกระดาษที่ตัดเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วย่อยสลายได้ แกนลิปสติกทำจากฝาขวดเพทเหลือทิ้งจากโรงงาน เมื่อใช้หมดรีฟิลได้ มีอีกชื่อว่า Regenerative Lip Balm

ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Ira เมย์ - ธนิดา ดลธัญพรภคภพ ตั้งใจทำบรรจุภัณฑ์ที่ปราศจากการเคลือบพลาสติก และสามารถย่อยสลายคืนสู่ธรรมชาติ 100% 

แพคเกจจิ้งของแป้ง ใช้พลาสติก PCR (Post-Consumer Recycled Plastic) ซึ่งเป็นพลาสติกที่เคยใช้แล้วนำกลับมารีไซเคิลขึ้นรูปใหม่เป็นตลับแป้ง และสามารถรีฟิลได้

จุดประกาย TALK สนทนากับคนทำเครื่องสำอางรักษ์โลกแบรนด์ไทย สวยรักษ์โลกแล้วต้องช่วยฟื้นฟูโลกด้วย

\'ธนิดา ดลธัญพรภคภพ\' สร้างแบรนด์ \'Ira\' ให้สวยปลอดสารสไตล์ \'Regenerative\'    ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Ira ธนิดา ดลธัญพรภคภพ

แนวคิดก่อตั้งแบรนด์ Ira

“อย่างแรกคือตอบโจทย์เรื่องแพ้ง่าย และทุกบรรจุภัณฑ์ต้องมีส่วนช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม เพราะอุตสาหกรรมเครื่องสำอางสร้างขยะเยอะมาก ที่จริงสนใจเรื่องสิ่งแวดล้อมมาตั้งแต่เรียนธรรมศาสตร์ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี ตอนปีหนึ่งเด็กทุกคณะต้องเรียนวิชาเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม เหมือนวิชาจริยธรรม อาจารย์จะพานักศึกษาไปโรงเก็บขยะ คัดแยกขยะให้เป็น ในมหาวิทยาลัยเราก็แยกขยะมานานแล้ว เราเลยเหมือนชิน ตอนไปเรียนที่รังสิต เวลาเรียนชั้น 5 เราไม่ใช้ลิฟต์นะ เดินเอา

อีกหลายปีต่อมาเจอเพื่อนที่เรียนด้วยกัน เพื่อนบอกว่า..นี่เธอยังสนใจเรื่องเดิม หมายถึงเราสนใจเรื่องสิ่งแวดล้อม มาทำงานก็ยังสนใจเรื่องเดิม”

\'ธนิดา ดลธัญพรภคภพ\' สร้างแบรนด์ \'Ira\' ให้สวยปลอดสารสไตล์ \'Regenerative\' ทำไมผลิตภัณฑ์แรกเป็นลิปบาล์ม

“ตอนเรียนจบไม่อยากทำธุรกิจ อยากเป็นอาจารย์มหาวิทยาลับ ตอนใกล้จะจบไปเป็นผู้ช่วยอาจารย์ที่ธรรมศาสตร์ เหมือนเป็นเลขา ทำงานวิจัย ตอนนั้นกำลังขอทุนไปเรียนต่อปริญญาโทด้วย แต่จับพลัดจับผลูมีเพื่อนมาถามว่าสนใจอยากทำธุรกิจนี้มั้ย เพื่อนทำโรงงานผลิตเครื่องสำอาง เลยคิดว่าลองทำดู เริ่มจากซื้อมาขายไปก่อน เอาของมาขายในร้านอาหารจีนที่พัทยา เมื่อหลายสิบปีก่อน สินค้าพวกสบู่รูปผลไม้ มังคุด มะม่วง เขาฮิตกัน พอทัวร์จีนลงก็มาซื้อ เรามีสบู่ สเปรย์ตะไคร้กันยุง กับลิปบาล์ม ตัวที่ขายดีคือสเปรย์ รองไปเป็นสบู่ คนจีนจะซื้อกลับ

\'ธนิดา ดลธัญพรภคภพ\' สร้างแบรนด์ \'Ira\' ให้สวยปลอดสารสไตล์ \'Regenerative\'     Regenerative Lip Balm

ตอนนั้นราว 8 ปีก่อน พอเราขายไปก็คิดว่าทำไมไม่มี natural grade ลิปบาล์มส่วนใหญ่เป็นปิโตรเลียม เจลลี่ ไม่ค่อยมีของธรรมชาติ ยุคนั้นจะมีแบรนด์ Burt’s Bees ที่นำเข้ามา เราก็คิดว่าถ้าเราทำแบบนี้ในราคาที่จับต้องได้ และมีประโยชน์ต่อผู้ใช้ ปลอดภัย ราคาไม่แพง จึงเริ่มจากลิปบาล์ม แล้วค่อยใส่เรื่องสิ่งแวดล้อมลงไปจากความเชื่อส่วนตัว”

\'ธนิดา ดลธัญพรภคภพ\' สร้างแบรนด์ \'Ira\' ให้สวยปลอดสารสไตล์ \'Regenerative\'     ลิปบาล์มไอรา

ผลิตภัณฑ์แรกที่คนจดจำคือ

“ลิปบาล์มข้าวเหนียวมะม่วง กลิ่นเหมือนกะทิเลย จากคนที่ซื้อตอนแรกจำชื่อแบรนด์ไม่ได้ บอกว่าลิปที่เป็นข้าวเหนียวมะม่วง แล้วเราทำลิปในแท่งกระดาษ เป็นซิกเนเจอร์ของเรา ทำให้คนรู้สึกว่ารักษ์โลก

จากนั้นเราก็มุ่งไปที่ลิป ทั้งลิปมัน มีสี ไม่มีสี ที่คนแพ้ง่ายใช้ได้ ปากไม่ลอก ไม่ทำให้ปากดำ เราเก่งเรื่องลิป คนมารีวิวบอกว่า บางครั้งแอบนอกใจไปใช้แบรนด์อื่นแต่สุดท้ายต้องกลับมาเพราะแพ้ คิดว่าคนไทยใช้ขี้ผึ้งเยอะ และแพ้สารเคมีเยอะ แรก ๆ ที่ใช้อาจยังไม่เห็นว่าแพ้ สำหรับบางคนนะ พอใช้สะสมไปห้าปีสิบปี วันที่ภูมิตกเพราะรับสารเคมีไปเยอะ อยู่ดี ๆ ก็แพ้ได้ ปากแห้ง ปากดำคล้ำ

ยอดขายช่วงแรก ๆ โตมาเรื่อย ๆ มาหยุดช่วงโควิด ตอนนั้นเราออกแต่ลิป แต่คนไม่ค่อยใช้เพราะอยู่แต่บ้าน ยอดตกแต่ไม่ถึงกับขาดทุน ยอดลิปสติกหายไปจะขายได้แต่ลิปมัน ทำให้เราวางตัวเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านริมฝีปาก และเชี่ยวชาญด้านผิวแพ้ง่าย มีแป้ง เจลล้างหน้า สครับผิว ออกตามา”

\'ธนิดา ดลธัญพรภคภพ\' สร้างแบรนด์ \'Ira\' ให้สวยปลอดสารสไตล์ \'Regenerative\' เครื่องสำอางที่ไม่มีสารกันเสียจะอยู่ไม่นาน บอกลูกค้ายังไง

“ใช่ค่ะ เราเน้นผลิตใหม่เรื่อย ๆ ปกติอยู่ได้ปีครึ่ง ถ้าอยู่ในอุณหภูมิที่ดีแต่ก็มีโอกาสเกิดกลิ่นหืนได้ก่อน เหมือนน้ำมันพืชตั้งปกติในห้องครัว ใช้ไปยังไม่หมดอายุบางทีก็มีกลิ่นหืน ซึ่งไม่ควรใช้แล้ว และไม่น่าใช้ด้วย

เราเน้นวันที่ผลิตเป็นหลัก เช่นผลิตวันนี้ใช้ได้ถึง 2 ปี ถ้าประเภทอยู่นานคือใส่สารกันเสีย พวกลิปจะไม่ใส่สารกันเสียเพราะไม่มีน้ำเป็นส่วนประกอบ มีแต่เชียบัตเตอร์ น้ำมัน แวกซ์ ถ้าอะไรที่มีน้ำพวกครีม เซรั่ม น้ำจะเป็นตัวทำให้เชื้อเกิด

จะแนะนำลูกค้าว่าการรักษ์โลกอีกอย่างคือ อย่าซื้อตุน ถ้าใช้ไม่หมดจะเสียกลายเป็นขยะ ตอนแรกที่ทำแบรนด์เราจ้างโรงงานผลิตที่ต้องผลิตครั้งละห้าพันแท่ง ตอนนี้เราทำโรงงานของตัวเองทำให้เรามีสภาพคล่องในการผลิตมากขึ้น เราสามารถผลิตทีละ 500 แท่งก่อนแล้วค่อยผลิตใหม่ เพราะฉะนั้นลูกค้าจะได้ของสดใหม่มาก”

\'ธนิดา ดลธัญพรภคภพ\' สร้างแบรนด์ \'Ira\' ให้สวยปลอดสารสไตล์ \'Regenerative\'

ตอนนั้น Ira เน้นที่ลิปอย่างเดียว

“ตอนแรกเน้นลิป หลังโควิดจึงเริ่มแตกไลน์สินค้า มีแป้งฝุ่น แป้งพัฟ เจลล้างหน้า สครับหน้า สเปรย์มะกรูด แชมพู มีความเป็นคอสเมติกมากขึ้น และเป็น personal care มากขึ้น เมื่อก่อนเราจำกัดความว่าเราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านริมฝีปาก มีสารพัดลิปเต็มไปหมด หลัง ๆ มาลูกค้าเริ่มบอก...เมื่อไหร่จะทำแป้ง ทำครีมกันแดด เขาใช้แบรนด์อื่นไม่ได้เลย คือแพ้ เราจึงเกิดความเชื่อมั่นในตัวฐานลูกค้าว่าเราจะทำตัวนั้นตัวนี้เพิ่ม ปรากฏว่าผลตอบรับดี”

\'ธนิดา ดลธัญพรภคภพ\' สร้างแบรนด์ \'Ira\' ให้สวยปลอดสารสไตล์ \'Regenerative\'      ลิปบาล์มวีแกน

ลิปบาล์มตัวใหม่ในดีไซน์ใหม่ ตอบทุกโจทย์สิ่งแวดล้อม

“เราทำแพคเกจใหม่ จากวัสดุปกติที่เป็นพลาสติกเราใช้ฝาขวดเพทสีน้ำเงิน เลือกเกรดที่ยังไม่ได้ใช้งานจากโรงงานที่ไม่ได้ใช้ แล้วไม่ได้เอากลับไปรีไซเคิล โรงงานบอกว่าต้นทุนในการเอาพลาสติกกลับไปทำใหม่แพงกว่า พอเราไปดูก็พบว่าตอบโจทย์ ทำแท่งลิปสติกที่หมุนได้ อันเดิมออกแบบมาหมุนไม่ลง อันใหม่นี้รักษ์โลกด้วย และถอดรีฟิลได้ เนื้อลิปข้างในไม่มีสารเคมีอันตราย จะมีเชียบัตเตอร์ เลือกกลิ่นลาเวนเดอร์ทำให้ผ่อนคลาย หลับง่าย เป็นลาเวนเดอร์แท้ไม่สังเคราะห์ และไม่ใส่กลิ่นที่เยอะเกินไป ตั้งชื่อว่า Regenerative Lip Balm

ตอนนี้คนเข้าใจมากขึ้น คำว่า Regenerative ไม่ใช่แค่เอาของมารีไซเคิล อัปไซเคิล แต่เราจะกลับไปดูแลฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมด้วย ในต่างประเทศพูดมาสิบปีแล้ว ซึ่งมีความหมายมากกว่าความยั่งยืน คือการกลับเข้าไปดูแลถึงระบบ เช่นทำการเกษตรไม่ใช้ปุ๋ยเคมีหรือยาฆ่าแมลง แต่ต้องกลับไปดูตั้งแต่ดินเลยว่า ดูแลยังไง ดูแลระบบนิเวศอย่างไร

ลิปบาล์มตัวนี้ตั้งใจว่า 5% ของการสั่งซื้อจะนำไปบริจาคให้มูลนิธิที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม”

\'ธนิดา ดลธัญพรภคภพ\' สร้างแบรนด์ \'Ira\' ให้สวยปลอดสารสไตล์ \'Regenerative\' ส่วนผสมมาจากไหน ถึงขั้นเป็น certified organic หรือยัง

“ที่ต้องนำเข้าคือเชียบัตเตอร์ (shea butter) เพราะปลูกในไทยไม่ได้ แต่ส่วนใหญ่เราใช้ส่วนผสมที่ผลิตในประเทศ ซื้อจากเกษตรกร เช่น เจลล้างหน้า มีส่วนผสมว่านหางจระเข้ ต้องบอกว่าปีแรก ๆ ที่ทำตอนนั้นวัย 21-22 ปี ภูมิใจกับการนำเข้ามาก เช่น เชียบัตเตอร์ โฮโฮบาร์ออยล์ มันดีดูหรูหราจังเลย แต่พอทำธุรกิจได้ 2-3 ปี เริ่มตระหนักว่า จริง ๆ บ้านเรามีของดีเยอะมาก เช่น น้ำมันมะพร้าวดีมาก ๆ สารสกัดใบบัวบก ว่านหางจระเข้ เริ่มกลับมามองตัวเองว่าที่ผ่านมาทำอะไรอยู่ ทำไมถึงไม่เห็นคุณค่าของรอบตัวเรา ทำให้เหมือนละลายพฤติกรรม แต่ก่อนหน้านี้ก็ไม่ใช่คนไม่ดีนะคะ แต่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมอย่างเดียวไม่ได้ใส่ใจกับชุมชน

ประกอบกับตอนนั้นเราไม่มีความรู้ พอไปเข้าคลาสโครงการ “พอแล้วดี” กลับมาคิดว่าการจะทำให้ธุรกิจโตไม่ควรโตไปคนเดียว ไหน ๆ จะเสียเงินซื้อวัตถุดิบแล้ว ควรซื้อจากเกษตรกรบ้านเราดีกว่า เลยเริ่มมองหาส่วนผสมในประเทศมากขึ้น บางอย่างเราถึงขั้นปลูกเอง เช่น มะกรูด ว่านหางจระเข้ แต่ยังไม่พอใช้ต้องซื้อเพิ่ม

\'ธนิดา ดลธัญพรภคภพ\' สร้างแบรนด์ \'Ira\' ให้สวยปลอดสารสไตล์ \'Regenerative\' พอใช้วัตถุดิบไทยแล้วมีใบเซอร์ (certified organic) ก็ยัง แต่เราเลือกแหล่งผลิตที่เชื่อถือได้ อยากบอกว่าเกษตรกรหลายคนไม่มีเงินขอใบเซอร์ และการขอเซอร์ USDA ยากมาก ใช้เงินเป็นแสน เกษตรกรเราจะไปหาเงินที่ไหน

แต่เรามีเซอร์ของไทยนะคะ โดย มูลนิธิรักษ์ดินรักษ์น้ำ Earth Save ของ คุณสัณหจุฑา จิราธิวัฒน์ ผู้ก่อตั้งมูลนิธิ ทำเพื่อเกษตรกรโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย เพื่อสิ่งนี้โดยเฉพาะ”

แต่ยังต้องใช้เชียบัตเตอร์นำเข้าอยู่ ของไทยมีอะไรที่ใช้แทนกันได้

“ทุกวันนี้ต้องใช้เชียบัตเตอร์เพราะยังหาเบสตัวอื่นไม่ได้ ไม่งั้นต้องใช้ปิโตรเคมี น้ำมันมะพร้าวก็ไม่ได้เพราะมันเหลว จะไม่แข็ง เชียบัตเตอร์เนื้อจะแข็ง ความจริงโกโก้บัตเตอร์ก็ใช้ได้ ปลูกในไทยด้วย แต่เนื้อจะไม่เหมือนเชียบัตเตอร์ที่มีความนุ่ม เนื้อโกโก้จะแข็งเลย เนื้อสัมผัสยังไม่ค่อยได้ จะออกแนวแข็ง ๆ และสากนิดหน่อย ต้องค่อย ๆ หาว่าอะไรมาแทนได้ที่เป็นของไทย

ส่วนขี้ผึ้งในไทยใช้ได้แต่เลือกจะไม่ใช้ เพราะมาเจอ pain point ว่าลูกค้าแพ้ ตอนแรกที่เรายังไม่บอกว่าเราเป็นวีแกน เราใช้ขี้ผึ้งในลิปบาล์มเพราะหาขี้ผึ้งในไทยได้ พอลูกค้าบอกว่าใช้แล้วแพ้ มาปรึกษาหลายคนมาก บอกว่าใช้ของออร์แกนิคก็แพ้ ใช้ของเราก็แพ้ ตอนนั้นเราใช้ขี้ผึ้งเราเลยเปลี่ยน อีกอย่างขี้ผึ้งก็ไม่ใช่วีแกน”

\'ธนิดา ดลธัญพรภคภพ\' สร้างแบรนด์ \'Ira\' ให้สวยปลอดสารสไตล์ \'Regenerative\'    ลิปสี

แบรนด์ Ira สื่อสารกับลูกค้าตลอด

“เราเป็นแบรนด์ที่ไม่ห่างไกลลูกค้า พอเขามาปรึกษาว่าใช้ตัวนี้แล้วแพ้เราเลยให้ลูกค้าถ่ายหลังกล่องมาให้ดู เราก็จับมาเทียบในไฟล์ข้อมูลว่าตัวไหนที่เหมือนกันและตัวไหนที่คาดว่าแพ้ พอเจอคำว่า bee wax (ขี้ผึ้ง) เราลองตัดออกแล้วให้ลูกค้าลองใช้ ปรากฏว่าไม่แพ้ ส่วนใหญ่จะแพ้เหล็กในของมัน เป็นสารที่บางคนแพ้และแพ้เยอะ ทำให้เราเริ่มวางตัวเองเป็นวีแกน นอกจากไม่ทำร้ายผึ้งแล้ว ยังเหมาะกับคนแพ้ง่ายด้วย เราเป็นแบรนด์แรก ๆ ที่พูดเรื่องวีแกน

\'ธนิดา ดลธัญพรภคภพ\' สร้างแบรนด์ \'Ira\' ให้สวยปลอดสารสไตล์ \'Regenerative\'

เราสื่อสารกับลูกค้าตลอด บางครั้งอาจหาโซลูชั่นไม่ได้ อย่างเรื่องแท่งลิปสติก ก่อนหน้านี้ใช้ยาก ใช้วิธีดันแล้วพอดันไม่ถูกจังหวะมันจะพรวดออกมา เราก็แก้ปัญหาบรรจุภัณฑ์ ทุกวันนี้ก็มีให้แก้ทุกวัน เช่น แป้งรีฟิล ต้องถอดง่าย เราทำกล่องขึ้นใหม่เลย เพราะกล่องเดิมถอดยาก ถอดรีฟิลแล้วแตก ลูกค้าก็บ่นตลอด เราจะไม่ทำก็ได้

แต่เราไม่แฮปปี้ที่ได้ยินว่า รีฟิลแป้งแตกอีกแล้ว แกะแล้วแตก มันไม่ใช่เรื่องที่ลูกค้าต้องเจอสิ่งนี้ ดังนั้นเราทำอะไรได้ก็จะทำ ต้องยอมลงทุนแก้ถึงต้นตอ ไม่งั้นลูกค้าจะไม่กลับมาซื้อเราอีก เราต้องปรับและเรียนรู้ไปพร้อมกับลูกค้า

คนจะรักษ์โลกได้ง่ายขึ้น ของต้องใช้ง่าย ตอบโจทย์ด้วย เราพยายามทำแพคเกจใหม่ใช้เงินลงทุนเยอะ ไม่งั้นจะได้ยินฟีดแบ็คเชิงลบเรื่อย ๆ”

\'ธนิดา ดลธัญพรภคภพ\' สร้างแบรนด์ \'Ira\' ให้สวยปลอดสารสไตล์ \'Regenerative\'

ลูกค้าซื้อ Ira เพราะอะไร

“ข้อแรกเลยไม่แพ้ ข้อสองเขารู้สึกว่ามีส่วนร่วมในการช่วยโลก ลูกค้าหลายคนตอบว่า หลายแบรนด์เป็นออร์แกนิค ส่วนผสมคล้ายกัน ไม่แตกต่างกันมากหรอก แต่ที่แตกต่างเพราะแบรนด์เราให้มากกว่า

แบรนด์อื่นเป็นธรรมชาติแต่ไม่ได้พูดเรื่องสิ่งแวดล้อม และไม่ทำเรื่องสิ่งแวดล้อมแต่เราทำ ทุกวันอังคารจะมีไลฟ์แต่ไม่ใช่ขายของ แต่ไลฟ์คุยกับลูกค้า ซึ่งลูกค้าจะบอกเรา ทำให้ได้ข้อมูลจากลูกค้าเยอะเลย ลูกค้าของเรากล้าบอกว่าอยากได้อะไร อยากให้พัฒนาตรงไหน เราใกล้ชิดกันเหมือนเป็นคอมมูนนิตี้ เช่นวันอาทิตย์จัดเวิร์คชอป พาลูกค้ามาทำสเปรย์ฉีดหมอนช่วยให้หลับง่าย

อีกอย่างคือลูกค้าแทบจะเป็นเจ้าของด้วย เช่นบอกว่าอยากได้สิ่งนี้สิ่งนั้น เราจะเก็บข้อมูลแล้วทำออกมา ลูกค้าก็จะรู้สึกภูมิใจว่า นี่คือสิ่งที่เขาบอกแล้วเรานำไปทำ เราจะทำออกมาเป็นซีรีส์ต่าง ๆ แต่ก็จะอยู่ในขอบเขตของเรา

\'ธนิดา ดลธัญพรภคภพ\' สร้างแบรนด์ \'Ira\' ให้สวยปลอดสารสไตล์ \'Regenerative\'     ลิปสีปลอดสาร

บางทีลูกค้าบอกอยากได้สิ่งนี้แต่ไม่ตอบโจทย์เรื่องสิ่งแวดล้อม เราก็จะพยายามหาวิธีการตอบลูกค้าให้เหมาะกับตัวเขาเอง และสอดรับกับจุดยืนของเราด้วย

เช่น ลิปสี เราใช้สีจากแร่ธาตุ ไม่ใช้สีสังเคราะห์ แร่ธาตุมาจากก้อนหินที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เราเลือกชนิดที่มี certified เรียกว่า eco-search ที่บอกว่ามาจากแร่ธาตุอะไร และไม่มีสารหนูหรือสารอื่น ๆ ลูกค้าก็บอกว่าชอบแต่ช่วยทำสีที่มีเฉดสีเยอะ ๆ หน่อย เราบอกว่าทำไม่ได้ ทำได้แค่ 3-4 เฉด ไปไม่ไกลกว่านี้แล้วเพราะไม่ใช่สีสังเคราะห์ สีของก้อนหินก็จะมีแค่สีดำ น้ำตาล เทา ขาว อิฐแดง ส้มอิฐ ดังนั้นจะไม่เห็นลิปสีของเราแบบแดงแปร๊ดเพราะเราไม่ใช้เคมี

ตอนที่เริ่มทำลิปสี ทำแป้ง เพราะลูกค้าบอกว่าซื้อลิปหมดทุกอย่างแล้ว ไม่มีอะไรจะให้ซื้อแล้ว เราก็เลยออกแป้ง”

\'ธนิดา ดลธัญพรภคภพ\' สร้างแบรนด์ \'Ira\' ให้สวยปลอดสารสไตล์ \'Regenerative\'

แฟนคลับคือคนกลุ่มไหน

“แฟนคลับเลยอายุจะ 50 ปีขึ้น เริ่มมีความรู้แล้วว่าทำไมต้องเลือกสิ่งนี้ จะไม่มีคำถามมากเพราะเขารู้ว่าทำไมต้องดูแลตัวเอง ทำไมต้องเลือกความปลอดภัย

ปี 2025 วางแผนออกสินค้าที่ลูกค้าอยากให้ทำ เรียกร้องมา เพราะใช้ของที่อื่นแล้วแพ้

เมื่อลูกค้าซื้อลิปของเราก็ดีใจ แต่ถ้าซื้อสินค้าพวกสเปรย์มะกรูดจะดีใจมาก เพราะลิปยังใช้เชียบัตเตอร์ แต่มะกรูดใช้ของไทยตรงเลย”

หมายเหตุภาพ: FB: Ira Natural Products