'นพ.อมรศิษฐ์ พานศิลป์' ‘สวยด้วยนวัตกรรม’ (ที่ไม่พึ่งมีดหมอ)

สวย-หล่อดูดีอย่างไรไม่ต้องพึ่งมีดหมอ 'นพ.อมรศิษฐ์ พานศิลป์' มีคำตอบว่า ‘สวยด้วยนวัตกรรม’ ผ่านอุปกรณ์เทคโนโลยีสมัยใหม่ และผ่านมือแพทย์ที่มีประสบการณ์ ปลอดภัย ไม่เสี่ยง
คุณหมอต๋อง - นพ.อมรศิษฐ์ พานศิลป์ CEO & Co-Founder @ Dii Aesthetic clinic (ดีไอไอ เอสเธทิค) ให้ข้อมูลว่า
“เทคโนโลยีใหม่ ๆ ความรู้ใหม่เกิดขึ้นทุกปี ต้องศึกษา ไปประชุม เทรนนิ่ง อินเตอร์เนททำให้ง่ายขึ้น สมัยก่อนต้องไปประชุม ปารีส โมนาโก เกาหลี ไทเป สิงคโปร์ บินตลอดทั้งปี ทุก 2 เดือน
สมัยก่อนต้องบินไป สมัยนี้ก็มีบินไปดูหน้างาน และใช้อินเตอร์คอนเฟอเรนซ์ ออนไลน์ได้
ในงานประชุมมีทั้ง Plastic surgery, Aesthetic มีสมาคมเกี่ยวกับความงามหลากหลาย เมืองไทยจัดทุกปี ของสมาคมโรคผิวหนังก็จัดประชุมอัปเดตทุกปี ยังไม่นับรวมของโรงพยาบาลต่าง ๆ รามา ศิริราช หมอเป็นอาชีพที่ต้องเรียนตลอดชีวิต”
แม้เป็นแพทย์ที่ดูแลด้านความสวยความงาม มีประสบการณ์กว่า 17 ปี ยังต้องตามให้ทันนวัตกรรมเทคโนโลยีด้านความงาม ล่าสุดเครื่องยกกระชับหน้า มอเฟียส โปร (Morpheus Pro - ชื่อแบรนด์) จาก Dii Aesthetic เป็นเทคโนโลยีล่าสุดช่วยให้ผู้หญิงสวยได้โดยไม่ต้องพึ่งมีดหมอ
“มอเฟียส สำหรับการยกกระชับ 7 ชั้นผิว โดยไม่ต้องผ่าตัด เป็น Non-Surgical Lifting, Non-invasive Radio Frequency (RF) กระตุ้นการจัดเรียงใหม่ให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิวหนังแท้ (Dermal Remodeling) และชั้นไขมันใต้ผิว (Subdermal Adipose Remodeling)
Morpheus Pro เทคโนโลยี RF
อธิบายเรื่องลิฟต์ (lift) หน้าก่อน ทางการแพทย์เรียกว่าเป็น Single treatment สมัยก่อนใช้ เทอร์มาจ (Thermage-ชื่อยี่ห้อ) ซึ่งเกิดมา 10 กว่าปีแล้ว ตัวเครื่องเป็นคลื่นวิทยุ หรือ RF - Radio frequency เป็นเทคโนโลยีทันสมัยในยุคนั้นสำหรับการยกหน้า
แต่ RF ก็มีแบบขั้วเดียว สองขั้ว กับหลายขั้ว ต่อมามี อัลเทอร่า (Ulthera - ชื่อยี่ห้อ) เป็นอัลตร้าซาวด์ ไม่ใช่ RF เช่นใช้เวลาตรวจครรภ์จะสามารถมองเห็นใต้ผิวหนังว่าเป็นยังไง การยิงของอัลตร้าซาวด์สามารถมองเห็นใต้ผิว ซึ่ง RF ทำไม่ได้ และยิงเป็นจุด ๆ พอยิงไปพังผืดที่หย่อนทั่วหน้าก็จะหดตัวลง
นึกภาพเหมือนเส้นด้ายยาว ๆ พอเราขมวดเส้นด้ายไปเรื่อย ๆ เส้นด้ายนั้นก็จะสั้นลงไปเรื่อย ๆ จากปมที่เราขมวดหรือผูกไว้ อัลเทอร่าพอยิงไปก็จะไปขมวดคอลลาเจน ขมวดพังผืดให้เป็นปม หน้าก็จะตึง เชือกที่หมอเปรียบก็คือพังผืดที่วิ่งวนอยู่ทั่วหน้า เป็นรูปไข่ หมอศัลยกรรมเวลาผ่าตัดก็จะผ่าแล้วไปดึงพังผืดเก็บไว้”
คุณหมอเสริมว่า นวัตกรรมล่าสุดของ RF คือการใช้เทคโนโลยีปล่อยคลื่นไฟฟ้าอ่อน ๆ ในรูปแบบของคลื่นวิทยุ ที่พัฒนาก้าวล้ำไปอีกขั้นหนึ่ง
“มอเฟียส เป็นเครื่องใหม่ที่ Dii เพิ่งนำเข้ามา ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (US FDA) ว่าสามารถเข้าสู่ผิวได้ลึกที่สุด โดยใช้เทคโนโลยี RF เหมือนเทอร์มาจ แต่ข้อดีคือ เห็นผลเร็ว พลังงานความร้อนไม่สูงมาก ที่สำคัญคือเจ็บน้อย”
เข้าทำนอง beauty pain สวยแต่ต้องเจ็บนิดหน่อย
“ในความรู้สึกของคนไข้ อัลเทอร่าจะเจ็บกว่า เนื่องจากมอเฟียสเป็น RF ที่แอดวานซ์กว่า สามารถลงไปในแต่ละชั้นในพลังงานที่สม่ำเสมอ และดีไซน์ได้ เช่นกรณียิงเทอร์มาจ ยิงปุ๊บชั้นแรกพลังงานเซ็ตไว้ 100% พอไปชั้นคอลลาเจนพลังงานที่ลงไปเหลือ 80% ไปถึงชั้นไขมันอาจเหลือ 50% พอถึงชั้นพังผืดอาจไม่เหลือแล้ว เพราะจากข้างนอกสุดไปในสุดมันสูญเสียพลังงานไป
แต่หมออยากให้บริเวณแฟตที่อยู่ลึก ๆ กระชับขึ้น หมอก็เพิ่มพลังงาน ปรากฏว่าด้านนอกคนไข้ไม่ไหวแล้ว ผิวเริ่มร้อนเพราะปรับพลังงานสูง เหมือนเราทำกับข้าวแล้วด้านนอกสุกข้างในไม่สุก เพราะพลังงานด้านนอกเยอะกว่า
แนวคิดนี้จึงทำให้เกิดเครื่องมอเฟียส ทำยังไงให้มีพลังงาน 100% ในทุก ๆ ชั้น ซึ่งมอเฟียสสามารถเซ็ตพลังงานได้ว่า ตัวชั้นคอลลาเจน หมออยากได้พลังงานเท่านี้ พอผ่านไปถึงชั้นพังผืดอยากได้เท่านี้ พอไปชั้นไขมันหมออยากได้และเซ็ตพลังงานได้ไม่มีการสูญเสีย ผลลัพธ์ที่ได้จึงดีขึ้น”
นวัตกรรมตอบโจทย์ได้ แก้ปัญหาได้ตรงจุด เป็นเหตุผลที่แพทย์ผิวหนังต้องเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา
“มอเฟียสมีจุดเด่นเรื่องการแก้ไขแฟต (ไขมัน) สามารถรีโมเดลลิ่งบริเวณแก้มล่าง มุมปากตก ตัวแฟตทำได้ ส่วนผิวด้านบนพวกรูขุมขนกว้างกับริ้วรอยตื้นที่ไม่สามารถแก้ได้ด้วยโบท็อกซ์ เราก็ใช้ตัวนี้ โดยสามารถเซ็ตความตื้นได้ ตัวตำแหน่งของเนื้อเยื่อที่หมอต้องการให้เป๊ะก็ได้หมด
ในขณะที่เทอร์มาจ และอัลเทอร่า เวลายิงจะไม่รู้ว่าพลังงานไปถึงจุดที่เราต้องการหรือเปล่า เพราะด้านนอกถึงแต่พอผ่านไปเรื่อย ๆ พลังงานจะค่อย ๆ สูญหายไป”
คุณหมอบอกว่า สวย-หล่อด้วยนวัตกรรมทรีตเม้นท์ น่าจะเป็นทางเลือกสำหรับคนกลัวมีดหมอด้วย
“ตอบโจทย์คนกลัวศัลยกรรม หมอมองว่าตัวเลเซอร์กับหัตถการทางการแพทย์ยุคนี้แอดวานซ์ไปมาก การผ่าตัดอาจจะเหมาะสำหรับคนที่คิดว่าครั้งเดียวจบ แต่จริง ๆ ก็อาจจะไม่จบ 3-5 ปีก็ทำใหม่ แต่ถ้าถามถึงผลข้างเคียงเมื่อเทียบกับกลุ่มที่ทำเลเซอร์หรือทรีทเมนท์คือ ถ้ามีอะไรผิดพลาดพวกนี้ไม่มีผลอะไร มันรีเวิร์สได้หมด แต่ถ้าศัลยกรรมตัดทิ้งไปแล้ว ไม่สามารถย้อนคืนได้”
นวัตกรรมเลเซอร์หรือทรีตเม้นท์ที่ไม่ต้องพึ่งมีดหมอ เหมาะกับคนกลัวมีด และไม่อยากเสี่ยง อย่างไรก็ตามก็ขึ้นอยู่กับความพอใจของแต่ละบุคคล
“เครื่องนี้ใช้กับร่างกายได้ด้วย ท้องแขนห้อย คนไข้ที่หน้าท้องเป็นจีบ ๆ แต่จะใช้หัวที่ต่างกัน เพราะบอดี้มีแฟตค่อนข้างเยอะกว่าก็จะใช้หัวสำหรับบอดี้ หน้ามีแฟตน้อยกว่าจะดีไซน์หัวสำหรับทำหน้า”
ทำ 1 ครั้ง ผลลัพธ์อยู่ได้นานแค่ไหน หมอต๋องตอบว่า
“6 – 8 เดือน หรือถึง 1 ปี ถ้าดูแลดี ๆ หมายถึงการไม่ทำร้ายผิว เมื่อใดก็ตามที่เราไปทำทรีตเม้นท์จะมีการสร้างคอลลาเจนขึ้นใหม่ ผิวก็จะดูเต่งตึง แต่หลังจากนั้นร่างกายจะดาวน์ลงจากมลพิษ และจากอนุมูลอิสระ จากมลพิษภายนอก มลพิษภายใน ได้แก่ ชา กาแฟ ที่จะเข้าไปทำลายคอลลาเจน
ยังมีภาวะจากภายนอกเช่น เครื่องสำอางบางชนิด อนุมูลอิสระเช่น สเปรย์ แอลกอฮอล์ รังสียูวี
แนะนำคือหลังทำมอเฟียสแล้วก็ต้องดูแลตัวเองด้วย บำรุงทั้งทา กิน ฉีด การพักผ่อน ออกกำลังกาย อาหาร ทำให้ทรีทเม้นท์อยู่ยืนยาวขึ้น”
ถ้าเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ใคร ๆ ก็มีได้ แล้วตัวช่วยการตัดสินใจ ทำอย่างไร
“เลือกอย่างแรกคือตัวเครื่องมือ ต้องผ่าน อย.แน่ ๆ อย่างที่สองคือเสิร์ชหาข้อมูล เปิดดูซีเรียลนัมเบอร์ข้างหลัง เครื่องแท้ ๆ ต้องมี สมัยก่อนอุปกรณ์เหล่านี้ก็อปปี้เยอะมาก ที่สำคัญคือควบคุมพลังงานไม่ได้ หรืออาจไม่มีพลังงานนั้นออกมา คนไข้อาจไม่รู้ วิธีตรวจสอบคือหมายเลขเครื่อง และมีคิวอาร์โค้ดที่สแกนมาอ่านได้
อีกอย่าง ทุกหัตถการที่คนไข้จะไปควรตรวจสอบความน่าเชื่อถือของคลินิก ของแบรนด์คลินิก หมายความว่าตัวแบรนด์เขาการันตีโปรดักของเขาอยู่แล้ว ถ้าใช้ของปลอมที่ไม่ตรงกับผู้บริโภคต้องการ จะมีปัญหาตามมาอยู่แล้ว”
สุดท้ายคือตรวจสอบแพทย์ที่ทำหัตถการว่าน่าเชื่อถือขนาดไหน
“เครื่อง สถาบันที่ใช้ ความรู้และประสบการณ์ของแพทย์สำคัญมาก การทำดีไซน์หน้าคนไข้ ครึ่งหนึ่งเป็นประสบการณ์ อีกครึ่งหนึ่งเป็นความรู้ หมอต้องมีสกิลล์หรือประสบการณ์
ที่สำคัญต้องผ่านการเทรนนิ่ง เพราะความรู้ใหม่ ๆ นวัตกรรมใหม่ ๆ ต้องได้รับการฝึกฝนเรียนรู้อย่างจริงจัง”







