รวมพลังสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ก้าวสู่ 'สังคมสูงวัย' อย่างมีสุข
สานพลังร่วมสร้างหลักประกันความมั่นคงทางเศรษฐกิจสำหรับผู้สูงอายุ เตรียมพร้อมรองรับ "สังคมสูงวัย" อย่างมีความสุขและยั่งยืน
เมื่อพูดถึง "ผู้สูงอายุ" เป็นอีกเรื่องสำคัญที่ประเทศไทยต้องปลุกปั้น ผลักดัน และขับเคลื่อนกันไปอีกยาว โดยเฉพาะประเด็น "ความมั่นคงทางเศรษฐกิจ" ที่ไม่อาจเพิกเฉยได้ เพราะการก้าวสู่ สังคมสูงวัย สิ่งที่ต้องเผชิญคือ การแบกภาระดูแลประชากรสูงวัย ที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว
จากประเด็นดังกล่าว มูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุไทย หรือ มส.ผส. จึงร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส. จัดงาน เปิดคลังความรู้ มส.ผส. และ สสส. ประจำปี 2566 หัวข้อ "การสร้างหลักประกันความมั่นคงทางเศรษฐกิจสำหรับผู้สูงอายุ สู่สังคมสูงวัยที่มีความสุขอย่างยั่งยืน" ซึ่งเป้าหมายสำคัญของการจัดงานครั้งนี้คือ การสร้างนวัตกรรมและงานนโยบายสาธารณะ ส่งเสริมคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุไทยรอบด้าน รวมถึงสร้างเครือข่าย เปิดพื้นที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้ สร้างความตระหนักให้สาธารณะ สู่การเตรียมพร้อมรองรับสังคมสูงอายุอย่างสมบูรณ์ (Complete-aged society) และสังคมสูงอายุระดับสุดยอด (Super-aged society)
ดร.นพ.ภูษิต ประคองสาย เลขาธิการ มส.ผส. กล่าวว่า จากรายงานสถานการณ์ผู้สูงอายุไทย ปี 2565 ไทยมีประชากร 66 ล้านคน ในจำนวนนี้มีอายุ 60 ปีขึ้นไป 13 ล้านคน คิดเป็น 19% ถือว่าไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ (Completed Aged Society) ในปี 2576 ไทยจะมีผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป 28% อายุ 65 ปีขึ้นไป 20% จึงอยู่ในสภาวการณ์มี ผู้สูงอายุ เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งกระทบต่อการยกระดับความสามารถศักยภาพการแข่งขันและการพัฒนาประเทศระดับมหภาค ระดับจุลภาค ได้แก่ ผลต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) รายได้ต่อหัวประชากร การออม การลงทุน งบประมาณรัฐบาล การคลัง การผลิตแรงงาน การจ้างงาน และผลต่อตลาดผลิตภัณฑ์บริการด้านต่างๆ โดยเฉพาะด้านการเงินและสุขภาพ
"ผลการศึกษาวิจัยและงานวิชาการที่ผ่านมาของ มส.ผส. และ สสส. พบว่า องค์ความรู้ที่เป็นรูปธรรม อาทิ กลไกการทำงาน ผลงานเชิงนวัตกรรม รูปแบบ เครื่องมือ และวิธีการทำงาน ที่ทำงานได้จริงในระดับพื้นที่ เกิดการขับเคลื่อนระดับนโยบายได้ในเชิงประจักษ์ ซึ่งหากมีการรวบรวม วิเคราะห์ และสังเคราะห์ให้เป็นบทเรียนที่ดี จะสามารถเป็นตัวอย่างการนำไปใช้ได้อย่างเป็นประโยชน์ เป็นโอกาสสำคัญในการผลักดันข้อเสนอเชิงนโยบายสู่องค์กรหลักที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างยั่งยืน โดยการสร้างหลักประกันความมั่นคงทางเศรษฐกิจสำหรับผู้สูงอายุ พัฒนา ระบบบำนาญแห่งชาติ และการสนับสนุนให้เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเป็นบำนาญถ้วนหน้า โดยมีอัตราการจ่ายที่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งจากงานวิจัยชี้ให้เห็นว่า การมีบำนาญถ้วนหน้าจะช่วยยกระดับให้เกิดหลักประกันทางรายได้ นอกจากนี้การออมยามเกษียณ การสร้างโอกาสทำงาน การพัฒนาทักษะ สร้างรายได้ให้ผู้สูงอายุในชุมชน ทำให้เกิดความมั่นคงทางรายได้ของผู้สูงอายุ"
ภรณี ภู่ประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะประชากรกลุ่มเฉพาะ สสส. กล่าวว่า การสร้างการมีส่วนร่วมทางสังคม รองรับ สังคมสูงวัย ที่มีสุขอย่างยั่งยืน สสส. สานพลังภาคีเครือข่าย พัฒนาระบบรองรับ เตรียมความพร้อมก่อนวัยสูงอายุ รวมถึงขับเคลื่อนเมืองน่าอยู่ 4 มิติ โดยใช้ข้อมูลความรู้จากงานวิชาการต่างๆ ที่เกิดขึ้น มาขับเคลื่อนในมิติต่างๆ เช่น
- มิติสุขภาพ การสร้างความตระหนักรู้ด้านสุขภาพ และชุดความรู้ สนับสนุนการพัฒนาระบบดูแลผู้สูงอายุที่มีภาวะสมองเสื่อม เสริมความเข้มแข็งของร่างกายเพื่อป้องกันการพลัดตกหกล้ม
- มิติเศรษฐกิจ สร้างความมั่นคงทางรายได้ สร้างโอกาส เพิ่มทักษะ สร้างรายได้
- มิติสังคม ส่งเสริมการสร้างความเข้มแข็งของชมรมผู้สูงอายุ เพิ่มพื้นที่ทำกิจกรรม เสริมทักษะด้านเทคโนโลยี ระบบเรียนรู้ออนไลน์ และใช้ในกิจกรรมโรงเรียนผู้สูงอายุ การจัดตั้งธนาคารเวลารองรับสังคมสูงวัย
- มิติสภาพแวดล้อม เกิดการปรับสภาพแวดล้อม และจัดสิ่งอำนวยความสะดวกในที่พักอาศัย และสถานที่สาธารณะ ซึ่ง สสส. และภาคีเครือข่าย คาดหวังให้ระบบรองรับสังคมสูงวัย ที่ดำเนินการในช่วงที่ผ่านมาสอดรับกับนโยบายภาครัฐ เกิดผลได้อย่างเป็นรูปธรรม และทำให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดี
ทั้งนี้ ภายในงานมี กิจกรรมส่งเสริมพฤฒพลังผู้สูงอายุ (Active Aging) ให้ผู้สูงอายุพึ่งพาตนเองได้และใช้ศักยภาพของตนเองเพื่อทำประโยชน์แก่สังคมส่วนรวม เช่น สอนทำของว่างและเครื่องดื่ม อย่างเมนูแซนด์วิช สลัดโรล และสมูทที นอกจากนี้ยังมีการสอนแต่งรูปเพื่อขายของออนไลน์ และแอปพลิเคชันตกแต่งรูปที่เหมาะแก่ผู้สูงวัยด้วย