ถอดมุมคิด 'กฤต สุทธิถวิล' ผู้อยู่เบื้องหลัง 'The Forestias Story & Beyond'

ถอดมุมคิด 'กฤต สุทธิถวิล' ผู้อยู่เบื้องหลัง 'The Forestias Story & Beyond'

เปิดใจ "กฤต สุทธิถวิล" ซีอีโอ MQDC BRITE ผู้อยู่เบื้องหลัง "The Forestias Story & Beyond" งานอีเวนต์ที่เชื่อมโลกจริงกับโลกเสมือนเข้าด้วยกันแบบไร้รอยต่อ

การจัดอีเวนต์ เป็นงานสร้างสรรค์ที่ต้องใช้ศิลปะหลากหลายรูปแบบและพลังมหาศาล เพื่อให้งานเบื้องหน้าออกมาดี คนที่เห็นชื่นชมและจดจำ นั่นคือสิ่งที่ "หนึ่ง - กฤต สุทธิถวิล" กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เอ็มคิวดีซี ไบรท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC BRITE CORPORATION COMPANY LIMITED) คนเบื้องหลังที่รังสรรค์ The Forestias Story & Beyond ของ MQDC หรือ บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด นำเสนอการสร้างสรรค์งานอีเวนต์แบบ Immersive จนกลายเป็นทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์

ก่อนจะมาทำงานด้านนี้ "กฤต" ร่ำเรียนด้านการตลาดและมีประสบการณ์งาน Marketing Agency ด้านอสังหาริมทรัพย์ในอเมริกา กระทั่งกลับเมืองไทยได้ทำงานในบริษัทโตชิบา และแวดวงรถยนต์ อย่าง BMW และ FORD จากนั้นผันตัวมาเป็นโปรโมเตอร์คอนเสิร์ต 

ก่อนแจ้งเกิดในงานอีเวนต์

กฤต เกิดที่ชิคาโก สหรัฐอเมริกา เนื่องจากพ่อแม่ทำงานที่นั่น แล้วกลับมาเรียนหนังสือที่โรงเรียนอัสสัมชัญ ศรีราชา จากนั้นได้ทุนเรียนต่อที่ Arizona State University และจบปริญญาโทที่ IIIinois Institute of Technology มหาวิทยาลัยเดียวกับที่พ่อแม่เขาเคยเรียน

"เมเจอร์แรกของผมคือวิศวะไฟฟ้า แต่รู้สึกว่าไม่ใช่ตัวเรา พอได้เรียนด้านการตลาดกลับรู้สึกว่าใช่ เพราะมองว่า เสน่ห์ของวิชาการตลาดคือ ไม่มีถูก ไม่มีผิด ไม่มีอะไรตายตัวสำหรับเส้นทางสู่ผลลัพธ์ หน้าที่ของเราคือต้องรู้ How To อย่างงานอีเวนต์ของ เดอะ ฟอเรสเทียส์ ไม่ใช่ว่าใช้เงินทุ่ม แต่เราต้องครีเอต เพราะคนไทยชอบความบันเทิงความตลก ขี้เล่น น่ารัก เราต้องเล่าเรื่องของการตลาดให้เข้าใจแบบง่ายๆ"

กฤต เล่าต่อว่า ตอนที่เรียนจบ งานแรกที่ทำคือ Marketing Agency ที่ชิคาโก และ AE ด้านอสังหาฯ มีหน้าที่ทำโบรชัวร์ ทำอาร์ตเวิร์ก เช็กงานก๊อปปี้ไรเตอร์ ทำงานได้ 3 ปี คุณพ่อให้กลับประเทศไทย เนื่องจากต้องการให้คนในครอบครัวมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน หลังจากกลับมาได้ 10 วัน ก็เกิดเหตุการณ์ 9/11 ขึ้นที่สหรัฐอเมริกาในปี 2001

"สำหรับผมตอนนั้นการกลับเมืองไทยถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ เพราะผมเป็นคนอเมริกัน ลงหลักปักฐานอยู่ที่นั่น กว่าจะกลับมาได้ก็ต้องเคลียร์หลายอย่าง พอกลับมาก็ถูกทาบทามให้เข้าทำงานที่โตชิบา ในตำแหน่ง Product Manager จริงๆ แล้ว ผมอยากทำงานที่บริษัทรถยนต์อย่าง BMW เพราะเป็นคนชอบรถมาก ตอนนั้นอายุประมาณ 26-27 ปี การทำงานที่โตชิบาสนุกดี จนกระทั่ง BMW โทรศัพท์มาชวนผมทำงานก็ดีใจมาก เพราะเป็นบริษัทในฝัน"

ถอดมุมคิด \'กฤต สุทธิถวิล\' ผู้อยู่เบื้องหลัง \'The Forestias Story & Beyond\'

กฤต เล่าต่อว่า งานที่ภูมิใจในตอนนั้นก็คือ การได้เปิดตัวมินิคูเปอร์รุ่นแรกในปี 2002 พอกลับจากเทรนนิ่งงานที่ประเทศเยอรมนี ก็มารับตำแหน่ง Product Manager ของ BMW ทำการตลาดสนุกมาก เปิดตัวรถไป 2-3 รุ่น แล้วบริษัทฟอร์ดก็เชิญไปรับตำแหน่ง Head of Marketing Communication ต่อจากนั้นเพื่อนก็ชวนไปทำด้าน Corporate Branding ที่ธนาคารทีเอ็มบี (TMB) จนกระทั่งในปี 2011-2012 ทำงานด้านโปรโมเตอร์คอนเสิร์ต ด้วยความที่เป็นคนปรับตัวเก่ง จึงสามารถทำงานได้หลากหลาย และเป็นงานอีเวนต์ที่ไม่เหมือนใคร

MQDC BRITE บริษัทล่าสุดที่ "กฤต" ทำนั้น เขายอมรับว่า สนุกและท้าทายความสามารถมาก และยังเป็นบริษัทที่รับจัดงานอีเวนต์ทั่วไป ภายใต้คอนเซ็ปต์ Themed Experience Agency

"สำหรับใครที่ต้องการเน้นงานสร้างสรรค์ไม่เหมือนใคร ภายใต้แนวคิดเมจิกที่เราสร้าง อยู่ในรายละเอียดที่เราแคร์ ผมเชื่อว่าเมจิกสร้างได้ ถ้าคนชอบประสบการณ์แบบธีมมิ่ง มีเรื่องราว เล่าเรื่องแปลกใหม่ จะช่วยครีเอตให้ และอีกธุรกิจที่เราทำอยู่ก็คือ ถ้าเคยไปที่ Forest Pavilion จะได้พบกับการต้อนรับที่อบอุ่นและถูกสุขลักษณะ โดยใช้ทีมงานของบริษัทเราทั้งหมดเลย จนกระทั่งส่งแขกกลับบ้านอย่างประทับใจ นี่ก็คือหน้าที่ของเราที่บริการลูกค้าด้วยใจ"

กฤต อธิบายต่อว่า แนวคิดการบริการด้วยใจถูกหล่อหลอมมาจากวัฒนธรรมองค์กรของบริษัทแม่ DTGO Corporation เป็นความภูมิใจที่ทำงานในองค์กรที่มีวิสัยทัศน์แข็งแรงในเรื่องของการทำธุรกิจที่คำนึงถึงสังคม ซึ่งเป็นเป้าหมายของผู้ก่อตั้ง (ทิพพาภรณ์ อริยวรารมย์)

"ผมว่านี่เป็นแค่เสี้ยวหนึ่งของวิสัยทัศน์เจ้าของบริษัท พอได้โจทย์มา ผมคิดว่านี่ไม่ใช่แค่การทำอีเวนต์ บริษัทเราชื่อ เอ็มคิวดีซี ไบรท์ คอร์ปอเรชั่น เป็นบริษัทลูกของ DTGO Corporation ก็คือเป็นน้องของ MQDC อีกทีหนึ่ง พอรับโจทย์จากผู้บริหารมาด้วยวัฒนธรรมองค์กรของเราที่มุ่งเน้นให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่มีคุณค่า ดังนั้นอะไรที่ดีสำหรับลูกค้า และจับต้องได้ เราต้องแสดงสิ่งนี้ให้ทุกคนเห็น ยกตัวอย่างงานแถลงข่าวถ้าต้องสื่อสารให้จับต้องได้ เราต้องทำอย่างไร"

ถอดมุมคิด \'กฤต สุทธิถวิล\' ผู้อยู่เบื้องหลัง \'The Forestias Story & Beyond\'

งานเบื้องหลังที่สร้างสรรค์

โจทย์ของงาน The Forestias Story & Beyond ที่ "กฤต" ต้องทำก็คือ Immersive Experience โดยมีเนื้อหาที่เป็นสารตั้งต้น แล้วค่อยๆ นำมาตีความเรื่องราวหลัก กำหนดธีม และครีเอทีฟไอเดียต่างๆ

"เมื่อโจทย์คือ ต้องทำให้คนรู้สึกดื่มด่ำ แล้วเราจะนำเสนออย่างไร มีเวลาเตรียมงานไม่มากนัก ต้องคิดและลงมือ เตรียมตัวให้ไว จนกระทั่งนำมาสู่การเล่าเรื่องแบบใหม่แบบ Outside In (การมองจากภายนอกเข้ามา) ทั้งผู้สื่อข่าว ลูกบ้าน แขกรับเชิญ ที่มาร่วมงาน ต้องรู้สึกว่าเกินความคาดหมาย เพราะทุกคนมีส่วนร่วมในงานไม่ใช่แค่คนนั่งดู ถ้าเปรียบเป็นละคร ทุกคนเป็นตัวละครในเรื่องนั่นเอง"

อีเวนต์ที่ "กฤต" เล่าให้ฟัง เขาขอให้ผู้บริหารสวมบทบาทเป็นนักแสดง เพื่อให้เขาละทิ้งคำพูดที่ฟังยากๆ แบบผู้บริหารที่มีศัพท์เทคนิคมากมาย มาเล่าเรื่องแบบง่ายๆ เพื่อให้คนหมู่มากเข้าใจ

"เนื้อหาเป็น Story Telling เราซ้อมกัน 2 อาทิตย์ ทีแรกผมก็กลัวเหมือนกันว่า ผู้บริหารจะไม่ยอมให้ทำอย่างนั้น แต่ท่านก็น่ารักมาก ยอมมาซ้อม เราสร้างทั้งหมด 3 เวที ถ้ารวมจอแอลอีดีก็เป็น 4 เวที เริ่มต้นจาก เดอะ ฟอเรสเทียส์ ผูกเป็นเรื่องราว ผมเลือกเก้าอี้แบบหมุนได้ 360 องศา เพื่อให้ผู้ชมได้รับความสะดวกแค่หมุนไปตามเวที เราสามารถบอกเล่าเรื่องราวของบ้านที่อยู่แล้ว มีสุขภาพดี สภาพแวดล้อมและสังคมดี ร้านค้าดี ฯลฯ เหมือนธีมพาร์คในแบบของคุณ ซึ่งบางคนต้องการมีโอกาสอยู่ใกล้ชิดกับป่า พาแม่ขึ้นรถเข็นมาบนสกายวอล์กเพื่อชมป่าได้เลย โจทย์คือเราอยากให้ลูกค้าเข้าใจอย่างลึกซึ้ง และจินตนาการตามได้ ทุกจุดมีความหมายซ่อนอยู่ อย่างเช่น ส่วนหนึ่งของโครงการ เดอะ ฟอเรสเทียส์ ต้องการให้ความผูกพัน ความกตัญญู กลับเข้ามาสู่สังคมไทย เพราะปัจจุบันลูกหลานแต่งงานแยกครอบครัวออกไป กลับมาเจอหน้ากันเฉพาะตรุษจีน หรือวันสำคัญๆ เพราะครอบครัวเริ่มห่างเหิน รวมทั้งการห่างเหินจากธรรมชาติด้วย"

ถอดมุมคิด \'กฤต สุทธิถวิล\' ผู้อยู่เบื้องหลัง \'The Forestias Story & Beyond\'

กฤต กล่าวต่อว่า ส่วนที่เป็นไฮไลต์ที่ขาดไม่ได้คือ การสื่อถึงเทคโนโลยี ที่สร้างประสบการณ์เหนือจินตนาการเพื่อให้ผู้ชมเข้าถึงเนื้อหาแบบไร้รอยต่อ หรือสัมผัสได้ถึงความล้ำสมัยที่เราเชื่อมต่อระหว่างโลกจริงและโลกเสมือน โดยส่วนนี้มีการใช้ เทคโนโลยี แสง เสียง ประกอบกับ story และเลือกใช้เวทีที่มีเลเยอร์ ประกอบเอฟเฟ็กต์ต่างๆ รวมไปถึงการแต่งกาย และการแอคติ้งของผู้บริหารที่มีการออกแบบให้สอดคล้องกัน เพื่อให้ผู้ชมเกิด Immersive Experience ให้มากที่สุด

คนสร้างสรรค์กับกีตาร์ตัวโปรด

นอกจากงานที่เขารัก ความสุขของผู้บริหาร MQDC BRITE คนนี้ก็คือ มีเวลาให้ลูกชายคนเดียวที่ชื่อน้องจูเนียร์ และการเล่นกีตาร์ไฟฟ้า เป็นมุมละเมียดละไมในชีวิตที่ยังไม่เคยเปิดเผยที่ใด

"ผมสะสมกีตาร์ไฟฟ้า 10 กว่าตัว ไม่เคยมีใครรู้มุมนี้ของผม ผมมีกีตาร์ทั้งที่ออฟฟิศ ที่บ้าน แม้กระทั่งคอนโดฯ บ้านแม่ผมที่เชียงราย กรุงเทพฯ หรือบ้านพ่อที่ศรีราชาก็มีกีตาร์กับแอมป์อยู่ทุกๆ ที่ ไปแวะบ้านไหนก็เล่นได้เลย ส่วนศิลปินในดวงใจผมก็คือ เสก โลโซ เพราะเขามี Passion ในการแต่งทำนองเพลง เขียนเนื้อร้อง และร้องเพลงที่เขาแต่งเองเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นเพลงซมซาน เพลงเคยรักฉันบ้างไหม เพลงพันธ์ทิพย์ ของเสก โลโซ ผมเล่นได้หมด ผมแกะเพลงของเขาเยอะมาก ผมว่าเขาเป็นคนล้ำ คนไม่เข้าใจเขาเยอะมาก แต่ผมก็ยังไม่เคยเจอตัวจริงเขาเลย เวลาเจอฮีโร่ในดวงใจ ผมไม่รู้ว่าจะทำตัวยังไง หลายคนอาจคิดว่า ผมคงต้องชอบคนแบบเท่ๆ อย่างจอห์น เมเยอร์ หรือ เอริก แคลปตัน แต่สำหรับผมพี่เสก โลโซครับ ถ้าได้เจอตัวจริง คงตื่นเต้นมาก"

กฤต เผยต่อว่า เวลาที่เล่นกีตาร์ตัวโปรดคือทุกช่วงเวลาที่ว่าง แม้กระทั่งตอนประชุมแบบออนไลน์ในช่วงโควิดระบาด ทุกครั้งที่ปิดไมค์ ไม่ได้พูด ก็จะนั่งเกากีตาร์ไปด้วย ไม่มีใครเห็น ไม่มีใครได้ยิน

"สมัยเรียนหนังสืออยู่ที่อังกฤษ ได้รับแรงบันดาลใจจากภาพยนตร์เรื่อง La Bamba (ปี 1987) พ่อพาไปดูหนัง ได้เห็นไอดอลคือ Ritchie Valens พกพากีตาร์ไปโรงเรียนทุกวัน ผมจึงพกพากีตาร์ไปเรียนทุกวันเช่นกัน เพื่อนๆ ก็จะให้เล่นและร้องเพลงกันสนุกสนาน จนกลายเป็นเอนเตอร์เทนเนอร์ของโรงเรียน"

งาน The Forestias Story & Beyond

กฤต เล่าถึงงาน The Forestias Story & Beyond ว่า จัดขึ้นในรูปแบบ Immersive Theme Park นำเสนอความคืบหน้า โครงการที่อยู่อาศัยแบรนด์ต่างๆ ภายใน เดอะ ฟอเรสเทียส์ อาทิ วิสซ์ดอม เดอะ ฟอเรสเทียส์, มัลเบอร์รี่ โกรฟ เดอะ ฟอเรสเทียส์, ดิ แอสเพน ทรี เดอะ ฟอเรสเทียส์, ซิกส์เซนส์ เรสซิเดนซ์ เดอะ ฟอเรสเทียส์ รวมถึงการเปิดตัวโรงแรมซิกส์เซนส์ และโรงแรมอินดิโก้ ตลอดจนการเปิดให้เยี่ยมชมห้องตัวอย่างแบบ Virtual Reality ของโครงการเดอะ ฟอเรสเทียส์ ซิกเนเจอร์ ซีรีส์ ซึ่งเป็นโครงการที่อยู่อาศัยแห่งใหม่ในเดอะ ฟอเรสเทียส์

ถอดมุมคิด \'กฤต สุทธิถวิล\' ผู้อยู่เบื้องหลัง \'The Forestias Story & Beyond\'

หนึ่งในไฮไลต์ของงานครั้งยิ่งใหญ่นี้คือ การนำเสนอ "A Year in a Day at Happitat" เพื่อเปิดตัว Happitat (แฮปปี้แทท) ภายใต้แนวคิด "The New Themed Destination of Happiness in the World จุดหมายแห่งความสุข" เพื่อให้ทุกคนได้มาใช้ชีวิตและทำกิจกรรมต่างๆ ได้ทั้งบนโลกจริงและโลกเสมือนอย่างไร้รอยต่อ รวมถึงเพิ่มโอกาสการขยายธุรกิจให้กับพาร์ทเนอร์ เติบโตอย่างยั่งยืนไปพร้อมกัน 

Happitat ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าโครงการ เดอะ ฟอเรสเทียส์ บนพื้นที่กว่า 211,200 ตารางเมตร ภายในประกอบไปด้วยพื้นที่รองรับไลฟ์สไตล์อย่างครบวงจร อาทิ Event Hall หรือพื้นที่จัดกิจกรรมต่างๆ บนพื้นที่รวม 4,000 ตารางเมตร อาคารสำนักงาน ความสูง 10 ชั้น พื้นที่รวมกว่า 61,900 ตารางเมตร เป็นต้น โดยทุกๆ ส่วน ได้รับการพัฒนาให้แตกต่างไม่เหมือนใคร ด้วยแนวคิด "Magical Themed Destination" ที่จะดึงดูดผู้คนทุกกลุ่มทุกเจนเนอเรชัน โดยโจทย์ในการคิดอีเวนต์คือ ต้องนำเสนอให้ผู้ชมเห็นภาพและสัมผัสถึง เรื่องราว Magical ที่อยู่ภายใน เนื่องจากเป็นเดสติเนชันใหม่ที่มีการนำเสนอขึ้นมาเป็นครั้งแรก

ภาพ : ศุกร์ภมร เฮงประภากร