กรณ์พงษ์ วิวัฒน์ชัยกมล บวช 8 ปี ตกผลึกสู่ 'ร้านกาแฟ' มินิมอลลิสต์

เจ้าของร้านกาแฟ 'Double Slash Coffee' กรณ์พงษ์ วิวัฒน์ชัยกมล ผู้ไม่รู้จักกาแฟมาก่อน อีกทั้งก่อนเข้าสู่วงการก็บวชพระนานถึง 8 ปี หากวันนี้เขาเป็นผู้เล่าเรื่องกาแฟ...
จากผู้ไม่ดื่มกาแฟ ไม่เคยรู้จักมาก่อน ใช้เวลาศึกษา ชิม เรียนรู้เรื่องเมล็ดกาแฟอยู่ร่วมปี คุณวี - กรณ์พงษ์ วิวัฒน์ชัยกมล ผู้ก่อตั้งร้านกาแฟน้อยแต่มากดีไซน์เรียบเท่ Double Slash // Coffee ปัจจุบันเปิด 3 สาขา
เมื่อถามว่าทำไมมาเปิดร้านกาแฟ กรณ์พงษ์ นิ่งไปครู่ใหญ่แล้วตอบว่า
“คนมาชวนคือพี่สาว แล้วจังหวะนั้นไม่รู้ไปรับปากยังไง เสร็จมานั่งคิด...กาแฟมันคืออะไร ผมไม่เคยกินกาแฟ ผมเรียนสถาปัตย์ฯ ไม่รู้เรื่องกาแฟเลย”
แถมเรียนจบมายังไม่ทันทำงานจริงจัง ก็ไปบวชให้พ่อแม่ คิดว่าบวชสัก 3 เดือน
“ไป ๆ มา ๆ บวช 8 ปี ไม่มีตังค์สักบาท ไม่ได้รับส่วนตัวด้วย ใครถวายอะไรก็เป็นส่วนกลาง เหมือนเราเจอครูดีได้อยู่วัดที่ถูกต้อง และพระอาจารย์ฝึกทุกคนเหมือนกัน
เป็นวัดป่าครับ อยู่ปทุมธานี ใกล้ธรรมกาย ตอนที่บวชคิดว่าบวชให้พ่อแม่ เป็นวัดป่าแต่เราก็ได้ไปที่อื่นบ้าง จากคนที่ไม่มีศาสนาก็อ๋อ...เรารู้แล้วว่า ศาสนาที่ถูกต้องจริง ๆ คือยังไง”
หลังจากลาสิกขาบท คิดว่าจะทำร้านกาแฟจึงต้องเรียนรู้ เริ่มต้นนับหนึ่ง
กรณ์พงษ์ วิวัฒน์ชัยกมล (ภาพ: ศุกร์ภมร เฮงประภากร)
“โจทย์คือร้านกาแฟ ผมก็ศึกษา กาแฟคืออะไร ไปลองหลายร้าน ตั้งแต่ในปั๊มจนถึงร้านสเปเชียลตี้ เราหาจุดสมดุลที่อยากทำ ตั้งแต่วันที่รับปากตกลงจะทำจนถึงวันเปิดร้าน ลองกาแฟด้วยตัวเองเหมือนทำอาร์แอนด์ดี จากที่เราไม่เข้าใจเลย ลองทำกาแฟเองโดยไม่ได้เข้าคอร์ส ตอนสั่งเครื่องแรกมาที่บ้าน ชงกินวันละหลายสิบแก้ว ชง ชิม เททิ้ง พอได้ไกด์ไลน์จากเพื่อนบ้าง”
จนในที่สุดถึงวันตัดริบบิ้นเปิดร้านกาแฟ โจทย์ที่สองคือตั้งชื่อร้าน
“เราลิสต์มา 10 กว่าชื่อก็ยังไม่ชอบ มีพี่ที่เคารพคนหนึ่งบอกว่าถ้าพูดไม่เก่งก็ให้จดบันทึก จดแบบไหนก็ได้ ผมก็ไปจดในเฟซบุ๊คเอาไว้อ่านเอง เวลาจดจะเขียนเครื่องหมาย // (slash) ผมก็คิดถึงสัญลักษณ์นี้เลยเอามาตั้งชื่อร้าน”
ในบันทึกของเขาคงใส่ / ไว้หลายตัว ชื่อร้านจึงเป็น “ดับเบิ้ล”
“รู้สึกว่ามันซิงค์กันในวิธีการ และเป็นเหมือนแบรนดิ้ง มีความหมายจากตัวเราเอง รู้สึกว่าเป็นชื่อที่ดีที่สุดแล้วในตอนนั้น”
ร้านแรก 60 ตรม. ดีไซน์สไตล์มินิมอลลิสต์ เรียบเท่ด้วยสีดำ ขาว เทา
“ผมจบสถาปัตย์ฯ ภาคผลิตภัณฑ์ ไม่ได้มีความรู้ด้านก่อสร้างนัก แต่เข้าใจเรื่องมู้ด แอนด์ โทน และทำงานกับดีไซเนอร์ สาขาแรกจะมีสีขาวเยอะหน่อย”
สาขาที่ 3 อยู่ ICS ตรงข้ามไอคอนสยาม พื้นที่ 40 ตรม. เล็กลง หากยังคงมู้ด แอนด์ โทน ที่ดูโปร่ง และ “น้อยแต่มาก”
“สาขานี้ไอเดียบางอย่างมาจากวัดเหมือนกัน ให้ดูโปร่ง ๆ เลือกมีช่องแสงด้านบน บาร์ที่ดูเรียบ ที่ว่ามาจากวัดคือเป็นวัดป่า จีวรไม่ให้มีหลายชุด มีคนละ 3 ผืน ข้าวของเครื่องใช้ก็น้อย กุฏิจะไม่มีของใครของมัน ขนาดเล็ก พออยู่ 3 เดือน ก็สั่งสลับกุฏิแล้ว เหมือนให้มีข้าวของน้อยที่สุด
salted caramel, passionade (Cr.FB: Double Slash // Coffee Space)
เราได้ความกระชับ ฟังก์ชั่นใช้สอยมาจากวัด พอมาดีไซน์ร้าน อะไรไม่จำเป็นจะไม่ใส่ เหมือนวัดที่ไม่ได้เน้นความงาม เน้นความเรียบง่าย ผมว่าได้พาร์ทนี้มาเยอะ ประกอบกับเรียนดีไซน์มาก็ได้บางอย่าง นำมาบวกกัน”
ร้านแรกถนนพระราม 3 โควิดยังไม่มา แต่ไม่ทันตั้งตัว โรคระบาดก็จู่โจมถึงเมืองกรุง
“เนื่องจากร้านแรกไม่ได้ทำเยอะ สามารถสลับเฟอร์นิเจอร์ได้ ก็ปรับที่นั่งให้ห่าง ๆ กัน ลูกค้ามาไม่นั่งก็ได้ ดีขึ้นด้วยซ้ำ เพราะคนไม่ได้เข้าเมือง กลายเป็นลูกค้ามาเพิ่มขึ้น สั่งไรเดอร์เพิ่มขึ้น
เพราะกาแฟสามารถซื้อเทคโฮมหรือเดลิเวอรี่ได้ แต่ทำไมเลือกร้านนี้ คำตอบของเขามีเหตุผลราวกับฟังเรื่องราวสัจธรรมของโลก
“เนื่องจากผมไม่กินกาแฟมาก่อน แต่ผมได้ความซื่อตรงมาจากวัด เรียกอย่างนี้ดีกว่า นิสัยของผมคือถ้าจะทำอะไรกินก็ต้องกล้ากินเอง ถ้าวันนี้ผมจะกินเมนูไหนถ้าใช้ของไม่ดีก็ไม่ทำ เดาเอาว่าคนกินเขารู้สึกว่าคุ้มค่ากับราคานี้ กับกาแฟที่เราทำ”
“เรามีกาแฟและขนม กาแฟหลัก ๆ จากเชียงราย แม่จันใต้, ปางขอน เบลนด์กับบราซิล เอธิโอเปีย โคลัมเบีย ใครชอบกาแฟยูนีคสามารถเลือกได้
เมนูอื่น ๆ เช่น salted caramel จริง ๆ ผมก็ไม่เคยกินเมนูคาราเมลเลยครีเอทว่าอยากให้เป็นยังไง
เมนูแนะนำเช่น เกรพฟรุตกับกาแฟ, กาแฟ dirty, เมนูสดชื่นอีกอย่างเบสจากกาแฟโคลด์บลู เรียกว่า อาฟเตอร์นูนยูซุ กาแฟดำกับน้ำส้มยูซุ, มีแบล็คโคโค่ คือกาแฟดำใส่โซดานิดหน่อย กับไอศกรีมมะพร้าวน้ำหอม
เครื่องดื่มที่ไม่ใช่กาแฟมีมัจฉะ และชานม สาขาอื่นจะมีขนมตระกูลพาสทรี่ เช่น ครัวซองต์ มากกว่าที่นี่ (สาขา 3) ที่นี่มีคานาเล่ ฟินองเซีย บราวนี่
อีกเมนูที่ผมไม่เคยไปกินร้านอื่นเลยคือม็อคค่า ชื่อ ประจวบเหมาะ ที่มาคือตอนแรกใช้ช็อกโกแลตจากจันทบุรี แต่มีความเปรี้ยว มีฟรุตตี้เยอะ พอไปเจอช็อกโกแลตจากจังหวัดประจวบฯ รู้สึกว่าไปกับกาแฟได้ดี”
ม็อคค่าเข้มข้นของร้านสัดส่วนช็อกโกแลต 2 กาแฟ 3 ซึ่งตอนนี้คนทำร้านกาแฟบอกต้องกินทุกเมนู แถมชงเอง เป็นบาริสต้าได้ด้วย ในยุคที่ใคร ๆ ก็เปิดร้านกาแฟราวกับเป็นแฟชั่น จะแข่งกับผู้เล่นในสนามอย่างไร คุณกรณ์พงษ์ ตอบว่า
“ยิ่งมีโควิดคนยิ่งลงมาเล่นเยอะ แต่คนที่มามีหลายแบบ มีทั้งแบบทำธุรกิจจริงจัง แบบอยากทำเฉย ๆ เพราะมีเงินเยอะ แบบเงินแปลก ๆ ก็มี เราต้องบาลานซ์ให้เหมาะสม สุดท้ายเราก็เป็นเซอร์วิส บิสสิเนส ถ้าเทียบกับ “สตาร์บัคส์” เขาทุนใหญ่ จุดขายเขาอยากให้คนมานั่ง
แต่ร้านเล็กจุดคุ้มทุนผมมองว่าถ้าเราจริงใจนะ สำหรับผม 1 ปี ต้องบอกว่าเฉพาะสาขานี้ที่ลงทุนน้อย แต่ก็ไม่ได้ลดคุณภาพของกาแฟ ใช้เงินน้อยลงแต่ใช้มุมมองดีไซน์มากขึ้น
คนไทยดื่มกาแฟวันละกี่แก้ว ทำไมร้านกาแฟเปิดเยอะจัง เป็นคำถามที่ต้องถามคนทำร้านกาแฟ
“ภาพรวมผมว่าไม่เกิน 2 แก้ว ไม่เหมือนเมืองนอก ตอนนี้ต้องดูแล 3 สาขา ถือว่าท้าทายสำหรับคนทำร้านกาแฟ ต้องดูเรื่องการจัดการ สุดท้ายสิ่งที่เราหนีมาเจอหมด ทั้งการบริหารจัดการ การลงทุน สต็อก ไฟแนนเชียล
ยังมีเรื่องโลกร้อน อากาศเปลี่ยน ปริมาณกาแฟที่ผลิตได้น้อยลง บวกกับโดนเจ้าใหญ่เข้ามาซื้อเยอะ บวกกำแพงภาษีอีก
“เราจะไม่ผูกติดกับตัวเอง ตั้งแต่มาเปิดร้านวันแรกผมก็คิดแล้วว่าอยากทำให้เป็นแบรนด์ แต่ในฐานะเจ้าของร้านย่อมมีรายละเอียดขึ้น มีตัวอย่างว่าวันที่เริ่มเปลี่ยนถ่ายจากเจ้าของไปทีม เช่นถ้าเจ้าของร้านไม่มาลูกค้าไม่กินแล้วเพราะเขาไม่เจอเจ้าของ
บางร้านดีมาก เป็นคาริสม่าของร้าน ถ้าเป็นเจ้าของได้อยู่แล้ว แต่เมื่อไหร่ที่เจ้าของไม่อยู่อาจไม่ได้ และหลายร้านกว่าจะได้ต้องใช้เวลาเปลี่ยนถ่ายนานมาก
ผมตั้งใจตั้งแต่วันแรกว่าผมจะไม่ทำตัวเป็นพระเอก แต่จะเป็นการสร้างแบรนด์เหมือนเวลาลงไอจี ให้เลือกว่าใส่อะไร ผมใส่ชื่อแบรนด์ อย่างตอนนี้ต่อให้ผมไม่อยู่ที่นี่มันก็จะไม่มีผลต่อลูกค้า”
ข้อมูลเหล่านี้ได้มาจากการศึกษาธุรกิจมาก่อนหรือเปล่า เจ้าของร้านกาแฟตอบว่า
“ไม่ใช่ครับ ผมได้มาจากวัด ถ้าเทียบเป็นกิจกรรมตอนอยู่วัด เวลาทำความสะอาดจุดนี้ จุดโน้น มี 4-5 จุด จะให้เราสลับไปทำโดยมีวิธีการทำความสะอาดชัดเจน กวาดยังไงล้างห้องน้ำยังไง ใช้อะไร
เพราะฉะนั้นไม่เกี่ยวว่าคนนี้ไม่อยู่ตรงนี้ คนอื่นจะทำไม่ได้ ผมจะฝึกทีมผมแบบนี้ ต้องสร้างแบรนด์ในลักษณะเป็นร้าน
อีกอย่างตัวผมเองต้องทำเป็นทุกอย่างไม่งั้นจะบาลานซ์อีโก้ของตัวเองไม่ได้ แต่การลงมือทำเองเป็นของเราไม่ต้องการไปข่มใคร แต่เราต้องมีคำตอบได้ว่าเวลากาแฟมีปัญหา เราต้องครอบคลุมทุกอย่างได้ ถ้าเราทำธุรกิจกาแฟแล้วชงกาแฟไม่เป็นผมว่าพังนะ”
เป็นนักธุรกิจเต็มตัวกับร้านกาแฟ 3 สาขา ยังเจียดเวลาเข้าวัดหรือคิดถึงชีวิตตอนครองผ้าเหลืองหรือไม่
“เวลาคิดถึงก็ไปวัดครับ แต่ไม่มีความรู้สึกว่าเหนื่อยจัง...กลับไปบวชดีกว่า ไม่ครับ เพราะเรารู้ว่าออกมาในแบบเราก็สุดของเราในตรงนั้น ถ้าเราตัดสินใจว่าจะมาแล้วไม่ควรกลับไปกลับมา เหมือนหนีปัญหา
แล้วทำไมกลายเป็น 8 ปี ดูคล้ายบรรลุสัจธรรมบางอย่าง หรือไม่...เจ้าของร้านกาแฟไม่ตอบได้แต่ส่งยิ้ม...
Double Slash Coffee 3 สาขา ที่ The Up พระราม 3, พระราม 8 และ ICS ตรงข้ามไอคอนสยาม