ทีมชาติฝรั่งเศส ชัยชนะ (อีกครั้ง) ของความหลากหลายทางเชื้อชาติ

ทีมชาติฝรั่งเศส  ชัยชนะ (อีกครั้ง) ของความหลากหลายทางเชื้อชาติ

ฟุตบอลโลก 2022 ทีมชาติฝรั่งเศสผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ และจะเป็นอกครั้งที่ถือเป็นชัยชนะของทีมฟุตบอลที่มีการรวมตัวของผู้เล่นจากหลากหลายเชื้อชาติทั่วโลก

ตอนที่ฟุตบอลโลก 2018 จบลงโดยที่มีทีมชาติฝรั่งเศสเป็นแชมป์โลก สื่อหลายสำนักทั่วโลก ต่างยกประเด็นความหลากหลายทางเชื้อชาติจากบรรดาผู้เล่นขึ้นมานำเสนอ นั่นเพราะสมาชิกถึง 87% ของทีมชุดนั้น ล้วนเป็นผลผลิตจากประชากรผู้อพยพ ไม่ใช่ฝรั่งเศสแท้ๆ จริงๆ

ภาพอองตวน กรีซมันน์ สมาชิกทีมฟุตบอลฝรั่งเศส ซึ่งเป็นคนยุโรปผิวขาว อยู่ท่ามกลางผู้เล่นฝรั่งเศสซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนผิวดำ มักถูกนำมาพูดถึงซ้ำแล้วซ้ำเล่า และถึงแม้เขาจะเป็นลูกครึ่งฝรั่งเศส-เยอรมัน จากการมีพ่อซึ่งมีเชื้อสายเยอรมนี แต่นั่นก็จัดเป็นภาพที่น่าประทับใจอยู่ดี เพราะนี่คือการแสดงออกถึงความหลากหลายของคนในฝรั่งเศส ที่มีกีฬาฟุตบอลเป็นเครื่องยึดเหนี่ยว

ความหลากหลายทางเชื้อชาติของทีมฟุตบอลชาติฝรั่งเศส ถูกพูดถึงในทุกๆครั้งที่ทีมของพวกเขาประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะแชมป์สมัยแรกในปี 1998  ครั้งที่สองเมื่อปี 2018 เช่นเดียวกับปีนี้ ซึ่งผลงานของทีมฝรั่งเศสกำลังจะไปได้ดีอีกครั้ง

รายงานของ futballnews ระบุว่า  ในฟุตบอลโลกครั้งนี้  92% ของทีมฝรั่งเศส ล้วนมีส่วนผสมของความหลากหลายทางเชื้อชาติ ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบทางตรงและทางอ้อม ผ่านทางพ่อแม่หรือบรรพบุรุษรุ่นก่อนๆ ที่อพยพเข้ามา  โดยนักเตะตัวหลักของทีมที่ทำผลงานได้ดีจนเป็น “ตัวแบกทีม” ก็ล้วนแต่มีเชื้อสายที่หลากหลาย ไม่ใช่ฝรั่งเศสแท้ๆ ไม่ว่าจะเป็น คีเลียน เอ็มบัปเป้ ดาวยิงของทีมซึ่งมีเชื้อสายแคเมอรูน, ราฟาแอล วาราน มีเชื้อสายมาร์ตินีก(เกาะทางตะวันออกของทะเลแคริบเบียน), อุสมาน เดมเบเล มีเชื้อสายมาลี, โอลิวิเยร์ ชิรูด์ มีเชื้อสายอิตาลี

สาเหตุที่ฝรั่งเศส เต็มไปด้วยคนหลายเชื้อชาติก็ไม่ใช่อะไรอื่น นั่นเพราะฝรั่งเศสถือได้ว่าเป็นประเทศเจ้าอาณานิคมในอดีตโดยเฉพาะในทวีปแอฟริกาที่ตกเป็นเมืองขึ้นของจักรวรรดิฝรั่งเศสมาตั้งแต่ครั้งโบราณ และสิ่งเหล่านี้ก็ยังหลงเหลือในโลกปัจจุบัน

ทีมชาติฝรั่งเศส  ชัยชนะ (อีกครั้ง) ของความหลากหลายทางเชื้อชาติ อองตวน กรีซมันน์ สมาชิกทีมฟุตบอลฝรั่งเศสและติดทีมตั้งแต่ฟุตบอลโลก 2018 ซึ่งเป็นลูกครึ่งฝรั่งเศส-เยอรมัน

ฝรั่งเศสมีผู้อพยพเข้าไปใช้ชีวิตอยู่ในประเทศมาอย่างยาวนาน ไม่ว่าจะผ่านการค้าทาส การเป็นแรงงาน จนกระทั่งเมื่อสังคมเข้าสู่เส้นทางแห่งเสรีภาพหลังการปฏิวัติฝรั่งเศสในปี 1789 ปัญหาผู้อพยพเข้าเมืองก็ยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และที่ปารีสก็คือเป้าหมายแรกๆ ที่คนกลุ่มนี้จะเข้าไปแสวงหาอนาคตที่ดีกว่า

เปอร์เซ็นต์ของผู้อพยพที่เพิ่มขึ้นยังเป็นผลโดยตรงจากกฎหมายแรงงานหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เนื่องจากฝรั่งเศสจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องนำเข้าแรงงานจากอาณานิคมของตนเพื่อชดเชยการขาดแคลนแรงงานหลังสงคราม โดยที่แรงงานดังกล่าวก็เลือกฝรั่งเศสเป็นบ้านถาวรในเวลาต่อมา และเมื่อได้ชื่อว่าเป็นประเทศโลกที่ 1 ก็ย่อมได้ชื่อว่าน่าจะมีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่า

พวกเขาได้เลี้ยงดูครอบครัวและพัฒนาอาชีพที่ประสบความสำเร็จ ขณะที่ลูกหลานของเขาก็เลือกฟุตบอลเป็นกีฬา ในฐานะที่เป็นกีฬาสำหรับคนทุกชั้น และความนิยมของกีฬาฟุตบอลในฝรั่งเศสนั้นก็นำมาซึ่งสนามฝึกซ้อมหลายแห่ง การมีอะคาเดมีจากหลายสโมสร จนทำให้ในที่สุดฝรั่งเศสก็สามารถคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกมาครองได้ หลังล้มเหลวมานานในช่วงก่อนปี 1998

ทีมชาติฝรั่งเศส  ชัยชนะ (อีกครั้ง) ของความหลากหลายทางเชื้อชาติ คีเลียน เอ็มบัปเป้ สตาร์ดังของทีม ซึ่งมีเชื้อสายแคเมอรูน (ภาพจาก futballnews)

เมื่อความแข็งแรงของเชื้อชาติในแต่ละแบบ ผสมกับการเป็นมหาอำนาจประเทศ ทำให้นักกีฬาฝรั่งเศสมีทางเลือกมากขึ้น  และว่ากันเฉพาะเรื่องฟุตบอลทีมชาติฝรั่งเศสถือว่าเป็นทีมที่มีความครบเครื่องในเชิงศักยภาพผู้เล่น ไม่ว่าจะเป็นความแข็งแกร่งแบบแอฟริกัน ความทันสมัยในแผนการเล่นแบบทีมยุโรป หรือการเป็นจอมเทคนิคแพรวพราวแบบอาหรับ และฉายาที่เรียกความหลากหลายของฝรั่งเศสก็คือ   black-blanc-beur  ซึ่งหมายถึง คนดำ คนขาว และคนอาหรับ

ทีมชาติฝรั่งเศส  ชัยชนะ (อีกครั้ง) ของความหลากหลายทางเชื้อชาติ อองตวน กรีซมันน์ เมื่อครั้งฉลองแชมป์กับเพื่อนร่วมทีมเมื่อปี 2018 (ภาพจาก hindustantime)

ฟุตบอลโลก 2022 เป็นอีกครั้งที่ฝรั่งเศสคือหนึ่งในตัวเต็งของการเป็นแชมป์ และจนถึงวันนี้ก็เหมือนพวกเขาจะขยับเข้าใกล้ไปเรื่อยๆ ซึ่งแน่นอนว่า หากพวกเขาประสบความสำเร็จ ชัยชนะของความหลากหลายแบบที่ว่าก็จะถูกพูดถึงอีกครั้ง

ที่มา: futballnewssportskeeda