คุยสบายๆกับ"หมอวี"(Dr.V) ยูทูบเบอร์ด้านสุขภาพ ในวันที่ไม่มีเส้นชัย

คุยสบายๆกับ"หมอวี"(Dr.V) ยูทูบเบอร์ด้านสุขภาพ ในวันที่ไม่มีเส้นชัย

 "Dr.V Channel" ทางยูทูบ ที่ให้ความรู้ทางการแพทย์มานานกว่า 2 ปีเป็นผลงานของหมอวี หรือคุณหมอวีระพันธ์ โรคสมองและระบบประสาท ที่ไม่ต้องการอะไรมากกว่าการให้ความรู้ประชาชน

สำหรับหมอวี หรือ นพ.วีระพันธ์ สุวรรณนามัย  คุณหมอยูทูปเบอร์จาก Dr.V Channel ที่มีผู้ติดตามเจ็ดแสนกว่า แรกๆ ที่ทำช่องยูทูป ก็เพื่อให้ความรู้ทางการแพทย์กับประชาชน แม้ปัจจุบันจะมีคนติดตามมากขึ้น เขาก็ยังยืนยันเจตนารมย์เดิม แค่ต้องการใหัความรู้ที่ถูกต้อง 

แม้หมอวีจะไม่ใช่คนดังมากมายนัก สิ่งที่เขาทำตั้งแต่ออกจากราชการ (รับราชการกว่า 14 ปี) เฉกเช่นหมอทั่วไป เปิดคลินิกแพทย์วีระพันธ์ โรคสมองและระบบประสาท จ.พิษณุโลก และเป็นแพทย์ตรวจในโรงพยาบาลในพิษณุโลก รวมๆ แล้วเดือนละสี่วัน และเป็นวิทยากรรับเชิญ 

แม้สิ่งที่เขาทำจะไม่ใช่เรื่องใหญ่โต ก็ถือว่าเป็นแบบอย่าง แบ่งปันสิ่งที่มีทั้งความรู้ทางการแพทย์ คำแนะนำที่ถูกต้องทางโซเชียลเน็ตเวิร์ค และการให้ทานเท่าที่จะทำได้ รวมถึงเป็นคนอารมณ์ดี คิดบวก ก็ทำให้คนรอบข้างมีความสุขไปด้วย

และนี่เป็นอีกวาระที่ได้คุยกับคุณหมอวีในวันที่เขาพอจะแบ่งปันเวลาคุยสบายๆ กับ"กรุงเทพธุรกิจ"

คุยสบายๆกับ\"หมอวี\"(Dr.V) ยูทูบเบอร์ด้านสุขภาพ ในวันที่ไม่มีเส้นชัย หมอวี หรือ นพ.วีระพันธ์ สุวรรณนามัย  คุณหมอยูทูปเบอร์จาก Dr.V Channel 

ทำรายการให้ความรู้ทางการแพทย์ช่องยูทูบมากี่ปี

ผมเริ่มจากทำเฟซบุ๊ค เขียนบทความให้ความรู้เรื่องโรคภัยไข้เจ็บ การเขียนใช้พลังเยอะ ก็เลยอัดคลิป ปรากฎว่าคนตามเยอะ จึงเป็นช่องทางให้ความรู้คน ไม่ได้คิดเรื่องความดัง เพราะผมออกจากราชการก็ทำคลินิกส่วนตัว คนไข้มากพอสมควร 

ตอนโควิดปี 2019 เดือนธันวาคมเริ่มระบาดเห็นข้อมูลผิดมหาศาลพอเริ่มได้สามสี่เดือนในช่องยูทูบมีคนเข้ามาดูกว่าแสน ผมก็ให้ข้อมูลทางการแพทย์เรื่องโควิด แต่ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ

สองปีที่แล้ว ช่องยูทูบที่หมอให้ความรู้สุขภาพมีไม่เท่าไร ผมอยากให้ความรู้ที่ถูกต้อง ให้คนรู้จักวิธีรักษาตัวเอง รู้ว่าอาการแบบไหนต้องรีบไปโรงพยาบาล อาการแบบไหนรอได้ จะได้ไม่ตื่นเต้นมากไป

เมื่อทำช่องยูทูบ ก็มีคนมาตามหามารักษาที่คลินิก ส่วนใหญ่เป็นคนไข้เส้นเลือดตีบ ปวดหัวปวดหลัง เคยรักษาที่อื่น หรือออกจากโรงพยาบาลมาแล้ว นอกจากนี้มีคนเชิญไปเป็นวิทยากรมากขึ้น มีบรรยายให้นักศึกษาแพทย์ ศัลยกรรมระบบประสาท 

ตัั้งใจที่จะเป็นหมอตั้งแต่เด็ก?

ผมเกิดมาก็คิดจะเป็นหมอแล้ว ตอนเป็นเด็กประถมก็ไม่ได้คิดอะไรมาก แต่มีวันหนึ่งผมกระดูกหักต้องไปรักษากับคุณหมอคนหนึ่ง ตอนนั้นเรียนประถม 2-3 รู้สึกประทับใจหมอที่ใจดี ช่วยเหลือคน อีกอย่างอาชีพหมอทำแล้วรู้สึกว่าได้บุญ และได้ดูแลตัวเอง รวมถึงครอบครัวด้วย

ผมจึงไปเรียนแพทย์ศิริราช จากนั้นใช้ทุนที่จังหวัดลำปาง ผมเป็นหมอศัลยกรรมเพราะชอบผ่าตัด หาทุนมาเรียนศัลยกรรมระบบประสาทที่โรงพยาบาลรามาธิบดี โดยใช้ทุนโรงพยาบาลพุทธชินราชที่พิษณุโลก ตอนนี้จึงอยู่จังหวัดนี้

คุยสบายๆกับ\"หมอวี\"(Dr.V) ยูทูบเบอร์ด้านสุขภาพ ในวันที่ไม่มีเส้นชัย

ดูแลตัวเองอย่างไร จึงดูอ่อนวัย ? 

คงเป็นเพราะผมอารมณ์ดี มีความสุขง่ายๆ พอใจในสิ่งที่มีอยู่ ไม่รู้สึกว่าขาดอะไร ไม่ต้องการอะไรมากมาย และผมปฎิบัติธรรมตั้งแต่เด็ก พ่อแม่พาเข้าวัดเป็นเรื่องปกติ อายุ 12-13 นอนในโรงครัววัดป่าอีสาน แถวจังหวัดยโสธรและอุบลราชธานี ก็เลยเลื่อมใสศาสนาตั้งแต่เด็ก ตอนเรียนมัธยมก็อ่านหนังสือท่านอาจารย์พุทธทาส เพราะเป็นเรื่องของปัญญา เป็นเหตุเป็นผล ก็ยิ่งศรัทธา

ผมจะออกกำลังกายสัปดาห์ละ 5 วัน วิ่งและยกน้ำหนัก บางทีผมก็ Fasting ผมจะทำตอนที่ผมน้ำหนักเพิ่มเยอะๆ กินมื้อเดียว 7-8 วันน้ำหนักก็ลดแล้ว เพราะเรารู้วิธีควบคุมน้ำหนักทำได้ง่ายๆ  บางวันทำงานที่คลินิก ก็ Fasting ไปในตัว เพราะคนไข้วันละกว่า 140 คน ผมจะไม่เบรก จะดื่มน้ำและกาแฟดำ จากนั้นกินข้าวมื้อเดียวตอนเย็น

เป็นหมอเห็นทั้งการเกิด แก่ เจ็บและตาย ก็เลยเห็นสัจธรรม?

สำหรับผมชีวิตมีสองส่วน คือเราต้องดำเนินชีวิตในโลก ไม่ว่าเจริญหรือเสื่อมยังไง สุดท้ายก็นอนตายในหลุมศพ จึงควรหารายได้ทางโลกพอสมควร สุดท้ายแล้วเรื่องใจสำคัญ ผมศึกษาพุทธศาสนาเพราะให้คำตอบในเรื่องนี้

เคยบวชวัดป่า 15 วัน ผมทั้งศึกษาและปฎิบัติสายหลวงปู่มั่น แนวอาจารย์พุทธทาส และสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ประยุทธ์ ปยุตฺโต) ผมก็อ่านตั้งแต่เป็นนักศึกษาแพทย์

เพราะเราได้ครูบาอาจารย์ที่ทำให้เข้าใจชีวิต ทำให้ผมไม่ต้องการอะไรมาก ผมมีมากเกินพอ มากกว่าที่ผมต้องการ ไม่ใช่ว่าผมร่ำรวย แต่ผมหมายความว่า ผมไม่ได้ขาดแคลนปัจจัย 4 มีเหลือเฟือ แล้วความสุขในใจก็พอแล้ว

เมื่อมีมากก็แบ่งปัน?

ใครมาให้ช่วยอะไร ถ้าช่วยได้ ก็ช่วย ในแง่ศาสนาก็บริจาค ทำทานทุกวัน พระสงฆ์ที่มารักษาที่คลินิก ผมรักษาให้ฟรีหมดตั้งแต่เปิดคลินิก นั่นเป็นแง่วัตถุ ส่วนในแง่ความรู้ทั้งเฟซบุ๊คและยูทูบที่ผมทำ ผมไม่ต้องการอะไรจากตรงนั้น เราเป็นแพทย์มีข้อมูลเยอะ เมื่อทำรายการ Dr.V Channel ถ้าบางเรื่องไม่รู้ก็ค้นคว้านำมาเล่าให้ฟัง ถ้าไม่รู้ก็เชิญผู้เชี่ยวชาญมาแสดงความเห็น

ศึกษาทั้งวิทยาศาสตร์และพุทธศาสนา ต่างกันอย่างไร 

ผมว่าธรรมะกับวิทยาศาสตร์คือเรื่องเดียวกัน ธรรมะอาจมากกว่าวิทยาศาสตร์ วิทยาศาสตร์คือการพิสูจน์เหตุผลที่ทำให้ทุกคนประจักษ์ได้ แม้ธรรมะจะมีเหตุผล แต่มีบางอย่างไม่สามารถพิสูจน์ได้ในปัจจุบัน

ในอนาคตอาจมีเครื่องมือพิสูจน์ แล้วเราจะพบว่าพุทธศาสนาคือหลักเดียวกับวิทยาศาสตร์ ทำเหตุแล้วได้ผล 

คุยสบายๆกับ\"หมอวี\"(Dr.V) ยูทูบเบอร์ด้านสุขภาพ ในวันที่ไม่มีเส้นชัย

แล้วคุณหมอปฏิบัติธรรมอย่างไร

ผมตื่นตี 5 นั่งสมาธิวันละหนึ่งชั่วโมง กิจวัตรแรกที่ทำคือ เจริญสติ สิ่งที่ได้จากการนั่งสมาธิ ทำให้ผมมีสติ  ถ้าเมื่อใดฟุ้งซ่าน คิดวางแผนอนาคตมากไป สักพักก็จะรู้สึกตัว สติมารู้ว่าไม่ใช่เรื่องต้องคิดเดี๋ยวนี้ ต้องกลับมาอยู่กับลมหายใจในปัจจุบัน บางเรื่องที่คิดล่วงหน้าก็คิดให้เสร็จ

ถ้าใช้สติควบคุมความคิดได้ง่าย ความเครียดจะลดลง ผมจะมีสติเวลาทำเรื่องใดก็ตาม ไม่ว่าเดินหรือขับรถ จนรู้สึกว่าโอกาสเกิดอุบัติเหตุกับเรามีน้อย ไม่ได้ประมาทนะครับ เพียงแต่จะเดินตกท่อหรือสะดุด โอกาสจะน้อยกว่าคนอื่น เพราะเวลาผมเดิน ผมจะรู้ตัวว่าเหยียบขาซ้ายหรือขวา

แนะนำธรรมะกับลูกๆ อย่างไร

หลักการสำคัญคือ ทำให้เห็นทุกวัน ผมตื่นมาปฎิบัติอย่างไรลูกก็เห็น สิ่งที่มากระทบผมจัดการอย่างไร ลูกก็เห็น เวลาคนขับรถปาดหน้า ผมไม่โกรธ ผมคิดว่าเขาอาจจะรีบ ผมมองในมุมบวกเป็นปกติ แล้วก็ฟังธรรมะทุกวัน

ครอบครัวเราใกล้ชิดกัน ผมยังนอนห้องเดียวกับลูกๆ ทั้งสอง คนหนึ่งเรียนคณะแพทย์ ปีที่ 4 มหาวิทยาลัยนเรศวร อีกคนเรียนมัธยมปีที่ 6 ก่อนนอนผมกับลูกคนโตจะฟังธรรมะด้วยกันทุกคืน

ผมจะบอกลูกว่า ทาน ศีล ภาวนาเป็นหน้าที่ของพวกเรา ลูกทั้งสองจะทำทานทุกวันจนเป็นความเคยชิน และต้องเป็นเงินของเขา ทำทานง่ายมากแค่กดมือถือโอนมูลนิธิไหนก็ได้ 10-20 บาท อย่างลูกคนโต ถ้าได้เงินมาแบบฟลุกๆ ถูกสลากออมสินหมื่นหนึ่ง เขาจะไม่เก็บเงินส่วนนี้ไว้จะโอนบริจาค เพราะถือว่าเป็นลาภลอย

แบ่งปันธรรมะกับคนทั่วไปบ้างไหม

ผมจะไม่อยากเอาธรรมะไปบอกคนอื่นมากนัก เพราะเรายังไม่เป็นบุคคลที่จะถ่ายทอดธรรมะได้ คนที่จะบรรยายธรรมได้ คือ เกิดผลจากการปฎิบัติ สิ่งที่ผมถ่ายทอดได้ คงแค่เรื่องทานและศีล ถ้าสองเรื่องนี้ผมพูดได้ เพราะเราอยู่แค่ระดับนี้

ถ้าจะให้พูดเรื่องภาวนา ผมจะไม่ค่อยพูด ผลที่ยังไม่ได้ผมไปพูดก่อนไม่ได้ ถ้าเป็นเรื่องธรรมะ ผมจะนิมนต์พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต มาบรรยายในช่องหมอวี แชนแชล ทุกวันอาทิตย์ตอน 2 ทุ่ม 

ชีวิตหมอวีค่อนข้างสมบูรณ์แบบ?

ผมรู้สึกว่า มันพอแล้ว คนเรามีร่างกายกับจิตใจ ร่างกายก็ออกกำลังกาย เลือกกินอาหารที่ดี นอนหลับให้พอ เราก็ทำได้ แล้วเราเป็นคนขยันหมั่นเพียรก็ไม่ทำให้เราขาดแคลนปัจจัย 4 ผมไม่ได้ร่ำรวย และไม่เปรียบเทียบกับใคร ผมพอแล้ว

ส่วนด้านจิตใจ คำว่า สันโดษในทางพุทธศาสตร์ คือพอใจในสิ่งที่เรามี สมัยผมจบปริญญาตรีได้เงินเดือนหมื่นห้าร้อยบาท รู้สึกว่าเยอะ แต่พอทำงานไป เจ้านายเรามีเงินเดือน 3 หมื่นบาท เราก็คิดว่า ถ้าเราเงินเดือนเท่านั้น เราจะมีความสุข แต่พอวันหนึ่งเรามีเงินเดือนสามหมื่น เราก็ยังไม่มีความสุข

เพราะความอยากของคนเราไม่มีขอบเขต ต่อให้ได้เงินสิบล้านบาท ก็อยากได้ร้อยล้านอีกบางคนบอกว่าสนามหญ้าบ้านคนอื่นสวยกว่าบ้านเขา แต่สำหรับผม สนามหญ้าบ้านเราสวยกว่าบ้านคนอื่น

ถ้าอย่างนั้น หมอวีมีความอยากเรื่องอะไรอีกบ้าง

ความอยากบรรลุธรรม ความอยากแบบนั้นขัดขวางไม่ให้เราบรรลุธรรม ถ้าผมอายุมากๆ ถ้าไม่ได้บวชเป็นพระ ก็อยากเป็นคนแก่ที่เดินไปไหนมาไหนได้ แล้วก็นั่งยิ้มอย่างมีความสุขได้ เรื่องวัตถุผมไม่ได้มีความอยากอะไรมากมาย ไม่มีก็ไม่เป็น