Ombligon กาแฟหายาก รสชาติ Exotic!

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ความสนใจของวงการกาแฟพิเศษ ที่มีต่อกาแฟหายากและแปลกใหม่นั้นเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างมีนัยสำคัญ
KEY
POINTS
- ออมบลิก้อน กาแฟหายากจากโคลอมเบีย รวมปมเด่นกาแฟดังเกอิชา (Geisha) กับเอสแอล-28
- แจ็ค ซิมป์สัน เป็นคนแรกที่นำกาแฟออมบบลิก้อน เข้าสู่การแข่งขันบาริสต้าชิงแชมป์โลก ปี 2023
- ความสนใจในกาแฟสายพันธุ์นี้เพิ่มมากขึ้น ในฐานะดาวรุ่งพุ่งแรงของวงการกาแฟพิเศษ
- ออมบลิก้อน เป็นภาษาสเปน แปลว่าสะดือ ตามลักษณะรูปร่างผลกาแฟ
ความหลงใหลนี้เห็นได้ชัดเจนเป็นพิเศษในการแข่งขันชิงแชมป์โลกบาริสต้าแทบทุกปี หลังจากผู้เข้าแข่งขันหลายต่อหลายคนซึ่งก็คือแชมป์บาริสต้าของแต่ละชาตินั่นแหละ พยายามแสวงหากาแฟสายพันธุ์ใหม่ ๆ ที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์และมีคาแรคเตอร์โดดเด่นไม่ซ้ำแบบใคร มาใช้ในการประกวดประชันหวังชนะใจกรรมการผู้ตัดสิน
'ออมบลิก้อน' (Ombligon) สายพันธุ์กาแฟอาราบิก้าน้องใหม่ระดับแรร์ไอเท็ม จากย่านฮูลา ประเทศโคลอมเบีย เริ่มเป็นที่รู้จักกันไปทั่วโลกเมื่อ 2-3 ปีมานี้เอง ผ่านทางการแข่งขันบาริสต้าชิงแชมป์โลก เช่นเดียวกับสายพันธุ์เก่าแก่หายากอย่าง 'ยูเจนนอยดิส' (Eugenioides
กาแฟทั้ง 2 สายพันธุ์นี้จัดอยู่ในกลุ่มกาแฟระดับ 'เอ็กโซติค' (exotic) ของโคลอมเบีย ที่มีความโดดเด่นด้านรสชาติ เช่นเดียวกับสายพันธุ์เกอิชาที่ปลูกกันทั่วไปในประเทศนี้
ในการแข่งขันบาริสต้าชิงแชมป์โลก 2023 แจ็ค ซิมป์สัน บาริสต้าออสเตรเลีย ผู้คว้าอันดับ 3 ไปครอง เป็นคนแรกที่นำกาแฟออมบลิก้อนไปใช้ในการประกวดกาแฟระดับโลกเวทีนี้ แล้วก็ใช้ทั้ง 3 เมนู คือ เอสเพรสโซ่, กาแฟนม และกาแฟซิกเนเจอร์
ผู้เขียนไปเทสกาแฟออมบลิก้อน สายพันธุ์กาแฟหายากจากโคลอมเบีย ที่ร้านพาคามาร่า สาขาเอกมัย คอร์นเนอร์ (เอแพค ทาวเวอร์)
แล้วก็เป็นที่ทราบกันดีว่าเมล็ดกาแฟที่แจ็คนำมาใช้ เป็นฝีมือโปรเซสของเนสเตอร์ ลาสโซ เจ้าของฟาร์มกาแฟ 'ฟินคา เอล ดิวิโซ' (Finca El Diviso) เป็นหนึ่งในฟาร์มกาแฟที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในการปลูกกาแฟพันธุ์ออมบลิก้อน
ปี 2024 แฟรงค์ ลา เป็นแชมป์บาริสต้าสหรัฐอเมริกา ซึ่งเมล็ดกาแฟที่เขาใช้ในการแข่งขันก็คือ ออมบลิก้อน
ปี 2025 เคย์ ชอน ซิวแชมป์บาริสต้าสหรัฐอเมริกาไปครอง โดยใช้กาแฟออมบลิก้อนเช่นเดียวกัน
จากกาแฟอาราบิก้าสายพันธุ์หนึ่งที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก ปลูกในโคลอมเบีย แต่ ณ ขณะนี้ ไม่ได้ลึกลับอีกต่อไป ความสนใจในออมบลิก้อนกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในฐานะกาแฟพิเศษที่เป็น 'ดาวรุ่งพุ่งแรง' รวมไปถึงแง่มุมประวัติความเป็นมาและโปรไฟล์รสชาติที่ว่ากันว่าจัดจ้านในแบบผลไม้เมืองร้อนและมีรสหวานที่ติดทนนาน
แบรนด์กาแฟพาคามาร่า กับออมบลิก้อน สายพันธุ์กาแฟระดับแรร์ไอเท็ม จากฟาร์มฟินคา เอล ดิวิโซ ในย่านฮูลา โคลอมเบีย
พ่วงตามมาด้วยคำถามที่ค่อนข้างท้าทายว่า กาแฟสายพันธุ์น้องใหม่หาดื่มยากตัวนี้ จะมีศักยภาพเติบโตไปได้ไกลแค่ไหนในวงการธุรกิจกาแฟพิเศษที่มีการแข่งขันสูงมากขึ้นในทุก ๆ ปี
กาแฟออมบลิก้อนจัดว่าหาดื่มกันยากทีเดียว เพราะยังปลูกกันน้อย ผลผลิตก็พลอยน้อยตามไปด้วย ตอนนี้มีปลูกกันเฉพาะย่านฮุลาในโคลอมเบียเท่านั้น แต่ต้องถือว่าผู้เขียนโชคดีมาก ๆ เพราะได้มีโอกาสไปชิมกาแฟแรร์ไอเท็มตัวนี้ ที่ 'ร้านกาแฟพาคามาร่า' สาขาเอกมัย คอร์นเนอร์ (เอแพค ทาวเวอร์) เมื่อไม่กี่วันมานี้ แล้วเป็นกาแฟจากฟาร์มฟินคา เอล ดิวิโซ เสียด้วย มาในแบบเนเชอรัลโปรเซส
น้องบาริสต้าจากพาคามารา เสิร์ฟให้ผู้เขียนลองเทสทั้งแบบดริปร้อนและดริปเย็น ด้วยทักษะการชงที่ใส่ใจในทุกขั้นตอนรายละเอียด ทั้งระดับการบด สัดส่วนกาแฟต่อน้ำ อุณภูมิน้ำ การบลูมกาแฟ การดริป และการเสิร์ฟ เพื่อให้คุณภาพรสชาติของกาแฟออกมาดีงามมากที่สุด นี่เป็นแบบฉบับของผู้ชำนาญการโดยเฉพาะ ช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีเยี่ยมให้กับผู้ดื่ม
กาแฟออมบลิก้อน รวบรวมปมเด่นด้านกลิ่นรสของกาแฟดัง 2 สายพันธุ์ คือ เกอิชา กับ เอสแอล-28
จิบกาแฟพลาง สนทนาถึงสตอรี่ของกาแฟที่จิบไปพลาง เพิ่มอรรถรสในการดื่มกาแฟได้เป็นอย่างดี กาแฟหมดไปสองแก้วโดยไม่รู้ตัว กลิ่นหอมของผลไม้และดอกไม้ที่ 'ซับซ้อน' ในรสชาติกาแฟอบอวลในทุกรสสัมผัส
ตามความเห็นของผู้เขียน กาแฟออมบลิก้อนค่อนข้างมีความ 'สมดุล' ลงตัวระหว่างความเปรี้ยวกับความหวานตามแบบฉบับกาแฟพิเศษที่มีคั่วอ่อนเป็นพิมพ์นิยม กลิ่นองุ่นแดงกับโกโก้นี่เด่นมาก แอบติดสไปซี่นิด ๆ
ที่สำคัญมี 'ความหวาน' แบบไวน์ชุ่มฉ่ำยาวนาน และบอดี้กาแฟดีมาก ทำให้ผู้ดื่มสัมผัสความเข้มข้นของกาแฟได้เต็มที่ แม้เป็นกาแฟคั่วอ่อนก็ตาม
ผู้เขียนมีโอกาสลองชิมกาแฟออมบลิก้อน ทั้งแบบดริปร้อนและดริปเย็น จากฝีมือบาริสต้าของร้านพาคามาร่า
กลิ่นรสของกาแฟออมบลิก้อนไม่เหมือนกาแฟตัวดัง ๆ ที่ผู้เขียนเคยลองดื่มมาก่อน พูดง่าย ๆ ตามภาษาชาวบ้านก็คือ เป็นกาแฟคั่วอ่อนที่ไม่เปรี้ยวจี๊ดจ๊าด แถมมีรสหวานนำ บอดี้ดีจริง ๆ ทำให้นึกถึงกาแฟที่เคยดื่มอย่างจาเมก้า บลู เม้าเท่น (Jamaican Blue Mountain) และเอสแอล-28 (SL-28) แต่สำหรับออมบลิก้อน จะออกโทนหวานมากกว่า
ตามข้อมูลที่ปรากฎโดยทั่วไปนั้น แม้ปลูกและโด่งดังมาจากโคลอมเบีย แต่เชื่อกันว่า กาแฟตัวนี้มีต้นกำเนิดจากสายพันธุ์พื้นเมืองของ 'เอธิโอเปีย' ที่เกิดการกลายพันธุ์ตามธรรมชาติในสถานีพัฒนาสายพันธุ์กาแฟแห่งหนึ่งในโคลอมเบีย
ต่อมา นักแสวงหาสายพันธุ์กาแฟบางรายจากย่านฮูลา นำออกไปเพาะพันธุ์ต่อยังไร่ภายนอก รวมถึงเนสเตอร์ ลาสโซ จากฟาร์มฟินคา เอล ดิวิโซ ด้วย
ว่ากันว่ากาแฟสายพันธุ์นี้ รวบรวมความดีงามของกาแฟ 2 สายพันธุ์ คือ 'เกอิชา' (Geisha) กับ 'เอสแอล-28' (SL-28)
ชื่อ Ombligon เป็นภาษาสเปน แปลว่า 'สะดือ' มาจากรูปร่างผลกาแฟที่กลมๆรีๆ ดูเหมือนสะดือคน
นั่นคือ มีรสหวานและกลิ่นหอมโทนดอกไม้เหมือนเกอิชา กับมีความเปรี้ยวสดชื่น โทนผลไม้ฉ่ำ ๆ สไตล์เอสแอล-28 นอกจากนั้นแล้ว เมื่อได้จิบจะสัมผัสได้ถึงรสชาติที่นุ่มลื่น มีบอดี้ที่ดี และยังมีรสหวานที่ยาวนาน
แล้วชื่อ Ombligon มาจากไหน...
คำนี้เป็นภาษาสเปนแปลว่า 'สะดือ' ซึ่งก็คือ ombligo คนตั้งชื่อ(ซึ่งไม่รู้ว่าใคร) คงเห็นว่ารูปร่างผลกาแฟมีความกลม ๆ รี ๆ ดูคล้ายสะดือคน สะดือจึงกลายเป็นชื่อของพันธุ์นี้ไปโดยปริยาย
จริง ๆ ผู้เขียนก็อยากรู้แรงบันดาลใจในการตั้งชื่อเหมือนกันนะ จินตนาการต้องบรรเจิดขนาดไหนเนี่ย
แม้เป็นกาแฟชื่อแปลก ๆ แต่รูปลักษณะของผลกาแฟก็ค่อนข้างใหญ่ทีเดียว แถมให้ผลผลิตสูง และค่อนข้างทนทานต่อโรคราสนิมอีกต่างหาก
ระหว่างดริปร้อนกับดริปเย็น ถ้าเลือกไม่ถูก ผู้เขียนแนะให้ลองดริปเย็น รสหวานตามธรรมชาติของกาแฟจะโดดเด่นมากขึ้น แถมได้ความสดชื่นอีกต่างหาก
ใครเป็นนักดื่มกาแฟที่ชอบลองชิมกาแฟใหม่ ๆ 'กาแฟออมบลิก้อน' เป็นตัวเลือกที่ไม่ควรพลาด ด้วยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์และบอดี้แน่น ๆ
ผู้เขียนขอคอนเฟิร์มว่ากลิ่นรสของกาแฟน้องใหม่หาดื่มยากตัวนี้ต่างไปจากกาแฟตัวดัง ๆ ที่เคยลองดื่มมาก่อน
แล้วระหว่างดริปร้อนกับดริปเย็น ถ้าเลือกไม่ถูก ผู้เขียนแนะนำให้ลองดริปเย็นครับ รสหวานตามธรรมชาติของกาแฟออมบลิก้อนจะโดดเด่นเพิ่มขึ้น และบอดี้ที่นุ่มลื่นขึ้น พร้อม ๆกับความสดชื่นที่ได้รับ โดยเฉพาะจิบยามบ่าย ขอใช้ภาษาบ้าน ๆ อีกครั้งหนึ่งว่า อร่อยแบบ exotic จริง ๆ
.....................................
เขียนโดย : ชาลี วาระดี







