‘นาราไทย คูซีน’ & 'เชฟเบนซ์' เสิร์ฟสำรับฤดูหนาว ที่ ‘CHEF’S STUDIO’

‘นาราไทย คูซีน’ปั้น ‘CHEF’S STUDIO’ พื้นที่แห่งการรังสรรค์นวัตกรรมอาหาร จับมือ ‘เชฟเบนซ์’ ประเดิม 'สำรับฤดูหนาว' สร้างมิติใหม่แห่งรสชาติ ‘อาหารไทย’
ในเรื่องของอาหารไทย นั้น นาราไทย คูซีน มีชื่อติดโผ ความอร่อย เป็นที่ยอมรับทั้งคนไทย และชาวต่างชาติ หลังจาก ประสบความสำเร็จในแคมเปญ
THE CULINARY EXPERIENCE OF THAI SEASONAL SAMRAB โดย นาราไทย คูซีน ร่วมกับ เชฟเบนซ์ แห่ง ร้าน Seasoning 36 จนได้รับกระแสตอบรับอย่างล้นหลาม
ล่าสุด นาราไทย คูซีน ร้านอาหารไทยระดับพรีเมียม ภายใต้การบริหารของ ยูกิ ศรีกาญจนา และ สิริโสภา จุลเสวก สองผู้ร่วมก่อตั้ง นารา กรุ๊ป เดินหน้าต่อยอดแนวคิดสู่เวทีใหม่ของวงการอาหารไทย ด้วยการเปิดตัว CHEF’S STUDIO ใจกลาง สุขุมวิท 38
พื้นที่แหล่งรวม Creative Culinary Space สำหรับ เชฟรุ่นใหม่ ได้แสดงศักยภาพ ถ่ายทอดมุมมองและแรงบันดาลใจ ผ่านการสร้างสรรค์ สำรับไทย ในรูปแบบร่วมสมัย ผสมผสานเอกลักษณ์ท้องถิ่นกับนวัตกรรมการปรุงอย่างมีระดับ เพื่อส่งต่อประสบการณ์แห่ง รส รูป กลิ่น ของอาหารไทยในมิติที่แตกต่าง
“อาหารไทยในยุคปัจจุบันได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เชฟรุ่นใหม่ มีบทบาทสำคัญในการสร้างสรรค์ เลือกนำวัตถุดิบชั้นดีหายากจากแต่ละภูมิภาคของไทยมาปรุงเป็นเมนูจานใหม่
แต่คงไว้ซึ่งรสชาติที่สมดุลแบบไทย สะท้อนอัตลักษณ์วัฒนธรรมพื้นถิ่น พร้อมเชื่อมโยงกับเทรนด์สากล ซึ่งมีความสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของ นารา กรุ๊ป ที่ต้องการเผยแพร่
และนำพาอาหารไทยให้เผยแพร่ทั่วโลกมากยิ่งขึ้น เราเชื่อว่า CHEF’S STUDIO จะเป็นพื้นที่ของแรงบันดาลใจ ที่นำเสนอ สำรับไทย ในมุมมองใหม่ สร้างความประทับใจเหนือระดับ ให้กับนักชิมทั้งคนชาวไทย และชาวต่างชาติ”
สำหรับเชฟคนแรกที่มาประเดิม CHEF’S STUDIO คือ เชฟเบนซ์ – อัครเดช เตชะเกสรี จากร้าน Seasoning 36 ที่กลับมาสร้างสรรค์เมนู สำรับฤดูหนาว ผสมผสานรสไทยดั้งเดิมเข้ากับเทคนิคและวัตถุดิบนวัตกรรม
โดยคงเมนูยอดนิยมไว้ อาทิ พอร์คช็อปย่างพะโล้เสิร์ฟพร้อมสลัดกะหล่ำดาว ต้มยำน้ำใสปลากุดสลาดแดง ซุปสวรรค์ พร้อมเสิร์ฟเมนูใหม่เพิ่มอีก 6 รายการ เพื่อถ่ายทอดรสชาติไทยร่วมสมัยในรูปแบบที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน
สำรับฤดูหนาว วันนี้ หมูหวานชวนชิม ประทับใจตั้งแต่เมนูแรก Appetizer ยำกะทิปลามง ถามเชฟว่า เมนูนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากอะไร
เขายิ้มน้อยๆพร้อมตอบว่า อาหารจานนี้มาจากความชื่นชอบใน ขนมจีนซาวน้ำ ที่ปัจจุบันหารับประทานได้ยาก เนื่องจากขนมจีนซาวน้ำมีส่วนประกอบอย่าง แจงลอน ซึ่งทำมาจากปลา(ลูกชิ้นปลากราย)
ดังนั้น 'ปลามง' ก็เข้ากันได้ดีกับกลิ่นอายของขนมจีนซาวน้ำ และเชฟเลือกใช้กะทิจากมะพร้าวกะทิ อาเภอทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ เท่านั้น
นำมาผสมผสานรสชาติกับหอมแดง แตงกวาและสับปะรดภูแลหั่นเต๋าทานกับปลามงสด ที่ผ่านกรรมวิธี Dry Cured รสชาติเปรี้ยวหวานลงตัวมากๆ ทานแล้วรู้สึกสดชื่นตื่นตัวดีแท้
ยำส้มโอสองสายพันธุ์ คัดสรรส้มโอทับทิมสยาม และขาวน้ำผึ้ง เพราะมีความเปรี้ยวหวานต่างกัน นำมาคลุกเคล้ากับน้ำยำ หัวหอม กระเทียมเผาแบบโบราณ มาพร้อมกับกุ้งลายเสือย่างคำโต ๆ และปลาสลิดกรอบๆ(สูตรดั้งเดิมเป็นหมูกรอบเชฟเบนซ์มองว่าปลาสลิดกรอบน่าจะดีกว่าไม่หนักเกินไป) จานนี้เปิดต่อมรับรสได้อย่างดีเยี่ยม
จานถัดมาเลือกได้ว่าจะสั่ง แกงระแวงปูก้อน หรือ แกงระแวงเนื้อน่องลาย เป็นแกงไทยโบราณที่เลือนหายไปจากโต๊ะอาหารไทย ครั้งนี้ได้ถูกนำกลับมารังสรรค์ใหม่ รสชาติคล้ายลูกผสมระหว่างแกงเขียวหวาน และแกงกะหรี่แบบไทยๆ คราวนี้เราเลือกได้ว่าจะทานเนื้อน่องลายนุ่มละมุนลิ้น หรือจะทานกับปูก้อนคำโตๆ
จานถัดมาเป็น ต้มยำน้ำใสใบกะเพราสไตล์ปักษ์ใต้ เป็นต้มยำน้ำใสรสจัดจ้าน ใช้ปลากุดสลาดแดงที่นับวันหายาก เชฟเบนซ์ นำปลามาหั่นเป็นชิ้นโตๆ นึ่งสุกกำลังพอดีเพื่อให้ยังมีความหวานธรรมชาติของเนื้อปลาและยังคงชุ่มฉ่ำ เมื่อรับประทานเนื้อปลาคู่กับน้ำต้มยำที่มีรสเปรี้ยวนำ อร่อย ลงตัวเลย
อีกเมนูถือว่าแปลกทว่าอร่อยนั่นก็คือ ปลาหมึกไข่เค็มผัดมะระขี้นก เมื่อถาม เชฟเบนซ์ ถึงแรงบันดาลใจ เขาตอบว่าจานนี้ทำให้คิดถึงคำว่า
หวานเป็นลม ขมเป็นยา รสขมกำลังดีตัดกับรสหวาน และเค็ม ออกมากลมกล่อม เป็นการผัดสไตล์ Wok ให้กลิ่มหอมชวนรับประทาน เชฟลดความขมของมะระด้วยการนำไปต้มกับเกลือก่อน แล้วค่อยนำมาปรุง จานนี้มี ความอร่อย ลงตัวไม่น้อย
น้ำพริกมะม่วงกุ้งเสียบ เป็นเมนูที่สะท้อนความประณีตเสน่ห์ปลายจวัก อาหารไทยโบราณ สำรับไทยจะขาด น้ำพริก ไม่ได้เด็ดขาด
สำหรับเมนูนี้เน้นความเปรี้ยวสดชื่นของมะม่วง เสิร์ฟคู่กับ หมูหวานเท้าวรจันทร์ เป็นหมูหวานสูตรสูตรโบราณ รับประทานกับเครื่องเคียงผักสด
และผักตามฤดูกาลชุบแป้งทอด รสชาติ ครบทั้ง เปรี้ยว หวาน เผ็ด เค็ม สำหรับหมูหวานขอแค่สำรับน้ำพริกก็พึงพอใจสูงสุดแล้ว ที่เหลือถือว่ากำไรเกินคุ้ม
เมื่อรับประทานอาหารคาวจบแล้ว จบสวยๆด้วยของหวาน สาคูต้นมะพร้าวอ่อน จากจังหวัดพัทลุง ทางร้านเสิร์ฟน้ำกะทิมาให้เพิ่มเติมความหอมมันเค็มเองตามชอบ แต่ก็ราดน้ำกะทิมาให้บางส่วนแล้ว ใครชอบน้ำกะทิฉ่ำๆก็สามารถเติมได้
สำรับฤดูหนาว ดังกล่าว เปิดให้บริการเฉพาะวันศุกร์-อาทิตย์ สำหรับ เชฟเบนซ์ จะปรากฏตัวในทุกวันเสาร์ เปิดบริการ 4 รอบ ก็คือ 11:00 น., 13:00 น., 17:30 น.และรอบ 19:30 น.
เริ่มแล้วตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน 2568 เป็นต้นไป ส่วนท่านใดไม่สะดวกวันเสาร์สามารถจองสำรับไทยดังกล่าวได้เช่นกัน รับรองว่ารสชาติอร่อยเหมือนเชฟมาทำเองกับมือทุกจาน
ยำส้มโอสองสายพันธุ์ (กุ้งลายเสือ 4 ตัว) , ต้มยำน้ำใสปลากุดสลาดแดง , แกงระแวงปูก้อนหรือเนื้อน่องลาย และ สาคูต้นมะพร้าวอ่อน (เสิร์ฟตามจำนวนท่าน)
ปลาหมึกไข่เค็มผัดมะระขี้นก, ซุปสวรรค์, พอร์คช็อปย่างพะโล้เสิร์ฟพร้อมสลัดกะหล่ำดาว, สาคูต้นมะพร้าวอ่อน (เสิร์ฟตามจำนวนท่าน)
นอกจากนี้ ยังมีเมนูเพิ่มเติมสุดพิเศษให้สั่งได้ภายในร้าน เพื่อสร้างอรรถรสความอร่อย ได้ในแบบที่เราชอบ อย่างวันนี้ หมูหวานชวนชิม มี กุ้งแม่น้ำทอดพริกเกลือ เมนูโปรดเป็นต้น







