ไวน์อิสราเอล ท่ามกลางเมฆหมอกดำทมิฬ

เปิดประวัติไวน์อิสราเอล มีประวัติศาสตร์การผลิตไวน์ยาวนานตั้งแต่ยุคไบเบิล ได้รับการฟื้นฟูในยุคใหม่โดย บาฮรง เอ็ดมอนด์ เดอ ฮร็อธส์ชีลด์ แต่เผชิญความไม่สงบในภูมิภาค
KEY
POINTS
- อิสราเอล มีประวัติศาสตร์การผลิตไวน์ยาวนานตั้งแต่ยุคไบเบิล และได้รับการฟื้นฟูในยุคใหม่โดย บาฮรง เอ็ดมอนด์ เดอ ฮร็อธส์ชีลด์
- ปัจจุบันไวน์อิสราเอลมีคุณภาพสูงไม่แพ้ไวน์โลกใหม่ โดยมีแหล่งปลูกสำคัญในพื้นที่อย่างที่ราบสูงโกลันและกาลิลีตอนบน
- การผลิตไวน์โคเชอร์ (Kosher) สำหรับชาวยิว ถือเป็นส่วนสำคัญของเศรษฐกิจและเป็นสินค้าส่งออกหลักของประเทศ
- แม้จะผลิตไวน์คุณภาพเยี่ยม แต่อุตสาหกรรมไวน์ของอิสราเอลยังคงเผชิญความท้าทายจากสถานการณ์ความไม่สงบในภูมิภาค
ประมาณ 2-3 เดือนที่แล้วที่ อิสราเอล กำลังมีเรื่องกับปาเลสไตน์มีแฟน ๆ ของคอมลัมน์นี้อยากให้เขียนถึงเรื่องราวของ ไวน์อิสราเอล บ้าง เนื่องจากเคยดื่มไวน์อิสราเอลหลายยี่ห้อในต่างประเทศแล้วชอบ ไม่รู้ว่าเมืองไทยมีขายหรือไม่ ?
หลังจากผัดผ่อนท่านมา 2 เดือนกว่าๆ ด้วยเพราะมีเรื่องราวอื่นๆ ที่แทรกเข้ามา คราวนี้ก็ถึงเวลาเสียที จริงๆ ผมเคยชิมและเขียนเรื่อง ไวน์อิสราเอล ไปบ้างแล้ว ครั้งนี้ถือว่าเป็นการอัพเดทเรื่องราวใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นก็แล้วกัน
ประเทศอิสราเอล (Israel) ไม่ได้อยู่ในยุโรป แต่เป็นประเทศในตะวันออกกลางและเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ หลายคนคิดว่าอากาศคงร้อนเหมือนประเทศตะออกกลางทั่วไป
แต่การที่ประเทศตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ ของทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและชายฝั่งเหนือของทะเลแดง ทำให้ได้รับอิทธิของทะเลเหล่านั้นเอื้ออำนวยต่อการปลูกองุ่นทำไวน์
อิสราเอล เป็นอีกหนึ่งในประเทศที่ต้องบันทึกไว้ว่าไม่ธรรมดาสำหรับการผลิตไวน์ เพราะสามารถผลิตไวน์คุณภาพดีไม่แพ้ยักษ์ใหญ่แห่งโลกใหม่อย่าง ออสเตรเลีย สหรัฐอเมริกา ชิลี นิวซีแลนด์ และเซาท์ แอฟริกา บางยี่ห้อบางรุ่นสามารถพิชิตไวน์โลกเก่าได้
อิสราเอล ผลิตไวน์มาตั้งแต่ยุคไบบลิคัล (Biblical) ซึ่งตอนนั้นอิสราเอลถูกเรียกว่าคานาน (Canaan) และฌูเดีย (Judea) มีหลักฐานว่าผลิตไวน์ก่อนชาติในยุโรปประมาณ 200 ปี
สมัย Biblical นั้น ไวน์มีความสำคัญทางด้านเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก โดยในช่วงต้นคริสตกาล ดินแดนแห่งนี้เป็นศูนย์กลางการค้าไวน์ที่กระจายไปสู่ฝรั่งเศส อิตาลี และเลบานอน
ศูนย์กลางกการผลิตไวน์ของอิสราเอลยุคโบราณอยู่ที่เมืองกิบอน (Gibeon) ประมาณปี 1959-1960 นักโบราณคดีได้ค้นพบเซลลาร์ใต้ดินสำหรับเก็บไวน์ ซึ่งอุณหภูมิประมาณ 20 องศาเซลเซียส พร้อมกับพิสูจน์พบว่า ไวน์ถูกผลิตและเก็บอยู่ในเมืองกิบอนตั้งแต่ 600– 700 C.E.
หลังจากโรมันรุกราน Judea ในช่วง 70 C.E. ไร่องุ่นถูกทำลายไปเป็นจำนวนมาก และเมื่อมุสลิมเข้ามาครอบครองในช่วง 636 C.E. ไวน์ก็กระสานซ่านเซ็นแทบจะสูญหายไปจากดินแดนแห่งนี้
ประกอบกับความไม่สงบในภูมิภาคตะวันออกกลางซึ่งดึงอิสราเอลเข้าไปเกี่ยวข้องกับความรุนแรงในตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา ทำให้อรรถรสน่าตื่นตะลึงเกี่ยวกับไวน์ของอิสราเอลถูกกลบด้วยเสียงอื้ออึงของสงคราม
ปี 2021 อิสราเอล ค้นพบไวเนอะรี คอมเพล็กซ์ ขนาดใหญ่ในเมือง Yavne ที่คาดว่าน่าจะมีอายุกว่า 1,500 ปี หรือยุคไบเซนไทน์ (Byzantine) พบอุปกรณ์ในการผลิตไวน์ต่าง ๆ โกดังขนาดใหญ่ 4 แห่ง ซึ่งคาดว่าจะมีกำลังการผลิตไวน์ปีละประมาณ 2 ล้านลิตร
ที่ผ่านมาอิสราเอลมีชื่อเสียงในการผลิต ไวน์โคเชอร์ (Kosher) โดยมีลูกค้าเป็นกลุ่มชาวยิวที่กระจายอยู่ในประเทศต่างๆทั่วโลก เป็นสินค้าส่งออกหลัก ปัจจุบันโคเชอร์ก็ยังมีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจไวน์ของอิสราเอล
จริง ๆ แล้ว โคเชอร์ หมายถึงอาหารคนยิว โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้เคร่งศาสนา (ศาสนายูดาย) วิธีดูว่าเคร่งหรือไม่เคร่งศาสนาให้ดูที่การใส่หมวก ถ้าใส่หมวก ไม่ว่าจะหมวกใหญ่ หมวกเล็ก สีดำ สีฟ้า หรือสีขาวก็ตาม ถือว่าเคร่งและต้องหาโครเชอร์มารับประทาน
หนึ่งในจำนวนโครเชอร์ก็คือ "องุ่นและผลิตภัณฑ์จากองุ่น" โดยองุ่นที่เป็นผลไม้ธรรมชาตินั้นเป็นโคเชอร์อยู่แล้ว แต่ผลิตภัณฑ์จากองุ่นจะต้องได้รับการพิจารณาเป็นกรณี ๆ ไป
ขณะที่ "ไวน์" จากองุ่นเป็นเครื่องดื่มที่ใช้ในพิธีทางศาสนา จึงถือว่าเป็นโคเชอร์ไปโดยปริยาย แต่ผลิตภัณฑ์จากองุ่นอื่น ๆ จะต้องทำจากน้ำองุ่นที่ได้รับการตรวจตราโดยตลอดตั้งแต่ต้นจนจบเท่านั้นถึงจะเป็น ผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในข่ายพิจารณาให้การรับรองโคเชอร์
ยุคใหม่ของการผลิตไวน์ของอิสราเอลเริ่มต้นเมื่อ บาฮรง เอ็ดมอนด์ เดอ ฮร็อธส์ชีลด์ (Baron Edmond de Rothschild) ชาวฝรั่งเศสเชื้อสายยิว ซึ่งเป็นทายาทนายธนาคารตระกูล Rothschild และบรรพบุรุษของไวน์ดัง ๆ ในฝรั่งเศส หุ้นส่วนใหญ่ชาโต ลาฟิต ฮร็อธส์ชีลด์ 1 ใน 5 เสือบอร์กโดซ์
โดยในปี 1882 เขาสนับสนุนให้ชาวยิวอพยพปลูกองุ่นทำไวน์ ท่ามกลางดินที่แน่นไปด้วยหิน ทราย และอากาศที่ร้อนระอุ ประกอบกับช่วงนั้นฟีลล็อกซีราทำลายองุ่นในยุโรปจนราบเป็นหน้ากลอง
บาฮรง เอ็ดมอนด์ เดอ ฮร็อธส์ชีลด์ สร้างไร่องุ่น 2 แห่ง แห่งแรกที่เมืองซิกฮรอน ยากอฟ (Zikhron Ya'aqov) อยู่ทางเหนือของประเทศ หรือ 35 กิโลเมตรลงไปทางใต้ของเมืองไฮฟา (Haifa) ซึ่งเป็นเมืองแรกที่ชาวยิวอพยพมาอยู่
อีกแห่งหนึ่งอยู่ที่เมืองริชอน เลเซียน (Rishon LeZion) เมืองใหญ่อันดับ 4 ของอิสราเอล อยู่ตอนกลางของประเทศ ...ปรากฏว่าวินเทจแรกไวน์ออกมาหวาน เนื่องจากอุณหภูมิสูง
ปี 1906 Baron Edmond ได้ยกการบริหารงานในไร่ดังกล่าวให้กับเกษตรกรที่ร่วมกันก่อตั้ง Societe Co-operative Vigneronne des Grandes Caves ปี 1957 เจมส์ ฮร็อธชีลด์ ลูกชายของบาฮรองได้บริจาคไร่ให้กับสหกรณ์ดังกล่าว ต่อมาผลิตไวน์ภายใต้ชื่อ คาร์เมล (Carmel)
ในช่วงศตวรรษที่ 20 Carmel เป็นไวน์อิสราเอลรายแรกที่ไปคว้าเหรียญทองจากงาน Paris World's Fair ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส รุ่นที่ได้คือ Carmel No.1 วินเทจ 1900 เป็นสัญญาณว่า ไวน์อิสราเอล กลับสู่ความยิ่งใหญ่ หลังสลบเหมือดไปถึง 2,000 ปี
ปี 1970 Carmel เริ่มผลิตไวน์จากองุ่นพันธุ์คลาสสิกเป็นครั้งแรกของอิสราเอล จากองุ่นกาแบร์กเนต์ โซวีญยอง (Cabernet Sauvignon) และโซวีญยอง บลัง (Sauvignon Blanc) ขณะที่อิสราเอล ไฟน์ ไวน์ ที่ผลิตอย่างจริงจังพิถีพิถันตัวแรกคือ Carmel Special Reserve 1976 (วางตลาดปี 1980)
บาฮรง เอ็ดมอนด์ เดอ ฮร็อธส์ชีลด์ ทำคุณประโยชน์ให้กับวงการไวน์ และระบบเศรษฐกิจของประเทศอิสราเอลมากมาย จนรัฐบาลนำรูปของท่านไปพิมพ์ลงในธนบัตร 500 เชคเคล (Shekel) ของอิสราเอล
พันธุ์องุ่นในอิสราเอลล้วนเป็นสายพันธุ์คลาสสิกจากยุโรปทั้งสิ้น โดยกาแบร์กเนต์ โซวีญยอง (Cabernet Sauvignon) นิยมปลูกมากที่สุด และทำไวน์ได้คุณภาพดี
ตามด้วยแมร์กโลต์ (Merlot), โซวีญยอง บลัง (Sauvignon Blanc) และชาร์โดเนย์ (Chardonnay)
นอกนั้นก็มีปิโนต์ นัวร์ (Pinot Noir) กาแบร์กเนต์ ฟรอง (Cabernet Franc) โยฮันนิสเบิร์ก รีสลิ่ง (Johannisberg Riesling) เกวืร์ซทรามิเนอร์ (Gewürztraminer) และมุสคัต คาเนลลี (Muscat Canelli) นอกนั้นก็มีพัน์อื่น ๆ อีกมากมาย
แหล่งปลูกองุ่นดั้งเดิมของอิสราเอลอยู่ในเขตชารอน แอนด์ ชิมชอน (Sharon & Shimshon) แต่ไวน์คุณภาพดีเยี่ยมมาจากอัปเปอร์ กาลิลี (Upper Galilee), ที่ราบสูงโกลัน (Golan Heights), ฌูดีน ฮิลล์ แอนด์ รามัต อารัด (Judean Hills & Ramat Arad) เนื่องจากบริเวณนี้ดินเป็นดินแดง เทอร์รา รอสซา (Terra Rossa) หินปูน, ดินเหนียวปนทราย และดินภูเขาไฟ มีพื้นที่ปลูกองุ่นรวม 4,000 เฮกตาร์ ทำให้อิสราเอลเป็นหนึ่งประเทศขนาดเล็กที่ผลิตไวน์ได้ยอดเยี่ยม
อย่างที่กล่าวในตอนแรก สมัยก่อนการผลิตไวน์อิสราเอลจะเน้นที่ปริมาณผลผลิต แต่ในช่วง 10-15 ปีที่ผ่านมา หันมาเน้นคุณภาพของไวน์กันมากขึ้น
อิสราเอลส่งออกไวน์ราวร้อยละ 20 ของจำนวนที่ผลิต ผู้นำเข้ารายใหญ่ได้แก่ สหรัฐฯ อังกฤษ และฝรั่งเศส ปัจจุบันอิสราเอลมีบริษัทผลิตไวน์ราว 300 แห่ง สร้างรายได้ปีละราว 9,100 ล้านบาท
ไวน์อเล็กซานเดอร์
ผู้ผลิตไวน์อิสราเอลกำลังพยายามเผยแพร่ให้โลกรู้ว่า ไวน์อิสราเอล มีคุณภาพสูง เช่น ไวน์อเล็กซานเดอร์ ของอิสราเอลซึ่งตั้งขึ้นในปี 2539 มีไวน์รุ่นแกรนด์ รีเซิร์ฟ (Grand Reserve) วางจำหน่ายตามภัตตาคาร โจเอล โรบูชง ในกรุงโตเกียว ในราคาขวดละประมาณ 6,300 บาท ซึ่งทางบริษัทเชื่อว่า เป็นผู้ผลิตไวน์อิสราเอลรายเดียวที่มีวางจำหน่ายในภัตตาคารระดับ 3 ดาวมิชลิน สตาร์
นั่นเป็นเรื่องราวคร่าว ๆ ของไวน์อิสราเอล ซึ่ง ณ วันนี้แม้จะทำไวน์ได้ยอดเยี่ยมเพียงใดก็ยังต้องทำงานหนักมาก ๆ ในการฟันฝ่าความมืดมิดของหลาย ๆ อย่างที่กำลังเกิดขึ้นให้ได้ !
ในเมืองไทยมีผู้นำเข้าไวน์อิสราเอลมากที่สุดคือ U&V Inter-Trade Co., Ltd. ลองสอบถามที่ โทร.0 2962 0788







