‘เชฟกบ-กิตติธัช’ แห่ง ‘ร้านอาณาเขต’ เสิร์ฟ อาหารไทย ‘ไม่ไทยไม่ทำ’

‘ร้านอาณาเขต’ เกิดจาก ‘เชฟกบ-กิตติธัช’ รักในการทำ ‘อาหารไทยร่วมสมัย’ เปิดบ้าน ซอยลาดพร้าว 48 แยก 16 เป็น ‘อาณาเขตบ้านเพื่อน’ Friends Table คอนเซ็ปต์ ‘ไม่ไทยไม่ทำ’
หมูหวานชวนชิม ประทับใจในคอนเซ็ปต์ของ ร้านอาณาเขต ที่อยู่ใน ซอยลาดพร้าว 48 เป็นร้านที่ เชฟกบ-กิตติธัช เนรมิตบ้านให้กลายเป็น ร้านอาหาร
เนื่องจากเขารักการทำอาหารเป็นชีวิตจิตใจ เรียนจบสถาปัตย์ จุฬาฯ แล้วมาท่องยุทธจักรสายอาหาร เพาะบ่มประสบการณ์มากมาย จนกลายมาเป็นร้าน Anakade โดยร่วมหุ้นกับเพื่อนซี้คณะสถาปัตย์ ทั้งหมด 4 หุ้นได้แก่
เชฟกบ-กิตติธัช เกียรติธนาวิทย์, ก่อ-เกียรติ วิทูรวิทย์ลักษณ์, เฮ้าส์-ชัยธวัช จิรัญญกุล และ โจ้ก-พสิษฐ์ สมภพสกุล โดยแบ่งความรับผิดชอบกันชัดเจน
‘เชฟกบ’ เล่าเส้นทางสายอาหารของเขาว่า “ก่อนเรียนจบผมก็เคยเปิดร้านอาหารที่ศาลาแดง เรียนจบสถาปัตย์ก็วิ่งเข้าครัวเลย เพราะชอบทางนี้ สถาปัตย์ปาร์ตี้ ผมก็อยู่หน้าเตาตลอด ทำงานด้านอาหารเก็บประสบการณ์มาเรื่อยๆ เกือบ 10 ปีแล้วครับ”
จากประสบการณ์ในการทำงานหลายแห่งทำให้ เชฟกบ-กิตติธัช มองเห็นเสน่ห์ของวัตถุดิบไทย
“ผมเคยไปทำงานกับ เชฟหนุ่ม-ธนินธร (จันทรวรรณ) ไปอยู่อีสานได้เดินป่า คุยกับชาวบ้านที่หาของป่า ซึ่งผมโตในกรุงเทพฯไม่เคยเห็นมาก่อน รู้สึกว่าเป็นเสน่ห์ของเมืองไทยเรา คนในประเทศบางทีก็ไม่รู้จัก
ผมอยากนำเสนอว่าจริงๆแล้วประเทศเรามีโปรดักส์ที่มีคุณค่านะ ไม่จำเป็นต้องอิมพอร์ตทุกอย่างเข้ามา เรามีเนื้อที่ อร่อยมากๆจากเกษตรกรไทยที่ตั้งใจทำ ข้าวเรามี ความอร่อย อยู่แล้ว เรามีผักที่แปลกๆ อร่อยกว่าผักของฝรั่งนะ นี่คือจุดเริ่มต้นที่อยากทำคอนเซ็ปต์นี้ครับ”
ไม่ไทยไม่ทำ คือแนวทางของเขา และถ้าใครต้องการมารับประทานอาหารที่ ร้านอาณาเขต ต้องจองมาก่อนล่วงหน้า เนื่องจากเชฟต้องการทราบจำนวนผู้มารับบริการ จะได้เตรียมวัตถุดิบสดใหม่จำนวนพอดี ไม่ต้องสต๊อกของ Zero Waste ช่วยโลกได้อีกด้วย
วันนี้ หมูหวานชวนชิม มาลองลิ้มชิมรสชาติ ความอร่อย ในช่วงฤดูปลายฝนต้นหนาว มื้อค่ำวันที่ 8 ตุลาคม 2568 เมนูอาหารที่ ร้านอาณาเขต ยังคงเป็น เมนูปลายฝน หน้านี้ 'ใบขี้เหล็ก' ที่กำลังแตกยอดอ่อน เชฟกบ-กิตติธัช ก็เลยนำมาทำเป็นเมนู แกงขี้เหล็กปลาดุกย่าง
“อาหาร ที่ อาณาเขต จะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล ก็จะมีฤดูหนาว ฤดูร้อน ฤดูฝน ปลายฝนต้นหนาว วางไว้ประมาณนี้ครับ แต่ไม่ได้กำหนดเดือน
อย่างที่ผ่านมาเรามีมังคุด พอมังคุดหมดเราก็เปลี่ยนเมนู อย่างฤดูนี้มี ขี้เหล็กใบอ่อน พอใบเริ่มแก่เราก็เปลี่ยนเมนู Anakade มีตัวชูโรงหลักๆ อย่างเช่น กุ้งชาวบ้าน เป็นเมนูซิกเนเจอร์ที่มีขายตลอดปี ปลาดุกย่าง เราจะเปลี่ยนเครื่องเคียงไปเรื่อยๆ
ก่อนหน้านี้เราทำ ปลาดุกย่างน้ำปลาหวาน วันนี้ได้ชิม ปลาดุกย่างแกงขี้เหล็ก ฤดูกาลหน้าเป็น ปลาดุกย่างแกงคั่วใบยี่หร่า ครับ”
ปลายฝนนี้ ได้อิ่มเอมกับหลายเมนูดังนี้ เริ่มจากเมนูเรียกน้ำย่อย หรือของทานเล่น อาทิ ข้าวเกรียบฟักทอง ข้าวตัง กรือโป๊ะ (ข้าวเกรียบปลาจากทางใต้) แทนขนมปังบนโต๊ะอาหารฝรั่ง
จิ้มกับ เห็ดก้อน (Thai Style Mushroom Pate)ที่เชฟนำเห็ด 3 อย่างก็คือเห็ดนางฟ้า เห็ดขอนขาว และเห็ดหอม นำมาผัดกับเนย สุราไทยกลั่น
บดปั้นก้อนคล้ายกับตับบดของฝรั่ง ท็อปปิ้งด้วย เห็ดขอนขาวผัดซีอิ๊ว ราดน้ำมันโหระพา (ทำเอง) มีหอมใหญ่ผัดจนเป็นสีเหลืองทองวางข้างๆ รับประทานคู่กับข้าวเกรียบ หรือข้าวตัง แสน อร่อย
อ้ออีกเมนูเรียกน้ำย่อย ที่ หมูหวานชวนชิม ชอบมากๆ ก็คือ ยำผลไม้ไก่กรอบ เชฟกบ จะเลือกผลไม้ตามฤดูกาลมาประมาณ 2-3 อย่าง ให้มีรสเปรี้ยวๆ หวานๆ คลุกเคล้ากับน้ำยำ ที่มีกะปิ หรือปลาร้าเล็กน้อย
วันนี้มีผลไม้อย่างชมพู่ เงาะ และส้มโอ โรยด้วย อกไก่กรอบ คริสปี้ ไม่ต้องง้อเบคอนกรอบ เป็นเมนูเพื่อนสุขภาพก็ยังได้
หอมแดงซอย ตะไคร้อ่อนซอย เวลารับประทานคลุกเคล้า หรือไม่คลุกเคล้าก็ได้ หม่ำแล้วรู้สึกสุขภาพดีสบายท้องสดชื่นๆ เพราะมีความเปรี้ยวนำเผ็ดนิดๆ พูดแล้วน้ำลายสอขึ้นมาเลย (ฮา)
จากนั้นขยับไปที่ อาหารจานหลักประจำฤดูกาลนี้ มี น้ำพริกกะปิปลาอินทรีดอง เสิร์ฟมากับผัก 3 อย่าง ทั้งผักสด ผักทอด ผักนึ่ง เชฟใช้กะปิจากระนอง นำมาย่างไฟจนหอมแล้วโขลกทำน้ำพริกกะปิ รสชาตินัวหอมเค็มกำลังดี
หากต้องการรสชาติจัดจ้าน ขอพริกขี้หนูเพิ่มได้ ผักแกล้มอย่าง ‘ดอกขจรทอด’ กรอบไม่อมน้ำมัน ฟักทอง-ดอกโสน ต้ม ผักสดเช่นมะเขือ แตงกวา และมี ‘ปลาอินทรีดองเปรี้ยวแล้วนำมาย่างจนสุก’ รับประทานกับน้ำพริกกะปิเข้ากั๊นเข้ากัน
แกงขี้เหล็กปลาดุกย่าง เชฟเลือกขี้เหล็กออร์แกนิค นำมาต้มกับกะทิ แกงออกมาแล้วหอม มัน ขมน้อยๆ รสชาติกลมกล่อม ท็อปปิ้งด้วย ปลาดุกที่ผ่านการเอจ แล้วนำมาย่างจนหอมกรุ่น ไม่มีกลิ่นคาว แลดูคล้ายปลาไหลย่างซีอิ๊วของญี่ปุ่น โรยด้วยดอกเกลือจากจังหวัดน่าน โอ๊ย อร่อย
หมูสับปลาเค็ม เป็นเมนูที่ห้ามพลาด ดัดแปลงจากสูตรต้นตำรับที่บ้านของ คุณชาลอต โทณวณิก (คุณแม่ของ ก่อ-เกียรติ หนึ่งในหุ้นส่วน) หมูสับปลาเค็มปั้นก้อนเล็กๆ พอดีคำ รับประทานกับน้ำพริกกะปิก็อร่อย
ไก่บ้านเฮาต้มมะดัน เป็นอีกเมนูที่โดนใจมากๆ น้ำซุปรสเปรี้ยวเค็มนัว เชฟนำไก่บ้านเฮาจาก จังหวัดขอนแก่น มาต้มจนเปื่อย มีใบมะขามอ่อนมาเพิ่มอรรถรส ซดแล้วคล่องคอชื่นใจ
อีกเมนูประจำร้าน ถือว่าเป็นซิกเนเจอร์ ยืนพื้นทุกฤดูกาล ก็คือ กุ้งชาวบ้าน ดัดแปลงมาจาก ชาววัง เป็นกุ้งแม่น้ำที่หาได้ตลอดปี นำมาย่างไฟจนสุกหอม
เสิร์ฟมากับซอสพิเศษของ อาณาเขต ที่มีความหอม มีรสออกเปรี้ยวๆ เผ็ดนิดๆ อร่อยกลมกล่อม จากนั้นจบสวยๆ ด้วยขนมหวานพิเศษประจำฤดูกาล นั่นก็คือ
น้อยหน่าราดดอกเกลือกะทิแข็ง เชฟนำน้อยหน่าสดมาคว้านเมล็ดออก เสิร์ฟกับกะทิแข็ง หอมหวานมันกำลังดี ตัดรสเค็มด้วยดอกเกลือจากจังหวัดน่าน
หมูหวานชวนชิม ขอรับ ‘ร้านอาณาเขต’ เป็นหนึ่งในดวงใจ และอยากสนับสนุนให้ฝันนี้ไปถึงระดับ ‘มิชลินไกด์’ เพราะเห็นถึงความตั้งใจ ใส่ใจ รักษ์ในอาชีพ รักประเทศไทย และรักษ์โลกใบนี้ แถมยังอร่อยถูกใจอีกด้วย
‘อาณาเขต’ ของเพื่อน Friends Table แห่งนี้ ยังหมายถึง อาณาเขตประเทศไทย ไม่ไทยไม่ทำ ครอบคลุมไปถึงเครื่องดื่มต่างๆภายในร้าน มีทั้งไวน์ไทย เบียร์ไทย สาโทไทย ฯลฯ ที่มี ความอร่อย ไม่แพ้ชาติใดในโลก
เหมาะเป็น ซอฟต์พาวเวอร์ ของ ประเทศไทย ที่ควรค่าแก่การสนับสนุน
ฤดูกาลหน้า เริ่ม เมนูฤดูหนาว วันที่ 5 พฤศจิกายน 2568 วัตถุดิบหลักเป็นอาหารทะเล และ เป็ดจากเขาใหญ่ เมนูเด็ดอาทิ ลาบอกเป็ดย่าง, ยำผลไม้ฤดูหนาว, ต้มโคล้งปลาหมึก และ ไก่นึ่งใบบัว เป็นต้น
ที่ตั้ง : ร้านอาณาเขต อยู่ในซอยลาดพร้าว 48 แยก 16 โทร. 064 939 4226







