'กุ้งทัสคาน' เคล็ดลับความอร่อย ของ รศ.ดร.ศิริยุพา รุ่งเริงสุข

‘กุ้งทัสคาน’ สูตร รศ.ดร.ศิริยุพา รุ่งเริงสุข ที่ปรึกษาบริหาร สำนักประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล อร่อย ดีต่อกาย และใจ
จริงอย่างที่หลายคนบอกว่า การที่คนเราจะมี สุขภาพดี อายุยืนยาว อันดับแรกต้องอย่าให้ความเครียดเข้ามาในชีวิตน หากเข้ามาก็อย่าให้อยู่กับเรานานเกินไป
ความสุข นั้นสำคัญ มนุษย์ทุกคนเกิดมาเพื่อมีชีวิตที่มีความสุข และมีความหวัง อย่างเช่น เธอคนนี้ ดร.เจี๊ยบ หรือ รศ.ดร.ศิริยุพา รุ่งเริงสุข
ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษาบริหาร สำนักประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ก่อนที่จะมาเผยเคล็ดลับสูตรแห่ง ความอร่อย กุ้งทัสคาน ก่อนอื่น หมูหวานชวนชิม ขอคุยถึงประเด็นความสุขของชีวิต
ปัจจุบัน ดร.เจี๊ยบ อายุ 64 ปี แต่ยังดูอ่อนวัยเธอมีเคล็ดลับดูแลสุขภาพตัวเองด้วยการเป็นที่มี ความสุข และเป็นคนที่เดินสายกลาง อาทิ ไม่อดอาหาร แต่ก็ไม่ทานเยอะเกินไป รับประทานอาหารทุกอย่าง ชอบทานอาหาร อร่อย
“ตอนอายุ 22 น้ำหนักสูงสุดคือ 45 กิโล น้ำหนักจะอยู่ประมาณ 43-45 มาตลอดไม่เคยเปลี่ยนเลยจนวันนี้ ไม่ได้เป็นคนที่มุ่งออกกำลังกายขนาดนั้น แต่เราเป็นคนแอคทีฟ เป็นคนทำอะไรเอง อย่างเช่นดูแลต้นไม้ ดูแลสวน ทำงานบ้านเอง ทำให้ร่างกายเผาผลาญดี แล้วก็ว่ายน้ำบ้าง
เดือนหนึ่งซัก 4-5 หน มีเวลาอาทิตย์ละ 3 หน ครั้งหนึ่งว่ายน้ำประมาณ 45 นาที ว่ายช้าๆได้ประมาณซัก 500 เมตร เราต้องดูแลตัวเองเพราะเป็นคนชอบทานของอร่อย ชอบดื่ม
บังเอิญเราไม่ค่อยชอบทานหมูสามชั้น นานๆทีทานหมูกรอบ แต่ก็จะทานพวกเนย นม ตับบด ขนมปัง เพราะบางทีไขมันก็มีประโยชน์ แม้แต่สมองของคนเราก็ยังมีส่วนของไขมัน
เป็นคนที่ชอบทานผัก ถั่วแดง ลูกเดือย ข้าวบาร์เล่ย์ ที่เขาต้มนึ่งมาแล้ว ร้านเจ๊วรรณ สวนหลวง จุฬาฯ เขาทำขายเราก็ไปซื้อไม่ต้องต้มเอง”
ดร.เจี๊ยบ กล่าวว่า การรับประทานอาหารต้องบาลานซ์ให้ดี เช่น อีก 3 วันจะไปงานฉลองต้องเกินเค้ก ก็จะต้องเตรียมร่างกายให้พร้อมด้วยการ
รับประทาน อาหารดีที่ต่อสุขภาพ ก่อนหน้านั้นซัก 3 วันอาทิ สั่ง ซีเรียลโบลว์ มาทาน หิวมากก็ทานเบิ้ลไปเลย เป็นต้น เวลารับประทานเกาเหลาเย็นตาโฟ จะไม่ซดน้ำซุป เพราะมีแต่รสเค็มและหวาน
เวลาทาน กล้วยบวชชี จะเว้นน้ำกะทิ ทานเฉพาะกล้วย นานๆ ปล่อยตัวทานน้ำกะทิบ้าง การพักผ่อนก็สำคัญ ต้องหาตัวเองให้เจอว่าร่างกายเราต้องนอนกี่ชั่วโมงจึงจะพอ เพราะร่างกายแต่ละคนไม่เหมือนกัน
“ความสุข ของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน แต่สำหรับชีวิตเราไม่ต้องการอะไรมาก ขอให้ร่างกายแข็งแรงไม่เจ็บไม่ป่วย ยังมีงานทำ มีเพื่อนกินข้าวอร่อยๆ ได้ไปเที่ยว เราไม่ต้องรวยล้นฟ้าหรอก มีความสุขกับสิ่งที่เรามี
วันนี้อยากกินผัดกะเพราก็เดินไปเด็ดหลังบ้าน มาทำสูตรเราเอง ดอกไม้ในสวนเริ่มบ้านก็ออกไปถ่ายรูปดอกไม้ลงเฟสบุ๊ค ซื้อดอกไม้มาจัดลงแจกันเอง อ่านหนังสือ เล่นกับแมว มีเพื่อนมาที่บ้านเราก็ทำอาหารให้เพื่อนกิน เพราะเราชอบจัดโต๊ะอาหารสวยๆ เราชอบทำอาหาร”
ครั้งนี้ ประทับใจอาหารจานนี้เนื่องจากเป็นคนที่ชอบ ผักโขม ช่วงไปเที่ยวทัสคานี (Tuscany)ได้ทานอาหารหลายอย่าง รวมทั้งไก่ทัสคาน กลับมาลองดัดแปลงโดยใช้กุ้ง แทนปรากฏว่า ถูกใจมากกว่าไก่ จึงชวน หมูหวานชวนชิม มาพิสูจน์ ความอร่อย
“เราเดินทางเยอะกินอาหารมาหลายชาติ คิดว่าเราน่าจะพอรับรู้รสบ้างถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้เรียนมาทางนี้ เพื่อนเป็นเชฟก็พาไปกินมิชลิน 2 ดาว 3 ดาว
จนในที่สุดเราก็คิดว่าบางทีอาหารที่ชาวบ้านทำอร่อยกว่า (หัวเราะ) ความสุข ของเราอันดับแรกต้องมาจากร่างกายที่แข็งแรง จิตใจก็สำคัญ นอกนั้นเป็นสิ่งภายนอกทั้งหมด
มีเพื่อนไม่ต้องเยอะ แต่มีคุณภาพ มีงานที่ดีเป็นประโยชน์ ต่อสังคม รู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่า ช่วยเหลือตัวเองได้ ช่วยเหลือผู้อื่นได้ หลักประกันชีวิตไม่ต้องมีมาก
ไม่ต้องโลภเก็บไว้เผื่อหลาน เหลน โหลน ดูแลสมบัติได้ถึงลูกก็โอเคแล้ว มีความสุขที่ไม่ต้องเบียดเบียนโลกมากเกินไป ไม่ต้องวัตถุนิยมมากเกินไป นี่เราคิดในฐานะของคนชั้นกลาง ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศนะ”
เธอมีความคิดว่าอายุเกิน 60 ไม่ต้องการทำงานหนัก แต่ก็ไม่ต้องการหยุดทำงาน คิดว่ายังมีสมองและความคิดที่น่าจะมีประโยชน์ และยังมีแรงที่จะทำ
“อยู่ในแวดวงวิชาการมาจนถึงอายุ 58 มาอยู่บำรุงราษฎร์ขึ้นปีที่ 7 เปลี่ยนจากวง Management School มาอยู่ Health Care เราก็ต้องมาทำความรู้จักกับคนในอาชีพหมอ มาเป็นโค้ชให้กับคุณหมอ โค้ชผู้บริหาร ซึ่งสนุกดีนะ
เพราะว่าหมอเขาก็เป็นปัญญาชนของประเทศ คนที่จบด๊อกเตอร์แต่ละคนเขาก็คิดว่าตัวเองไม่ธรรมดาทั้งนั้น เราเองก็เคยนึกว่าเราไม่ธรรมดา คิดว่าเราเรียนมาเยอะ รู้เยอะ ไม่ธรรมดาเหมือนกัน (หัวเราะ)
หมอเขาก็คิดว่าเขารู้เยอะ ดังนั้นเขาเลยให้เรามาโค้ชให้หมอเพราะว่าเราต้องเข้าใจคนที่ประมาณนี้ พูดกันด้วยความจริงใจและด้วยประสบการณ์เรา
แลกเปลี่ยนมุมมองกับเขาได้ เพราะคนที่เราโค้ชเขากำลังจะเปลี่ยนจากคุณหมอ มาเป็นคุณหมอผู้บริหาร เราก็ต้องสร้างแรงบันดาลใจให้กับหมอนักบริหาร ”
ยกตัวอย่างเช่น คุณหมอนักบริหารต้องเปิดใจ และเข้าใจ ยอมรับ คนรุ่นใหม่ เพราะคนสมัยนี้ไม่ง้องาน หากจู้จี้กับเด็กมาก คิดว่าเขาต้องฟังคำสั่งเราอย่างเดียว เขาก็อาจจะทำงานไม่มีความสุขแล้วลาออกไปเปิดร้านยาเอง ผู้บริหารต้องปรับตัวปรับใจอย่างไรต้องมาพูดคุยกัน
สำหรับวันนี้ ดร.เจี๊ยบ มาเผยสูตรอาหารที่รับประทานแล้วอร่อย สุขภาพดี เพราะมีผักโขม มีมะเขือเทศ ส่วนประกอบของอาหารเป็นสิ่งที่ร่างกายต้องการ และดีต่อใจ หมูหวานชิมแล้วพบว่า กุ้งทัสคาน ฝีมือ ดร.เจี๊ยบ ไม่ธรรมดาจนต้องเก็บใส่กล่องมาอร่อยต่อที่กลับบ้าน (ฮา)
เครื่องปรุง
กุ้งปอกเปลือก ชักไส้กลางหลังออก 500 กรัม/ ½ กก. (ถ้าอยากให้กุ้งกรอบเด้ง เมื่อล้างกุ้งเสร็จให้เทน้ำโซดาลงให้ท่วมตัวกุ้ง แช่ในตู้เย็นสัก 30 – 40 นาที นำกุ้งออกมา เทน้ำโซดาทิ้ง ซับกุ้งให้แห้ง แล้วหมักเกลือพริกไทยตามสูตร)
น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ 2 – 2 ½ ช้อนโต๊ะ
มะเขือเทศตากแดดแห้งในน้ำมันมะกอก (Sun-dried tomato in olive oil) บีบน้ำมันออกให้แห้ง แล้วซอยเป็นชิ้นแนวยาวบางๆ ½ - 2/3 ถ้วย (อาจใช้น้ำมันมะกอกจากมะเขือเทศตากแห้งผัดกุ้งแทนน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ได้ เพราะจะหอมกว่า)
กระเทียมสับละเอียด 4 - 6 กลีบ
ซุปไก่รสจืด ½ ถ้วย (จะใช้ซุปไก่ก้อนแทนได้ ใช้ ½ ก้อน ละลายน้ำอุ่น ¼ ถ้วย
ครีม (cooking cream – หาซื้อได้ตามซุปเปอร์มาร์เก็ต) ¼ ถ้วย
แป้งข้าวโพด 1 ½ ช้อนชา ละลายน้ำ 1/5 ถ้วย
พาร์เมซานชีส 2 – 3 ช้อนโต๊ะ
ผักโขมเด็ดเอาใบ ตัดก้านแข็งๆออก 150 กรัม
ใบโหระพาสับหยาบ 1 – 2 ช้อนโต๊ะ
พริกป่นหยาบ (chili flakes) ½ ช้อนชา
เกลือ และพริกไทย เล็กน้อยเพียงหยิบมือเพื่อหมักกุ้ง
รายการต่อไปนี้ที่มีเครื่องหมาย * แนะนำให้ใส่เพิ่มเติมสำหรับท่านที่ชอบเครื่องเทศ ความหอมและความแซ่บนิดๆ
* เนยจืด 1 ช้อนโต๊ะ
* ผงเครื่องเทศอิตาเลียน (Italian Seasoning หาซื้อได้ตามซุปเปอร์มาร์เก็ต) ½ ช้อนโต๊ะ
* ไวน์ขาว (ชนิด dry คือรสไม่หวาน) ½ ถ้วย
* ผิวเลมอนขูดสับหยาบ ½ ช้อนชา
* น้ำเลมอน 1 - 2 ช้อนชา ถ้าชอบความเปรี้ยวเล็กน้อยเพื่อตัดเลี่ยน
1. นำกุ้งที่ทำความสะอาดแล้ว ซับน้ำให้แห้ง โรยเกลือพริกไทยพักไว้ประมาณ 5 – 7 นาที
2. ตั้งกระทะไฟกลางค่อนไปทางสูง พอเริ่มร้อนใส่เนยลงไปละลาย พอเนยหอม ใส่น้ำมันมะกอกหรือน้ำมันมะกอกจากมะเขือเทศตากแห้ง ลงไปประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ
3. พอน้ำมันเริ่มร้อนมีควันอ่อนๆ ใส่กุ้งลงไปให้ตัวกุ้งนาบกระทะข้างละประมาณ 1 นาที พอให้เปลี่ยนสีเป็นสีส้มชมพู พลิกกลับด้านทิ้งไว้อีก 1 นาที ระวังอย่าให้ข้างในตัวกุ้งสุก ตักกุ้งใส่จานพักไว้ กุ้งจะได้เนื้อไม่แห้ง
4. ใช้กระทะใบเดิม ใส่น้ำมันมะกอกที่เหลือลงไป พอน้ำมันเริ่มร้อน ใส่กระเทียมลงคั่วไวๆให้เป็นสีน้ำตาลอ่อนๆ ไม่ให้เกรียม ใส่มะเขือเทศแห้ง ผงเครื่องเทศอิตาเลียน และพริกป่น ผัดไม่นานพอให้ส่งกลิ่นหอม
5. เทไวน์ขาวลงไป เคี่ยวให้อัลกอฮอล์ระเหยสัก 2 นาที เติมน้ำซุปไก่ลงไป เคี่ยวอีกประมาณ 3 นาที
6. ลดไฟเหลือไฟกลาง ใส่ครีมและพาร์เมซานชีสลงไป คนเบาๆพอซอสเริ่มร้อนเห็นควันขึ้น ใส่แป้งลงไป คนเบาๆ แล้วใส่ผักโขม คนเบาๆ
7. พอผักโขมนิ่ม ใส่ผิวเลมอนและน้ำเลมอนลงไป ชิมรส ซึ่งน่าจะมีความเค็มอยู่บ้างแล้ว เติมเกลือตามรสที่ชอบ แล้วใส่กุ้งลงไป เคล้ากุ้งกับซอสเบาๆจนสังเกตเห็นเนื้อในตัวกุ้งสุก ดับไฟ เสิร์ฟลงจานได้







