ชาโต มาร์โกซ์ ไวน์ตำบลที่ยิ่งใหญ่ระดับโลก

ชาโต มาร์โกซ์ ไวน์ตำบลที่ยิ่งใหญ่ระดับโลก

ชาโต มาร์โกซ์ ไวน์ระดับโลกที่เคยสร้างสถิติเป็นหนึ่งในไวน์แดงที่แพงที่สุดในโลก จากรุ่นปี 2009 ขนาด 12 ลิตร คิดเป็นเงินไทยประมาณขวดละ 6 ล้านบาท

KEY

POINTS

  • ชาโต มาร์โกซ์ เป็นไวน์ระดับโลกที่เคยสร้างสถิติเป็นหนึ่งในไวน์แดงที่แพงที่สุดในโลก จากรุ่นปี 2009 ขนาด 12 ลิตร คิดเป็นเงินไทยประมาณขวดละ 6 ล้านบาท
  • เป็น 1 ใน 5 ไวน์กรองด์ ครู ชั้น 1 (5 เสือ) ตามบัญชีเมด็อก 1855 และเป็นชาโตเดียวที่ใช้ชื่อตำบล "มาร์โกซ์" เป็นชื่อไวน์
  • มีประวัติศาสตร์ยาวนานและมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับในระดับสากล โดยมีการผลิตรุ่นพิเศษเพื่อเป็นที่ระลึกในโอกาสสำคัญ

“World’s most expensive bottle of red wine, a 12-litre Chateau Margaux, goes on sale for £122,000”

“Le Clos Unveils World's Most Expensive Bottle of Wine in Dubai”

ส่วนหนึ่งของข่าวใหญ่ที่สื่อต่างประเทศหลาย ๆ สำนักตีพิมพ์เมื่อประมาณ 5-6 ปีมาแล้วหลังจาก ชาโต มาร์โกซ์ 2009 (Chateau Margaux 2009) ขนาด 12 ลิตร ที่เรียกว่า บัลธาซาร์ (Balthazar) 3 ขวด ถูกร้าน Le Clos ในสนามบินดูไบ (Dubai International Airport Terminal 3) ตั้งราคาไว้ที่ขวดละ 195,000 เหรียญสหรัฐ หรือ 122,000 ปอนด์สเตอร์ริง

คิดเป็นเงินไทยประมาณ 6 ล้านบาท เป็นที่ฮือฮาในวงการไวน์และผู้ที่ได้พบเห็น

ชาโต มาร์โกซ์ ไวน์ตำบลที่ยิ่งใหญ่ระดับโลก ชาโต มาร์โกซ์ 2009

โดย 3 ขวดที่นำมาขายที่ดูไบดังกล่าว บรรจุในกล่องไม้โอ๊คและขาตั้งเหล็ก ที่ดัดแปลงมาจากรูปแบบถังบ่มไวน์ของ “ชาโต มาร์โกซ์” สลักตัวอักษรและเขียนลายด้วยทองคำที่ขวดจากฝีมือของช่างฝีมือระดับพระกาฬ

นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของ “ชาโต มาร์โกซ์” ที่ผลิตไวน์บรรจุขวดขนาด 12 ลิตร และเป็นรุ่นจำกัด (limited edition) ผลิตเพียง 6 ขวดเท่านั้น

วันที่ 13-21 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา ผมเดินทางไปชิมไวน์ที่บอร์กโดซ์หลายชาโต หนึ่งในนั้นคือ ชาโต มาร์โกซ์ ต้องต่อเครื่องที่ดูไบ นึกขึ้นได้ถึงเรื่องนี้ จึงแวะลองถามเจ้าหน้าที่ร้าน Le Clos ได้ความคร่าว ๆ ว่าคนที่ซื้อไปนั้น ได้นั่งเครื่องบินชั้นเฟิร์สคลาสไปเยือนชาโต มาร์โกซ์ พร้อมดินเนอร์มื้อพิเศษ !!

ผมไปเยี่ยมเยือนชาโต มาร์โกซ์ ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 7 และอยากไปอีกไม่รู้เบื่อ และคนที่คุ้นเคยกันดีคือ ปอล ปงตาลลิเยร์ (Paul Pontallier) MD อมตะนิรันดร์กาลของ ชาโต มาร์โกซ์ ซึ่งเจอกันครั้งสุดท้ายในงาน Vinexpo Hong Kong 2014 แต่เขาเสียชีวิตเมื่อต้นปี 2016 ในวัย 59 ปี ด้วยโรคมะเร็ง 

ชาโต มาร์โกซ์จึงทำรุ่นพิเศษวินเทจ 2015 ขวดสีดำเป็น Limited Edition เพื่อไว้อาลัยต่อการจากไปของ MD ผู้ทำหน้าที่มากว่า 2 ทศวรรษ 

ส่วน MD คนปัจจุบันชื่อ โอเฮรเลียง วาลองซ์ (Aurelien Valance) ผมเจอเขาที่เมืองไทย 4-5 ที่แล้ว

ชาโต มาร์โกซ์ ไวน์ตำบลที่ยิ่งใหญ่ระดับโลก ป้ายตำบลมาร์โกซ์

ชาโต มาร์โกซ์ (Chateau Margaux) เป็น 1 ใน 5 เสือของไวน์ชั้น 1 บัญชีเมด็อก1855 (Medoc Classification 1855) เป็นไวน์ที่สร้างชื่อให้กับตำบลมาร์โกซ์ ที่สำคัญเป็นชาโตเดียวเท่านั้นใน 5 เสือที่ใช้ชื่อตำบลเป็นชื่อไวน์ นอกนั้นใช้ชื่อตระกูลหรือไม่ก็ชื่ออย่างอื่น

มาร์โกซ์ เป็นหนึ่งในตำบลหรือคอมมูนของอำเภอเมด็อก (Médoc) เมืองบอร์กโดซ์ (Bordeaux) อยู่ฝั่งซ้ายของแม่น้ำฌีฮรองด์ (Gironde) และอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของตัวเมืองบอร์กโดซ์ 

สาเหตุที่ตำบลมาร์โกซ์ที่ทำไวน์ได้ยอดเยี่ยมเนื่องจากมีดินกรวดชนิดพิเศษ ที่ถูกสายน้ำพัดพามาจากภูเขา เมื่อประกอบกับดินฟ้า อากาศ และปัจจัยอื่น ๆ เป็น แตร์ฮรัวร์ (Terroir) ที่ล้ำค่าในการทำไวน์

นอกจาก ชาโต มาร์โกซ์ อยู่ในกรองด์ ครู ชั้น 1 ตามบัญชีเมด็อก 1855 แล้ว ไวน์จากตำบลมาร์โกซ์ยังกระจายอยู่ในชั้นต่าง ๆ ในบัญชีดังกล่าวรวมแล้ว 21 ชาโต จากทั้งหมด 61 ชาโต

ชาโต มาร์โกซ์ ไวน์ตำบลที่ยิ่งใหญ่ระดับโลก ความสง่างามของชาโต มาร์โกซ์

ชาโต มาร์โกซ์ เดิมชื่อ ลามอธ เดอ มาร์โกซ์ (La Mothe de Margaux) กำเนิดของชาโตไม่มีระบุไว้แน่นอน ส่วนใหญ่ระบุว่าอยู่ในช่วงศตวรรษที่ 12 – 14 ณ มหาปราสาทลามอธ (Lamothe or La Mothe) ต.มาร์โกซ์ โดยตระกูลดูร์ฟอรต์ (Durfort) ซึ่งเป็นเจ้าของชาโต ดูร์ฟรอต์-วีวองส์ (Chateau Durfort-Vivens) ไวน์กรองด์ ครูส์ ชั้น 2 ด้วยการยุบจากไวน์ 2 ตัวที่รู้จักกันดีในช่วงศตวรรษที่ 15 คือมาร์กู (Margou) และมาร์กูส (Margous) เป็น Chateau Margaux ในปี 1750

หลังจากนั้น ชาโต มาร์โกซ์ ก็กลายเป็นสมบัติผลัดกันชมของมหาเศรษฐีหลายตระกูล แต่ที่ต้องบันทึกไว้คือปี 1836 ตระกูลดูร์ฟอรต์ ขายกิจการให้ วีกอง เด อาโกโด ตระกูลขุนนางผู้ดี ซึ่งได้สร้างตึกมาร์โกซ์ใหม่ที่เห็นในปัจจุบัน โดยฝีมือของ วิกตอร์ ลูอิส สถาปนิกชื่อดังแห่งยุค

ลักษณะเป็นศิลปกรรมยุคบาบิโลนอันงดงาม ซึ่งว่ากันว่างดงามที่สุดในอำเภอเมด็อก ประดับด้วยต้นไม้ล้ำค่าจากมองโกเลีย และทะเลสาบ มีการบูรณะใหม่แล้วเสร็จในปี 1812

ชาโต มาร์โกซ์ ไวน์ตำบลที่ยิ่งใหญ่ระดับโลก

อังเดรและคอฮรีนน์ เมนต์เซโลปูลอส สองพ่อลูกแห่งตำนาน

ปี 1976 อังเดร เมนต์เซโลปูลอส (Andre Mentzelopoulos) ผู้บริหารไฟแนนซ์กรุ๊ป Felix Potin สายเลือดกรีซ เข้าครอบครองด้วยเงิน 72 ล้านฟรังก์ หรือ 16 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยมีครอบครัว Agnelli ถือหุ้นด้วย

ที่สำคัญคือได้ อีมิล เปย์โนด์ (Émile Peynaud) สุดยอดนักปรุงไวน์ของโลกมาเป็นที่ปรึกษา มีส่วนอย่างมากทำให้ Chateau Margaux ไร้เทียมทาน 

เมื่อ Andre เสียชีวิตในปี 1980 หน้าที่หลักจึงตกอยู่กับลูกสาว คอรีนน์ เมนต์เซโลปูลอส (Corinne Mentzelopoulos) และซื้อหุ้นใหญ่อย่างเต็มตัวในปี 2003

ชาโต มาร์โกซ์ ไวน์ตำบลที่ยิ่งใหญ่ระดับโลก

อเล็กซิส เลอเวง เมนต์เซโลปูลอส

เดือนตุลาคม 2023 คอฮรีนน์ เมนต์เซโลปูลอส ประกาศวางมือจาก CEO ของ ชาโต มาร์โกซ์ หลังจากทำหน้าที่มาถึง 43 ปี

ผู้รับหน้าที่แทนคือ อเล็กซิส เลอเวง เมนต์เซโลปูลอส (Alexis Leven-Mentzelopoulos) ลูกชายของเธอซึ่งมาร่วมงานกับ ชาโต มาร์โกซ์ ในปี 2020 ในตำแหน่งผู้อำนายการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ

ชาโต มาร์โกซ์ ไวน์ตำบลที่ยิ่งใหญ่ระดับโลก

ส่วนหนึ่งของเซลลาร์บ่มไวน์

ชาโต มาร์โกซ์ เป็นไวน์ที่สร้างชื่อเสียงไว้มากมายตั้งแต่อดีต เช่น ในปี 1771 ได้ชื่อว่าเป็นไวน์แดงตัวแรกที่ถูกประมูลในสถาบันคริสตี้ส์ กรุงลอนดอน (Christie’s)

ขณะที่ ทอมัส เจฟเฟอร์สัน (Thomas Jefferson) อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ ซึ่งเคยมารับราชการในบอร์กโดซ์และมาเยี่ยม ชาโต มาร์โกซ์ ในปี 1787 เคยบอกว่า Chateau Margaux เป็น “four vineyards of first quality”

ขณะที่ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 รัฐบาลฝรั่งเศสต้องการขนมปังจำนวนมากจากสหรัฐฯ เพื่อเป็นอาหารพลเมืองฝรั่งเศสที่ขาดแคลน สหรัฐฯ ยื่นข้อเสนอว่า สิ่งที่จะแลกกับขนมปังต้องเป็นไวน์ “ชาโต มาร์โกซ์" เท่านั้น อย่างอื่นไม่ต้องการ

ชาโต มาร์โกซ์ ไวน์ตำบลที่ยิ่งใหญ่ระดับโลก

ทำถังโอ๊คเอง

ชาโต มาร์โกซ์ มีพื้นที่ปลูกองุ่น 262 เฮกตาร์ (1 เฮกตาร์ = 6 ไร่ 1 งาน) ปลูกกาแบร์กเนต์ โซวีญยอง (Cabernet Sauvignon) 75% แมร์กโลต์ (Merlot) 20% กาแบร์กเนต์ ฟรังซ์ (Cabernet Franc) และเปอติต์ แวร์กโดต์ (Petit Verdot) 2%

นอกจากนั้นอีก 12 เฮกตาร์ปลูกองุ่นเขียว โซวีญยอง บลอง (Sauvignon Blanc) เพื่อทำไวน์ขาวปาวิลลง บลอง ดู ชาโต มาร์โกซ์ (Pavillon Blanc du Chateau Margaux) : เป็นไวน์ขาวตัวเดียวในชายคาของชาโต มาร์โกซ์

อย่ากระนั้นเลย ไปชิมชาโต มาร์โกซ์ วินเทจที่ถือว่ายอดเยี่ยม เป็น Limited Edition ซึ่งตอนนี้เป็นที่ต้องการในท้องตลาด แน่นอนราคาพุ่งไปสูง นั่นคือวินเทจ 2015 !!

ชาโต มาร์โกซ์ ไวน์ตำบลที่ยิ่งใหญ่ระดับโลก

ชาโต มาร์โกซ์, มาร์โกซ์ 2015 (Château Margaux, Margaux 2015) : วินเทจนี้ขวดสีดำ ลายเส้นสีทอง เป็น Limited Edition ผลิตเพื่อเป็นอนุสรณ์แด่ “ปอล ปงตาลลิเยร์” ดังกล่าว และเป็นวินเทจสุดท้ายในชีวิตของเขา ที่ฉลากใกล้ก้นขวดมีคำว่า “Hommage à Paul Pontellier” แปลว่า “ด้วยความเคารพ ปอล ปงตาลลิเยร์”

ชาโต มาร์โกซ์ 2015 ทำจากกาแบร์กเนต์ โซวีญยอง (Cabernet Sauvignon) 87 % แมร์กโลต์ (Merlot) 8% กาแบร์กเนต์ ฟรอง (Cabernet Franc) 3% และเปอตีต์ แวร์กโดต์ (Petit Verdot) 2% บ่ม 20 เดือนในโอ๊คฝรั่งเศสใหม่ 100% บรรจุขวดเดือนสิงหาคม 2017

  • สีแดงโกเมนเข้ม สดใส
  • หอมกลิ่นผลไม้สุกปนแบมผลไม้หอมหวาน แบล็คเคอร์แรนท์ แบล็คเบอร์รี พลัม บลูเบอร์รี ราสพ์เบอร์รี มิเนอรัล ดอกลาเวนเดอร์ ช็อกโกแลตเค้ก กราไฟต์ สไปซีเฮิร์บ ยี่หร่า ไม้จันทน์ จูนิเปอร์ ใบชา ใบยาสูบ สโมคกี้โอ๊ค ซีดาร์ กล่องซิการ์
  • แอซสิดสดชื่น แทนนินแน่นและนุ่มเนียน
  • จบยาวด้วยผลไม้ โอ๊ค สไปซี่เฮิร์บ และมิเนอรัล
  • สามารถดื่มได้ในตอนนี้ แต่อีกประมาณ 7-8 ปีข้างหน้าจะพีคฉ่ำกว่านี้
  • เป็นไวน์ที่ต้องมีติดอยู่ในเซลลาร์ และปล่อยออกไปเมื่อได้ราคา
  • 20/20 คะแนน

ผู้เชี่ยวชาญบอกคุณสมบัติไวน์ตำบลมาร์โกซ์ไว้ว่า ...”Margaux that marry power with elegance, silky tannins, and sensuous textures. Flavors of ripe dark berries, truffle,  tobacco, cassis, and violets”

การจะพิสูจน์ความจริงนั้นทำได้สถานเดียวคือ ท่านต้องหาไวน์ ชาโต มาร์โกซ์ มาชิม !