ร้านอาหาร Dine in The Dark การเดินทางของรสชาติอาหารในความมืด

ร้านอาหาร Dine in The Dark การเดินทางของรสชาติอาหารในความมืด

ร้านอาหาร Dine in The Dark ในกรุงเทพฯ กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง สนุกกับการกิน-เดาเมนูที่ไร้ซึ่งการมองเห็นและถูกเก็บเป็นความลับ จุดประสงค์กินอาหารในความมืดคืออะไร

จินตนาการว่าคุณนั่งอยู่ในห้องมืดสนิท ไม่สามารถมองเห็นสิ่งรอบตัว แม้แต่มือของตัวเอง ยกขึ้นมาก็มองไม่เห็น หากมีการเสิร์ฟอาหารแบบไฟน์ไดนิ่งในห้องนี้ สิ่งที่คุณทำได้คือใช้มือคลำหาตำแหน่งจาน มีด ส้อม ช้อนซุป แก้วไวน์ แก้วน้ำดื่ม 

คุณต้องใช้ส้อมไล่แตะไปเรื่อยๆ เพื่อให้รู้ว่าในจานมีอาหารอยู่ตรงไหนบ้าง แต่ก็ยังเดาไม่ออกว่าอาหารนั้นคืออะไร จนกว่าจะได้ชิมอาหารนั้นในปาก

แต่กว่าจะส่งอาหารเข้าปากได้ก็ต้องใช้เวลา อย่างแรกคุณต้องจิ้มอะไรในจานให้ได้สักอย่างก่อน แล้วจึงใช้มีดตัดอาหาร กะระยะจากจานถึงปากตัวเอง

อ้อ! ต้องกะให้ถูกด้วยว่าตำแหน่งปากตัวเองอยู่ตรงไหนของใบหน้า ไม่เช่นนั้นคุณอาจจิ้มอาหารใส่จมูกหรือแก้มตัวเอง

ร้านอาหาร Dine in The Dark การเดินทางของรสชาติอาหารในความมืด

ประสบการณ์กินอาหารแบบนี้เรียกกันว่า Dine in the Dark (รับประทานอาหารในความมืด) หรือ DID (ดีไอดี) เกิดขึ้นครั้งแรกโดยร้านอาหารชื่อ Blindekuh (วัวตาบอด) ในเมืองซูริก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อปี 1999

แนวคิดเบื้องหลัง ‘ดีไอดี’ ก็เพื่อเพิ่มพูนประสาทสัมผัสทั้ง 4 ของเรา คือ รสชาติ กลิ่น สัมผัส และ การได้ยิน โดยตัดทอนหนึ่งในประสาทสัมผัสหลักของเรา คือ รูป หรือ ‘การมองเห็น’

ทุกเมนูมักถูกเก็บเป็นความลับ เพื่อให้ผู้รับประทานไม่รู้เลยว่าพวกเขากำลังจะได้รับประทานอะไรจนกว่าจะได้ลองชิมด้วยตัวเอง

ร้านอาหารดีไอดีได้รับความนิยมแพร่ขยายไปในหลายประเทศ อาทิ เยอรมนี ฝรั่งเศส อังกฤษ

สำหรับในประเทศไทย ร้านอาหารดีไอดีเริ่มมีขึ้นครั้งแรกในปี 2012 โดยหนุ่มชาวสวิส มร.จูเลียน (Julien Wallet-Houget) อดีตเจ้าหน้าที่องค์การสหประชาชาติในไทยและเคยทำงานกับองค์กรของ มีชัย วีระไวทยะ

ร้านอาหาร Dine in The Dark การเดินทางของรสชาติอาหารในความมืด สำรวจขอบจานเพื่อกะตำแหน่งอาหารน่าจะอยู่ตรงไหนภายในจาน นิ้วพลาดลงจานก็บ่อยเมื่อมองไม่เห็น

มร.จูเลียนกับหุ้นส่วนอีกสองคนเปิดร้านอาหารดีไอดีที่กรุงเทพฯ เพราะเห็นว่าคอนเซปต์มีความแปลกใหม่แตกต่างจากร้านอาหารอื่นๆ ในเวลานั้น และเหตุผลด้าน Social Enterprise (กิจการเพื่อสังคม)

คือเป็นโอกาสที่จะสนับสนุน ผู้พิการทางสายตาในไทย ให้ได้รับโอกาสมีรายได้ที่มากกว่าเงินเดือนในบริษัทเอกชนที่มักไม่ปรับเพิ่มให้ผู้พิการ และมีโอกาสใช้ความสามารถทำงานได้มากกว่าการขายลอตเตอรี่หรือขายสินค้าริมถนน

อย่างน้อยก็มีโอกาสทำงานในโรงแรมห้าดาว เพราะร้านอาหารดีไอดีในกรุงเทพฯ อยู่ใน โรงแรมเชอราตัน แกรนด์ สุขุมวิท, เอ ลักซ์ชัวรี่ คอลเล็คชั่น โฮเท็ล ซึ่งตั้งอยู่ย่านอโศก หนึ่งในย่านเศรษฐกิจของกรุงเทพฯ

ร้านอาหาร Dine in The Dark การเดินทางของรสชาติอาหารในความมืด พี่ไกด์ทำหน้าที่ทั้งเสิร์ฟและเก็บจานอาหารออกจากโต๊ะในความมืด

ประสบการณ์ดีไอดีของเราอยู่ในมือผู้พิการทางสายตาทั้งหมด นับตั้งแต่เป็นผู้นำเราเข้านั่งประจำโต๊ะในห้องมืด เสิร์ฟและเก็บอาหารทุกจานออกจากโต๊ะจนครบคอร์ส ซึ่งร้านอาหารเรียกเขาว่า “พี่ไกด์” พี่ไกด์ซึ่งทำหน้าที่ดูแลโต๊ะผมในวันนั้นชื่อ “พี่หมี”

อันดับแรก ร้านอาหารจะแจก ผ้ากันเปื้อน ให้เราผูก ป้องกันเสื้อผ้าเลอะเทอะจากอาหารที่เราอาจทำกระเด็นใส่ตัวเอง

ร้านอาหาร Dine in The Dark การเดินทางของรสชาติอาหารในความมืด ผูกผ้ากันเปื้อนก่อนเปิดประสบการณ์ DID

ร้านอาหาร Dine in The Dark การเดินทางของรสชาติอาหารในความมืด วิธีเดินเข้าห้องรับประทานอาหาร Dine in The Dark

จากนั้นเข้าแถวตอนเรียงหนึ่ง ใช้มือแตะบ่าเพื่อนร่วมโต๊ะ โดยมีพี่ไกด์เดินนำหน้าพาเข้าสู่ห้องรับประทานอาหารที่มืดสนิท มืดตึ๊ดตื๋อชนิดไม่จำเป็นต้องมีผ้าปิดตา เพราะไม่ว่าจะพยายามเบิกตาเท่าใดก็มองสิ่งต่างๆ รอบตัวไม่เห็น

ทุกอย่างดำมืดเหมือนโลกตรงหน้าหายวับไปกับตา กลายเป็นโลกสีดำใบใหม่ให้เราต้องพลิกตำราประสบการณ์ชีวิตที่มีว่าจะรับมืออย่างไรเมื่อมองอะไรไม่เห็น

ร้านอาหาร Dine in The Dark การเดินทางของรสชาติอาหารในความมืด พี่ไกด์ให้ทดลองรินน้ำใส่แก้วในความมืดด้วยตนเอง

กว่าจะรินน้ำใส่แก้วได้ คุณอาจทำผ้าปูโต๊ะเปียกไปครึ่งผืน คุณได้กินอาหารในจานครบทุกอย่างแน่หรือถ้าไม่เขี่ยส้อมไปโดนหรือพูดคุยแลกเปลี่ยนกับเพื่อนร่วมโต๊ะว่าอาหารในจานมีอะไรบ้าง ฯลฯ

แต่ “พี่ไกด์” กลับสามารถพาเราอิ่มอร่อยกับมื้ออาหารได้อย่างสมบูรณ์แบบทั้งที่ตัวเขาต้องเดินไปเดินมา เราเสียอีกแค่นั่งอยู่กับที่ยังต้องใช้ความพยายามอย่างหนักในความมืด

ร้านอาหาร Dine in The Dark การเดินทางของรสชาติอาหารในความมืด คอร์สของหวานปิดท้ายเซตเมนู DID จัดจานแบบไฟน์ไดนิ่งแม้เสิร์ฟในความมืด

เซตเมนูดีไอดี ประกอบด้วย อาหาร 4 คอร์ส ขอนำมาให้ชมเพียงจานเดียว เป็นภาพที่ช่างภาพถ่ายไว้ก่อนล่วงหน้า จานนี้คือของหวานปิดท้าย เป็นที่ถกเถียงกันสนุกสนานในโต๊ะ เรากินโมจิชาเขียวหรือชาไทย ซอร์เบต์ตะไคร้หรือมะหนาวเหลืองหรือมะกรูด เมื่อมองไม่เห็นเราไม่แน่ใจขนาดนี้เลยหรือ

จริงๆ แล้ว ของหวานจานนี้ประกอบด้วย โมจิชาไทย ทูเลมะพร้าวกรอบ เค้กช็อกโกแลต และชอร์เบต์ตะไคร้ ผมได้กินทูเล(ขนมแป้งกรอบฝรั่งเศส) 1 ชิ้น เพราะชิ้นแรกใช้ช้อนคลำแล้วตัดจึงกระเด็นออกจากจาน คลำหาไม่เจออีกเลย

ส่วนอาหารอีก 3 คอร์สที่เหลือ ลองไปเดากันดูนะครับ ทุกคอร์สรสชาติอร่อยมาก และสนุกกับการเดาทุกคอร์ส

ร้านอาหาร Dine in The Dark การเดินทางของรสชาติอาหารในความมืด มาดูรูปอาหารที่ถูกเก็บเป็นความลับหลังเสร็จสิ้นการสัมผัสประสบการณ์ DID

ปุณิกา ธนสรรค์นนท์ Executive Assistant Manager โรงแรมเชอราตัน แกรนด์ สุขุมวิท กล่าวว่า เซตเมนูดีไอดี มีให้เลือก 3 เซต คือ

  • เซตอาหารตะวันตก
  • เซตอาหารเอเชีย
  • เซตเซอร์ไพรส์

ทีมงานจะสอบถามข้อจำกัดด้านอาหารและความต้องการพิเศษล่วงหน้า เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยและความพึงพอใจสูงสุดของแขกทุกท่าน

ผู้สนใจเปิดประสบการณ์ดีไอดี กรุณาสำรองโต๊ะและแจ้งจำนวนล่วงหน้า หรืออย่างช้าก่อนเที่ยงในวันนั้น ห้องอาหารดีไอดีรับได้สูงสุด 40 ท่าน ทีมงานต้องจัดโต๊ะใหม่ทุกวันให้สอดคล้องกับจำนวนผู้ใช้บริการ และต้องให้ “พี่ไกด์” มีเวลาเดินสำรวจพื้นที่ก่อน จึงไม่สามารถรับวอล์คอิน

“นอกจากมาเปิดประสบการณ์รับประทานอาหารในที่มืด ยังมีลูกค้าขอมาจัดงานวันเกิด คลำเค้กกันสนุกสนาน ขอแต่งงานก็มี ใส่แหวนลงมาในของหวาน เฉลี่ยปีละ 2-3 คู่ มาทำทีมบิลดิ้ง คอร์ปอเรตดินเนอร์ เราทำให้ได้ค่ะ ไวน์แพริ่งพี่ไกด์ก็ทำให้ได้” ปุณิกา เล่าเพิ่มเติม

ร้านอาหาร Dine in The Dark การเดินทางของรสชาติอาหารในความมืด ร้านอาหาร Dine in The Dark ในกรุงเทพฯ

โรงแรมเชอราตัน แกรนด์ สุขุมวิท ยังร่วมสานต่อพลังแห่งการให้ โดยบริจาครายได้ส่วนหนึ่งจากมื้ออาหาร DID สนับสนุน สมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย สู่การสร้างสังคมที่เข้าใจและโอบรับความแตกต่าง

ไดน์ อิน เดอะ ดาร์ค เปิดให้บริการทุกวันพุธถึงวันเสาร์ เวลา 18.00 – 22.00 น. ราคา 1,990++ บาท/เซต สอบถามและสำรองโต๊ะโทร. 0 2649 8888

นอกจากความสนุก, DID ยังทำให้คุณแบ่งปันและเข้าใจเพื่อนมนุษย์มากขึ้น

  • ภาพ : สมัชชา อภัยสุวรรณ