รสชาติ ‘อาหารฤดูร้อน’ ที่ Gaggan at Louis Vuitton โดยเชฟ Gaggan

‘อาหารฤดูร้อน’ เซอร์ไพรส์เทสติ้งเมนู 11 คอร์ส ที่ Gaggan at Louis Vuitton เริ่มจากเมนูเรียกน้ำย่อย ค่อยๆหนักขึ้น ปิดท้ายด้วยของหวานแสนอร่อย
ถือว่าเป็นการเปิดประสบการณ์รสชาติใหม่ กับเมนูฤดูร้อนอันสดใส ที่ Gaggan at Louis Vuitton เลือก อร่อย ได้ทั้งเมนูอาหารกลางวัน 9 คอร์ส และอาหารเย็น 13 คอร์ส ทว่าวันนี้ หมูหวานชวนชิม มาลิ้มรส เซอร์ไพรส์เทสติ้งเมนู 11 คอร์ส ที่รังสรรค์ขึ้นอย่างวิจิตรบรรจง
ถือว่าครั้งนี้เป็นการเฉลิมฉลองวัตถุดิบที่สดใหม่ และเปี่ยมชีวิตชีวาแห่งฤดูกาลจากทั่วทุกมุมของประเทศไทย และในภูมิภาค สะท้อนถึงเอกลักษณ์อันโดดเด่นของ เชฟ Gaggan Anand ทั้งในด้านนวัตกรรม ศิลปะการทำอาหาร และการนำเสนอที่มีความพิถีพิถัน
ซึ่งได้พาให้ร้านอาหารแห่งนี้คว้าอันดับที่ 31 ในลิสต์ Asia's 50 Best Restaurants 2025 ที่ผ่านมา หมูหวานชวนชิม ยังได้ลิ้มรสเมนูหวาน ที่รังสรรค์โดย เชฟเดช คิ้วคชา ผู้ก่อตั้ง Kyo Roll En เขาเป็นเชฟไทยคนแรกผู้คว้าแชมป์โลกเชฟขนมหวานยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย
วันนี้เรามาเริ่มจากเมนูเรียกน้ำย่อย Yoghurt Explosion มีส่วนประกอบสำคัญก็คือ โยเกิร์ต ฝรั่งสีชมพู และ Black Salt วิธีรับประทานก็คือหยิบดอกไม้วางไว้บนมือ พนักงานจะนำโยเกิร์ตกลมๆสีขาววางไว้ตรงกลางของดอกไม้
ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของ น้องวิเวียน (วิเวียนถูกสร้างจากโมทีฟหลักจากลายโมโนแกรมของ แบรนด์ Louis Vuitton ส่วนหัวจะเป็นรูปดอกไม้สี่กลีบที่ประกบอยู่รอบใบหน้าทรงกลม) รับประทานภายใน 1 คำ เมื่อลงมือเคี้ยวจะรู้สึกได้ถึงคำว่า ‘โยเกิร์ตระเบิด’ รสชาติ อร่อย เรียกน้ำย่อยได้ดี สมกับเป็น อาหารฤดูร้อน
ถัดมาเป็นเมนูจานเด่นที่แสดงออกถึงสะท้อนถึงความซับซ้อนอันชาญฉลาดของเชฟ Gaggan Anand นั่นก็คือเมนู Lick It Up เป็นอีกเมนูอาหารเรียกน้ำย่อย ที่เปี่ยมด้วยความสนุกสนาน แต่แฝงไว้ซึ่งความหรูหรา รังสรรค์จากแรงบันดาลใจจากสับปะรดภูแลเชียงราย
จานที่สดใสนี้สร้างสมดุลระหว่างรสหวาน และเปรี้ยว พร้อมด้วยความเผ็ดเล็กน้อย มอบความซับซ้อนที่สดชื่น โดยพูเรสีสันสดใสถูกจัดแต่งอย่างประณีตให้คล้ายรูปสับปะรด พร้อมด้วยยอดสีเขียวที่ทำจากมะพร้าวและใบมิ้นต์
ตกแต่งด้วยโมโนแกรมอันเป็นเอกลักษณ์ของหลุยส์ วิตตอง เป็นความสนุกในมื้ออาหารที่เพื่อนร่วมโต๊ะรับประทานแบบเขินอายเล็กน้อย อร่อยจนต้องเลียจานเป็นแบบนี้นี่เอง
ในเมนู World Map จานที่หลอมรวมปรัชญาการผสานอาหารระดับโลกและประสบการณ์ของ เชฟ Gaggan เข้ากับเรื่องราว และจิตวิญญาณของการท่องเที่ยว (Spirit of Travel) อันยาวนานของ หลุยส์ วิตตอง ได้อย่างลงตัว การสร้างสรรค์เมนูขนาดพอดีคำทั้งสามนี้แสดงความเคารพต่อวัฒนธรรมอาหารที่หลากหลาย
ประกอบไปด้วย Lychee & Foie Gras Monaka ที่ประณีตชวนให้นึกถึงความอ่อนช้อยของญี่ปุ่น Ritz cracker สไตล์อังกฤษที่ถูกยกระดับด้วยชีสคาเมมเบิร์ต และกอร์กอนโซล่า พร้อมเพิ่มความสดใสด้วยเกรปฟรุต และ Miang Kam เมี่ยงคำของไทยที่ถูกนำเสนอในรูปแบบร่วมสมัย และยังคงความดั้งเดิมด้วยใบพลูและสมุนไพรนานาชนิด
ใน Bites of India เชฟ Gaggan แสดงความเคารพต่อรากเหง้าของเขาผ่านสามอาหารว่างเล็กๆ น้อยๆ ที่สร้างสรรค์ขึ้นใหม่ Ghewar ที่ถูกปรับปรุงใหม่ จับคู่มะเขือเทศญี่ปุ่น บูราต้าเนื้อครีมเข้มข้น และเพสโต้แมคาเดเมียที่กลมกล่อม ให้การเริ่มต้นที่โดดเด่นแต่ละเอียดอ่อน Kachori ดึงดูดใจด้วยพูเร่ถั่วลูกไก่ดำและจาฏทับทิม ราดด้วยฮัมมัสถั่วลูกไก่เนื้อนุ่มและปกคลุมด้วยชั้นทับทิมที่โปร่งแสง
สุดท้าย Charcoal มอบการปิดท้ายที่โดดเด่นด้วยแบล็คเปปเปอร์ฟรายซันโช้ค ที่รมควันให้หอมกรุ่น และเพิ่มความซับซ้อนของรสชาติด้วยอิมัลชั่นใบแกงหอม
อีกหนึ่งเมนูใหม่จานเด่น Newfoundland แสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญของเชฟ Gaggan ในด้านรสชาติและเทคนิค โดยมีหอยเชลล์นอร์เวย์ที่ลวกอย่างเบามือในมันเนื้อ ปรุงรสด้วยเลมอนดอง เคเปอร์ และลาร์โด
เสิร์ฟพร้อมกับครีมซัมเมอร์สควอชเนื้อนุ่ม แยมเคเปอร์-ลูกเกด และซาลัน ซึ่งเป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างความเข้มข้นและความสดใส
อีกหนึ่งจานซิกเนเจอร์ที่ไม่ควรพลาดอย่าง Musk Melon Consommé มอบความสดชื่นด้วยการจับคู่ที่ละเอียดอ่อนของ ชิโร เอะบิ และ อะมะ เอะบิดิบ ตกแต่งอย่างสวยงามด้วยผักชี ดอกดิลล์ และฟิงเกอร์ไลม์
มาถึงจานหลัก A Trip to Miyazaki นำเสนอเนื้อสันในวากิว A3 Miyazaki ที่ย่างอย่างเชี่ยวชาญเพื่อแสดงให้เห็นถึงลายหินอ่อนที่ละเอียดอ่อนของเนื้อ ที่เสิร์ฟคู่ซอสเบียร์และน้ำส้มสายชูเพิ่มความลึก
ในขณะที่พูเร่ถั่วลันเตาสีสดใสและยอดถั่วลันเตาที่อ่อนนุ่มให้ความสดชื่น เสิร์ฟพร้อมกับซอสไวน์แดงและน้ำมันต้นหอมที่เข้มข้น เวลูเต้ซาวร์ครีมและฮอร์สแรดิชที่นุ่มละมุน และเนื้อบีฟชีคเอโอลี่มัสตาร์ดอังกฤษที่โดดเด่น เสริมด้วยคัสตาร์ดถั่วลันเตาบาร์บีคิว หากใครไม่ทานเนื้อเปลี่ยนเป็นไก่แทนได้นะคะ
บทสุดท้ายของอาหารคาวคือ Rice & Curry เป็นการแสดงความเคารพถึง ข้าว วัตถุดิบหลักของคนไทย ทว่าวันนี้เชฟเสิร์ฟข้าวที่บ่งบอกถึงความเป็นอินเดีย นั่นก็คือ ข้าว Basmati ส่วนแกงนั้นมี เห็ดมอเรล หน่อไม้ฝรั่งขาว และคาเวียร์ เป็น ความอร่อย แบบมีระดับจริงๆ
ปิดท้ายด้วยความหวานฝีมือเชฟไทย นั่นก็คือ เชฟเดช คิ้วคชา นำเสนอความซับซ้อนในเมนู Saison เป็นการตีความใหม่ของข้าวเหนียวมูนลำไยแบบไทยดั้งเดิม ที่เสิร์ฟในรูปแบบพุดดิ้งข้าวเนื้อเนียนที่อบอวลด้วยลำไยแห้ง
รับประทานคู่กับไอศกรีมข้าวคั่ว และซอสมะนาวดำ และประดับด้วยทรัฟเฟิลดำ เพิ่มความหรูหราอลังการ จากนั้นเป็นเมนู Beneath the Monogram อีกเมนูขนมหวานที่เน้นผลไม้ เน้นผลไม้สีชมพู อาทิ สตรอว์เบอร์รี ฝรั่งสีชมพู และส้มโอสีชมพู ที่จัดวางอย่างมีศิลปะสุดประณีต
เรียกได้ว่า อาหารฤดูร้อน เซอร์ไพรส์เทสติ้งเมนู 11 คอร์ส ที่ Gaggan at Louis Vuitton สัมผัสประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยม ความอร่อย ครบครัน
น้องวิเวียนสวัสดี







