Mai Tai เครื่องดื่มที่ไม่ใช่ ‘ไหมไทย’

Mai Tai เครื่องดื่มที่ไม่ใช่ ‘ไหมไทย’

เปิดประวัติเครื่องดื่มค็อกเทลยอดนิยมของโลก Mai Tai ใครๆ ก็เรียก "ไหมไทย" แต่จริงๆ ไม่มีอะไรเกี่ยวกับประเทศไทย และชื่อเดิมก็ไม่ได้ออกเสียงว่า "ไหมไทย"

ในช่วงเดือนที่แล้วผมได้รับเชิญไปพูดเรื่อง “วัฒนธรรมการดื่มกิน” ให้กับนักศึกษาที่เรียนเกี่ยวกับการโรงแรมของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง และมีการพูดคุยถกเถียงกันถึงเครื่องดื่มที่เรียกว่า “Mai Tai” นักศึกษาจะให้ผมเล่าเรื่องให้ฟัง แต่เวลามีจำกัด ก็เลยบอกว่าเอางี้ก็แล้วกันจะเขียนให้อ่านทางคอลัมน์นี้....

จริง ๆ แล้ว Mai Tai ไม่ได้ออกเสียงว่า “ไหมไทย” และ ไม่ได้มี “ต้นกำเนิดจากประเทศไทย” ดังที่เข้าใจกันมาตลอด ปัจจุบันก็ยังมีคนคิดว่าเป็นอย่างนั้นอยู่ อาจจะด้วยสำเนียงที่สอดคล้องมาทางไทย...!!!

Mai Tai เครื่องดื่มที่ไม่ใช่ ‘ไหมไทย’

มร.วิกเตอร์ เจ. เบอร์เจอรอน

“Mai Tai” กำเนิดในสหรัฐอเมริกา ที่บาร์ฮิงกี้ ดริ้งส์ (Hinky Drink’s) ในโอ๊คแลนด์ (Oakland) ซานฟรานซิสโก (San Fransisco) สหรัฐอเมริกา เจ้าของคือ วิกเตอร์ เจ. เบอร์เจอรอน (Victor J. Bergeron / December 10,1902 – October 11,1984)

ปี 1934 วิกเตอร์ เจ. เบอร์เจอรอน เปิดบาร์ดังกล่าว ขายอาหารสไตล์โปลีนีเซียน (Polynesian Food) หรืออาหารสไตล์แปซิฟิก ริม (Pacific Rim) ซึ่งเป็นอาหารสไตล์ชาวเกาะหรือริมทะเล 

Mai Tai เครื่องดื่มที่ไม่ใช่ ‘ไหมไทย’ Mai Tai ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Trader Vic’s

ปี 1944 เขาได้คิดค็อกเทลแก้วหนึ่งให้กับเพื่อนที่มาจากเกาะตาฮิติ (Tahiti) ดื่ม หลังจากดื่มแล้วเพื่อนคนนั้นจึงร้องอุทานด้วยเสียงดังว่า...

“Mai tai-roa aé….”
..ไม ตาอิ โรอา เอ้...!

ซึ่งเป็นภาษตาฮิติ มีความหมายว่า “Out of this world – the best” หรือ...อร่อยหลุดโลก ...อร่อยเลิศประเสริฐศรี..ยอดเยี่ยม..!! อะไรประมาณนั้น

โดยสูตร Mai Tai ในวันดังกล่าวที่มีการบันทึกไว้ ประกอบด้วย

  • 2 ounces 15-year old J. Wray Nephew Jamaican rum
  • 1/2 ounce French Garnier Orgeat
  • 1/2 ounce Holland DeKuyper Orange Curacao
  • 1/4 ounce Rock Candy Syrup
  • Juice from one fresh lime
  • Hand shake and garnish with half of the lime shell and float a sprig of fresh mint at the edge of the glass

หลังจากนั้น วิกเตอร์ เจ. เบอร์เจอรอน จึงบรรจุชื่อค็อกเทลแก้วนั้นในเมนู พร้อมกับตั้งชื่อว่า ไม ตาอิ (Mai Tai) ก่อนจะบรรจุในเมนูร้าน เทรเดอร์ วิคส์ (Trader Vic’s) ของเขาที่มีสาขาอยู่ทั่วโลก

Mai Tai เครื่องดื่มที่ไม่ใช่ ‘ไหมไทย’

วิกเตอร์ เจ. เบอร์เจอรอน ใน Trader Vic’s ที่ Oakland

วิกเตอร์ เจ. เบอร์เจอรอน เป็นนักเดินทางท่องเที่ยวตัวยงคนหนึ่ง เขาชอบหาดทราย สายลม แสงแดดในหมู่เกาะแคริบเบียน และแปซิฟิก ภาพของหนุ่มสาวชาวเกาะเล่นระบำรำฟ้อนตามชายหาด ตลอดจนอาหารและเครื่องดื่มสไตล์ชาวเกาะ ฝังและตราตรึงในหัวใจของเขาตลอดเวลา และคิดว่าสักวันจะเปลี่ยนบาร์เล็กๆ ของเขาให้เป็นสไตล์ชาวเกาะให้ได้

วันหนึ่งเขาก็สานฝันจนเป็นจริง ในปี 1937 ฮิงกี้ ดริ้งค์ ที่โอ๊คแลนด์ ถูกปรับเปลี่ยนเป็น เทรเดอร์ วิคส์ (Trader Vic’s) โดยอีสเธอร์ (Esther) ภรรยาของเขาเป็นผู้ตั้งชื่อให้ จากพฤติกรรมของสามีที่ชอบซื้อขาย แลกเปลี่ยน อาหารการกิน เครื่องดื่ม และการบริการ 

Mai Tai เครื่องดื่มที่ไม่ใช่ ‘ไหมไทย’

Mai Tai ที่ Trader Vic’s ในบ้านเรา 

กระทั่งปัจจุบัน เทรเดอร์ วิคส์ มีสาขาต่างๆ ทั่วโลกกว่า 20 แห่ง ทั้งในลอนดอน โตเกียว มิวนิก แวนคูเวอร์ โทรอนโต โอซากา สิงคโปร์ และ ประเทศไทย ซึ่งเปิดครั้งแรกนั้นคือ โรงแรม แมริออท รีสอร์ท แอนด์ สปา ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ฝั่งธนบุรี ปัจจุบันเป็นโรงแรม อนันตรา ริเวอร์ ไซด์ กรุงเทพฯ รีสอร์ต (Anantara Riverside Bangkok Resort)

การทำ Mai Tai ตามแบบฉบับดั้งเดิม ต้องใช้เวลาในการตระเตรียมส่วนผสมนานพอสมควร เนื่องจากส่วนผสมค่อนข้างมาก บางอย่างต้องคั่ว บางอย่างต้องบด ฯลฯ ก่อนจะนำมาผสมผสานกันอย่างลงตัว 

Mai Tai เครื่องดื่มที่ไม่ใช่ ‘ไหมไทย’

ร้าน Trader Vic's

ตอนที่มาเมืองไทยครั้งแรก มีบาร์เทนเดอร์จาก Trader Vic’s สหรัฐฯ มาทำให้ดู เห็นแล้วไม่ธรรมดา ปัจจุบันเทคโนโลยีทันสมัยขึ้น ส่วนผสมสามารถเตรียมไว้ล่วงหน้าได้โดยไม่เสียรสชาติ

หนึ่งในส่วนผสมที่สำคัญของ Mai Tai ที่ Trader Vic's ในครั้งนั้น เขาเรียกว่า Mai Tai Mix เป็นส่วนผสมที่เป็นสูตรเฉพาะของ Trader Vic's เท่านั้น ลักษณะคร่าว ๆ คือ น้ำเชื่อมรสถั่วอัลมอนด์ ส่วนที่นอกเหนือจากนั้นขอแนะนำให้ท่านไปที่ Trader Vic's แล้วกระซิบถามบาร์เทนเดอร์

Mai Tai เครื่องดื่มที่ไม่ใช่ ‘ไหมไทย’

Mai Tai อีกสูตรหนึ่ง ในบรรบากาศริมทะเล

เมื่อมี Mai Tai และ Trader Vic's ก็ขอพูดถึง อาหารสไตล์ แปซิฟิก ริม (Pacific Rim Food) ที่คู่กัน และเป็นอาหารที่มีมานานแล้ว โดยมีมากในประเทศที่เป็นหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก ที่ถือเป็นศูนย์กลางของอาหารแปซิฟิก ริม คือฮาวาย 

ร้านอาหารไม่ว่าจะอยู่นอกโรงแรม และในโรงแรมจะต้องมีเมนู แปซิฟิก ริม ไว้บริการลูกค้า ร้านไหนไม่มี ถือว่าเชย หรือล้าสมัย ขณะที่คนที่ไปฮาวายแล้วไม่ลิ้มลองอาหารแปซิฟิก ริม ถือว่ายังไปไม่ถึงฮาวาย

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีมากในฮาวาย แต่ไม่มีหลักฐานยืนยันแน่นอนว่าอาหารแปซิฟิก ริม ถือกำเนิดในฮาวาย นอกจากคาดเดากันว่าแปซิฟิก ริม คงเกิดขึ้นในหมู่เกาะในแปซิฟิก ซึ่งรวมฮาวายอยู่ด้วย

Mai Tai เครื่องดื่มที่ไม่ใช่ ‘ไหมไทย’ Mai Tai อีกรูปลักษณ์หนึ่ง

แต่สิ่งที่ผู้คนทั่วโลกให้ความสนใจอาหารแปซิฟิก ริม เพราะมนต์เสน่ห์ของอาหารสไตล์นี้ก็คือรสชาติที่เกิดจากการนำรสชาติและเอกลักษณ์ของอาหารแต่ละประเทศหรือชนชาติที่อาศัยอยู่บนหมู่เกาะแปซิฟิกมาผสมผสานกันอย่างลงตัว แปลกใหม่ ได้ความสดหวานจากส่วนผสมที่สดและเป็นธรรมชาติ

นอกจากนั้น สิ่งที่แตกต่างจากอาหารชนิดอื่นอย่างสิ้นเชิง จนเรียกว่าเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวคือ เครื่องไม้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ใช้ เช่น หม้อเครื่องปั้นดินเผา เตาอบแบบจีน กระทะจีน และไม้ไผ่ เป็นต้น

สิ่งสำคัญอีกอย่างคือกระบวนการปรุง เชฟต้องเก่งหรือมีความสามารถอย่างสูงในการเลือกวัตถุดิบ เครื่องปรุง หรือส่วนผสมของแต่ละพื้นที่ แล้วนำมาผสมผสานกันให้ลงตัว ขณะเดียวกันก็ต้องรู้จักเลือกส่วนผสมที่สามารถทดแทนกันได้

บางคนบอกว่า อาหารแปซิฟิก ริม กับ อาหารฟิวชั่น (Fusion Food) มีส่วนคล้ายกันในแง่ที่เกิดจากผสมผสานทางวัฒนธรรมให้เป็นเมนูใหม่ โดยฟิวชั่นเป็นการผสมผสานอาหารตะวันตกกับตะวันออก ขณะที่แปซิฟิก ริม เน้นความเป็นแปซิฟิกมากกว่า

Mai Tai เครื่องดื่มที่ไม่ใช่ ‘ไหมไทย’ Mai Tai บรรจุกระป๋องพร้อมดื่ม

ในบ้านเรามี “Mai Tai” ขายตามร้านและบาร์ต่าง ๆ มากมาย แน่นอนสูตรก็ถูกปรับไปบ้าง แต่ถ้าจะให้ได้บรรยากาศและรสชาติที่แท้จริง เขาให้ไปที่ห้องอาหาร Trader Vic's โรงแรม อนันตรา ริเวอร์ ไซด์ กรุงเทพฯ รีสอร์ต

นั่นเป็นเรื่องราวของ Mai Tai (ไม ตาอิ) ซึ่งสุดท้ายแล้วเวลาสั่งก็ต้องสั่งว่า “ไหมไทย” ตามความคุ้นเคยกันมายาวนาน !!