‘ข้าวแช่ 2025’ และ ‘เซตอาหารกลางวัน’ ที่ ‘โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ’

‘ข้าวแช่ 2025’ ครั้งแรกนับจาก ‘โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ’ เปิดตัวอีกครั้ง ในปี 2568 รวมทั้ง ‘เซตอาหารกลางวัน’ โดย ‘เชฟรสริน ศรีประทุม’
เข้าสู่เดือนเมษายน 2568 คนไทยอย่างเราต้องคลายร้อนด้วย ข้าวแช่ สำรับอาหารไทย ที่ โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ ณ ห้องอาหารพาวิลเลี่ยน หลังจากสร้างอาคารใหม่ เปิดบริการอีกครั้ง ข้าวแช่ 2025 ถือว่าเป็นการนับครั้งแรก รวมทั้ง เซตอาหารกลางวัน ที่ อิม อร่อย สำหรับนักธุรกิจ คนทำงาน พักเที่ยงแล้วต้องการจะรับประทานอาหารในเวลาจำกัด พูดถึง ‘ข้าวแช่’ ของที่นี่เขามีนโยบายส่งเสริมความยั่งยืนของชุมชน และสิ่งแวดล้อม ดังนั้นวัตถุดิบทั้งหลายจึงถูกคัดเลือกมาอย่างดี
ฤดูกาลนี้ โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ ขอนำเสนอ ข้าวแช่ตำรับดุสิตธานี กรุงเทพ โดย เชฟรสริน ศรีประทุม ผู้ภาคภูมิใจในวัฒนธรรมอาหารไทย และรักในการสรรหาวัตถุดิบชั้นเลิศจากชุมชนท้องถิ่นตามพื้นที่ต่างๆ มารังสรรค์ให้เป็นอาหารรสเลิศ
ข้าวแช่ 2025 ใช้ ข้าวหอมมะลิพันธุ์ 105 ออร์แกนิค ซึ่งเป็นผลผลิตของกลุ่มเกษตรกรในพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ จังหวัดศรีสะเกษ ที่มุ่งมั่นเพาะปลูกข้าวตามหลักเกษตรอินทรีย์ เพื่อให้ได้ข้าวที่มีคุณภาพดีเยี่ยมและปลอดภัยต่อสุขภาพของผู้บริโภค โดยดุสิตธานีเข้ารับซื้อข้าวจากเกษตรกรกลุ่มนี้ เพื่อเป็นหลักประกันรายได้ตลอดทั้งปีให้แก่พวกเขา
สำรับข้าวแช่ตำรับโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ
ข้าวหอมมะลิออร์แกนิค ที่ปลูกเพื่อ โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ ได้รับการหุงตามแบบวิธีโบราณ เพื่อให้ได้เมล็ดข้าวที่คงรูปทรงสวย ใส และไม่เหนียวเมื่อต้องแช่ในน้ำลอยดอกไม้ และอบควันเทียน เมื่อกล่าวถึงข้าวแช่ เครื่องเคียงที่เป็นนางเอก คงหนีไม่พ้น ลูกกะปิ ซึ่งใช้กะปิจากตำบลคลองโคน สมุทรสงคราม นำมาปรุงรสกับเนื้อปลาช่อนเกรดเอ เชฟรสริน เล่าว่า เป็นกะปิเจ้าประจำที่ทำในครัวเรือน ไม่มีขายตามท้องตลาดทั่วไป
ส่วนเครื่องเคียงอื่นๆ ที่ขาดไม่ได้สำหรับ ข้าวแช่ คือ
- พริกหยวกสอดไส้กุ้งแม่น้ำ
- หอมแดงไทยจาก จังหวัดเชียงรายสอดไส้เนื้อปลาช่อนจากสิงห์บุรี
- เนื้อฝอย หมูฝอย ไชโป๊วหวาน และพิเศษเพิ่มตามตามสูตรของ เชฟรสริน คือ พริกชี้ฟ้าทอดจากตำบลบางช้างสอดไส้เนื้อปลาช่อน
- สำหรับน้ำลอยดอกไม้และอบควันเทียน เชฟรสริน ใช้น้ำแร่เป็นน้ำลอยดอกไม้ และนำเสนอตามอย่างตำรับโบราณ นั่นคือ ใช้ดอกชมนาดเป็นดอกไม้สร้างกลิ่นหอมละมุนทำให้เมื่อรับประทานข้าวแช่พร้อมน้ำ ทุกคำจะเต็มไปด้วยความสดชื่น ประสาทสัมผันทั้งห้าได้รับการปรนเปรอด้วยความหอม ความอร่อย และความสดชื่น
แตงโมปลาแห้ง
‘เชฟรสริน ศรีประทุม’
ข้าวหอมมะลิพันธุ์ 105 ออร์แกนิค
ความพิเศษ คือ หากรับประทานข้าวแช่ที่ ห้องอาหารพาวิลเลี่ยน ของโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ จะมีเครื่องแกล้มอย่าง ‘ยำมะม่วงแก้วขมิ้นและมะม่วงน้ำดอกไม้น้ำปลาหวาน’ และปิดท้ายด้วยมะกรูดลอยแก้วเติมความสดชื่นคลายร้อนได้อย่างครบรส
ชุดข้าวแช่โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ เปิดจำหน่ายแล้ววันนี้ จนถึง 31 พฤษภาคม 2568 ณ ห้องอาหารพาวิลเลี่ยน
- รับประทานที่ห้องอาหารราคาชุดละ 980++ บาท พร้อมของหวาน
- ชุดข้าวแช่แบบกล่องเพื่อซื้อกลับบ้าน หรือเป็นของฝากราคากล่องละ 1,280+ บาท
เครื่องดื่ม 'บุษราคัมคีส'
มาต่อกันด้วย เซตอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหารพาวิลเลี่ยน ของโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ นำเสนออาหารไทยพื้นถิ่นจากหลากหลายพื้นที่ทั่วประเทศไทย เพื่อเชิดชูคุณค่าของวัตถุดิบพื้นถิ่น ภูมิปัญญาและความคิดสร้างสรรค์ของคนรุ่นก่อน ๆ
วันนี้ หมูหวานชวนชิม ขอแนะนำ ชุดอาหารกลางวัน ราคาสุดคุ้ม แบบเซตสามคอร์ส ประกอบไปด้วยอาหารเรียกน้ำย่อย หรือ ซุป ตามด้วย อาหารจานหลัก และ ขนมหวาน
ยำมะยงชิด
ยำส้มฉุนส้มโอขาวใหญ่อัมพวาหอยเชลล์ย่าง
ต้มส้มปลากะพง
ต้มจืดเงาะใบชะคราม
จานแรก มีให้เลือก 3 เมนู อาทิ ยำส้มฉุนส้มโอขาวใหญ่ และหอยเชลล์ย่าง ต้มส้มปลากะพง และ ต้มจืดเงาะใบชะคราม ซึ่งเป็นเมนูสร้างสรรค์จากครอบครัวของเชฟรสริน ซึ่งเป็นชาวสมุทรสงครามและต้องการให้ใบชะครามเป็นที่รู้จัก และสามารถเป็นวัตถุดิบของอาหารไทยในโรงแรมระดับหรูหราได้
ข้าวหน้าเนื้อน่องลายตุ๋นพาวิลเลี่ยน
ในส่วนของอาหารจานหลัก มีให้เลือกระหว่าง ข้าวเนื้อน่องลายตุ๋นพาวิลเลี่ยน เป็น เนื้อน่องลายตุ๋นสูตรตำรับดั้งเดิมของดุสิตธานี เสิร์ฟพร้อมข้าวหอมมะลิออร์แกนิค ในอดีตเคยเป็นเมนูยอดนิยมของโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ แห่งเดิม ‘เชฟรสริน’ ได้เสริมความอร่อยจานนี้ด้วยเต้าเจี้ยวสูตรลับจากจังหวัดราชบุรี หากไม่รับประทานเนื้อวัว ยังมีอีกเมนู อร่อย
คอหมูดำเชียงรายย่างถ่าน น้ำพริกมะขามผักแนม ข้าวมันกะทิใบเตย
เป็ดคลองไผ่ทอดซอสมะขาม
นั่นก็คือ คอหมูดำจากจังหวัดเชียงรายย่างด้วยถ่านเสิร์ฟพร้อมน้ำพริกมะขาม ผักแนม และข้าวมันกะทิใบเตย ขอบอกว่า เชฟหมักคอหมูกลมกล่อมเข้าเนื้อย่างมาหอมกรุ่น เคี้ยวนุ่มสบายปากและฟัน และอีกหนึ่งเมนูที่พลาดไม่ได้ อร่อย มากเช่นกันก็คือ เป็ดทอดซอสมะขาม โดย ‘เชฟรสริน’ ประยุกต์การตุ๋นด้วยน้ำมันอย่างอาหารฝรั่งมาเป็นเทคนิคการปรุงเมนูนี้ เพื่อนๆร่วมโต๊ะต่างติดใจอยากจะกลับไปกินซ้ำ
ข้าวต้มน้ำวุ้นน้ำแข็งไสน้ำลำไย
บัวลอยสามสีอัลมอนด์
มะกรูดลอยแก้ว
ไอติมไทยทรงเครื่อง
ปิดท้ายด้วยขนมหวานคลายร้อน เราสามารถเลือกได้หนึ่งรายการ ก็จะมี บัวลอยสามสีนมอัลมอนด์, ข้าวต้มน้ำวุ้นน้ำแข็งไสน้ำลำไย และ ไอติมไทยทรงเครื่อง
ราคาชุดอาหารกลางวันแบบเซตเมนูสามคอร์ส อยู่ที่ท่านละ 950++ บาท มีให้บริการทุกวัน รวมทั้ง เสาร์-อาทิตย์
'ห้องอาหารพาวิลเลี่ยน' อยู่ที่ชั้น G (ชั้นใต้ล็อบบี้) โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพ เปิดให้บริการทุกวัน โดยกลางวัน เปิดให้บริการ ตั้งแต่เวลา 12.00 น. – 14.30 น. มื้อค่ำ เปิดให้บริการ ตั้งแต่เวลา 17.00 น. – 22.00 น. โทร. 0 2200 9000







