เสือตัวที่ 5 ‘ชาโต มาร์โกซ์’ เสน่ห์เหลือร้ายของ ‘ไวน์บอร์กโดซ์’

เสือตัวที่ 5 ‘ชาโต มาร์โกซ์’ เสน่ห์เหลือร้ายของ ‘ไวน์บอร์กโดซ์’

‘ไวน์บอร์กโดซ์’ นั้นเสน่ห์แรง เช่น ‘ชาโต มาร์โกซ์’ ที่มีเรื่องเล่าเยอะ เป็นไวน์ระดับกรองด์ ครูส์ ตัวเดียวของเมืองบอร์กโดซ์ที่นำชื่อตำบลมาตั้งเป็นชื่อไวน์

ไวน์กรองด์ ครูส์ คลาสเซ ชั้น 1 ตาม บัญชี เมด็อก 1855 (Medoc Classification 1855) จำนวน 5 ชาโต หรือ 5 เสือเมด็อก นั้นพูดถึงไปแล้ว 4 ชาโตคือในตำบลปูญัค (Pauillac) มี 3 ชาโตคือ ชาโต ลาฟิต ร็อธส์ชิลด์ (Chateau Lafite Rothschild), ชาโต มูตง ร็อธส์ชิลด์ (Chateau Mouton Rothschild) และ ชาโต ลาตูร์ (Chateau Latour) ส่วนในเปสซัค ญียอง (Pessac-Leognan) มี ชาโต โอต์- บริออง (Chateau Haut – Brion)

ที่ขาดไปคือ เสือตัวที่ 5 ชาโต มาร์โกซ์ (Chateau Margaux) ซึ่งมีบางอย่างพิเศษกว่าทั้ง 4 ชาโตที่กล่าวมา

เสือตัวที่ 5 ‘ชาโต มาร์โกซ์’ เสน่ห์เหลือร้ายของ ‘ไวน์บอร์กโดซ์’    ตำบลมาร์โกซ์

ที่สำคัญผมเพิ่งไป ตำบลมาร์โกซ์ เมื่อเดือนกรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา ได้ชิมไวน์ของที่นี่ไปหลายชาโต เรียกว่าเข้าทางพอดิบพอดี

มาร์โกซ์ เป็นชื่อของตำบล ในอำเภอเมด็อก (Médoc) เมืองบอร์กโดซ์ (Bordeaux) ประเทศฝรั่งเศส เป็นตำบลที่ทำไวน์ได้ยอดเยี่ยม เนื่องจากมีดินกรวดชนิดพิเศษ ที่ถูกสายน้ำพัดพามาจากภูเขา เมื่อประกอบกับดินฟ้า อากาศ และปัจจัยอื่น ๆ เป็น “แตร์ฮรัวร์” (terroir) ที่ล้ำค่าในการทำไวน์

ตำบลมาร์โกซ์ มีพื้นที่ปลูกองุ่น 1,300 เฮกตาร์ ประกอบด้วย 80 ชาโตหรือโดเมน (Chateau or Domaine) ผลผลิตปีละ 9.5 ล้านขวด จากองุ่นกาแบร์เนต์ โซวีญยอง (Cabernet Sauvignon) แมร์โลต์ (Merlot) กาแบร์เนต์ ฟรอง (Cabernet Franc) และเปอติต์ แวร์กโดต์ (Petit Verdot)

เสือตัวที่ 5 ‘ชาโต มาร์โกซ์’ เสน่ห์เหลือร้ายของ ‘ไวน์บอร์กโดซ์’

    แผนที่ตำบลมาร์โกซ์

ไวน์ที่สร้างชื่อ ชาโต มาร์โกซ์ (Chateau Margaux) เป็น 1 ใน 5 เสือเมด็อก ที่สำคัญในจำนวน 5 เสือด้วยกันนั้น "ชาโต มาร์โกซ์" เป็นไวน์ระดับกรองด์ ครูส์ (Grand Crus) ตัวเดียวของเมืองบอร์กโดซ์ที่นำชื่อตำบลมาตั้งเป็นชื่อไวน์

นอกนั้นยังมีไวน์ระดับกรองด์ ครูส์ คลาสเซ ในบัญชีดังกล่าวถึง 20 ชาโต มากกว่าทุกคอมมูน (ชั้น 2 = 5 ชาโต / ชั้น 3 = 10 ชาโต / ชั้น 4 = 3 ชาโต / ชั้น 5 = 2 ชาโต) รวมแล้ว 21 ชาโต (ทั้งหมดมี 61 ชาโต)

เสือตัวที่ 5 ‘ชาโต มาร์โกซ์’ เสน่ห์เหลือร้ายของ ‘ไวน์บอร์กโดซ์’

    ไร่องุ่นด้านหน้าชาโต มาร์โกซ์

กำเนิดของชาโต มาร์โกซ์ อยู่ในช่วงศตวรรษที่ 12 – 14 ณ มหาปราสาทลามอธ (Lamothe / La Mothe) ภายใต้ชื่อ ลามอธ เดอ มาร์โกซ์ (La Mothe de Margaux) โดยตระกูลดูร์ฟอรต์ (Durfort) ซึ่งเป็นเจ้าของชาโต ดูร์ฟรอต์ วีวองส์ (Chateau Durfort-Vivens) ไวน์กรองด์ ครูส์ชั้น 2 ด้วยการยุบจากไวน์ 2 ตัวที่รู้จักกันดีในช่วงศตวรรษที่ 15 คือมาร์กู (Margou) และมาร์กูส (Margous) เป็น Chateau Margaux ในปี 1750

เสือตัวที่ 5 ‘ชาโต มาร์โกซ์’ เสน่ห์เหลือร้ายของ ‘ไวน์บอร์กโดซ์’

   ไวน์ขาวของมาร์โกซ์

หลังจากนั้น ชาโต มาร์โกซ์ ก็กลายเป็นสมบัติผลัดกันชมของมหาเศรษฐีหลายตระกูล แต่ที่ต้องบันทึกไว้คือปี 1836 ตระกูลดูร์ฟอรต์ ขายกิจการให้วีกอง เด อาโกโด ตระกูลขุนนางผู้ดี ซึ่งได้สร้างตึกมาร์โกซ์ใหม่ที่เห็นในปัจจุบัน โดยฝีมือของวิกตอร์ ลูอิส สถาปนิกชื่อดังที่แห่งยุค ลักษณะเป็นศิลปกรรมยุคบาบิโลนอันงดงาม ซึ่งว่ากันว่างดงามที่สุดในเมด็อก ประดับด้วยต้นไม้ล้ำค่าจากมองโกเลีย และทะเลสาบ และบูรณะใหม่แล้วเสร็จในปี 1812

เสือตัวที่ 5 ‘ชาโต มาร์โกซ์’ เสน่ห์เหลือร้ายของ ‘ไวน์บอร์กโดซ์’

   คอรีนน์ ขึ้นปกนิตยสารดัง

ปี 1976 อังเดร เมนต์เซโลปูลอส (Andre Mentzelopoulos) ผู้บริหารไฟแนนซ์จาก Felix Potin สายเลือดกรีซ เข้าครอบครอง ชาโต มาร์โกซ์ (Chateau Margaux) ด้วยเงิน 72 ล้านฟรังส์ หรือ 16 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยมีครอบครัว Agnelli ถือหุ้นด้วย ที่สำคัญคือได้ศาสตราจารย์ เอมิล เปย์โนด์ (Émile Peynaud) สุดยอดนักปรุงไวน์ของโลกมาเป็นที่ปรึกษา ซึ่งมีส่วนอย่างมากทำให้ชาโต มาร์โกซ์ ไร้เทียมทาน

เสือตัวที่ 5 ‘ชาโต มาร์โกซ์’ เสน่ห์เหลือร้ายของ ‘ไวน์บอร์กโดซ์’    คอรีนน์กับพ่อ

เมื่ออังเดร เสียชีวิตในปี 1980 หน้าที่หลักจึงตกอยู่กับลูกสาว คอรีนน์ เมนต์เซโลปูลอส (Corinne Mentzelopoulos) และครอบครับก็ซื้อหุ้นใหญ่ชาโต มาร์โกซ์ อย่างเต็มตัวในปี 2003 เธอได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในหญิงแกร่งแห่งวงการไวน์บอร์กโดซ์ ก่อนจะประกาศวางมือหลังจากเดือนตุลาคม 2023 ผู้ที่รับหน้าที่แทนคือ อเล็กซิส เลอวอง เมนต์เซโลปูลอส (Alexis Leven-Mentzelopoulos) ลูกชายของเธอซึ่งมาร่วมงานกันในปี 2020 ในตำแหน่งผู้อำนายการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ 

ชาโต มาร์โกซ์ มีพื้นที่ปลูกองุ่น 262 เฮกตาร์ (1 เฮกตาร์ = 6 ไร่ 1 งาน) ในจำนวนนี้เป็นพื้นที่ใน Margaux AOC 87 เฮกตาร์ ขณะที่พื้นที่ 80 เฮกตาร์ ปลูกกาแบร์เนต์ โซวีญยอง 75% แมร์โลต์ 20% กาแบร์เนต์ ฟรอง และเปอติต์ แวร์กโดต์ 2% นอกจากนั้นอีก 12 เฮกตาร์ ปลูกองุ่นเขียว โซวีญยอง บลอง (Sauvignon Blanc) เพื่อทำไวน์ขาวปาวิลลง บลัง (Pavillon Blanc)

เสือตัวที่ 5 ‘ชาโต มาร์โกซ์’ เสน่ห์เหลือร้ายของ ‘ไวน์บอร์กโดซ์’     ชาโต มาร์โกซ์ อดีตและปัจจุบัน

ชาโต มาร์โกซ์ เป็นไวน์ที่สร้างชื่อเสียงไว้มากมายตั้งแต่อดีต เช่น ในปี 1771 ได้ชื่อว่าเป็นไวน์แดงตัวแรกที่ถูกประมูลในสถาบันคริสตี้ กรุงลอนดอน ขณะที่โธมัส เจฟเฟอร์สัน อดีตประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งเคยมารับราชการในบอร์กโดซ์และมาเยี่ยม Chateau Margaux ในปี 1787 บอกว่า Chateau Margaux เป็น “four vineyards of first quality”

มีเรื่องเล่าว่าในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 รัฐบาลฝรั่งเศสต้องการขนมปังจำนวนมากจากสหรัฐ เพื่อเป็นอาหารพลเมืองฝรั่งเศสที่ขาดแคลน สหรัฐยื่นข้อเสนอว่า สิ่งที่จะแลกกับขนมปังต้องเป็น ไวน์ชาโต มาร์โกซ์ เท่านั้น

เสือตัวที่ 5 ‘ชาโต มาร์โกซ์’ เสน่ห์เหลือร้ายของ ‘ไวน์บอร์กโดซ์’

   ชาโต มาร์โกซ์ ไวเนอรี (Cr.friarwood.com)

คราวนี้มาชิมไวน์ของตำบลมาร์โกซ์กัน  เป็นไวน์ที่ผมได้ชิมในรอบสัปดาห์ก่อนจะเขียนเรื่องนี้

ชาโต มาร์โกซ์ มาร์โกซ์ 2015 (Château Margaux Margaux 2015) : วินเทจนี้ขวดสีดำ ลายเส้นสีทอง เป็น Limited Edition ผลิตเพื่อเป็นอนุสรณ์แด่ “ปอล ปงเตลลิเยร์” (Paul Pontallier) MD คนสำคัญของชาโต ที่เข้ามาร่วมงานกับชาโตนี้เมื่อปี 1983 ในตำแหน่งผู้จัดการ ก้าวขึ้นเป็น MD ในปี 1990 ก่อนเสียชีวิตในเดือนมีนาคม 2016 ที่ฉลากใกล้ก้นขวดมีคำว่า “Hommage à Paul Pontellier” แปลว่า “ด้วยความเคารพ ปอล ปงเตลลิเยร์” วินเทจ 2015 จึงเป็นวินเทจสุดท้ายในชีวิตของเขา

เสือตัวที่ 5 ‘ชาโต มาร์โกซ์’ เสน่ห์เหลือร้ายของ ‘ไวน์บอร์กโดซ์’

   ชาโต มาร์โกซ์ 2015

เบลนด์จากกาแบร์เนต์ โซวีญยอง 87% แมร์โลต์ 8% กาแบร์เนต์ ฟรอง 3% และเปอตีต์ แวร์กโดต์ 2% บ่ม 20 เดือนในโอ๊คฝรั่งเศสใหม่ 100%

สีแดงโกเมนเข้ม สดใส หอมกลิ่นผลไม้สุกอบอวล แบล็คเคอร์แรนท์ แบล็คเบอร์รี พลัม บลูเบอร์รี ราสพ์เบอร์รี มิเนอรัล ดอกลาเวนเดอร์ ช็อกโกแลตเค้ก กราไฟต์ สไปซีเฮิร์บ ยี่หร่า ชะเอมเทศ ไม้จันทน์ จูนิเปอร์ ใบชา ใบยาสูบ สโมคกี้โอ๊ค ซีดาร์ กล่องซิการ์ แอสิดสดชื่น แทนนินนุ่มนวลเนียน จบยาวด้วยผลไม้ โอ๊ค สไปซี่เฮิร์บ และมิเนอรัล สามารถเริ่มดื่มได้ในปีนี้เป็นต้นไป เป็นวินเทจที่สมบูรณ์แบบหาที่ติมิได้ ......20/20 คะแนน

เสือตัวที่ 5 ‘ชาโต มาร์โกซ์’ เสน่ห์เหลือร้ายของ ‘ไวน์บอร์กโดซ์’

   ชาโต เกียร์วอง 2017

ชาโต เกียร์วอง มาร์โกซ์ 2017 (Château Kirwan Margaux 2017) : ไวน์กรองด์ ครูส์ ชั้น 3 ตาม บัญชีเมด็อก 1855 เบลนด์จากกาแบร์เนต์ โซวีญยอง 55% แมร์โลต์  30% กาแบร์เนต์ ฟรอง  10% และเปอตีต์ แวร์กโดต์  5% บ่มโอ๊ค 18 เดือน

สีแดงโกเมนเข้ม สดใส หอมกลิ่นผลไม้สุก แบล็คเบอร์รี ราสพ์เบอร์รี แบล็คเคอร์แรนท์ แบล็คเชอร์รี และพลัม มิเนอรัล ดอกไวเลต กาแฟคั่ว กราไฟต์ ใบยาสูบ สไปซี แบล็คเปปเปอร์ อบเชย ไม้จันทน์ วานิลลา สโมคกี้โอ๊ค แอสิดสดชื่น แทนนินนุ่มเนียน จบยาวด้วยผลไม้ มิเนอรัล โอ๊ค สไปซี่เฮิร์บ สามารถดื่มได้ในเวลานี้ แต่ถ้ารอได้อีก 2-3 ปีจะสุกมากกว่านี้.....19.5/20 คะแนน

เสือตัวที่ 5 ‘ชาโต มาร์โกซ์’ เสน่ห์เหลือร้ายของ ‘ไวน์บอร์กโดซ์’

   มาร์กีส์ เดอ แตร์ม คูเว 1762 มาร์โกซ์ 2018

มาร์กีส์ เดอ แตร์ม คูเว 1762 มาร์โกซ์ 2018 (Marquis de Terme Cuvée 1762 Margaux 2018) : ไวน์ฉลากสองของ Chateau Marquis de Terme ซึ่งเป็น 1 ใน 10 กรองด์ ครูส์ ชั้น 4 ทำจากกาแบร์เนต์ โซวีญยอง 77% แมร์โลต์ 18% และเปอตีต์ แวร์กโดต์  5% หมักในถังซีเมนต์และสแตนเลส บ่มโอ๊ค 12 เดือน

สีแดงโกเมน สดใส หอมกลิ่นผลไม้สุก แบล็คเคอร์แรนท์ แบล็คเบอร์รี พลัม แบล็กเชอร์รี ราสพ์เบอร์รี มิเนอรัล ดอกไวโอเล็ต ช็อกโกแล็ต สไปซีเฮิร์บ ชะเอมเทศ อบเชย จันทน์เทศ ครีมมี ม็อคคา กล่องซิการ์ มะกอกดำ แอสิดสดชื่น แทนนินนุ่มเนียน จบด้วยผลไม้ มิเนอรัล สไปซีเฮิร์บ วานิลลา สามารถดื่มได้ ณ เวลานี้ เป็นหนึ่งในฉลากสองจากตำบลมาร์โกซ์ ที่ควรชิม เปิดล่วงหน้าสัก 40 นาที.......19/20 คะแนน

เสือตัวที่ 5 ‘ชาโต มาร์โกซ์’ เสน่ห์เหลือร้ายของ ‘ไวน์บอร์กโดซ์’

   ชาโต ดูซัค มาร์โกซ์ 2016

ชาโต ดูซัค มาร์โกซ์ 2016 (Château Dauzac Margaux 2016) :เป็น 1 ใน 18 ไวน์ชั้น 5 ทำจากกาแบร์เนต์ โซวีญยอง 71% แมร์โลต์ 29%

สีแดงเข้ม สดใส หอมกลิ่นผลไม้สุก แบล็คเคอร์แรนท์ แบล็คเบอร์รี พลัม ราสพ์เบอร์รี ดอกไม้แห้ง ๆ กาแฟคั่ว แบล็คช็อกโกแลต สไปซีเฮิร์บ จันทน์เทศ อบเชย ซีดาร์ ใบชาแห้ง แอสิดสดชื่น จบยาวด้วยผลไม้ มิเนอรัล สไปซี เฮิร์บ เริ่มดื่มได้ในตอนนี้เป็นต้นไป เปิดล่วงหน้าสัก 40 นาที แล้วดื่มกับอาหารประเภทปิ้งย่าง เนื้อ หมู กวาง ไก่ อร่อยมาก ไวน์วินเทจพร้อมดื่มอย่างนี้ต้องรีบจัดหามาข้างกาย หมดแล้วจะเสียดาย วินเทจใหม่ ๆ ก็ต้องรอเสียเวลา.......19/20 คะแนน

เสือตัวที่ 5 ‘ชาโต มาร์โกซ์’ เสน่ห์เหลือร้ายของ ‘ไวน์บอร์กโดซ์’

   ชาโต ดิสซอง มาร์โกซ์ 2018

ชาโต ดิสซอง มาร์โกซ์ 2018 (Château d'Issan, Margaux 2018 ) :  1 ใน 14 กรองด์ ครูส์ ชั้น 3 มีพื้นที่ติดกับชาโต มาร์โกซ์ และชาโต ปาลแมร์ (Château Palmer) ทำจากกาแบร์เนต์ โซวีญยอง  60% และแมร์โลต์ 40% ซึ่งเป็นองุ่นสูงอายุ บ่มในถังโอ๊ค 18 เดือน โดย 50% บ่มโอณคใหม่ ส่วนอีก 50% บ่มในโอ๊คเก่าที่ใช้มาแล้ว 2 ปี

สีแดงโกเมนเข้ม สดใส หอมกลิ่นผลไม้สุก แบล็คเคอร์แรนท์ แบล็คเบอร์รี แบล็คเชอร์รี พลัม และราสพ์เบอร์รี ดอกไม้แห้ง ๆ มิเนอรัล กาแฟคั่ว ใบชาแห้ง ๆ สไปซี่ เฮิร์บ กานพลู ยี่หร่า เปปเปอร์ กล่องซิการ์ ซีดาร์ ไส้ดินสอดำ หนังสัตว์ ใบยาสูบ ไอโอดีนกรุ่น ๆ โอ๊คหอมกรุ่น แอสิดสดชื่น แทนนินยังแน่นแต่นุ่มเนียน จบยาวนานด้วยผลไม้ มิเนอรัล สไปซีเฮิร์บ สามารถดื่มได้ในตอนนี้......19.5/20 คะแนน

เสือตัวที่ 5 ‘ชาโต มาร์โกซ์’ เสน่ห์เหลือร้ายของ ‘ไวน์บอร์กโดซ์’

   ชาโต คันเตอนาก บราวน์ มาร์โกซ์ 2019

ชาโต คันเตอนาก บราวน์ มาร์โกซ์ 2019 (Chateau Cantenac Brown Margaux 2019) : 1 ใน 14 ไวน์กรองด์ ครูส์ ชั้น 3 (3eme Cru Classe) ที่อร่อยอีกตัวหนึ่ง ทำจากกาแบร์เนต์ โซวีญยอง 68% และแมร์โลต์  32% บ่มโอ๊ค 18 เดือน โดยไวน์ 60% บ่มในโอ๊คใหม่

เสือตัวที่ 5 ‘ชาโต มาร์โกซ์’ เสน่ห์เหลือร้ายของ ‘ไวน์บอร์กโดซ์’     ชาโต มาร์โกซ์

สีแดงโกเมนเข้ม หอมกลิ่นผลไม้สุก แบล็คเคอร์แรนท์ แบล็คเบอร์รี ราสพ์เบอร์รี พลัม และบลูเบอร์รี ดอกไวโอเลตแห้ง ๆ เอิร์ธตี้ หนังสัตว์ ช็อกโกแลต เอสเพรสโซ่ สไปซีเฮิร์บ ชะเอมเทศ จันทน์เทศ ซีดาร์ สโมคกี้โอ๊ค มินต์ วานิลลา แอสิดสดชื่น แทนนินหนักแน่นและนุ่ม จบยาวด้วยผลไม้ มิเนอรัล วานิลลา และโอ๊ค ยังไม่เปิดตัวเต็มที่นัก น่าจะประมาณ 2-3 ปีข้างหน้า....19.5/20 คะแนน

มาร์โกซ์ เป็นตำบลเล็ก ๆ แต่เป็นตำบลแห่งไวน์กรองด์ ครูส์ จากบัญชีเมด็อก 1855 ทั้งหมด 61 ชาโต

มาร์โกซ์ ยึดครองไปถึง 21 ชาโต แถมมีชั้น 1 อีกด้วย นั่นย่อมไม่ธรรมดา