‘นอร์มังดี’ ต้อนรับเชฟคนใหม่ ‘เชฟอเล็กซ์ ดิลลิง’ มิชลิน 2 ดาวจากลอนดอน

ห้องอาหารฝรั่งเศส ‘เลอ นอร์มังดี’ ต้อนรับเชฟคนใหม่ ‘มิชลิน 2 ดาว’ จากลอนดอน ‘เชฟอเล็กซ์ ดิลลิง’ แนะนำอาหารเซ็ตกลางวันและมื้อค่ำ นักชิมห้ามพลาด
เชฟอเล็กซ์ ดิลลิง (Alex Dilling) จากห้อง อาหารฝรั่งเศส มิชลิน 2 ดาว จากลอนดอน นำทีมแนะนำเซ็ตเมนูใหม่ ที่ห้องอาหารฝรั่งเศสระดับตำนาน เลอ นอร์มังดี (Le Normandie) โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ
ได้แก่ เทสติ้งเมนู (Tasting Menu) สำหรับมื้อกลางวันและมื้อค่ำแบบ 3, 4 และ 7 คอร์ส ตามวันและเวลาที่ต่างกันไป และเมนูอาหารจานเดียว (À la carte) อีก 12 รายการ นำเสนออาหารฝรั่งเศสผสานนวัตกรรม ในแนวทางการปรุงอันมีเอกลักษณ์ของเชฟ ให้บริการ วันนี้ถึงวันที่ 31 มกราคม 2568
เชฟอเล็กซ์ ดิลลิง คว้ารางวัลดาว มิชลิน 2 ดาว ที่ โฮเทล คาเฟ่ รอยัล (Hotel Café Royal) ในลอนดอน ภายในระยะเวลาเพียง 6 เดือนหลังเปิดให้บริการ นับเป็นความสำเร็จที่หาได้ยากในวงการอาหารระดับโลก
ปีนี้ เชฟอเล็กซ์ บินมาแนะนำเมนูใหม่ พร้อมมือขวา เชฟจอร์จ เคย์ (George Kay) และทีมงาน เชฟอเล็กซ์เล่าถึงตัวเองว่า
“ความรักในการทำอาหารของผมมีที่มาตั้งแต่ตอนเด็กแล้ว โดยแรงบันดาลใจต่าง ๆ นั้นสั่งสมเพิ่มขึ้นเรื่อยมา ทั้งจากการออกเดินทางและเวลาได้เจอเทคนิคการทำอาหารที่น่าสนใจอื่น ๆ มากมาย
อาหารฝรั่งเศส ถือเป็นศิลปะการทำอาหารระดับสูงสำหรับผมมาโดยตลอด เพราะเน้นทั้งความสมบูรณ์ของวัตถุดิบและวิธีการทำที่ละเอียดประณีตทุกขั้นตอน
เชฟที่ผมชื่นชม ได้แก่ เชฟอลัง ดูคาส และ เชฟเอแลน ดาร์รอซ ซึ่งถือเป็นเบ้าหลอมที่สำคัญของผมในเส้นทางอาชีพนี้ โดยเป็นทั้งที่ปรึกษาอย่างดีเยี่ยม และปลูกฝังให้ผมเห็นถึงความสำคัญของวินัยและความเด็ดขาดในการทำงาน
ในโอกาสที่ได้ร่วมงานกับห้องอาหาร เลอ นอร์มังดี ผมรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้นำเสนอการผสมผสานระหว่างเทคนิคแบบดั้งเดิมกับนวัตกรรมร่วมสมัย เพื่อเชิดชูแก่นแท้ของอาหารฝรั่งเศสไปพร้อมกับนำเสนอความทันสมัย ทั้งหมดนี้ล้วนสะท้อนถึงเส้นทางอาชีพการทำอาหารของผมที่ผ่านมา"
เมนูซิกเนเจอร์ ของเชฟอเล็กซ์ ดิลลิง นำเสนอการผสมผสานรสชาติอาหารฝรั่งเศสตามขนบและนวัตกรรมสมัยใหม่ มีอาทิ คริสตัล คาเวียร์ (Krystal Caviar) สุดหรู รับประทานคู่กับกุ้งหวานญี่ปุ่น ครีมสดและขิง
หลายเมนูนำเสนอเรื่องราวระหว่างวัตถุดิบจากผืนดินและท้องทะเล เช่น ฟัวกราส์ ทอร์ชง (Foie Gras Torchon) เนื้อสัมผัสเนียนละเอียด เสิร์ฟพร้อมลูกแพร์พันธุ์คอนเฟอเรนซ์ ดีปลี และขนมปังบริยอช
ตับอ่อนลูกวัวพันธุ์ลีมูซีน (Limousine Veal Sweetbread) เสิร์ฟพร้อมปลาซาร์ดีน พืชตระกูลส้ม และเคเปอร์
บุยยาเบส (Bouillabaisse) ปลาค็อดบริททานี เสิร์ฟพร้อมพาสต้าทรงกลมขนาดเล็กจากเกาะซาร์ดิเนียของอิตาลี เป็นภาพแทนของการใช้กรรมวิธีแบบคลาสสิกมาปรับให้เข้ากับความร่วมสมัยใหม่อย่างประณีต
เนื้อเป็ดจากแบรนด์เมซง เบอร์โกด์ (Duck from Maison Burgaud) เสิร์ฟพร้อมกะหล่ำปลียัดไส้มันฝรั่งรมควัน ราดด้วยซอสรสชาติเข้มข้นก่อนรับประทาน
เมนคอร์สได้แก่ เนื้อคาโกชิม่า วากิว (Kagoshima Wagyu Beef) กับคริสตัลคาเวียร์ ซอสซัลซ่าสไตล์ฝรั่งเศส และมันฝรั่งทอดกรอบ ยังมีเมนู
บัลโลทีน บลูล็อบสเตอร์จากประเทศสก็อตแลนด์ม้วน (Scottish Blue Lobster Ballotine) เสิร์ฟพร้อมซอสวาดูวองและแครอททราย
ขนมหวานน่าลิ้มลอง ได้แก่ ช็อกโกแลตกัวนาจา ความเข้มข้น 70% (Guanaja 70% Chocolate) ให้รสชาติและเนื้อสัมผัสอันซับซ้อน หอมกลิ่นช็อกโกแลตเมื่อเริ่มรับประทาน จากนั้นจะได้ความเปรี้ยวจากไวน์เปโดร ซิเมเนซ และยังได้ความกรุบกรอบอย่างคาดไม่ถึงจากเนื้อขนมปังบริยอชที่ซ่อนอยู่ด้านใน
เนื้อเป็ดกับกะหล่ำปลียัดไส้มันฝรั่ง
ห้องอาหาร เลอ นอร์มังดี เปิดให้บริการมื้อกลางวันและมื้อค่ำ วันพุธ – วันอาทิตย์ โดยราคาสำหรับอาหารคอร์สต่าง ๆ มีดังนี้
มื้อกลางวัน วันพุธ - วันศุกร์
● 3 คอร์ส : 3,800 บาท++/ท่าน
● 3 คอร์ส พร้อมชีส : 5,300 บาท++/ท่าน (รวม 4 คอร์ส)
● ไวน์แพร์ริ่ง 3 แก้ว : 2,100 บาท++/ท่าน
มื้อกลางวันและมื้อค่ำ วันพุธ - วันอาทิตย์
● 4 คอร์ส : 6,500 บาท++/ท่าน
● 4 คอร์ส พร้อมชีส : 8,000 บาท++/ท่าน (รวม 5 คอร์ส)
● ไวน์แพร์ริ่ง 4 แก้ว : 3,100 บาท++/ท่าน
มื้อกลางวันและมื้อค่ำ วันพุธ – วันอาทิตย์ (เทสติ้งเมนู)
● 7 คอร์ส : 8,000 บาท++/ท่าน
● 7 คอร์ส พร้อมชีส : 9,500 บาท++/ท่าน (รวม 8 คอร์ส)
● ไวน์แพร์ริ่ง 6 แก้ว : 5,000 บาท++/ท่าน
● ไวน์แพร์ริ่งระดับสูง 6 แก้ว : 7,500 บาท++/ท่าน







