‘พาเนตโทเน่’ โดย ‘บลู บาย อลัง ดูคาส’ จากยีสต์ที่เพาะเลี้ยงนาน 14 ปี

‘พาเนตโทเน่’ โดย ‘บลู บาย อลัง ดูคาส’ จากยีสต์ที่เพาะเลี้ยงนาน 14 ปี

ห้องอาหารติดดาวมิชลิน 'บลู บาย อลัง ดูคาส' (Blue by Alain Ducasse) โดยเชฟคริสตอฟ กรีโล ชวนชิม 'ขนมปังพาเนตโทเน่’ ที่รังสรรค์จากกระบวนการเพาะเลี้ยงยีสต์ธรรมชาติ นาน 14 ปี

บลู บาย อลัง ดูคาส โดยเชฟคริสตอฟ กรีโล (Christophe Grilo) Executive Pastry & Artisan Baker แห่ง Blue by Alain Ducasse นำเสนอความประณีตสุดพิเศษผ่าน ขนมปังพาเนตโทเน่ ที่ผ่านกระบวนการทำอย่างประณีต จากการเพาะเลี้ยงเชื้อยีสต์ธรรมชาตินาน 14 ปี

สั่งจองล่วงหน้าเพื่อซื้อกลับบ้านหรือเดลิเวอรี่วันนี้ที่ ไอคอนสยาม

‘พาเนตโทเน่’ โดย ‘บลู บาย อลัง ดูคาส’ จากยีสต์ที่เพาะเลี้ยงนาน 14 ปี

   ขนมปังพาเนตโทเน่ โดยเชฟคริสตอฟ กรีโล บลู บาย อลัง ดูคาส

ขนมปังพาเนตโทเน่ ผลิตจากวัตถุดิบคุณภาพเยี่ยมที่ผ่านกระบวนการหมักอย่างช้า ๆ เริ่มจากปาสต้า มาเดร (Pastra Madre) ยีสต์ตั้งต้น ซึ่งเป็นยีสต์ธรรมชาติที่เชฟเพาะเลี้ยงมายาวนานกว่า 14 ปี แล้วนำมาทำขนมปัง โดยกรรมวิธีทั้งหมดใช้เวลานานกว่า 40 ชม. จนได้ขนมปังเนื้อนุ่ม บางเบา เปี่ยมด้วยรสชาติ

เชฟคริสตอฟ บอกว่า ด้วยกระบวนการทำอันละเมียดละไมนี้ ทำให้ด้านนอกกรอบเล็กน้อย สร้างสัมผัสที่แตกต่างกับเนื้อขนมปังด้านในที่นุ่มละมุน และมีผลไม้เชื่อมที่ผสมผสานอยู่ในขนมปัง ให้สัมผัสสดชื่นด้วยรสชาติของซีทรัสสดใส ตัดกับรสหวานเบา ๆ ที่ติดอยู่ปลายลิ้นของเนื้อขนมปัง

‘พาเนตโทเน่’ โดย ‘บลู บาย อลัง ดูคาส’ จากยีสต์ที่เพาะเลี้ยงนาน 14 ปี

    วิธีทำขนมปังพาเนตโทเน่

การทำขนมปังที่ดูเหมือนทำงานศิลปะนั้น เชฟบอกว่า เริ่มต้นจากสตาร์ทเตอร์ยีสต์ หรือยีสต์ตั้งต้น ที่เพาะเลี้ยงมาตั้งแต่ปี 2552 เรียกว่า Pasta Madre ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของพาเนตโทเน่ ที่ให้สัมผัสและรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ของขนมอบ

วิธีทำคือขั้นแรก นำสตาร์ทเตอร์ยีสต์มาผสมกับน้ำ แป้ง ไข่ และหมักทิ้งไว้กว่า 12 ชม. ตรงนี้เป็นขั้นตอนสำคัญในการสร้างเลอแวง (ซาวร์โดสตาร์ทเตอร์) ที่เป็นส่วนผสมเริ่มต้น

เมื่อหมักได้ที่แล้ว จะนำแป้งโดเข้าสู่ขั้นตอนที่เรียกว่า bagnetto (บันเนตโต) คือ นำไปล้างอย่างเบามือเพื่อขจัดยีสต์ส่วนเกิน และปรับสมดุลความเป็นกรดด่าง และเตรียมเข้าสู่ขั้นตอนต่อไป

‘พาเนตโทเน่’ โดย ‘บลู บาย อลัง ดูคาส’ จากยีสต์ที่เพาะเลี้ยงนาน 14 ปี      เชฟคริสตอฟ กรีโล

เมื่อเลอแวงขึ้นฟูได้ที่ เชฟคริสตอฟจะใส่ส่วนผสมอื่น ๆ เช่น เปลือกส้มเชื่อมแห้ง ลูกเกด และผิวส้มเชื่อมลงไปในส่วนผสม จากนั้นจะนำไปเทลงในพิมพ์กระดาษและพักไว้เพื่อให้เซ็ตตัวอีก 8 ชั่วโมงก่อนจะนำไปอบ

ขั้นตอนสุดท้ายที่สำคัญคือช่วงพักให้ขนมปังเย็นตัวลง ซึ่งเชฟจะนำก้อนพาเนตโทเน่มาแขวนห้อยหัวอีก 8 ชั่วโมงหลังจากนำออกจากเตาอบ ขั้นตอนนี้จะสร้างโพรงอากาศเล็ก ๆ ทั่วก้อนขนมปัง ซึ่งช่วยไม่ให้พาเนตโทเน่ยุบตัวและทำให้ขนมปังสูตรซิกเนเจอร์นี้มีเนื้อนุ่มฟูบางเบา

พาเนตโทเน่ (Panettone) หมายถึง ขนมปังก้อนใหญ่ ต้นกำเนิดที่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี มีประวัติศาสตร์ยาวนานมาตั้งแต่สมัยจักรวรรดิโรมัน เป็นขนมปังสัญลักษณ์ของการเฉลิมฉลองในช่วงเทศกาลคริสต์มาสของอิตาลี และผู้คนส่วนใหญ่ยังนิยมมอบให้กันเป็นของขวัญอีกด้วย

ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป นักชิมสามารถลิ้มรสขนมอบสุดพิเศษระดับร้านดาวมิชลิน บลู บาย อลัง ดูคาส ได้ทุกวัน โดยสั่งจองล่วงหน้าเพื่อควบคุมรักษาคุณภาพ รสชาติ และความสดใหม่ ในทุกอังคารและวันศุกร์ ตั้งแต่เวลาเที่ยงวันเป็นต้นไป

‘พาเนตโทเน่’ โดย ‘บลู บาย อลัง ดูคาส’ จากยีสต์ที่เพาะเลี้ยงนาน 14 ปี มีให้เลือก 2 ขนาดคือ ขนาด 350 กรัมราคา 1,950 บาทสุทธิ และขนาด 500 กรัมราคา 2,500 บาทสุทธิ โดยสามารถมารับที่ร้าน หรือเลือกบริการเดลิเวอรี่

หรือสั่งซื้อที่ร้าน Blue by Alain Ducasse ชั้น 1 ไอคอนสยาม โทร.065 731 2346, https://www.blue-alainducasse.com/