13 เหรียญ ตำนานร้านอาหาร 47 ปี โฉมใหม่ในชื่อ 13 Coins อาหารแห่งความทรงจำ

13 เหรียญ ตำนานร้านอาหาร 47 ปี โฉมใหม่ในชื่อ 13 Coins อาหารแห่งความทรงจำ

ย้อนประวัติร้านอาหาร ‘13 เหรียญ’ ร่วมรำลึก 47 ปีแห่งความทรงจำแด่ สมชาย นิติวนะกุล ผู้ก่อตั้งและเจ้าของตำรับอาหารสไตล์อเมริกันรสชาติคนไทย ฝ่าดราม่าร้านมืดเชยโบราณสู่โฉมใหม่ในชื่อ 13 Coins

ชื่อร้านอาหาร 13 เหรียญ นักชิมรุ่นอายุ 50 ปีขึ้นไปคงคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี แต่ละคนต่างมีความทรงจำกับร้าน '13 เหรียญ' แตกต่างกันไป บางคนใช้เป็นร้านอาหารของบุคคลอันเป็นที่รักในครอบครัวทุกวัย บางคนใช้ฝากท้องกินข้าวต้มกลางคืนหลังเลิกงานกะดึกหรือออกจากสถานบันเทิงยามราตรีก่อนกลับบ้าน มีหลากหลายสาขาในย่านต่างๆ ของกรุงเทพฯ ผ่านที่ไหนแวะที่นั่น

แต่ระยะไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ มีข่าว ร้านอาหาร 13 เหรียญ ทยอยปิดสาขาลงเรื่อยๆ ชื่อ '13 เหรียญ' ค่อยๆ จางหายไปจากวงการร้านอาหาร

ล่าสุด หากผ่านไปใน ‘ซอยสุขุมวิท 49’ มีร้านอาหารทาสีเขียวสดใสอยู่ร้านหนึ่ง แฟนคลับร้านอาหาร '13 เหรียญ’ คงแปลกใจที่เห็นชื่อร้านเขียนด้วยแบบตัวอักษรคุ้นเคย แต่ครั้งนี้เขียนเป็นภาษาอังกฤษว่า 13 Coins

แม้ไม่ใช่ฟ้อนท์เดิมเป๊ะ แต่ก็มีกลิ่นไอของร้านอาหารในตำนาน เพราะนี่คือร้านอาหาร  '13 เหรียญ' โฉมใหม่ ทายาทของผู้ก่อตั้งร้านอาหาร  '13 เหรียญ' ดำเนินงานด้วยตนเอง

 

กำเนิดร้านอาหาร '13 เหรียญ'

13 เหรียญ ตำนานร้านอาหาร 47 ปี โฉมใหม่ในชื่อ 13 Coins อาหารแห่งความทรงจำ ร้านอาหาร 13 เหรียญ ร้านแรกย่านรามคำแหง

ย้อนกลับไปในปีพ.ศ.2519 คุณกำลังทำอะไรอยู่ที่ไหน เกิดหรือยัง แต่สำหรับ สมชาย นิติวนะกุล กำลังอยู่ในวัยหนุ่มและเปิดร้านอาหารร้านแรกในชีวิตของเขาในกรุงเทพฯ ให้ชื่อร้านว่า 13 เหรียญ ร้านประสบความสำเร็จ เป็นที่ชื่นชอบของนักชิม สามารถขยายสาขาไปได้อีกมากกว่า 30 แห่งในเวลาต่อมา

ประสบความสำเร็จในระดับที่สามารถต่อยอดธุรกิจร้านอาหารเป็นธุรกิจรีสอร์ท เปิดค่ายมวย ชื่อในวงการหมัดมวยคือ 13 เหรียญทาวเวอร์ มีนักมวยดัง อาทิ วังจั่นน้อย, สิงห์สารวัตร, พรเสน่ห์, ศรราม ขึ้นชกบนเวทีดัง


 

13 เหรียญ ตำนานร้านอาหาร 47 ปี โฉมใหม่ในชื่อ 13 Coins อาหารแห่งความทรงจำ กิฟท์ พรวฤณ นิติวนะกุล

“คุณพ่อไม่ได้เกิดมาในครอบครัวร่ำรวยค่ะ เคยลำบากมาก่อน คุณแม่ยังต้องนั่งรถเมล์ไปซื้อของที่ปากคลองตลาดมาเข้าร้าน พอเริ่มที่จะช่วยเหลือคนอื่นได้ คุณพ่อก็เลยอยากให้โอกาสคน จึงเปิดเป็นค่ายมวย” กิฟท์ พรวฤณ นิติวนะกุล บุตรสาวคนที่สามของคุณสมชายและภริยา คุณกัลยวรรธน์ ให้สัมภาษณ์กับ @taste กรุงเทพธุรกิจ ถึงประวัติของผู้สร้างตำนานร้าน 13 เหรียญ และเป็นผู้ริเริ่มร้าน 13 Coins ในซอยสุขุมวิท 49

ตำนานนี้ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ บิดามารดาของคุณสมชาย นิติวนะกุล เป็นคนจีนไหหลำ ขึ้นเรือสำเภาเดินทางมาจากประเทศจีน มาอาศัยอยู่ย่านวัดแขก สีลม บิดาทำงานเป็นพ่อครัวที่โรงแรมโอเรียนเต็ล ขณะที่มารดารับจ้างเย็บผ้า

หลังเรียนจบชั้น ม.6 โรงเรียนวัดสุทธิวราราม คุณสมชายตัดสินใจเดินทางไปเผชิญโชคที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เรียนภาษาและทำงานไปด้วยในร้านอาหารหลายแห่งในเมืองซีแอตเทิล เริ่มตั้งแต่ล้างจาน เสิร์ฟอาหาร จนกระทั่งได้เป็นพ่อครัว

ใช้ชีวิตทำงานที่ร้านอาหารในซีแอตเทิลได้ 10 ปี ได้วิชาทำอาหารมากมาย คุณสมชายตัดสินใจเดินทางกลับประเทศไทยพร้อมเงินเก็บก้อนหนึ่งเพื่อมาเปิดร้านอาหารในเมืองไทย

“ที่ซีแอตเทิล คุณพ่อเคยทำงานอยู่ในร้านอาหารชื่อ ‘13 Coins’ เหมือนพ่อประทับใจที่นี่มาก เป็นความทรงจำที่ดี จึงนำชื่อนี้มาตั้งเป็นชื่อร้านอาหารของตัวเองโดยใช้ชื่อว่า 13 เหรียญ” คุณกิฟท์เล่าที่มาของชื่อร้าน 

13 เหรียญ ตำนานร้านอาหาร 47 ปี โฉมใหม่ในชื่อ 13 Coins อาหารแห่งความทรงจำ สมชาย, เกล และแจ๊ค

ร้าน ‘13 เหรียญ’ ร้านแรก ตั้งอยู่ในตึกแถวย่านรามคำแหง ใกล้กับรามคำแหง ซอย 29 ซึ่งคุณสมชายเช่าเพื่อเปิดเป็นร้านอาหาร 

“คุณพ่อคุณแม่เคยเล่าให้ฟังว่า สมัยก่อนเขาทำกันสองคน บวกกับอุ้มลูกอยู่ในร้านไปด้วย พ่อแม่ เด็กสองคนวิ่งอยู่ในร้าน” คุณกิฟท์ เล่า

เด็กสองคนที่วิ่งเล่นอยู่ในร้านขณะนั้นคือ เกล วรางค์รัตน์ และ แจ๊ค คเณศ พี่สาวและพี่ชายของคุณกิฟท์ซึ่งอายุห่างจากพี่ทั้งสองถึง 12 ปี
 

อาหารอเมริกัน รสชาติคนไทย

13 เหรียญ ตำนานร้านอาหาร 47 ปี โฉมใหม่ในชื่อ 13 Coins อาหารแห่งความทรงจำ ไก่อลาสก้า กับสปาเกตตีซอสไก่

‘13 เหรียญ’ ให้บริการอาหารอเมริกัน แต่ปรับรสชาติเล็กน้อยให้ถูกลิ้นคนไทย เช่นเพิ่มความจัดจ้านของรสชาติด้วยเครื่องเทศและสมุนไพรไทย อาหารทุกรายการคุณสมชายปรับสูตรด้วยตนเอง

จานที่เป็นซิกเนเจอร์ตั้งแต่เปิดร้านแรกและเสิร์ฟมาถึงทุกวันนี้คือ ไก่อลาสก้า (230 บาท) สะโพกไก่หมักเครื่องเทศสูตรเฉพาะ ชุบไข่ แป้งและเกล็ดขนมปัง ก่อนนำไปทอด เสิร์ฟกับชีสและสปาเกตตีซอสไก่ที่คุณสมชายตีสูตรซอสขึ้นเองเช่นกัน

“ไก่อลาสก้า เป็นเมนูเด็ดประจำร้าน ลูกค้าบางท่านบอกรับประทานมาตั้งแต่อายุ 10 ขวบ เป็นเมนูในดวงใจ ตอนนี้ไม่ว่าคนอายุเท่าไหร่ก็สั่งเมนูนี้ค่ะ” คุณกิฟท์กล่าว

เมนูที่มีกรรมวิธีการปรุงในลักษณะเดียวกับ ‘ไก่อลาสก้า’ เพียงแต่เปลี่ยนประเภทของเนื้อสัตว์ คือ กอร์ดฟาเทอ (สะกดตามเมนู) ออกเสียง ‘ก็อดฟาร์เธอร์’ เป็นเนื้อหมู จับคู่เสิร์ฟกับสปาเกตตีซอสหมู และ ดีไลท์ จานนี้เป็นเนื้อปลา เสิร์ฟกับสปาเกตตีซอสเนื้อ

ตัวซอสสปาเกตตีของทั้ง 3 เมนู เป็นซอสที่คุณสมชายตีสูตรขึ้นเอง จับคู่ไว้ให้กับเนื้อสัตว์ทั้ง 3 ประเภท ถึงปี 2566 นี้ก็เป็นปีที่ 47 แล้ว แต่นักชิมก็สามารถเปลี่ยนได้ เช่น สั่งไก่อลาสก้า แต่อยากกินคู่กับสปาเกตตีซอสเนื้อ ก็สามารถแจ้งผู้รับออร์เดอร์ได้

“ลืมถามพ่อไว้เหมือนกัน ถามทุกอย่าง แต่ลืมถามทำไมชื่อ ไก่อลาสก้า กอร์ดฟาเทอ และดีไลท์ กิฟท์ไปอเมริกากับพ่อมาตั้งแต่เด็ก ไปร้านอาหารหลายแห่ง แต่ก็ไม่มีเมนูชื่อเหล่านี้” คุณกิฟท์ตอบเมื่อถามถึงที่มาของชื่อเมนูทั้งสาม

13 เหรียญ ตำนานร้านอาหาร 47 ปี โฉมใหม่ในชื่อ 13 Coins อาหารแห่งความทรงจำ หอยลายอบเนยกระเทียม - ขนมปังกระเทียม

เมนูที่ขายดีตีคู่มากับ ‘ไก่อลาสก้า’ จนแยกไม่ออกว่าอะไรขายดีกว่ากันคือ หอยลายอบเนยกระเทียม (240 บาท) หลายคนติดใจในเครื่องเนยกระเทียมถึงรสถึงเครื่อง โดยเฉพาะคนชอบกระเทียม ไม่ได้ใส่กระเทียมมาเล่นๆ

คุณกิฟท์เล่าว่าเมื่อก่อนสั่งหอยลายมาคราวละเยอะมากๆ ลูกครัวนั่งแกะหอยลายกันทีละตัว ล้างทำความสะอาดอย่างดีไม่ให้มีดินติด ปัจจุบันมีโรงงานแกะหอยลายมาให้เรียบร้อย สะดวกขึ้น

เมนู ‘หอยลายอบเนยกระเทียม’ เสิร์ฟกับ ขนมปังกระเทียม ซึ่งเคยมีพิธีกรชื่อดังท่านหนึ่งโพสต์ผ่านโซเชียลมีเดียว่าเป็นขนมปังกระเทียมอร่อยที่สุดที่เคยรับประทานมา

13 เหรียญ ตำนานร้านอาหาร 47 ปี โฉมใหม่ในชื่อ 13 Coins อาหารแห่งความทรงจำ ไก่มาเรงโก้ (Chicken Marengo)

อีกหนึ่งเมนูที่ลูกค้าเก่าแก่ถามหาคือ ไก่มาเรงโก้ (Chicken Marengo, 420 บาท) จานนี้ได้อาหารหลากหลายมาก มีทั้งไก่ทอด เสิร์ฟคู่กับกุ้งทอด เบคอน ไข่ดาว ขนมปังกระเทียม 1 ชิ้น เฟรนช์ฟรายด์ ผักต้มเนย ชูรสชาติด้วยซอสบาร์บีคิว

13 เหรียญ ตำนานร้านอาหาร 47 ปี โฉมใหม่ในชื่อ 13 Coins อาหารแห่งความทรงจำ 13 เหรียญ ตำนานร้านอาหาร 47 ปี โฉมใหม่ในชื่อ 13 Coins อาหารแห่งความทรงจำ ผักโขมอบชีส

ใครคิดถึงความครีมมี่และชีสหอมๆ ของ ผักโขมอบชีส (260 บาท) ก็ยังมีบริการ เป็นสูตรการตีผักโขมตั้งแต่เปิดร้าน ’13 เหรียญ’

13 เหรียญ ตำนานร้านอาหาร 47 ปี โฉมใหม่ในชื่อ 13 Coins อาหารแห่งความทรงจำ ตอร์ติญ่า ชิพส์

อาหารเรียกน้ำย่อยจานเด็ดก็ยังอยู่ ตอร์ติญ่า ชิพส์ (120 บาท) มีทีเด็ดที่ซอสซัลซ่าสูตรโฮมเมด 47 ปีที่คุณสมชายปรุงรสเอาไว้ มีมะเขือเทศสดๆ เป็นหลัก คลุกเคล้าด้วยเครื่องเทศ รสชาติถูกปากคนไทย หลายคนขอซื้อแต่ซัลซ่ากลับไปกินกับอย่างอื่นก็มี

 

จาก '13 เหรียญ' สู่ 13 Coins

คุณกิฟท์ พรวฤณ สำเร็จการศึกษาปริญญาตรี สาขาการจัดการธุรกิจ (Business Management) จาก University of Westminster ประเทศอังกฤษ ปริญญาโทสาขาพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ช่วงเวลานั้น ร้านอาหาร ’13 เหรียญ’ เหลืออยู่ 3 สาขา คือ สาขางามวงศ์วาน สาขาบางใหญ่ และ สาขาพระราม 9

13 เหรียญ ตำนานร้านอาหาร 47 ปี โฉมใหม่ในชื่อ 13 Coins อาหารแห่งความทรงจำ 13 เหรียญ สาขางามวงศ์วาน 

คุณกิฟท์เข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระพ่อแม่ด้วยการเรียนรู้ร้านอาหารและรับดูแล กองถ่ายทำละคร ที่เข้ามาติดต่อเช่าสถานที่สาขางามวงศ์วานและบางใหญ่เพื่อถ่ายทำละครและมิวสิกวิดีโอ ซึ่งก่อนเกิดโรคโควิด-19 ระบาด มีการเช่าสถานที่กันเกือบทุกวัน

พ.ศ.2563 เกิดความสูญเสียครั้งใหญ่ภายในครอบครัวนิติวนะกุล ยังความสูญเสียมายังวงการอาหาร ตลอดจนวงการมวย เมื่อคุณ สมชาย นิติวนะกุล เสียชีวิตจากอาการเจ็บป่วยด้วยโรคมะเร็ง

“ตอนนั้นกิฟท์เริ่มคิดแล้วว่า ที่สาขาพระราม 9 ด้วยความที่เนื้อที่ 14 ไร่ ใหญ่เกินไป มีทั้งรีสอร์ท ห้องสัมมนา ห้องอาหาร ค่ายมวย ค่าบำรุงรักษา ค่าใช้จ่ายสูง ดูแลค่อนข้างลำบาก ก็เลยขอปิดสาขานั้นมาเปิดร้านใหม่ที่ซอยสุขุมวิท 49”

13 เหรียญ ตำนานร้านอาหาร 47 ปี โฉมใหม่ในชื่อ 13 Coins อาหารแห่งความทรงจำ จาก 13 เหรียญ สู่ 13 COINS

ด้วยทำเลของซอยสุขุมวิท 49 ที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติพักอาศัยและเป็นทางผ่าน คุณกิฟท์จึงปรับชื่อร้านเป็น 13 Coins เพื่อให้เข้าใจง่าย แต่สำหรับคนไทยก็ยังเรียกร้านนี้ว่า ‘13 เหรียญ’ น้อยคนนักที่จะออกเสียง ‘เธอทีน คอยน์ส’

13 Coins ยังคงให้บริการอาหารซิกเนเจอร์ของ ‘13 เหรียญ’ มีเพียงเมนูเดียวที่ไม่ใช่สูตรของคุณสมชาย และมีเฉพาะสาขานี้สาขาเดียว นั่นก็คือ ข้าวผัดกะเพราไก่อลาสก้า (170 บาท) เป็นการผัดกะเพราแบบข้าวคลุก เสิร์ฟกับไข่ดาวและไก่อลาสก้าหั่นชิ้น จัดให้สำหรับคนอยากกิน 'ผัดกะเพรา' เป็นเมนูที่เริ่มมีชื่อเสียงในหมู่นักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่นี่ก็มีให้ชิม

คุณกิฟท์กล่าวว่า คุณพ่อคิดรายการอาหารไว้กว่า 300 เมนู ระหว่างเดินทางอยู่บนเครื่องบิน คิดเมนูออก ก็จดใส่กระดาษ พอกลับมาถึงร้านก็ลองทำ เมนูส่วนใหญ่ยังคงมีให้บริการที่สาขางามวงศ์วานและบางใหญ่ ส่วนสาขาที่ซอยสุขุมวิท 49 มีเฉพาะซิกเนเจอร์เมนูที่ดูจากสถิติแล้วว่าลูกค้านิยมสั่งมากที่สุด

 

ปรับโฉมร้านใหม่ ไม่มืด-ไม่คาวบอย

ร้าน 13 Coins หรือ '13 เหรียญ' โฉมใหม่เปิดบริการครั้งแรกเมื่อปีพ.ศ.2564 ด้านหน้ากรุกระจกใสขนาดใหญ่รับแสงธรรมชาติ ตัวร้านทั้งภายนอกและภายในทาสีเขียว ผนังชั้นล่างวาดเป็นลวดลายพันธุ์ไม้และดอกไม้ 

13 เหรียญ ตำนานร้านอาหาร 47 ปี โฉมใหม่ในชื่อ 13 Coins อาหารแห่งความทรงจำ 13 COINS หน้าร้านด้านนอก

13 เหรียญ ตำนานร้านอาหาร 47 ปี โฉมใหม่ในชื่อ 13 Coins อาหารแห่งความทรงจำ 13 COINS จากภายในร้าน

13 เหรียญ ตำนานร้านอาหาร 47 ปี โฉมใหม่ในชื่อ 13 Coins อาหารแห่งความทรงจำ กิฟท์ พรวฤณ นิติวนะกุล กับภาพถ่ายในอดีตของคุณพ่อ 

เมื่อขึ้นบันไดไปชั้นสอง จะพบผนังที่ประดับภาพถ่ายในอดีตของคุณสมชายตั้งแต่วัยเด็ก ช่วงเวลาเผชิญโชคในประเทศสหรัฐอเมริกา ร้าน '13 เหรียญ' สาขาแรก และค่ายมวย

เดินต่อเข้าไปเป็นส่วนที่นั่งรับประทานอาหาร โอบล้อมด้วยผนังลายเส้นสีเขียวสลับขาว เพดานตกแต่งด้วยผลมะนาวเหลืองจำลองเหมือนยกไร่มะนาวเหลืองไว้บนเพดาน

13 เหรียญ ตำนานร้านอาหาร 47 ปี โฉมใหม่ในชื่อ 13 Coins อาหารแห่งความทรงจำ พื้นที่นั่งรับประทานอาหารบนชั้น 2 ของ 13 COINS

กล่าวได้ว่าดีไซน์ของร้านพลิกโฉมไปจาก '13 เหรียญ' ในอดีตอย่างสิ้นเชิง เกิดดราม่าเบาๆ บนโลกโซเชียลมีเดีย

“ร้านมืด เหม็นอับ น่าเบื่อ ผ่านมา 30 ปีฉันโตแล้วร้านยังไม่พัฒนา ดูเชยมาก โบราณ พอเปลี่ยนปุ๊บ ดีอยู่แล้ว ทำไมเปลี่ยนล่ะ ทำไมไม่มืดๆ เหมือนเดิม เราก็รู้แล้วล่ะนานาจิตตัง” คุณกิฟท์เล่าจากการอ่านคอมเมนต์ในโลกโซเชียลมีเดีย

ร้าน '13 เหรียญ' ในอดีตตกแต่งสไตล์คาวบอย คันทรีแบบบตะวันตก เน้นลายสก็อตสีแดง อิฐก้อนโตๆ งานไม้สีเข้ม ซึ่งเป็นความแปลกใหม่ของพ.ศ.2519

13 เหรียญ ตำนานร้านอาหาร 47 ปี โฉมใหม่ในชื่อ 13 Coins อาหารแห่งความทรงจำ

ความสดใสสดชื่นของร้าน 13 Coins

“ที่สุขุมวิท 49 เป็นเหมือนร้านทดลองของกิฟท์ด้วยค่ะ ตอนนี้คุณพ่อไม่อยู่แล้ว ไม่มีใครให้ถาม เมื่อก่อนร้านเป็นสไตล์สีแดง กิฟท์ลองใช้คู่สีตรงข้าม คือสีเขียว เพิ่มลายดอกไม้ให้ดูสดชื่น เพิ่มแสงให้สว่าง เด็กรุ่นใหม่เห็นแล้วอยากชวนเพื่อนมาถ่ายรูป มานั่งเม้ามอย 

แถวนี้ชาวต่างชาติเยอะ คนญี่ปุ่น คนจีน เราก็ได้ลูกค้าใหม่ๆ เยอะนะคะ เดินผ่านแถวนี้เขาก็มาแวะมากินกาแฟกินของว่าง กินมื้อเร็วๆ กินสปาเก็ตตีซอสเนื้อกับกาแฟหนึ่งแก้ว แล้วก็ไป อย่างนี้ก็เจอเยอะค่ะ

ส่วนลูกค้าดั้งเดิมมารำลึกอดีตก็เยอะ แต่กลายเป็นว่าชั้นสอง โต๊ะไหนหลอดไฟขาด ไฟดับ มืดๆ จะแย่งกันนั่งโต๊ะนั้น จนบางทีเราไม่กล้าจะเปลี่ยนหลอดไฟให้ใหม่”

 

อาหารแห่งความทรงจำ

คุณกิฟท์กล่าวด้วยว่า สูตรอาหารต่างๆ ของ ‘13 เหรียญ’ และ 13 Coins ก็ยังเป็นสูตรดั้งเดิมของคุณพ่อ คิดว่ารสชาติ 95% ไม่เพี้ยนไปจากสมัยคุณพ่อเปิดร้านแรกๆ พ่อครัวที่ทำอาหารทุกวันนี้ก็บุกเบิกทำกันมากับคุณพ่อ เป็นพ่อครัวทีมเดิม กระจายอยู่ทั้งสามสาขา บางคนก็อายุ 60 ปีแล้ว

“ลูกค้าบางท่านบอกรสชาติไม่เหมือนเดิม อาจเป็นเพราะเราโตขึ้นหรือเปล่า อาจไม่ใช่รสชาติที่เราเคยชอบแล้วหรือเปล่า บางท่านอาจไม่ชอบไก่ทอดโปะชีสแล้ว แต่ชอบกินอาหารสุขภาพมากกว่า อาหารเราก็อาจไม่ตอบโจทย์แล้วก็ได้นะคะ”

ในเรื่องความอร่อยของอาหารร้าน ’13 Coins’ หรือ 13 เหรียญ คุณกิฟท์กล่าวตรงไปตรงมาว่า  

“เราไม่ใช่อาหารที่อร่อยที่สุดนะคะ ‘13 เหรียญ’ ก็คืออาหารธรรมดา แต่เป็นอาหารในความทรงจำของแต่ละครอบครัวเท่านั้นเอง 

มีลูกค้าเยอะนะคะที่พาพ่อแม่อายุ 70-80 มารับประทาน พ่อแม่เป็นอัลไซเมอร์ แต่ชอบกินอาหารร้านเรามาก เขาก็อยากพาท่านมารำลึกความหลัง 

สมัยนี้มีเชฟกระทะเหล็ก มีเชฟใหม่ๆ มากมาย เขาทำอาหารได้อร่อยกว่าเรา แปลกใหม่กว่าเรา แต่ที่เรามีคืออาหารความทรงจำของเราค่ะ”

 

13 เหรียญ ตำนานร้านอาหาร 47 ปี โฉมใหม่ในชื่อ 13 Coins อาหารแห่งความทรงจำ

ร้าน 13 Coins  (13 เหรียญโฉมใหม่)

  • ตั้งอยู่ภายในโครงการ The Racquet Club สุขุมวิท ซอย 49 (แยก 11) มีที่จอดรถ และเข้าได้จากสุขุมวิทซอย 39 
  • เปิดบริการ ทุกวัน เวลา 11.00-22.00 น.
  • ติดต่อ โทร.06 1542 4569
  • เฟซบุ๊ก 13Coins 13เหรียญ

ภาพ : ศุภกฤต คุ้มกัน