“เอี้ยวฮั้วสุกี้โบราณ” สูตรไหหลำ อร่อยมา 68 ปี

“เอี้ยวฮั้วสุกี้โบราณ” “สุกี้ไหหลำ” ที่สืบทอดมาจากรุ่นสู่รุ่น เคล็ดลับความ อร่อย อยู่ที่การ "หมักเนื้อ" พอต้มน้ำซุปเดือดเทเนื้อลงไปจากนั้นใส่ผักและวัตถุดิบที่ชอบ หมูหวานชวนชิม กดไลค์ให้กับเมนู เนื้อหมัก กับ น้ำจิ้มสูตรเด็ด ที่มีรสเผ็ดเค็มหอมกลิ่นเต้าหู้ยี้
เอี้ยวฮั้วสุกี้โบราณ "สูตรไหหลำ" อร่อยมา 68 ปี ความจริงอาจจะนานกว่านั้น เป้-สรีวรรณ ผาสุขกิจวัฒนา เล่าให้ หมูหวานชวนชิม ฟังว่า
สุกี้ไหหลำ เริ่มต้นจากอากง ชื่อ เอี้ยวฮั้ว แซ่ก๊วย โล้สำเภาจากเมืองจีนมาปักหลักอยู่ที่เยาวราชขายโจ๊กเนื้อก่อน ในช่วงสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ทหารญี่ปุ่นล้อมวงกิน สุกี้ยากี้ พวกเขามาขอเนื้อไปใส่สุกี้ แล้วบอกว่าเนื้อ อร่อย มาก
“อากงก็เลยเกิดไอเดียว่าอยากจะทำสุกี้ยากี้ขาย ซึ่งมันเป็นสุกี้เจ้าแรกของเมืองไทย ที่เขาทำขึ้นมา ซึ่งสุกี้มี 2 ประเภทถ้าแยกกันจริงๆ จะมีสุกี้ไหหลำ กับสุกี้กวางตุ้ง นำใสๆ เอาทุกอย่างมาต้ม จิ้มกับน้ำจิ้ม
แต่ไหหลำจะเน้น 3 อย่างคือการ หมักเนื้อ สองน้ำจิ้มเต้าหู้ยี้ สามเน้นเครื่องเต้าเจี้ยว ส่วนประกอบหลักคือกระเทียมปรุงรส เต้าเจี้ยวบด เวลาหมักเนื้อเราจะใส่เครื่องเต้าเจี้ยวแล้วใส่ไข่ลงไป คลุกๆผสมกันแล้วใส่ลงไปในหม้อน้ำซุป”
เอี้ยวฮั้วสุกี้โบราณ "สูตรไหหลำ" อร่อยมา 68 ปี ยังใช้วิธีการปรุงแบบโบราณรุ่นอากง “เอี้ยวฮั้ว แซ่ก๊วย” ร้านนี้เริ่มนับอายุตั้งแต่ปี 1955 ไม่รวมสมัยอากงขายโจ๊กเนื้อและ สุกี้ยากี้ ยุคเริ่มแรก ขายที่เยาวราช จากนั้นย้ายไปอยู่แถวพระราม 4 ล่าสุดย้ายมาอยู่ที่ สวนหลวงสแควร์ ตรง จุฬาซอย 12
เป้-สรีวรรณ ผาสุขกิจวัฒนา เล่าให้ หมูหวานชวนชิม ฟังว่า คนสมัยก่อนกิน สุกี้ยากี้ เพื่อคลายหนาว เป็นวัฒนธรรมการกินที่มาจากแถบมองโกเลีย นับพันปี วัฒนธรรมนี้ค่อยๆไหลลงมาตามมณฑลต่างๆของจีน
ดังนั้นวิธีการกิน หรือสูตรก็จะปรับรูปแบบไปตามความนิยมของผู้คนในแถบต่างๆ เนื้อสัตว์ที่ให้ความอบอุ่นเมื่อรับประทานเข้าไปก็คือ แพะ กับ วัว ทว่าสำหรับเมืองไทยแล้ว เนื้อแพะ ร้อนเกินไปสำหรับประเทศไทย ขอบอกเลยว่า เนื้อหมัก ดีๆ กับ น้ำจิ้มสูตรเด็ด ร้านนี้เจ๋งจริงๆ
เอี้ยวฮั้วสุกี้โบราณ คัดสรรเนื้อวัวลูกมะพร้าว (ส่วนสะโพก) ที่วัว 1 ตัวจะมีแค่ 2 ชิ้น ถือว่าเป็นเนื้อส่วนที่นุ่มที่สุด เป้-สรีวรรณ ผาสุขกิจวัฒนา เล่าว่า พอได้เนื้อมาก็ต้องทำการเลาะเอ็น และเลาะมันออกให้หมด
“สั่งเนื้อมา 100 กิโล เลาะแล้วเหลือขายไม่ถึง 100 กิโล เหลือประมาณ 85 % ส่วนที่เลาะออกก็เอาไปทำเมนูอื่นให้พนักงานทาน เราใส่ใจในคุณภาพของวัตถุดิบ อย่างไข่ไก่สมัยก่อนจะมีสีเหลือง แต่ไข่แดงสมัยนี้เป็นสีส้ม เกิดจากอาหารของไก่ เราต้องเลือกฟาร์มที่เลี้ยงอาหารออร์แกนิค เพื่อสุขภาพที่ดีของลูกค้าก็เลยยอมจ่ายแพงขึ้น”
ลูกชิ้นกุ้ง ทำเอง มีส่วนผมของกุ้งขาวและหมู เป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของทางร้าน ส่วน ไก่ทอด เป็นสูตรดั้งเดิมของรุ่นที่ 1 เป็นไก่ทอดที่แห้งไม่แฉะ ถูกใจ หมูหวานชวนชิม เป็นยิ่งนัก
ร้านนี้ทำน้ำจิ้มเองทุกอย่าง ทั้งน้ำจิ้มไก่ น้ำจิ้มบ๊วย (ใช้ไฟอ่อนเคี่ยว 4 ชั่วโมงไม่มีแบะแซ)ด้วยเหตุผลที่ว่า คนขายอยากกินแบบไหนก็ทำขายแบบนั้น หากซื้อของที่ทำสำเร็จมาแล้วอาจจะเสี่ยงต่อการปนเปื้อนต่างๆ
“ไก่อากง” เป็นสูตรลับ หมักไก่ทั้งตัว เป็นเมนูที่ทำนานประมาณ 30 นาที เพราะต้องทอดให้แห้ง ใครอยากสั่งเฉพาะปีกไก่ก็จะมีเมนู “เมียอากง”
มีโอกาสได้ชิมเมนูใหม่ “เกี๊ยวฮ่องเต้” เป็นเกี๊ยวกุ้งของทางร้าน ราดด้วยคั่วพริกเกลือ โรยขิงซอย รับประทานคู่กับจิ๊กโฉ่อร่อยมากมาย “ปอเปี๊ยะกุ้ง” ใช้กุ้งทั้งตัวผสานกับหมูสับปรุงรส เมนูนี้ก็ขายมาตั้งแต่รุ่นอากง
สุกี้ไหหลำ ร้านนี้ขายแบบตามสั่งและเซตสำหรับ 1 ท่านหรือ 2 ท่าน ราคาไม่แรงเริ่มต้นไม่เกิน 300 บาท เมนูใหม่ “บะหมี่จักรพรรดิ์” มีบะหมี่หยก เกี๊ยวฮ่องเต้ ลูกชิ้นกุ้งคั่วพริกเกลือ ผสมผสานเข้ากัน อร่อย ดี
ทายาทรุ่นที่ 3 วัย 50 ปี เรียนมาทางด้านจิตวิทยา แล้วไปทำงานเป็นไกด์ และทำงานออฟฟิศ ในที่สุดก็คิดจะเป็นเจ้าของธุรกิจ อยากเปิดร้านกาแฟ ในที่สุดหันกลับมามองธุรกิจดั้งเดิมของร้านที่บรรพบุรุษสร้างมา
ก็เลยคิดกลับมาสานต่อ เพราะเขาเองก็เติบโตมาในร้านสุกี้แห่งนี้ ปัจจุบันมี 2 สาขา รวมทั้งที่สาขาลาดพร้าว 71 ภูมิใจที่ได้ต่อยอดธุรกิจของบรรพบุรุษ “ยำเนื้อนุ่ม” ก็เป็นเมนูใหม่ที่คุณเป้ภูมิใจนำเสนอ







