เติม ‘โปรไบโอติกส์’ ตอนที่ 3 : ซูเปอร์ฟู้ด 'ดาร์กช็อกโกแลต'

เติม ‘โปรไบโอติกส์’ ตอนที่ 3 : ซูเปอร์ฟู้ด 'ดาร์กช็อกโกแลต'

ช็อกโกแลต เป็นของโปรดเกินห้ามใจ แต่จะกินให้ได้ 'โปรไบโอติกส์' จุลินทรีย์ที่ดีต่อลำไส้และสุขภาพ ต้องเลือก 'ดาร์กช็อกโกแลต' ด้วยขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งใน 'ซูเปอร์ฟู้ด'

ดาร์กช็อกโกแลต ดีอย่างไร มีหลายข้อมูลสนับสนุนยกให้เป็นหนึ่งใน ซูเปอร์ฟู้ด เพราะอุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ และแร่ธาตุหลายชนิดที่ร่างกายต้องการ

สำหรับสายหวานอย่าเพิ่งดีใจ เพราะถ้าจะกินให้ได้ประโยชน์ต้องเลือกแนวดาร์ก ดาร์ก... แน่นอนว่า เค้กช็อกโกแลต คุกกี้ ช็อกโกบาร์ ฯลฯ แม้กระทั่งเครื่องดื่มโกโก้ ถ้าเผลอผสมหวานเข้าไปมาก ย่อมได้ของแถมที่ไม่อยากได้คือ น้ำตาลและไขมัน

สายหวานถอยไปต้องเจอสายดาร์ก ช็อกโกแลตที่เข้าข่าย ดาร์ก ดาร์ก...ควรมีปริมาณผงโกโก้ 70% ขึ้นไป ซึ่งจะมีน้ำตาลน้อยกว่า และมีสารต้านอนุมูลอิสระมากกว่าช็อกโกสายหวาน

เติม ‘โปรไบโอติกส์’ ตอนที่ 3 : ซูเปอร์ฟู้ด \'ดาร์กช็อกโกแลต\'     ช็อกโกแลตบาร์ (Cr.Tetiana by Kovets on Unsplash) 

โดยปกติช็อกโกแลตบาร์, แท่ง ที่วางขายจะระบุปริมาณโกโก้กับน้ำตาล รวมถึงกลิ่นและรสชาติที่ผสมเข้าไป เช่น ช็อกโกแลตส้ม, สตรอว์เบอร์รี่, ชาเขียว, มิ้นท์, บลูเบอร์รี่ พริกก็มี บางข้อมูลบอกว่ายอมให้มีปริมาณโกโก้ 58% ขึ้นไปก็เข้าข่ายเป็น ดาร์กช็อกโกแลต และสูงสุดคือ 99% คือขมปี๋ ความขมที่ว่าคือปริมาณเนื้อโกโก้ที่ผสมมาก

ดังนั้น ดาร์กช็อกโกแลต ต้องขม แต่เป็นความขมแฝงความหวานซึ่งจะมีปริมาณน้ำตาลเล็กน้อยให้ (พอ) กินอร่อยบ้าง  

เติม ‘โปรไบโอติกส์’ ตอนที่ 3 : ซูเปอร์ฟู้ด \'ดาร์กช็อกโกแลต\'     มาร์ชเมลโลกับช็อกโกแลตร้อน (Cr.thespruceeats.com)

อย่างไรถึงเรียกว่าดาร์กช็อกโกแลต : ดูที่ฉลาก จะระบุเปอร์เซ็นต์ของผงโกโก้ดังนี้

50% มีรสหวาน (มาก)

70% ขมเล็กน้อย

80% ขมชัดเจน เอาไปทำขนม เบเกอรี่ เครื่องดื่ม

90% ขมมาก ขมปี๋ บางยี่ห้ออาจมีรสเปรี้ยวเล็กน้อย

ประโยชน์ของดาร์กช็อกโกแลต

1   มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ได้แก่ โพลีฟีนอล, ฟลาโวนอยด์, คาเทชิน และอื่น ๆ เป็นแอนตี้ออกซิแดนท์ ปกป้องเซลล์

เติม ‘โปรไบโอติกส์’ ตอนที่ 3 : ซูเปอร์ฟู้ด \'ดาร์กช็อกโกแลต\'     ไอศกรีมช็อกโกแลต อร่อยแต่น้ำตาลสูง (Cr.goodfon.com)

2   ลดความดันโลหิตและเสริมสร้างความแข็งแรงของผนังด้านในของหลอดเลือด ให้ผลิตไนตริกออกไซด์ ซึ่งช่วยให้หลอดเลือดผ่อนคลาย ลดแรงต้านทานการไหลเวียนของเลือด และลดความดันโลหิต

3   ลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด ลดการอุดตันของคอเลสเตอรอลในหลอดเลือด และช่วยลดไขมันเลว (LDL) เพิ่มไขมันดี (HDL) ในระยะยาว

4   มีแร่ธาตุที่ร่างกายต้องการ ได้แก่ ธาตุเหล็ก ทองแดง สังกะสี แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส มีโปรตีนและใยอาหารเล็กน้อย

5   ลดความเครียด มีรายงานว่าคนที่กินดาร์กช็อกโกแลตปริมาณ 40 กรัม ทุกวันนาน 2 สัปดาห์ ส่งผลให้ระดับฮอร์โมนแห่งความเครียดลดลง

เติม ‘โปรไบโอติกส์’ ตอนที่ 3 : ซูเปอร์ฟู้ด \'ดาร์กช็อกโกแลต\'     คุกกี้ช็อกโกแลต (Cr.bakerbynature.com)

ดาร์กช็อกโกแลต มีปริมาณไขมันอิ่มตัวและไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว แต่นับว่ามีปริมาณไม่มากนัก เราไม่ได้กินทีละมาก ๆ ถือว่ากินพอดี ๆ ให้เป็น ซูเปอร์ฟู้ด บำรุงร่างกาย

ในดาร์กช็อกโกแลต มีสารกระตุ้นเช่นคาเฟอีนและธีโอโบรมีน ทำให้กินแล้วนอนไม่หลับ ซึ่งอาจเกิดกับบางคน แต่ปริมาณของสารกระตุ้นพวกนี้ไม่มากเท่าในกาแฟ

กินดาร์กช็อกโกแลตแค่ไหนดี : ดาร์กช็อกโกแลต 100 กรัม มี 600 แคลอรี่ มีน้ำตาลจำนวนหนึ่ง ดูที่ฉลากถ้าเปอร์เซ็นต์โกโก้สูงน้ำตาลก็จะน้อยลง

เติม ‘โปรไบโอติกส์’ ตอนที่ 3 : ซูเปอร์ฟู้ด \'ดาร์กช็อกโกแลต\'      ควรกินดาร์กช็อกโกแลต (Cr.Kier in Sight on Unsplash) 

คำแนะนำที่ควรกิน 20-30 กรัม (1 ชิ้นเล็ก ๆ) และควรเป็นดาร์กช็อกโกแลต ที่มีส่วนผสมของโกโก้อย่างน้อย 70% ขึ้นไป

ดาร์กช็อกโกแลตมีโปรไบโอติกส์ : งานวิจัยยุคใหม่ระบุว่า ดาร์กช็อกโกแลตมีประโยชน์ทบคู่ คือเป็นทั้ง พรีไบโอติกส์ และ โปรไบโอติกส์ (พรีเป็นอาหารของโปร) จากงานวิจัยของมหาวิทยาลัยหลุยเซียนา ดร.จอห์น ฟินลีย์ (อ้างอิง: rowdybars.com) พบความเชื่อมโยงของพรีไบโอติกส์ในลำไส้กับดาร์กช็อกโกแลต

เติม ‘โปรไบโอติกส์’ ตอนที่ 3 : ซูเปอร์ฟู้ด \'ดาร์กช็อกโกแลต\'     โกโก้นิปส์ (เปลือก) กินได้ (Cr.pixabay.com)

โดยไฟเบอร์และสารฟลาโวนอยด์ในดาร์กช็อกโกแลต เป็นสารต้านอนุมูลอิสระต้านการอักเสบ เมื่อผ่านการย่อยในลำไส้จะดูดซึมผ่านการเดินทางของหลอดเลือด และส่งเสริมการทำงานของโพลีฟีนอลด์ สร้างภูมิต้านทานร่างกายให้แข็งแรงขึ้น

เติม ‘โปรไบโอติกส์’ ตอนที่ 3 : ซูเปอร์ฟู้ด \'ดาร์กช็อกโกแลต\'    กินช็อกโกแลตแล้วอารมณ์ดี (Cr.pixabay.com)

ซึ่งนอกจากส่งผลดีต่อร่างกายและยังส่งผลต่อสมอง อาจเป็นคำอธิบายได้ว่า ทำไมกินช็อกโกแลตแล้วอารมณ์ดี

ทุกวันนี้ผู้รู้เรื่องอาหารบอกว่า กินอาหารที่มีโปรไบโอติกส์เช่น โยเกิร์ต กิมจิ มิโซะ น้ำส้มสายชูจากแอปเปิ้ล ชีสบางชนิด ผักดอง รวมถึง ดาร์กช็อกโกแลต วันละเล็กน้อยอย่างพอดี ๆ ก็พอเพียงแล้ว

อ้างอิง: cocoaandhealth.co.uk, medparkhospital.com