ทำไมเมื่อถึง “เทศกาลคริสต์มาส” ต้องกิน “ฟรุตเค้ก”

ทำไมเมื่อถึง “เทศกาลคริสต์มาส” ต้องกิน “ฟรุตเค้ก”

เมื่อถึง “เทศกาลคริสต์มาส” นอกจากอาหารประจำเทศกาลแล้วก็ต้องมี “ฟรุตเค้ก” ของหวานวันคริสต์มาส ที่ชาวคริสต์กินมาตั้งแต่ยุคโรมัน

ทำไม คริสต์มาส ต้องกิน ฟรุตเค้ก เค้กผลไม้เนื้อฉ่ำหวาน เต็มไปด้วยผลไม้อบแห้ง ผลไม้เชื่อม และถั่วชนิดต่าง ๆ รสหวานหอมกลิ่นเหล้า จะกินหลัง อาหารคริสต์มาส หรือจับคู่กับชายามบ่าย หรือกาแฟเข้มขมสักแก้ว ก็เข้ากัน...

ทำไมเมื่อถึง “เทศกาลคริสต์มาส” ต้องกิน “ฟรุตเค้ก”    ฟรุตเค้ก (Cr.ancient-origins.net)

 

ที่มาของฟรุตเค้ก (fruit cake)

เกี่ยวเนื่องกับ เทศกาลคริสต์มาส เกิดขึ้นตั้งแต่สมัยกลาง (ค.ศ.476-1453) ยุคโรมันโบราณแล้วส่งต่อชาวคริสต์ในอังกฤษ ยุคแรกใส่เมล็ดสน ผสมกับแป้งข้าวบาร์เล่ย์ ใส่เมล็ดทับทิม ลูกเกด และน้ำผลไม้หมักกับยีสต์ ฮอพ และฮันนี่ไวน์ (แอลกอฮอล์ทำจากน้ำผึ้งหมักกับน้ำ ผลไม้และเครื่องเทศ) ในยุคนั้นหน้าตาไม่ใช่เค้กหากมีเนื้อแน่นเหมือนขนมปัง เรียกว่า Satura (ขนมอบใส่ผลไม้แห้ง) กินอิ่มจนทหารโรมันพกติดตัวไปกินเป็นของว่างในสนามรบ

ทำไมเมื่อถึง “เทศกาลคริสต์มาส” ต้องกิน “ฟรุตเค้ก”

     (Cr.freepik.com)

 

ต่อมาขนมปังใส่ผลไม้แห้ง กลายเป็นเค้กเพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาส เรียกว่า Twelfth cake และนิยมกินกันในวันที่ 5 หรือ 6 มกราคม อันเป็นวันที่ 12 หลังจากวันคริสต์มาส เพื่อรำลึกถึง 3 Kings โหราจารย์ (หรือปราชญ์, นักบุญ) ที่เดินทางตามดวงดาวไปเฝ้าพระกุมาร (พระเยซู) ถึงเมืองเบธเลเฮม

วันกินเค้กชนิดนี้แสดงถึงวันหยุดสุดท้ายของเทศกาลคริสต์มาส (วันที่ 12 นับจากวันคริสต์มาส) และถือเป็นวันสิ้นสุดฤดูใบไม้ร่วง ต่อจากนี้คือหนาวจริง ในบางท้องที่เรียกว่า 3 Kings Day, Twelfth Day และกิน Twelfth cake, Twelfth night cake เป็นขนมประจำเทศกาลคริสต์มาส

ทำไมเมื่อถึง “เทศกาลคริสต์มาส” ต้องกิน “ฟรุตเค้ก”     Twelfth cake, King cake (Cr.goodto.com)

 

Twelfth cake, King cake คือ เค้กใส่ผลไม้แห้งหมักกับเหล้ารัม บรั่นดี หรือเบอร์เบิ้น อันเป็นการถนอมอาหาร ในยุคแรกเค้กผลไม้มีผิวนอกเหมือนแป้งพัฟ ใส่ผลไม้แห้งเช่น เคอร์แรนท์ ลูกเกด องุ่น อัลมอนด์ เมล็ดสน ถั่วชนิดต่าง ๆ มักทำเป็นรูปทรงกลมแล้ววางมงกุฎกระดาษไว้ด้านบน บางพื้นที่มีประเพณีหาถั่วหรือเหรียญเงินที่ซ่อนอยู่ในเค้ก ใครพบก่อนเชื่อว่าจะโชคดีตลอดปี

ทำไมเมื่อถึง “เทศกาลคริสต์มาส” ต้องกิน “ฟรุตเค้ก”     (Cr.teahub.io)

 

ฟรุตเค้กฉลองคริสต์มาส 

กว่าเค้กผลไม้จะนิยมแพร่หลายก็ย่างสู่ศตวรรษที่ 19 ยุคแรก ๆ นั้นชาวคริสต์ในอังกฤษทำฟรุตเค้กก่อน แล้วเมื่อผู้อพยพไปอยู่อเมริกาก็เริ่มทำฟรุตเค้กที่นิวอิงแลนด์ โดยใช้น้ำตาลที่ผลิตจากโรงงานทาสในแคริบเบี้ยน

ฟรุตเค้กยุคแรกในอเมริกาโรยน้ำตาลไอซิ่งหนามาก ยุคนั้นยังไม่มีตู้เย็น น้ำตาลจึงเป็นหัวใจสำคัญของการถนอมอาหาร ซึ่งคือผลไม้ชนิดต่าง ๆ หั่นเป็นชิ้นเล็กต้มในไซรัป หมักกับเหล้ารัม และต้องเตรียมหมักผลไม้ไว้ก่อน 3 เดือน เก็บในที่เย็นและมืด เมื่อทำเค้กจึงมีเนื้อหนักและหวานมาก  

ทำไมเมื่อถึง “เทศกาลคริสต์มาส” ต้องกิน “ฟรุตเค้ก”     Panettone ฟรุตเค้กสไตล์อิตาลี (Cr.freepik.com)

 

ฟรุตเค้ก ขนมยอดนิยมประจำเทศกาล

แม้ชาวอังกฤษเริ่มทำฟรุตเค้กก่อนใคร แต่ไม่ได้รับความนิยมมากนัก และตรงกับสมัยปฏิวัติอุตสาหกรรม คนงานในเมืองต้องกลับไปทำงานแล้ว งานฉลองกินเค้กวันที่ 12 จึงไม่ถือว่าสำคัญนัก

อย่างไรก็ดี คนอังกฤษบอกว่า ได้ฟรุตเค้กสักชิ้นกับอาฟเตอร์นูนทีก็ดีไม่น้อย ฟรุตเค้กจึงค่อย ๆ ได้รับความนิยมในหมู่ชนชั้นกลางและพวกราชวงศ์ในอังกฤษ และเฟื่องฟูมากขึ้นในยุควิคทอเรียน อย่างที่เล่าว่าฟรุตเค้กยุคโน้นนิยมโรยน้ำตาลไอซิ่งหนา ๆ คนในเมืองจึงเรียกว่า Royal icing

ทำไมเมื่อถึง “เทศกาลคริสต์มาส” ต้องกิน “ฟรุตเค้ก”

 

ยุคศตวรรษที่ 16 น้ำตาลถูกลง ฟรุตเค้กเก็บได้นานขึ้น คำว่า fruit cake สันนิษฐานว่าเกิดในยุคนี้ อย่างไรก็ดี ฟรุตเค้กในอังกฤษและอเมริกา มีเนื้อสัมผัสต่างจากฟรุตเค้กของชาวยุโรป และมีชื่อเรียกแตกต่างกันไป ผลไม้แห้งหรือผลไม้เชื่อมก็เป็นผลไม้ที่มีในแต่ละภูมิภาค ใส่ถั่วและธัญพืชแน่น ๆ และต้องหมักเหล้า ทำให้มีกลิ่นของแอลกอฮอล์ มากบ้างน้อยบ้าง และเก็บได้นานขึ้น

 

ทำไมเมื่อถึง “เทศกาลคริสต์มาส” ต้องกิน “ฟรุตเค้ก”    (Cr.thespruceeats.com)

 

ปี 1896 ในอเมริกาเริ่มส่ง ฟรุตเค้ก เป็นของขวัญเทศกาลคริสต์มาส และส่งไกลข้ามรัฐกันเมื่อปี 1913 ในรัฐจอร์เจียและเท็กซัส แต่ใครจะส่งฟรุตเค้กข้ามเมืองเป็นของขวัญวันคริสต์มาสก็ต้องมีฐานะหน่อย แล้วเมื่อการขนส่งสะดวกขึ้น ใคร ๆ ก็อยากกินฟรุตเค้ก จนหนังสือพิมพ์ Los Angeles Times เรียกฟรุตเค้กว่า holiday must

ปี 1989 บัตรเครดิตมาสเตอร์การ์ด ออกผลสำรวจสอบถามความเห็นของประชาชนอเมริกัน หลายคนลงคะแนนว่า ฟรุตเค้ก เป็นขนมอบประจำเทศกาล นิยมส่งเป็นของขวัญให้ญาติมิตร 75% แต่ละปี คนส่งฟรุตเค้กกว่า 2 ล้านชิ้น เป็นของขวัญปีใหม่

 

ทำไมเมื่อถึง “เทศกาลคริสต์มาส” ต้องกิน “ฟรุตเค้ก”    ฟรุตเค้กแบบสเปน (Cr.etapainfantil.com)

 

ฟรุตเค้ก ขนมคริสต์มาสนานาชาติ

เมื่อถึงคริสต์มาสต้องกิน ฟรุตเค้ก เนื่องจากเทศกาลอื่น ๆ เช่น วันปีใหม่ วันเกิด วันแต่งงาน ฯลฯ ก็ไม่มีใครให้ฟรุตเค้กกันหรอก และเนื่องจากเป็นขนมอบสื่อถึงศาสนา ชาวคริสต์ทั่วโลกต่างมี สูตรฟรุตเค้ก สูตรที่เราคนไทยคุ้นเคยคือฟรุตเค้กสไตล์อังกฤษหรืออเมริกัน ซึ่งมีเนื้อเค้กนุ่มฉ่ำ หวานจัด มีกลิ่นเหล้าชัด อัดด้วยผลไม้เชื่อม ลูกเกด และถั่ว

 

ทำไมเมื่อถึง “เทศกาลคริสต์มาส” ต้องกิน “ฟรุตเค้ก”     Stollen cake (Cr.thespruceeats.com)

 

แต่ถ้าเป็นฟรุตเค้กแนวยุโรปเนื้อดูเป็นขนมปัง บางพื้นที่ก็ใส่ผลไม้เชื่อมไม่มาก มีเพียงลูกเกดและถั่ว

เช่น Stollen cake ในเยอรมนี นิยมเรียกว่า Stollen bread มากกว่าเพราะมีเนื้อเหมือนขนมปัง เหมือนกับชาวเนเธอร์แลนด์ เรียกว่า Kerststol บางสูตรใส่เนื้ออัลมอนด์บดข้น ๆ ลงไปด้วย

 

ทำไมเมื่อถึง “เทศกาลคริสต์มาส” ต้องกิน “ฟรุตเค้ก”     Kerststol ฟรุตเค้กสไตล์ดัช (Cr.Takeaway/commons.wikimedia.org)

 

ฟรุตเค้กสไตล์อิตาเลียน Panettone จากอิตาลี มักใส่ในกล่องรูปสามเหลี่ยม

Roscon de Reyes ฟรุตเค้กของสเปน นิยมทำรูปทรงกลมมีรูตรงกลางเหมือนโดนัท คล้ายของชาวคาตาลันที่เรียกว่า Tortell

 

ทำไมเมื่อถึง “เทศกาลคริสต์มาส” ต้องกิน “ฟรุตเค้ก”    เค้กขอนไม้ (Cr.preppykitchen.com)

 

ชาวฝรั่งเศสก็มีของหวานประจำคริสต์มาส เรียกว่า Buche de Noel, Yule log หรือ “เค้กขอนไม้” เป็นเค้กช็อกโกแลตรูปทรงขอนไม้

 

ทำไมเมื่อถึง “เทศกาลคริสต์มาส” ต้องกิน “ฟรุตเค้ก”    ฟรุตเค้ก (Cr.magister4u.com)

 

ในญี่ปุ่นก็มีฟรุตเค้กเนื้อสัมผัสนุ่มเนียนแบบสปอนจ์เค้ก โปะหน้าครีมสดและสตรอว์เบอร์รี่ เป็นขนมอบประจำเทศกาลคริสต์มาส

 

 

อ้างอิง: redbook.mag.com, whychristmas.com, pbs.org