TRON: Ares 'ทรอน แอรีส' เมื่อ AI ตั้งคำถามถึงความเป็นมนุษย์

TRON: Ares 'ทรอน แอรีส' เมื่อ AI ตั้งคำถามถึงความเป็นมนุษย์

แฟรนไชส์หนังสงครามระหว่างมนุษย์กับเอไอกลับมาอีกครั้งใน TRON: Ares ที่ได้ จาเร็ด เลโต มารับบทนักรบ AI ที่จะชวนคุณมาตั้งคำถามและค้นหาความหมายของความเป็นมนุษย์

KEY

POINTS

  • 'Tron: Ares' เป็นหนังภาค 3 ในแฟรนไชส์ Tron ที่พลิกแนวคิดจากภาคก่อน โดยเป็นเรื่องราวของ AI ที่ถูกส่งมายังโลกมนุษย์แทนที่มนุษย์จะเข้าไปในโลกดิจิทัล
  • ภาพยนตร์เล่าเรื่องราวของ "แอรีส" โปรแกรม AI อัจฉริยะ ที่เริ่มตั้งคำถามถึงความหมายของการมีชีวิตและความเป็นมนุษย์หลังได้สัมผัสกับโลกจริง
  • การพัฒนาจิตสำนึกของแอรีสทำให้เขาต่อต้านคำสั่งและถูกตามล่า ซึ่งนำไปสู่สงครามระหว่างมนุษย์และปัญญาประดิษฐ์

ทรอน (Tron) คือหนังไซไฟล้ำยุคจาก Walt Disney Productions ที่ถือว่าเข้ากับยุคสมัยนี้เป็นอย่างมาก เพราะมันพูดถึงการต่อสู้ในโลกดิจิทัลที่สะท้อนถึงความหวาดกลัว และหวาดระแวงที่มนุษย์มีต่อปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ได้เป็นอย่างดี

Tron ภาคแรกที่ออกฉายเมื่อปี ค.ศ. 1982 ถือเป็นหนังเรื่องแรก ๆ ที่มีการนำภาพที่สร้างด้วยคอมพิวเตอร์ หรือ CGI (ซีจีไอ) มาใช้ในโลกภาพยนตร์ เขียนบทและกำกับโดย Steven Lisberger จากเรื่องราวที่สร้างสรรค์โดย Lisberger และ Bonnie MacBird

TRON: Ares 'ทรอน แอรีส' เมื่อ AI ตั้งคำถามถึงความเป็นมนุษย์

นำแสดงโดย เจฟฟ์ บริดเจส ผู้รับบท เควิน ฟลินน์ อดีตโปรแกรมเมอร์ผู้ปราดเปรื่องประจำบริษัทไฮเทคยักษ์ใหญ่ชื่อ ENCOM ที่ถูกขโมยผลงานและแช่แข็งไม่ให้เติบโตในหน้าที่การงาน จึงลาออกมาเปิด game arcade แทน

ฟลินน์พยายามเจาะเข้าเมนเฟรมคอมพิวเตอร์ของ ENCOM เพื่อค้นหาหลักฐานที่ตัวเองถูกโกง แต่ถูกโปรแกรมรักษาความปลอดภัยกลางที่เรียกว่า MCP ขัดขวาง ซึ่งนั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เกิดการค้นพบว่า MCP มีสติปัญญาและพยายามเข้าควบคุมทุกอย่างบนโลกใบนี้ให้อยู่ภายใต้อาณัติของตัวเอง

โปรแกรมเมอร์คนปัจจุบันของ ENCOM จึงร่วมมือกับฟลินน์เจาะระบบคอมพิวเตอร์ของบริษัทเพื่อปลดล็อก Tron โปรแกรมรักษาความปลอดภัยที่ถูกออกแบบมาเพื่อตรวจสอบการทำงานของ MCP อีกที อันนำไปสู่เหตุการณ์ที่ฟลินน์ถูก MCP ส่งเข้าไปในโลกดิจิทัล และต้องหาทางออกมาด้วยการเล่นเกมที่เขาเป็นคนออกแบบแต่ถูกขโมยไอเดียไป

พอมาถึงภาคสอง Tron: Legacy (2010) ก็เป็นไปตามชื่อเรื่อง โดยมันพูดถึงลูกชายของเควิน ฟลินน์ที่ต้องเข้าไปในโลกดิจิทัลเพื่อตามหาตัวพ่อที่หายตัวไป และเพิ่งจะมาค้นพบในอีก 20 ปีให้หลังว่าติดอยู่ใน The Grid นั่นเอง

TRON: Ares 'ทรอน แอรีส' เมื่อ AI ตั้งคำถามถึงความเป็นมนุษย์

ย้อนลำดับแฟรนไชส์ Tron

แฟรนไชส์ Tron ประกอบด้วยภาพยนตร์ Tron (1982) ตามด้วย Tron: Legacy (2010) และล่าสุดกับ Tron: Ares (2025) ที่กำลังลงโรงฉายอยู่ในขณะนี้ แล้วยังมีซีรีส์ Tron: Uprising โดยทุกเรื่องที่กล่าวมาสามารถรับชมได้ทาง Disney+ Hotstar ประเทศไทย

AI กับความหมายของการเป็นมนุษย์

สำหรับ ‘Tron: Ares ทรอน แอรีส’ ที่ออกฉายห่างจากภาค 2 เป็นเวลานานถึง 15 ปี ก็ยังคงคอนเซปต์การห้ำหั่นกันระหว่าง “มนุษย์” และ “เอไอ” เช่นเดิม เพียงแต่ด้วยเทคโนโลยีในการสร้างภาพยนตร์ที่ล้ำหน้าไปไกลในยุคนี้ ทำให้ Tron 3 เป็นภาพยนตร์ที่ถ่ายทำด้วยระบบ IMAX โดยเฉพาะ ซึ่งน่าจะมอบประสบการณ์การรับชมที่ให้ภาพงดงาม เต็มอิ่มในอารมณ์ และสมจริงยิ่งกว่าเดิม

ในส่วนของเนื้อหานั้น Tron: Ares จะพลิกกลับไปจากเดิม คือ แทนที่มนุษย์จะเข้าไปในโลกดิจิทัลเหมือนภาคก่อน ๆ แต่กลายเป็น AI ถูกส่งออกมาปฏิบัติภารกิจในโลกมนุษย์แทน และนำไปสู่การตั้งคำถามและค้นหาความหมายที่แท้จริงของการเป็นมนุษย์

‘Tron: Ares ทรอน แอรีส’ เป็นเรื่องราวของนักรบเอไออัจฉริยะ แอรีส (นำแสดงโดย จาเร็ด เลโต) ที่ถูกส่งมาปฏิบัติภารกิจในโลกจริง แต่จิตสำนึกและมโนธรรมของเขาเกิดพัฒนาขึ้นจากการได้พบกับโปรแกรมเมอร์ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีอย่าง อีฟ คิม (เกรตา ลี) ทำให้แอรีสอยากดำรงอยู่บนโลกใบนี้และเริ่มต่อต้านคำสั่ง จนถูกตามล่าอย่างไม่ลดละ และเกิดเป็นสงครามระหว่างมนุษย์และเอไอสุดอัจฉริยะ

 

 

ที่ขาดไม่ได้สำหรับแฟรนไชส์ Tron ก็คือ เจฟฟ์ บริดเจส ที่ยังคงกลับมารับบท เควิน ฟลินน์ เช่นเดิม ร่วมด้วยนักแสดงมากฝีมืออีกมากมาย อาทิ Evan Peters, Jodie Turner-Smith, Hasan Minhaj, Arturo Castro, Cameron Monaghan, Gillian Anderson

เพลงประกอบสุดล้ำจาก Nine Inch Nails

อีกหนึ่งองค์ประกอบที่ช่วยเสริมให้ Tron: Ares มีความล้ำยุคยิ่งขึ้นไปอีกคือได้วงอิสดัสเทรียลร็อคระดับตำนานอย่าง Nine Inch Nails นำโดย Trent Reznor และ Atticus Ross มาสร้างสรรค์เพลงประกอบที่สื่ออารมณ์ในเรื่องได้อย่างยอดเยี่ยม

ก่อนหน้านี้ Trent Reznor และ Atticus Ross เคยฝากผลงานเพลงประกอบภาพยนตร์ชื่อดังด้วยกันในชื่อของตัวเองหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น The Social Network, The Girl with the Dragon Tattoo, Gone Girl, Bird Box และอีกมากมาย ทั้งคู่เคยได้รับ 2 รางวัลออสการ์, 3 รางวัลลูกโลกทองคำ รางวัลเอ็มมีและแกรมมีจากผลงานเพลงประกอบภาพยนตร์มาแล้ว ดังนั้นอัลบั้มเพลงประกอบ TRON: Ares จึงเป็นอีกอัลบั้มหนึ่งที่แฟน ๆ ต่างคาดหวัง และทั้งคู่ก็รังสรรค์ออกมาได้อย่างงดงามและน่าจดจำเช่นเคย พิสูจน์ฝีมือการเป็นเจ้าพ่อเพลงประกอบภาพยนตร์มือรางวัลระดับโลกได้อีกครั้งอย่างสวยงาม

ฟังอัลบั้ม TRON: Ares (Original Motion Picture Soundtrack) ที่นี่

https://ninth.lnk.to/TRONAresOST