เจาะลึกเบื้องลึกเบื้องหลังภาพยนตร์ ‘ธี่หยด 3’ จากสองผู้กำกับ

เจาะลึกเบื้องลึกเบื้องหลังภาพยนตร์ ‘ธี่หยด 3’ จากสองผู้กำกับ

การเปลี่ยนตัวผู้กำกับ ‘ณเดชน์’ กับการออกไอเดียตัวละคร ‘พี่ยักษ์’ หนังภาคแยกที่จะได้ดูในปีหน้า หลากเรื่องราวของ ‘ธี่หยด 3’

KEY

POINTS

  • ธี่หยด 3 ได้ผู้กำกับคู่ใหม่คือ แป๊ป-ณฤทธิ์ ยุวบูรณ์ (โปรดิวเซอร์) และ ต้อม-ธนเดช ประดิษฐ์ (ผู้ช่วยผู้กำกับ) จากภาคก่อนหน้า
  • เนื้อเรื่องในภาคนี้ถูกเขียนขึ้นใหม่ทั้งหมด โดยจะมีความเป็นหนังผจญภัยมากขึ้น แต่ยังคงแก่นเรื่องความรักในครอบครัวเป็นหัวใจสำคัญ
  • มีการพัฒนาตัวละคร "พี่ยักษ์" ให้มีความเคร่งขรึมและเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับภารกิจตามหาน้องสาวที่หายไป
  • ผู้กำกับเปิดเผยถึงการขยายจักรวาลภาพยนตร์ โดยจะสร้างภาคแยกเรื่อง 'สมิงเขาขวาง' ซึ่งเป็นเรื่องราวก่อนหน้าธี่หยด และมีกำหนดฉายในปี 2569

การกลับมาของ ‘ธี่หยด 3’ ภาคต่อของภาพยนตร์ไทยที่สร้างความสำเร็จระดับปรากฏการณ์ ทั้งในแง่ของรายได้ที่ทะลุหลักหลายร้อยล้านทุกภาค ความมีเอกลักษณ์ของเนื้อหาและตัวละคร จนกลายเป็น IP ที่แข็งแกร่ง สามารถนำไปต่อยอดได้หลากหลายช่องทาง เช่น การขายลิขสิทธิ์ให้นำไปสร้างเป็นบ้านผีสิงในสวนสนุก Universal Studios Singapore

ทว่าการกลับมาของธี่หยดในครั้งนี้ก็มาพร้อมความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ด้วยเช่นกัน นั่นคือการเปลี่ยนตัวผู้กำกับภาพยนตร์ ‘ธี่หยด 3’ มาเป็น แป๊ป-ณฤทธิ์ ยุวบูรณ์ และต้อม-ธนเดช ประดิษฐ์ ซึ่งต่างคลุกคลีกับ ‘จักรวาลภาพยนตร์ธี่หยด’ มาตั้งแต่ต้น โดยคุณแป๊ปนั้นทำหน้าที่โปรดิวเซอร์มาตั้งแต่ ธี่หยด 1, 2 ขณะที่คุณต้อมรับหน้าที่ผู้ช่วยผู้กำกับมาโดยตลอดเช่นกัน

 

เจาะลึกเบื้องลึกเบื้องหลังภาพยนตร์ ‘ธี่หยด 3’ จากสองผู้กำกับ (ซ้าย) ต้อม-ธนเดช ประดิษฐ์ (ขวา) แป๊ป-ณฤทธิ์ ยุวบูรณ์

ความเข้มแข็งของ “ครอบครัวธี่หยด”

แป๊ป-ณฤทธิ์ พูดถึงการสานต่องานกำกับภาพยนตร์ ‘ธี่หยด 3’ ว่าเป็นไปอย่างราบรื่น เพราะความแน่นแฟ้นของ “ครอบครัวธี่หยด” อันประกอบด้วยทีมงานทุกฝ่ายซึ่งเต็มที่กับการทำงาน โดยเฉพาะยิ่งทีมนักแสดงที่มีความเป็น ‘ครอบครัว ตัว ย’ อย่างแท้จริง สามารถเล่นออกมาได้อย่างเป็นธรรมชาติ ชนิดที่แค่มองหน้ากันก็รู้แล้วว่าอยากได้อะไร เวลาเดินเข้าเซ็ตก็จะกลายเป็นนักแสดงตัวนั้นไปเลย

เจาะลึกเบื้องลึกเบื้องหลังภาพยนตร์ ‘ธี่หยด 3’ จากสองผู้กำกับ

ทางด้าน ‘ต้อม-ธนเดช’ ที่เคยกำกับหนังเล็ก ๆ มาหนึ่งเรื่องแล้วต้องก้าวกระโดดมากำกับหนังสเกลใหญ่ที่เป็นความคาดหวังของคนทั้งประเทศ เขาบอกว่าตอนเป็นผู้ช่วยผู้กำกับจะโฟกัสเรื่องการ manage งานเป็นส่วนใหญ่ ไม่ค่อยได้มีส่วนร่วมในเรื่องของงานครีเอถีฟมากนัก ทำให้ต้องทำการบ้านด้านงานวิชวล และงานครีเอถีฟอย่างหนัก

“เราจะคุยกันตั้งแต่บนโต๊ะในที่ประชุมให้ชัดเจน ลงรายละเอียดในแต่ละซีน แต่ละซีเควนซ์ ให้เห็นภาพตรงกันทั้งช่างภาพ ทีมอาร์ต เสื้อผ้า ให้ไปเกิดปัญหาหน้ากองน้อยที่สุด ความยากคือการต้องทำให้มันสนุกซึ่งผลลัพธ์ก็ออกมาเป็นที่น่าพอใจ”

มีความเป็นหนังผจญภัยมากขึ้น

“ผมว่าหัวใจสำคัญของธี่หยดคือความรักของครอบครัว เป็นสิ่งสำคัญที่เราพยายามจะคีพไว้ และเป็นสิ่งที่ทำให้หนังได้รับความนิยมจากคนหลายระดับมาตั้งแต่ภาคหนึ่ง” แป๊ป-ณฤทธิ์ กล่าว

ขณะที่ ‘ต้อม-ธนเดช’ เสริมว่าความจริง ‘ธี่หยด’ คือหนังครอบครัว ภาคแรกคือการรักษาชีวิตคนที่เรารัก ภาคสองคือการไล่ล่าผีชุดดำเพื่อไม่ให้มารังควาญครอบครัว มาถึงภาคสาม เป็นเรื่องของการไปตามช่วยน้องคนสุดท้อง มันเป็นหนังที่ว่าด้วย “ครอบครัว” ในทุกภาค

“ครอบครัวมันกลายเป็นธีมที่ชัดมากของธี่หยด ในขณะเดียวกัน คนที่ดูมาตั้งแต่ภาคแรกเขาจะคาดหวังถึงความสนุก และสิ่งที่ไอคอนิกสุด ๆ คือ พี่ยักษ์ (นำแสดงโดย ณเดชน์ คูกิมิยะ) โดยสิ่งที่ ‘ธี่หยด’ ทำให้คนดูหนังผีเปลี่ยนไปก็คือ การที่คนสามารถซัดผีกลับได้ ดังนั้นในการทำ ‘ธี่หยด 3’ ผมกับคุณแป๊ป และทีมเลยดีไซน์กันว่า งั้นเรานำมิชชั่นนี้มาทำให้เกิดสตอรี่ขึ้นมา เราจึงมีการเขียน สร้างซีเควนซ์ให้เกิดการเดินทางที่เป็นมิชชัน ๆ ขึ้นมา มันคือการผจญภัย แต่ขณะเดียวกันก็ยังมีสิ่งที่เรียกว่า การตามหาความสัมพันธ์ของครอบครัวที่หายไป”

 

 

“ในภาค 3 เราพยายามทำให้มันวาไรตี้มากขึ้น ในความหมายคือ ดูได้ทุกเพศทุกวัย ไม่ใช่การเข้ามาแล้วจะต้องกลัวผีอย่างเดียว เราพยายามเน้นความสนุก เต็มอรรถรส”

ขณะที่แป๊ป-ณฤทธิ์กล่าวว่าพอจบภาคหนึ่ง รีแอคของคนดูที่เห็นระหว่างเดินสายไปตามจังหวัดต่าง ๆ คือเด็กเล็ก ๆ พากันแต่งตัวเป็นผียักษ์ ผู้ใหญ่พาครอบครัวมาดู พอภาคสองเลยทำให้หนังมีความแมส มีการผจญภัย มีความตลกสอดแทรกเข้ามามากขึ้น เกิดการสร้างตัวละครที่มีคาแรกเตอร์ชัดเจน คล้ายทีมอเวนเจอร์ที่แต่ละตัวก็จะมีแฟนคลับของตัวเอง

 

 

จักรวาลภาพยนตร์ไทยอันแข็งแกร่ง

ความสำเร็จทั้งในและต่างประเทศของ ‘ธี่หยด’ ซึ่งก้าวขึ้นมาเป็น “จักรวาลภาพยนตร์ไทย” อันแข็งแกร่งอย่างที่เห็นกันในปัจจุบันนั้น ณฤทธิ์ ยุวบูรณ์ กล่าวว่า มาจากวิสัยทัศน์ของ สุรเชษฐ์ อัศวเรืองอนันต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร M Studio ซึ่งสอนให้ตัวเขาได้เห็นว่า “อะไรที่เป็นไปไม่ได้ สามารถเป็นไปได้หมด”

ตั้งแต่การสร้างหนังไทยเรื่องแรกในระบบ IMAX เรื่อยมาจนถึงการเป็นหนังไทยเรื่องแรกที่ถูกนำไปสร้าง ‘บ้านผีสิง’ ในสวนสนุก Universal Studios Singapore

“คุณสุรเชษฐ์เริ่มทำธี่หยดกับผมมาตั้งแต่แรก ช่วยผลักดันจนทำให้ได้สร้างเป็นภาพยนตร์ เขาจะมีมุมมองทางธุรกิจที่มากกว่าพวกเรา มีมุมมองในต่างประเทศ มองว่า ธี่หยด เป็นแบรนด์ที่ผลักดัน ต่อยอดออกไปได้มากกว่าการเป็นหนัง”

 

เจาะลึกเบื้องลึกเบื้องหลังภาพยนตร์ ‘ธี่หยด 3’ จากสองผู้กำกับ เจาะลึกเบื้องลึกเบื้องหลังภาพยนตร์ ‘ธี่หยด 3’ จากสองผู้กำกับ บ้านผีสิงธี่หยด ณ Universal Studios Singapore

เจาะลึกเบื้องลึกเบื้องหลังภาพยนตร์ ‘ธี่หยด 3’ จากสองผู้กำกับ

‘สมิงเขาขวาง’ หนังภาคแยกได้ดูปีหน้า

แฟนพันธุ์แท้ของ ‘ธี่หยด’ คงทราบที่มาที่ไปกันดีว่าจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้มาจากการตั้งกระทู้เล่าเรื่องผีในเว็บไซต์พันทิปที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก อันนำไปสู่การตีพิมพ์นิยายออกมา 2 เล่ม ได้แก่ ‘ธี่หยด...แว่วเสียงครวญคลั่ง’ และ ‘ธี่หยด...สิ้นเสียงครวญคลั่ง’ โดย กฤตานนท์ เจ้าของเรื่องเล่าดังกล่าว

สำหรับในส่วนของภาพยนตร์นั้น ภาคแรกเป็นการอ้างอิงเนื้อหาส่วนใหญ่จากนิยาย เพียงแต่ปรับให้มีความสนุกขึ้น ส่วนภาคสองนำไอเดียจากหนังสือมาเพียงเล็กน้อย ในขณะที่ภาคสามนั้น เขียนเนื้อเรื่องขึ้นมาใหม่ทั้งหมด โดยการศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมของ ดร.สรรัตน์ จิรบวรวิสุทธิ์ ผู้เขียนบทให้กับภาพยนตร์ธี่หยดมาทุกภาค

แต่นอกเหนือจากนิยายภาคหลักนี้แล้ว กฤตานนท์ยังเแต่งนิยายเรื่อง ‘สมิงเขาขวาง’ ออกมาอีกหนึ่งเล่ม พูดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนหน้าเหตุการณ์ในธี่หยด เป็นเรื่องเกี่ยวกับพี่ยักษ์ จ่าปพันธ์ และน้ำเพชร ลูกสาวของจ่าปพันธ์ ที่ต้องเดินทางเข้าไปปฏิบัติภารกิจในป่าลึกที่มีตำนานเกี่ยวกับเสือสมิงอันร้ายกาจ

แป๊ป-ณฤทธิ์เปิดเผยว่าทางบีอีซีฟิล์ม และเอ็ม สตูดิโอจะสานต่อ ‘จักรวาลภาพยนตร์ธี่หยด’ ด้วยการสร้างภาพยนตร์ ‘สมิงเขาขวาง’ ออกมาให้ได้รับชมกันในปีหน้า โดยจะเริ่มเปิดกล้องถ่ายทำกันในเดือนมกราคม และมีกำหนดเข้าฉายวันที่ 30 กันยายน 2569 ซึ่งถ้าใครได้รับชม ‘ธี่หยด 3’ ในโรงภาพยนตร์แล้วห้ามพลาดช่วงท้ายเครดิตหลังหนังจบที่จะมีการเปิดตัว ‘น้ำเพชร’ ลูกสาวของจ่าปพันธ์ ซึ่งนำแสดงโดย โบว์-เมลดา สุศรี

“สมิงเขาขวาง เป็น prequel หรือภาคก่อนหน้าของ ธี่หยด เล่าว่าทำไมพี่ยักษ์ถึงรู้จักกับจ่าปพันธ์ และที่สำคัญคือพี่ยักษ์มีความรักกับลูกของจ่าปพันธ์ คาแรกเตอร์มันมีความแข็งแรง เราเลยพูดคุยกันว่าจะมีการ spin-off ไปอย่างไร แล้วเราก็จะช่วยกันกำกับเหมือนเดิม”

 

เจาะลึกเบื้องลึกเบื้องหลังภาพยนตร์ ‘ธี่หยด 3’ จากสองผู้กำกับ เจาะลึกเบื้องลึกเบื้องหลังภาพยนตร์ ‘ธี่หยด 3’ จากสองผู้กำกับ

‘ณเดชน์’ กับการสร้างตัวละคร ‘พี่ยักษ์’

พระเอกของจักรวาลธี่หยด ย่อมหนีไม่พ้น ‘พี่ยักษ์’ ที่นำแสดงโดย ณเดชน์ คูกิมิยะ ผู้กำกับทั้งสองท่านกล่าวว่าณเดชน์มีส่วนร่วมในการสร้างคาแรกเตอร์ตัวละครนี้ขึ้นมาอย่างมาก โดยในภาค 3 นี้ เขาเป็นคนที่ให้ความเห็นเรื่องพัฒนาการของตัวละครพี่ยักษ์ที่จะมีความเคร่งขรึม ไม่ยียวนกวนบาทา ต่อปากต่อคำกับผีชุดดำมากเหมือนในภาค 2 เนื่องจากยักษ์โตขึ้น เป็นผู้ใหญ่ขึ้น และสิ่งสำคัญคือ ต้องซีเรียสเพราะ ยี่ น้องเล็กที่เป็นหัวใจของบ้านหายไป จึงต้องตั้งใจหาน้อง แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีเลย

“ภาค 3 มันคือการตามหาน้องสาว เพราะฉะนั้นตัวยักษ์จะไม่ใช่ในภาค 2 ที่บุ่มบ่าม ห่ามเพราะไม่ได้มีคนสำคัญรออยู่ข้างหน้า มันคือการตามล่า แต่ภาคนี้ถ้าบุ่มบ่าม ไม่รู้ว่าคนข้างหน้าจะเป็นตายร้ายดียังไง เราแชร์และช่วยกันพัฒนาจนได้คาแรกเตอร์ยักษ์ที่ได้เห็นในหนัง”

เจาะลึกเบื้องลึกเบื้องหลังภาพยนตร์ ‘ธี่หยด 3’ จากสองผู้กำกับ

‘จักรวาลธี่หยด’ ยังไม่หยุดอยู่แค่นี้

แป๊ป-ณฤทธิ์กล่าวว่า กฤตานนท์ เจ้าของเรื่องธี่หยด มีแผนที่จะเขียนนิยายในจักรวาลนี้ออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทางทีมของเขาก็ได้มีการพูดคุย เตรียมพัฒนาเป็นโปรเจคท์ออกมาต่อไปอย่างแน่นอน ในส่วนของคอนเทนต์ประเภทอื่น มีมองเอาไว้เช่นกันว่าอาจจะสร้างเป็นซีรีส์ออกมา

ณฤทธิ์ ยุวบูรณ์ ทิ้งท้ายถึง ‘ธี่หยด 3’ ว่าเป็นความตั้งใจตั้งแต่แรกที่จะสร้างหนังให้คนไปดูในโรงแล้วสนุก ได้ประสบการณ์การดูหนังที่สมบูรณ์ทั้งภาพและเสียง ซึ่งทั้งสองภาคที่ผ่านมาก็คิดว่าทำได้ดี แต่ในภาค 3 นี้รับรองว่าคุณจะได้พบกับความบันเทิงอีกเลเวลหนึ่ง

เจาะลึกเบื้องลึกเบื้องหลังภาพยนตร์ ‘ธี่หยด 3’ จากสองผู้กำกับ

เจาะลึกเบื้องลึกเบื้องหลังภาพยนตร์ ‘ธี่หยด 3’ จากสองผู้กำกับ เจาะลึกเบื้องลึกเบื้องหลังภาพยนตร์ ‘ธี่หยด 3’ จากสองผู้กำกับ