‘Blue Island’ เสรีภาพฮ่องกงอันหม่นเศร้า l หนังเล่าโลก

‘Blue Island’ เสรีภาพฮ่องกงอันหม่นเศร้า l หนังเล่าโลก

ฮ่องกงอาจเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวของคนไทยหลายคน เพราะอาหารอร่อย ชอปปิงสนุก แต่สำหรับคนจีนจำนวนหนึ่งที่นี่เคยเป็นดินแดนแห่งเสรีภาพมาแต่ไหนแต่ไร

นับตั้งแต่การประท้วงของ ขบวนการปฏิวัติร่ม (Umbrella Movement) ในปี 2014 ต่อเนื่องมาจนถึงการต่อต้านกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน ในปี 2019 ฮ่องกง เต็มไปด้วยความวุ่นวาย แท้จริงแล้วฮ่องกงเป็นอย่างไรกันแน่? เรื่องนี้ถูกบันทึกไว้ใน Blue Island ภาพยนตร์สารคดีปี 2022 ผลงานการกำกับของชานซือวุน (Chan Tze Woon) ฉายภาพของฮ่องกงในสายตาของนักต่อสู้ทางการเมืองหลายรุ่น 

เปิดเรื่องด้วยสองหนุ่มสาวคู่รักชาวจีนแผ่นดินใหญ่ที่เสี่ยงชีวิตหนีการปฏิวัติวัฒนธรรมของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ด้วยการว่ายน้ำมายังเกาะฮ่องกงดินแดนแห่งเสรีภาพ ในขณะเดียวกันฮ่องกงในเวลานั้นซึ่งอยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษก็มีขบวนการชาตินิยมต่อต้านเจ้าอาณานิคอยู่ด้วย ต่อมาในปี 1989 ขบวนการนักศึกษาฮ่องกงได้แสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกับเพื่อนพ้องที่กำลังเรียกร้องประชาธิปไตย ณ จัตุรัสเทียนอันเหมิน การต่อสู้ของพวกเขาจบลงด้วยการถูกปราบปรามอย่างรุนแรงถึงแก่ชีวิต เป็นจุดจบเดียวกับการต่อสู้ของนักศึกษาในหลายๆ ประเทศ และแน่นอนว่านักศึกษาจีนจำนวนหนึ่งหนีมาหาเสรีภาพที่เกาะฮ่องกงเหมือนเช่นเดิม  

และแล้ว ปี 2014 ชาวฮ่องกงก็ได้แสดงออกถึงเจตนารมณ์การต่อสู้ของตนเองผ่านขบวนการปฏิวัติร่ม เริ่มต้นจากการเรียกร้องสิทธิในการเลือกผู้นำไปจนถึงการปฏิรูปประชาธิปไตย เข้มข้นขึ้นด้วยการต่อต้านกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนในปี 2019 และสิ้นสุดลงในปี 2020 เมื่อกฎหมายความมั่นคงภายในของรัฐบาลจีนมีผลบังคับใช้ ปราบปรามทุกสิ่งสงบราบคาบ ดำเนินคดีกับผู้ประท้วงอย่างเด็ดขาด

ทุกอย่างปรากฏอยู่ใน Blue Island ซึ่งเป็นการผสมผสานกันระหว่างสารคดีและภาพยนตร์เล่าเรื่อง นำนักศึกษาฮ่องกงผู้ร่วมประท้วงและถูกดำเนินคดี มารับบทบาทเป็นนักกิจกรรมในอดีต ท่ามกลางภาพบรรยากาศการชุมนุมจริงที่ผู้กำกับใช้เวลาเก็บมานานหลายปี ได้เห็นภาพการใช้ความรุนแรงจากเจ้าหน้าที่รัฐ ทั้งการใช้กระสุนยาง แก๊สน้ำตา หรือแม้แต่การฉีดสารเคมีเพื่อระบุตัวตนผ่านน้ำสีฟ้าใส่กลุ่มผู้ชุมนุม 

ความน่าประทับใจอันหนึ่งคือการใช้นักศึกษาหนุ่มผู้มีบรรพบุรุษหนีการปฏิวัติวัฒนธรรมจากเมืองจีนมาฮ่องกง รับบทเป็นอดีตนักศึกษาชาตินิยมฮ่องกงที่ต่อต้านอังกฤษ ลองคิดดูว่า ในชีวิตจริงหนุ่มคนนี้กำลังต่อต้านพรรคคอมมิวนิสต์จีน แต่ในการแสดงเขาต้องเชิดชูพรรคคอมมิวนิสต์อย่างสุดหัวใจ นับเป็นความย้อนแย้งที่คนดูรู้สึกได้ 

ข้อมูลจากหนังบอกว่า ช่วงปฏิวัติวัฒนธรรม ชาวจีนหนีภัยมาฮ่องกงราว 1.5 แสนคน ส่วนการประท้วงในฮ่องกงมีประชาชนอพยพออกไปราว 60,000 คน  คนที่ไม่หนีใช่ว่าพวกเขาไม่สู้ ตัวละครตัวหนึ่งกล่าวว่า ในตำราเรียนฉบับอังกฤษพูดถึงฮ่องกงแบบหนึ่ง ฉบับจีนก็พูดถึงอีกแบบหนึ่ง จะมีแต่ชาวฮ่องกงเท่านั้นที่สร้างฮ่องกงในแบบของตนเอง  ได้ยินอย่างนี้แล้วยังมีความหวังว่าเกาะหม่นเศร้า Blue Island แห่งนี้จะสามารถยืนหยัดท้าทายอำนาจ เป็นดินแดนเสรีภาพให้ผู้แสวงหาที่พักพิงได้อีกครั้ง