เปิดค่าย STUDIO59 “ทำหนังเพื่อสู่สากล” นำร่องด้วย The Amulet Game

ปัญชลีย์ นิธิจิระโรจน์ เปิดค่าย “STUDIO59” (สตูดิโอ 59) ทำหนังสู่สากล ประเดิมด้วย The Amulet Game โคตรเหลี่ยม เกมส์โกงเซียน ที่ใช้ soft power “พระเครื่อง” มาเป็นแกนหลัก
KEY
POINTS
- STUDIO59 เป็นค่ายหนังอิสระที่ก่อตั้งขึ้นโดยมีเป้าหมายในการสร้างภาพยนตร์ไทยสู่สากล
- ประเดิมโปรเจกต์แรกด้วยภาพยนตร์ "The Amulet Game" ที่นำเสนอเรื่องราวของ "พระเครื่อง" ซึ่งเป็นซอฟท์พาวเวอร์ของไทย เพื่อเจาะตลาดเอเชีย โดยเฉพาะผู้ชมชาวจีน
- ภาพยนตร์เรื่องนี้ต้องการตั้งคำถามและสะท้อนแง่คิดเกี่ยวกับความเชื่อระหว่าง "ศรัทธา" กับ "ราคา" ในวงการพระเครื่อง
- The Amulet Game กำกับโดย ชิง สุโกสินทร์ อัครพัฒน์ และนำแสดงโดยนักแสดงชื่อดังอย่าง น้อย กฤษดา, แบงค์ ธิติ, และ ใยไหม ชินารดี
“สตูดิโอ 59 เป็นองค์กรเล็ก ๆ เป็นสตูดิโออิสระ เป็นโปรดิวเซอร์อิสระที่ค้นหาผู้กํากับอิสระ คนเขียนบทอิสระมาทำงานร่วมกัน มันคืออิสระภาพที่ไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัว แต่ทุกคนมีเป้าหมายเดียวกันก็คือทําหนังเพื่อสู่สากล”
ปัญชลีย์ นิธิจิระโรจน์ ผู้ก่อตั้ง “STUDIO59” (สตูดิโอ 59) กล่าวถึงวัตถุประสงค์ในการก่อตั้งค่ายหนังอิสระแห่งใหม่ ในวันบวงสรวงภาพยนตร์ The Amulet Game ( ดิ อะมิวเล็ท เกม) โคตรเหลี่ยม เกมส์โกงเซียน ผลงานเรื่องแรกของค่ายที่หยิบเอาซอฟท์พาวเวอร์อันทรงพลังของไทยอย่าง “พระเครื่อง” มาเป็นตัวชูโรง
คุณปัญชลีย์ ผู้ก่อตั้ง STUDIO59 ขยายความสโลแกน “ทําหนังเพื่อสู่สากล” เอาไว้ว่า นัยยะของมันหมายถึงไม่ว่าประเทศไหนในโลกก็สามารถดูหนังจากค่ายสตูดิโอ 59 ได้เข้าใจ มีความสุข มีความบันเทิงได้ง่าย ๆ ไม่มีอะไรซับซ้อน โดยการทำหนังของเธอไม่ได้มอง scope แค่ในประเทศ แต่ด้วยความที่ความเป็นสากลมันกว้างมาก เรื่องแรกนี้จึงสโคปให้เล็กลงโดยพุ่งเป้าไปที่เอเชียก่อน
“พอมาสโคปเป็นเอเชียแล้ว ประชากรในเอเชียอยู่ที่ไหนกัน มันคือคนจีน สโคปเล็กลงมาอีก พอเป็นคนจีนเสร็จเราก็ไปรีเสิร์ชว่าอะไรที่คนจีนสนใจเกี่ยวกับประเทศไทย หนึ่งในนั้นก็คือเรื่องของพระเครื่อง พุทธคุณ พุทธพาณิชย์ ก็เลยคุยกับผู้กํากับ คนเขียนบท แล้วก็มาช่วยกันดีเวลลอปโปรเจคต์นี้ขึ้นมา”
The Amulet Game ( ดิ อะมิวเล็ท เกม) โคตรเหลี่ยม เกมส์โกงเซียน กำกับโดย “ชิง สุโกสินทร์ อัครพัฒน์” นำแสดงโดย “น้อย กฤษดา สุโกศล แคลปป์”, “แบงค์ ธิติ มหาโยธารักษ์”, “ใยไหม ชินารดี อนุพงษ์ภิชาติ”, “อิงค์-ชิสา วิเศษกุล” ( เติ้งลี่จวินเมืองไทย ), “ไมเคิล ศิรชัช เจียรถาวร” , “อาร์ม โอฮานา มนัสวี เที่ยงธรรม” , “พี เอกภพ ต๊ะตา”
บรรยากาศวันบวงสรวงเปิดกล้อง
แน่นอนว่าการหยิบ The Amulet Game มาเป็นหนังเปิดตัวเรื่องแรกของค่ายแสดงว่าจะต้องมีความมั่นใจในโปรเจคต์นี้เป็นอย่างมาก โดยคุณปัญชลีย์กล่าวว่าเป็นเพราะความชัดเจนของหนังในเรื่องแมสเสจที่พูดถึงเรื่องของความศรัทธาหรือราคา ผนวกกับ soft power อย่างพระเครื่องที่จะพาหนังไปสู่สากล และเหล่านักแสดงมากฝีมือ
โดยหนังเรื่องนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับกลุ่มเซียนพระ และกลุ่มพ่อค้าพระที่มีการหักเหลี่ยมเฉือนคมกันในทุกมิติ เพื่อที่จะได้มาซึ่งความศรัทธาหรือราคาที่สูงค่า เป็นขบวนการเป็นเบื้องหน้าเบื้องหลังเป็นวิธีการรวมทั้งระบบตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำว่า ทําไมพระที่ไม่มีราคาอะไรเลยถึงกลายเป็นราคาสูงมาก แล้วทําไมถึงเป็นที่ต้องการของคนจีน
กระบวนการตรงนี้มันมีเล่ห์เหลี่ยมมันมีกลอะไรอยู่ในนั้น และสุดท้ายทุกคนจะได้รับผลตอบแทนที่ไม่ใช่ราคา แต่เป็นเรื่องกรรมเวรที่จะต้องให้ทุกคนกลับไปทบทวนว่า คุณจะเดินแบบนี้หรือคุณจะเดินแบบนี้แล้วทุกอย่างที่ทําไปมันได้รับผลนั้นเสมอ
ปัญชลีย์ นิธิจิระโรจน์ และผู้กำกับ ชิง สุโกสินทร์ อัครพัฒน์
“วันนี้เราเคยนึกทบทวนไหมว่าสิ่งที่เราบูชา เราบูชาท่านด้วยความศรัทธา หรือบูชาท่านเพราะว่าราคาแพง อันนี้เป็นข้อคิดในหนัง ส่วนในแง่ที่เกี่ยวกับมวลชน มันมีคนหลากหลายมากทั้งกลุ่มเซียนพระหรือพ่อค้าพระ นั่นจึงเป็นที่มาว่า เป็นสิ่งที่คนจีนเข้ามาเป็นส่วนเกี่ยวข้องกันการค้าพระข้ามชาติ”
“ภาพยนตร์เรื่องนี้น่าจะเป็นเรื่องแรกที่หยิบองประเด็นพระเครื่องนี่เกี่ยวเนื่องกับคนจีน ธุรกิจข้ามชาติ ไม่ใช่แค่คอลเซนเตอร์ สุดท้ายแล้วสิ่งนี้คือพุทธคุณ หรือพุทธพระพุทธพาณิชย์ การที่คุณดูหนังเรื่องนี้มันสะท้อนว่าการดําเนินชีวิตของเรามีหลักยึดเหนี่ยว”
“แน่นอนประเทศไทยเป็นเมืองพุทธ เราต้องตกผลึกเหมือนกันว่าบางทีการห้อยพระที่ไม่ใช่พระพิมพ์นิยม ไม่ใช่มีชื่อเสียงหรือพระอะไรก็ไม่รู้ แต่ท่านปกปักษ์รักษาเราเพราะอะไร เพราะเราศรัทธาใช่ไหม ศรัทธาในคุณงามความดี ที่สําคัญ อย่าลืมศรัทธาตัวเอง สิ่งเหล่านี้มันก็จะคืนกลับมาหาเราเป็นเกาะป้องกันกุมภัยให้เราได้”
ผู้บริหาร STUDIO56 กล่าวปิดท้ายว่าภาพยนตร์ทุกเรื่องที่เธอทำทุกเรื่อง นอกจากความบันเทิงแล้ว ทุกคนจะต้องได้ข้อคิดในการใช้ชีวิต







