“28 YEARS LATER” ภาคต่อแฟรนไชส์หนังซอมบี้ที่เป็นตำนานของวงการ

“28 YEARS LATER” ภาคต่อแฟรนไชส์หนังซอมบี้ที่เป็นตำนานของวงการ

กว่า 2 ทศวรรษที่รอคอย 'แดนนี บอยล์ กลับมาสร้าง 28 YEARS LATER ภาคต่อของหนังซอมบี้ที่เป็นตำนานและส่งอิทธิพลต่อผู้สร้างยุคหลัง พร้อมนวัตกรรมใหม่ถ่ายด้วยไอโฟน 20 เครื่อง

ถึงแม้จะไม่ได้ยาวนาน 28 ปี เหมือนชื่อภาพยนตร์ แต่ ‘28 Years Later’ ภาค 3 ในแฟรนไชส์หนังซอมบี้ระดับตำนานเรื่องหนึ่งของวงการ ก็สร้างห่างจากภาคแรกถึง 23 ปี ซึ่งจัดว่าเป็นเวลาที่นานโขอยู่เช่นกัน

ด้วยเหตุที่สร้างห่างกันนานขนาดนี้ (ภาค 3 ห่างจากภาคแรก 23 ปี และห่างจากภาค 2 นาน 18 ปี) ดังนั้น ก่อนที่ ‘28 YEARS LATER: 28 ปีให้หลัง เชื้อเขมือบคน’ จะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ ในวันที่ 19 มิถุนายนที่จะถึงนี้ เราจึงชวนคุณมาทบทวน “ความยิ่งใหญ่” ของแฟรนไชส์ 28 Days Later กันอีกครั้ง สำหรับคอหนังที่ไม่ทันดู 2 ภาคแรก หรืออาจจะเคยดูแต่ลืมรายละเอียดส่วนใหญ่ไปแล้วว่า

“เพราะเหตุใดหนังซอมบี้เรื่องนี้ถึงได้กลายเป็นตำนานมาถึงปัจจุบัน”

 

“28 YEARS LATER” ภาคต่อแฟรนไชส์หนังซอมบี้ที่เป็นตำนานของวงการ

28 Days Later เป็นแฟรนไชส์หนังซอมบี้ที่เกิดจากมันสมองของบุคคลสำคัญ 2 คน คือ ผู้กำกับ แดนนี บอยล์ และผู้เขียนบท อเล็กซ์ การ์แลนด์ โดยไตรภาคหนังเรื่องนี้ ประกอบด้วย

  • 28 Days Later (2002)
  • 28 Weeks Later (2007)
  • 28 Years Later (2025)

แฟรนไชส์ 28 Days Later เป็นหนังที่พูดถึงโลกหลังวันโลกาวินาศ ชายคนหนึ่งตื่นขึ้นมาพบว่ารอบตัวเขากลายเป็นเมืองร้าง ราวกับหลงเหลือเขาอยู่เพียงผู้เดียวบนโลกใบนี้ ก่อนจะพบความจริงว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นผลพวงมาจากอาวุธชีวภาพ

Rage Virus ที่หลุดออกมาจากห้องทดลองทำให้ประชากรโลกติดเชื้ออย่างรวดเร็ว มีอาการบ้าคลั่งคล้ายซอมบี้ หนังติดตามการเดินทางของผู้รอดชีวิตที่เสาะหาหนทางออกจากพื้นที่ติดเชื้อไปยังเขตปลอดภัย พร้อมต่อสู้กับฝูงซอมบี้ไปด้วย

 

“28 YEARS LATER” ภาคต่อแฟรนไชส์หนังซอมบี้ที่เป็นตำนานของวงการ

 

เมื่อครั้งที่ออกฉายในปี 2002 ภาพยนตร์ 28 Days Later ประสบความสำเร็จทั้งเงินและกล่อง ผู้เชี่ยวชาญยกให้เป็นหนัง horror classic ที่ส่งอิทธิพลต่อหนังซอมบี้ในยุคต่อมา โดยเฉพาะการตีความซอมบี้ออกมาในรูปแบบใหม่

ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหวได้รวดเร็วว่องไวราวกับนักวิ่ง 4x100 ของซอมบี้ที่สร้างความรู้สึกกดดันและหวาดกลัวได้มากกว่าซอมบี้ยุคเก่าที่เดินกันช้า ๆ ขณะเดียวกันการกำกับภาพ หรือ cinematography ของหนังก็งดงาม ขับเน้นความรู้สึกโดดเดี่ยวเปลี่ยวเหงา และความน่าสะพรึงกลัวที่แอบซ่อนอยู่ลึก ๆ ได้เป็นอย่างดี

 

“28 YEARS LATER” ภาคต่อแฟรนไชส์หนังซอมบี้ที่เป็นตำนานของวงการ “28 YEARS LATER” ภาคต่อแฟรนไชส์หนังซอมบี้ที่เป็นตำนานของวงการ “28 YEARS LATER” ภาคต่อแฟรนไชส์หนังซอมบี้ที่เป็นตำนานของวงการ

 

พอ 28 Weeks Later หนังภาคสองออกฉายในปี 2007 ก็ยังประสบความสำเร็จทั้งในแง่ของเสียงวิจารณ์ และรายได้เช่นเดิม แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนตัวผู้กำกับเป็น Juan Carlos Fresnadillo เปลี่ยนตัวนักแสดงนำ ตลอดจนเส้นเรื่องที่ต่างออกไป รวมถึงการขยับขึ้นไปเป็นหนังฟอร์มใหญ่ที่ได้ทุนสร้างมากกว่าเดิม

 

“28 YEARS LATER” ภาคต่อแฟรนไชส์หนังซอมบี้ที่เป็นตำนานของวงการ

“28 YEARS LATER” ภาคต่อแฟรนไชส์หนังซอมบี้ที่เป็นตำนานของวงการ

“28 YEARS LATER” ภาคต่อแฟรนไชส์หนังซอมบี้ที่เป็นตำนานของวงการ “28 YEARS LATER” ภาคต่อแฟรนไชส์หนังซอมบี้ที่เป็นตำนานของวงการ

 

คอหนังรุ่นใหม่อาจไม่ทราบว่า คิลเลียน เมอร์ฟี นักแสดงตัวท็อปของวงการในปัจจุบัน แจ้งเกิดจากภาพยนตร์ชุดนี้ โดยเขารับบทตัวเอกใน 28 Days Later เป็นชายหนุ่มชื่อ จิม นักปั่นจักรยานที่ประสบอุบัติเหตุเฉียดตาย ฟื้นจากอาการโคมาเพื่อมาพบว่าประเทศอังกฤษกลายเป็นเมืองร้างไปเสียแล้ว

 

สำหรับเมื่อ 23 ปีที่แล้ว ฉากที่ จิม ฟื้นขึ้นมาแล้วเดินออกจากโรงพยาบาลไปเห็นภาพกรุงลอนดอน เมืองหลวงของประเทศอังกฤษ กลายเป็นเมืองร้าง ถือว่าเป็นซีนที่สร้างความตราตรึงในโลกภาพยนตร์เป็นอย่างมาก

 

“28 YEARS LATER” ภาคต่อแฟรนไชส์หนังซอมบี้ที่เป็นตำนานของวงการ “28 YEARS LATER” ภาคต่อแฟรนไชส์หนังซอมบี้ที่เป็นตำนานของวงการ

“28 YEARS LATER” ภาคต่อแฟรนไชส์หนังซอมบี้ที่เป็นตำนานของวงการ

 

28 ปีแห่งความสะพรึง

สำหรับเนื้อเรื่องของ 28 Years Later ภาพยนตร์ภาค 3 นั้นพูดถึงเหตุการณ์ 28 ปี ให้หลังการระบาดของ Rage Virus เกาะบริเตนใหญ่ (Great Britain) มีการกักกันอย่างเข้มงวด ผู้รอดชีวิตในส่วนอื่นถูกทอดทิ้งให้หาทางอยู่รอดท่ามกลางผู้ติดเชื้อให้ได้ด้วยตัวเอง

หนึ่งในนั้นคือชุมชนบนเกาะเล็ก ๆ ชื่อ ‘โฮลี่ ไอร์แลนด์’ ที่ตัดขาดจากแผ่นดินใหญ่ ไม่มีหมอ ไม่มียา กินได้แค่ของที่ปลูกเอง ถ้าจะล่าสัตว์ต้องออกไปล่าบนแผ่นดินใหญ่ โดยมีกฎว่า ถ้าคุณออกจากเกาะแล้วไม่กลับมา จะไม่มีใครออกไปตามหาคุณ พวกเขาจะถือว่าคุณติดเชื้อ ตาย หรือหายสาปสูญ

แต่แล้วครอบครัวหนึ่งก็มีความจำเป็นต้องเดินทางออกจากพื้นที่ปลอดภัยแห่งนี้เมื่อ อิสลา ผู้เป็นแม่เกิดป่วยหนัก เจมี ผู้เป็นสามี และสไปค์ ลูกชาย จึงต้องออกเดินทางไปยังเกาะบริเตนใหญ่ผ่านเส้นทางอันตรายที่มีอยู่เพียงเส้นทางเดียว ทำให้ได้ค้นพบกับความลับ และความสยดสยองของโลกภายนอกที่พวกเขาไม่เคยประสบพบเจอมาก่อน

 

 

ได้รับอิทธิพล ไม่ได้ดำเนินเรื่องต่อกัน

ถึงแม้ว่า 28 Years Later จะเป็นภาคสามของแฟรนไชส์ แต่แดนนี บอยล์ ให้สัมภาษณ์ Wales Online เอาไว้ว่าตัวเขากับอเล็กซ์ การ์แลนด์ เขียนมันขึ้นมาให้เป็นเรื่องที่ “ได้รับอิทธิพล” จากภาคแรก 28 Days Later และไม่ได้เป็นหนังที่ดำเนินเหตุการณ์ต่อเนื่องจากภาคสอง 28 Weeks Later ที่ออกฉายในปี 2007

"สิ่งที่อเล็กซ์ และผมตัดสินใจทำกันก็คือ ทำให้มันเป็นหนังออริจินอล แต่มีเรื่องราวที่ได้รับอิทธิพลมาจาก 28 Days Later ครับ มันไม่ได้ดำเนินเหตุการณ์ต่อเนื่องจาก 28 Weeks Later ซึ่งในตอนท้าย Rage Virus ได้ระบาดข้ามช่องแคบอังกฤษเข้ายุโรปไปแล้ว ส่วนเหตุผลนั้นเราคิดเอาไว้ว่า ยุโรปได้ผลักดันไวรัสข้ามช่องแคบกลับมา เพื่อที่ว่าพวกเขาจะได้โดดเดี่ยวเกาะอังกฤษ และปล่อยให้มันตายไป” แดนนี่ บอยล์ กล่าว

 

“28 YEARS LATER” ภาคต่อแฟรนไชส์หนังซอมบี้ที่เป็นตำนานของวงการ “28 YEARS LATER” ภาคต่อแฟรนไชส์หนังซอมบี้ที่เป็นตำนานของวงการ “28 YEARS LATER” ภาคต่อแฟรนไชส์หนังซอมบี้ที่เป็นตำนานของวงการ

 

‘ราฟ ไฟน์ส’ คือใครใน 28 Years Later

นักแสดงนำหลักของภาค 3 ประกอบด้วย แอรอน เทย์เลอร์-จอห์นสัน รับบท เจมี ผู้เป็นพ่อ, โจดี้ โคเมอร์ รับบท อิสลา ผู้เป็นแม่, อัลฟี วิลเลียมส์ รับบท สไปค์ ลูกชาย และราล์ฟ ไฟน์ส รับบท ‘ผู้ระลึกความตาย’

นักแสดงเจ้าบทบาท ราล์ฟ ไฟน์ส ได้พูดถึงตัวละครที่เขาเล่นเอาไว้ดังนี้

 

“ด็อกเตอร์เอียน เคลสัน เป็นหมอผู้มีแนวคิดมนุษยนิยม ชายผู้มีความเห็นอกเห็นใจ ผมว่าเขาคือคนที่ยอมรับสัจธรรมเรื่องความตาย “เมเมนโต โมริ – ระลึกถึงความตายอยู่เสมอ” วันวันหนึ่งเขาใช้ชีวิตยังไง เขาเอาชีวิตรอดมา 28 ปีด้วยตัวคนเดียวได้ยังไง ผมประทับใจรายละเอียดลึก ๆ เกี่ยวกับตัวเขามาก คุณอาจคิดว่าเขาดูน่าขนลุก แต่เขาเป็นคนที่ซับซ้อน”

 

“28 YEARS LATER” ภาคต่อแฟรนไชส์หนังซอมบี้ที่เป็นตำนานของวงการ “28 YEARS LATER” ภาคต่อแฟรนไชส์หนังซอมบี้ที่เป็นตำนานของวงการ

 

ใช้ไอโฟน - ไวด์สกรีน สร้างความรู้สึกกดดัน

แดนนี บอยล์ เป็นผู้กำกับมือรางวัลที่มีวิสัยทัศน์ ไม่เคยสร้างผลงานธรรมดา ๆ ออกมา และสำหรับ 28 Years Later นี้ เขาได้นำนวัตกรรมการถ่ายทำที่แหวกแนว และอุปกรณ์ที่คาดไม่ถึงมาใช้ เพื่อสร้างมุมมองและประสบการณ์ในการรับชมภาพยนตร์รูปแบบใหม่

นั่นคือการใช้ไอโฟนมากถึง 20 เครื่องที่ติดอยู่กับอุปกรณ์พิเศษ มาใช้ถ่ายทำฉากการไล่ล่าของ “ผู้ติดเชื้อ” เพื่อให้เกิดความรู้สึกอึดอัด กดดัน สยองขวัญสั่นประสาทที่สัมผัสได้แบบใกล้แค่เอื้อม

โดยสัดส่วนภาพแบบไวด์สกรีน 2.76:1 จะสร้างความรู้สึกร่วมในแบบที่ “รับรู้ถึงความยิ่งใหญ่อลังการ” ของเหตุการณ์ในเรื่อง แต่ในขณะเดียวก็ “สัมผัสได้ถึงมุมมองส่วนตัวเล็ก ๆ” ของตัวละครได้เช่นกัน

“เราใช้ฟอร์แมต widescreen ที่กว้างมากในหนังเรื่องนี้ เพราะบนฟอร์แมทไวด์สกรีน พวกมัน (ซอมบี้) สามารถอยู่ที่ไหนก็ได้ ทำให้คุณต้องคอยกวาดตามองหาพวกมันด้วยความหวาดระแวงอยู่ตลอดเวลา”

แดนนี บอยล์ กล่าวกับ IGN

 

“28 YEARS LATER” ภาคต่อแฟรนไชส์หนังซอมบี้ที่เป็นตำนานของวงการ “28 YEARS LATER” ภาคต่อแฟรนไชส์หนังซอมบี้ที่เป็นตำนานของวงการ

‘28 YEARS LATER: 28 ปีให้หลัง เชื้อเขมือบคน’ มีกำหนดเข้าฉายวันที่ 19 มิถุนายน 2025 นี้ ในโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ

 

“28 YEARS LATER” ภาคต่อแฟรนไชส์หนังซอมบี้ที่เป็นตำนานของวงการ “28 YEARS LATER” ภาคต่อแฟรนไชส์หนังซอมบี้ที่เป็นตำนานของวงการ “28 YEARS LATER” ภาคต่อแฟรนไชส์หนังซอมบี้ที่เป็นตำนานของวงการ