“เทศกาลดนตรีกรุงเทพฯ ’68” ยกบรรยากาศฝรั่งเศสมาไว้ใจกลางกรุง

จาก “เทศกาล Fête de la Musique” ซึ่งมีต้นกำเนิดที่ประเทศฝรั่งเศส สู่ “เทศกาลดนตรีกรุงเทพฯ ’68” ที่มีศิลปินไทย ฝรั่งเศส และศิลปินนานาชาติ ร่วมนำเสนอความหลากหลายทางดนตรีและวัฒนธรรม ในวันเสาร์ที่ 14 มิถุนายน 2568 ณ วันแบงค็อก และสมาคมฝรั่งเศสกรุงเทพ

สถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย สมาคมฝรั่งเศสกรุงเทพ และ วัน แบงค็อก ผนึกกำลังครั้งยิ่งใหญ่เพื่อเฉลิมฉลองความหลากหลายทางดนตรีของเมืองท่องเที่ยวอย่างกรุงเทพมหานคร ด้วยการจัด “เทศกาลดนตรีกรุงเทพฯ ’68” หรือ Bangkok World Music Day’ 25 ที่สาธารณชนสามารถเข้าร่วมงานได้ ณ บริเวณพื้นที่ของ วัน แบงค็อก และสมาคมฝรั่งเศส ในวันที่ 14 มิถุนายน 2568 โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย

 

 

(จากซ้ายไปขวา) Mr Paul-Nelson Ruesz – Managing Director of Live Promotions, Ms Astrid Renoux – Cultural Attache สถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย, คุณจรินทร์ทิพย์ ชูหมื่นไวย ผู้อำนวยการด้านศิลปะและวัฒนธรรม One Bangkok, Ms Katia Mohandi รองผู้อำนวยการ สมาคมฝรั่งเศสกรุงเทพฯ

 

 

 

คุณจะได้พบกับศิลปินชาวไทย ชาวฝรั่งเศส และศิลปินนานาชาติ 28 วง จากหลากหลายแนวดนตรี ไม่ว่าจะเป็นหมอลำ แจ๊ส ป็อป ร็อค เทคโน ออร์เคสตรา วงประสานเสียง รวมถึงการแสดงดนตรีต่อเนื่อง 10 ชั่วโมงจากดีเจนานาชาติที่จะมาร่วมสร้างสีสันและเปิดโอกาสให้ทุกคนได้ค้นพบดนตรีแนวใหม่ ๆ

เทศกาลดนตรีกรุงเทพฯ ’68 ไม่เพียงเปิดโอกาสให้ผู้คนเข้าถึงวัฒนธรรมดนตรีได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเท่านั้น หากยังเป็นเวทีส่งเสริมศิลปิน และจุดประกายความร่วมมือทางวัฒนธรรม เทศกาลนี้จะเป็นอีกหนึ่งหมุดหมายสำคัญของเสรีภาพทางศิลปะและความหลากหลายทางวัฒนธรรมอย่างแท้จริง

 

แรงบันดาลใจจากเทศกาลดนตรีฝรั่งเศส

Ms Astrid Renoux – Cultural Attache สถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย กล่าวในการแถลงข่าวว่า เทศกาลดนตรีกรุงเทพฯ ได้แรงบันดาลใจมาจาก Fête de la Musique เทศกาลที่ชาวฝรั่งเศสกว่าล้านคนมาร่วมฉลองและเล่นดนตรีกันในช่วงค่ำคืนของวันครีษมายัน (วันที่ช่วงเวลากลางวันยาวนานกว่าช่วงเวลากลางคืน)

เทศกาลนี้ถือกำเนิดขึ้นอย่างเป็นทางการหลังจากที่กระทรวงวัฒนธรรมประเทศฝรั่งเศสได้จัดทำแบบสำรวจเกี่ยวกับพฤติกรรมด้านวัฒนธรรมของชาวฝรั่งเศสเมื่อปี พ.ศ. 2525 พบว่ามีชาวฝรั่งเศสกว่า 5 ล้านคนเล่นเครื่องดนตรี โดยในจำนวนดังกล่าว กว่าครึ่งเป็นเยาวชน

โดยในขณะนั้นเทศกาลดนตรียังไม่เป็นที่นิยมในวงกว้าง ผลการสำรวจดังกล่าวจึงเป็นแรงบันดาลใจให้กระทรวงวัฒนธรรมฯ ริเริ่มแนวคิดในการจัดเทศกาลดนตรีที่นักดนตรีสามารถมาแสดง พบปะผู้ชมและผู้ฟังได้ตลอดค่ำคืนของฤดูร้อน

เทศกาลนี้จัดต่อเนื่องมาทุกปี นับจากครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2525 จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2528 เป็นต้นมา เทศกาล Fête de la Musique ได้ขยายออกไปนอกพรมแดนฝรั่งเศส ปัจจุบันจัดขึ้นในกว่า 120 ประเทศ จาก 5 ทวีปทั่วโลก โดยมีจุดร่วมคือเทศกาลดนตรีกลางแจ้งที่จัดขึ้นเพื่อสาธารณชน

ยกระดับเทศกาลดนตรี-ส่งเสริมศิลปินไทย

สถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสฯ มีความตั้งใจที่จะให้ชาวไทยได้สัมผัสความพิเศษของเทศกาล Fête de la Musique จึงร่วมมือกับพันธมิตรสำคัญอย่าง วัน แบงค็อก และหน่วยงานอื่น ๆ เพื่อยกระดับ “เทศกาลดนตรีกรุงเทพฯ ’68” ทั้งในด้านสถานที่ที่สามารถจัดการแสดงได้หลายเวที และการขยายพื้นที่จัดงานไปยังสมาคมฝรั่งเศสกรุงเทพซึ่งตั้งอยู่ข้าง ๆ ได้

 

จรินทร์ทิพย์ ชูหมื่นไวย ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ และผู้อำนวยการด้านศิลปะและวัฒนธรรม โครงการ วัน แบงค็อก กล่าวว่า

“วัน แบงค็อกเชื่อมั่นในการปรับเปลี่ยนพื้นที่ให้เป็น destination ที่มีความหลากหลายและมีความหมาย สำหรับเราแล้ว เทศกาลดนตรีกรุงเทพฯ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับดนตรีเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวเนื่องไปถึงเรื่องของวัฒนธรรมและชุมชน เราเชื่อว่าโปรแกรมการแสดงดนตรีที่ได้รับการดูแลคัดสรรมาด้วยความใส่ใจ ผนวกกับศิลปินที่มีชื่อเสียงทั้งในและต่างประเทศ เรามีความภาคภูมิใจที่จะนำเสนอเทศกาลดนตรีที่มีเอกลักษณ์ หลากหลาย และสร้างแรงบันดาลใจได้อย่างลึกซึ้ง"

“นอกจากนี้เรายังเชื่อว่าเวทีการจัดงานทั้งในร่ม และกลางแจ้ง ตลอดทั่วพื้นที่ของวัน แบงค็อก จะนำพาผู้คนให้มารวมตัวกัน ทำให้เมืองนี้มีชีวิตชีวา เฉกเช่นเดียวกับความมีสีสันของเทศกาลดนตรีฤดูร้อนในประเทศฝรั่งเศส เราจึงไม่ลังเลใจเลยที่จะเข้ามามีส่วนร่วมจัดงานนี้ เพราะศิลปะและวัฒนธรรมคือหลักการสำคัญของวัน แบงค็อก ดังนั้น เป้าหมายหลักของเราจึงไม่ใช่แค่ส่งเสริมศิลปะและผู้คนเท่านั้น แต่เราอยากจะสร้างสายสัมพันธ์ในระยะยาวกับหน่วยงานด้านวัฒนธรรมอย่างเช่น สถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศส และสมาคมฝรั่งเศสกรุงเทพ”

 

 

นอกจากทางวัน แบงค็อกแล้ว สถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสยังร่วมมือกับ โปโล รูเอส ชาวฝรั่งเศสผู้ก่อตั้งบริษัท Live Promotions ซึ่งมีเป้าหมายในส่งเสริมศิลปินชาวฝรั่งเศสในประเทศไทย และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

โดยนอกเหนือจากมีศิลปินไทยเข้าร่วมแสดงบนเวทีแล้ว “เทศกาลดนตรีกรุงเทพฯ ’68” จะมีการแสดงในส่วนของ "ดนตรีเปิดหมวก" หรือ Busking ที่จะเปิดโอกาสให้ศิลปินมือสมัครเล่นได้เข้าร่วมโชว์ฝีมือด้วย

ทั้งนี้ จุดเด่นของ “เทศกาลดนตรีกรุงเทพฯ ’68” คือ เป็นเทศกาลดนตรีกลางแจ้งที่จัดขึ้นเพื่อสาธารณชนอย่างแท้จริง ทุกคนสามารถมาร่วมงานได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย นอกจากการแสดงดนตรีแล้ว ภายในงานยังมีบูธขายอาหารให้ซื้อไปนั่งรับประทานในขณะรับชมดนตรี ตลอดจนมีเวทีเปิดสำหรับศิลปินมือสมัครเล่นเพื่อสร้างบรรยากาศที่เป็นมิตรกับทุกเพศ ทุกวัย

 

ภูมิ วิภูริศ-สวนพลูคอรัส-Emile Londonien

สำหรับสถานที่จัดงาน “เทศกาลดนตรีกรุงเทพฯ ’68” มีพื้นที่จัดงาน 2 แห่งด้วยกัน คือ วัน แบงค็อก ซึ่งเป็นพื้นที่หลัก และสมาคมฝรั่งเศส

ในส่วนของ “วัน แบงค็อก” นั้นจะเป็นเวทีการแสดงจากศิลปินชื่อดัง ดนตรีอินดี้ เวทีเปิดหมวกสำหรับศิลปินมือสมัครเล่น การแสดงดนตรีแนวสตรีท รวมถึงการแสดงดนตรีต่อเนื่องจากดีเจ 12 ชั่วโมง โดยเวทีหลักคือ One Bangkok Park นอกจากนี้ยังมีบริเวณ Chang Canvas (ช้าง แคนวาส), Parade Square และ The Wireless Club

ส่วนที่ “สมาคมฝรั่งเศสกรุงเทพ” ในส่วนของห้อง auditorium จะเป็นการแสดงดนตรีแนวอะคูสติกส์ และคลาสสิก

รายงานของศิลปินที่จะมาร่วมแสดงในเทศกาลสุดพิเศษนี้ประกอบด้วย Phum Viphurit, Gene Kasidit, Paradise Bangkok Molam International, Emile Londonien, KIKI, Landokmai, Réjizz, Mindfreakkk, Afrodream, Venn, Frank Herrgott, Bulletguyz, Jimmy Revolt, Mahidol Brass Band, Nuwave Trio, Omri Music Studio, PGVIM, Armani, Babyscash, Mizuyo, Justin Mills และอื่น ๆ

นอกจากคอนเสิร์ตของเหล่าศิลปินชื่อดังแล้ว ยังมีการแสดงสดจาก DJ ดนตรีเปิดหมวก (Busking) ตลอดจนบู้ทขายอาหาร และ flea market

พบกับ “เทศกาลดนตรีกรุงเทพฯ ’68” ที่จะมีศิลปินไทย-ฝรั่งเศส และศิลปินนานาชาติ 28 วง มาร่วมถ่ายทอดความหลากหลายทางดนตรี ในวันเสาร์ที่ 14 มิถุนายน 2568 เวลา 10.00 – 02.00 น. ณ วันแบงค็อก และสมาคมฝรั่งเศสกรุลเทพ

ที่สำคัญ “เทศกาลดนตรีกรุงเทพฯ ’68” เปิดให้ประชาชนทั่วไปและผู้สนใจเข้าร่วมงานได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย

 

Phum Viphurit

Afrodream

Gene Kasidit

KIKI

Landokmai

Mindfreakkk

Paradise Bangkok Molam International

Réjizz

Venn