Lilo & Stitch (ลีโลแอนด์สติทช์) ปลุกชีพหนัง live action ดิสนีย์?

การคว้าแชมป์ box office ทุบสถิติตั้งแต่สัปดาห์เปิดตัวของ Lilo & Stitch จุดประกายความหวังว่าอาจเป็นหนังที่ปลุกกระแส live action ของดิสนีย์ให้กลับมาเฟื่องฟูได้อีกครั้ง
เวลาหยิบจับคอนเทนต์มาทำเป็นภาพยนตร์ โดยเฉพาะเรื่องที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในวงกว้างอยู่แล้ว ผู้สร้างส่วนใหญ่มักจะ “บิด” บางอย่างเพื่อให้มีความสดใหม่ หรือมีลายเซ็นของตัวเอง เช่นเดียวกับ Dean Fleischer Camp ที่บอกว่าเขาทำ Lilo & Stitch ฉบับคนแสดงจริง (live action) ให้ "มีจังหวะสอดคล้องกับสิ่งที่ผู้คนจดจำได้จากเวอร์ชั่นต้นฉบับ ไม่ใช่การทำเหมือนกันเปี๊ยบแบบ copy – paste"
นั่นอาจเป็นสิ่งที่ทำให้ Lilo & Stitch เวอร์ชั่น 2025 ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามจนทางดิสนีย์ที่เพิ่งบาดเจ็บหนักจาก Snow White เวอร์ชั่นคนแสดงจริง (ที่ทำรายได้ทั่วโลกไป 204 ล้านดอลลาร์ จากงบประมาณ 250 ล้านดอลลาร์ ไม่นับรวมกระแสดรามาต่าง ๆ) แล้วสั่งระงับแผนการสร้างหนัง live action เรื่อง Tangled ที่อ้างอิงจากการ์ตูนเรื่อง Rapunzel เอาไว้ก่อน ถึงกับกล้าประกาศว่ากำลังมองดูลู่ทางสร้างภาคต่อของ Lilo & Stitch เอาไว้แล้วหลังจากหนังเข้าฉายได้เพียงไม่กี่วัน
โดยนายอลัน เบิร์กแมน ประธานร่วม (co-chairman) Disney Entertainment ให้สัมภาษณ์ The Wall Street Journal ว่าทางบริษัทมีความเชื่อมั่นเป็นอย่างมากกับผลประกอบการของ Lilo & Stitch และได้คิดล่วงหน้าถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปเอาไว้แล้ว
อันดับ 1 บ็อกซ์ ออฟฟิศ ประเทศไทย
คำกล่าวของผู้บริหารดิสนีย์ได้รับการยืนยันจากตัวเลขบ็อกซ์ ออฟฟิศของ Lilo & Stitch ที่ทำรายได้ไป 341 ล้านดอลลาร์ทั่วโลก แถมยังทุบสถิติรายได้ช่วงวันหยุด Memorial Day ในสหรัฐฯ ด้วยตัวเลข 183 ล้านดอลลาร์
โค่นแชมป์เก่าอย่าง Top Gun: Maverick (หนังปี 2022) ที่ทำรายได้ 126 ล้านดอลลาร์ช่วงสุดสัปดาห์ และ 160 ล้านดอลลาร์ ในรอบ 4 วัน ขึ้นมาเป็นหนังที่ทำรายได้เปิดตัวช่วงวันหยุด Memorial Day ได้มากที่สุดเป็นประวัติการณ์
สำหรับประเทศไทย Lilo & Stitch เองก็แรงไม่แพ้กัน สามารถคว้าแชมป์ ครองอันดับ 1 หนังทำเงินในบ้านเรา ช่วงสุดสัปดาห์ที่ 22-25 พ.ค. 2568 ซึ่งเป็นสัปดาห์แรกที่เข้าฉายด้วยรายได้เปิดตัวถึง 33.76 ล้านบาท
สัตว์ต่างดาวตัวร้ายที่ใคร ๆ ก็หลงรัก
สำหรับความสำเร็จของ Lilo & Stitch เวอร์ชั่น 2025 นั้นเกิดจากองค์ประกอบหลายอย่างรวมกัน ไม่ว่าจะเป็นความเป็นหนังที่ดูแล้วอบอุ่นหัวใจ จากเรื่องราวที่มีแกนหลักอยู่ที่เรื่องครอบครัว เมื่อสองพี่น้องที่กลายเป็นเด็กกำพร้า ต้องดิ้นรนใช้ชีวิตกันตามลำพังให้รอดหลังจากพ่อแม่เสียชีวิต ได้มาพบเจอกับสัตว์ทดลองที่เกิดมาก็พบเจอแต่ความเกลียดชัง ไม่รู้จักว่าความรัก และคำว่าครอบครัวคืออะไร แต่ทั้งสองฝ่ายกลับเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายให้กันและกัน
แต่สิ่งที่ต้องยกประโยชน์ให้มากที่สุดคือความน่ารักของเจ้าสติทช์ สัตว์ต่างดาวตัวแสบที่ไม่ว่าจะก่อเรื่องวายป่วงขนาดไหน แต่คนดูก็อดที่จะรักและเอ็นดูไม่ได้ จนทำให้สติทช์กลายเป็นแบรนด์สินค้าที่แข็งแกร่งติดอันดับ Top 10 แฟรนไชส์ที่ทำยอดขายสินค้ากระจุกกระจิกพวก ตุ๊กตา ชุดนอน กระเป๋า พวงกุญแจ เครื่องเขียน ฯลฯ ด้วยรายได้กว่า 2,600 ล้านดอลลาร์ เฉพาะในปี 2024 เพียงปีเดียวเท่านั้น (ข้อมูลจาก Variety)
“สติทช์กลายเป็นตัวมาสค็อตยุคโมเดิร์นของแบรนด์ดิสนีย์ไปแล้ว มันเป็นที่จดจำ และคุ้นเคยในกลุ่มครอบครัวคนรุ่นใหม่มากกว่าตัวการ์ตูนที่เป็นตำนานของดิสนีย์หลายตัว”
ชอว์น รอบบินส์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ภาพยนตร์ของ Fandango กล่าว
ในส่วนของการ์ตูนแอนิเมชั่นนั้น แฟรนไชส์ Lilo & Stitch ก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเช่นกัน โดยมียอดรับชมสูงถึง 546 ล้านชั่วโมงทาง Disney+ ทั่วโลก โดยเวอร์ชั่นแรกมียอดชมสูงถึง 280 ล้านชั่วโมง นับเป็นสัดส่วนครึ่งหนึ่งของการรับชมทั้งหมด
แคสติ้งเหมาะสม ไม่เจอดรามาเรื่อง woke
ภาพยนตร์ live action ของดิสนีย์ก่อนหน้านี้หลายเรื่อง เช่น Snow White, The Little Mermaid เจอกระแสดรามาเรื่องคัดเลือกนักแสดงไม่ตรงกับที่บรรยายเอาไว้ในการ์ตูน เพราะความ woke หรือต้องการจะคอลเอาท์ประเด็นทางสังคมมากเกินไปจนทำลายความรัก และภาพจำที่แฟน ๆ มีต่อการ์ตูนต้นฉบับ
แต่สำหรับ Lilo & Stitch ไม่เจอปัญหาเรื่องนี้ โดยหนูน้อย ลีโล (Lilo) เด็กหญิงฮาวาย วัย 6 ขวบผู้รักการเต้นฮูลาและเพลงของ Elvis Presley มีจินตนาการอันสดใสและความดื้อเล็ก ๆ เป็นเอกลักษณ์ จึงทำให้มักจะรู้สึกแปลกแยกจากเพื่อนนั้น รับบทโดย Maia Kealoha หนูน้อยจากเกาะบิ๊กไอส์แลนด์ ซึ่งเกิดและเติบโตในฮาวาย
โดยผู้กำกับ Dean Fleischer Camp กล่าวว่า
“ทันทีที่ Maia เดินเข้ามาพร้อมกับคุณแม่ของเธอ ผมก็รู้ว่าเราเจอลีโลแล้วจริง ๆ เราต้องการคนที่มีทั้งความช่างพูดและความมั่นใจแบบลีโล แต่ไม่อยากได้คนที่เป็นลีโลทั้งในและนอกจอ เพราะคำนึงถึงผลกระทบในระยะยาว เลยอยากได้นักแสดงเด็กที่มีพรสวรรค์และสามารถร่วมกันสร้างตัวละครลีโลขึ้นมาผ่านการฝึกฝน ไม่ใช่แค่เล่นเป็นตัวเองต่อหน้ากล้อง ซึ่ง Maia ทำได้อย่างนั้นจริง ๆ”
ส่วนบท นานี (Nani) พี่สาววัย 18 ปี ของลีโล ผู้มีความฝันอยากเป็นนักชีววิทยาทางทะเล แต่ต้องแบ่งเวลาให้กับทั้งการเรียน การทำงาน และภาระหนักอึ้งของการเลี้ยงดูน้องสาว รับบทโดย Sydney Elizebeth Agudong นักแสดง นักร้องนักแต่งเพลงซึ่งเกิดและเติบโตบนเกาะ Kauaʻi เช่นกัน
โดย Executive producer อย่าง Ryan Halprin กล่าวว่า
“นานีเป็นตัวละครที่ต้องแบกรับอารมณ์ของเรื่อง และด้วยความที่ Sydney เติบโตบนเกาะ ทำให้เธอเข้าใจเรื่องราวของนานีได้อย่างลึกซึ้ง จึงถ่ายทอดทั้งช่วงเวลาอารมณ์และความตลกได้สมบูรณ์แบบ บอกได้เลยว่าเธอคือตัวเลือกที่เหมาะที่สุด”
ไปพิสูจน์ความน่ารักของเจ้าต่างดาวตัวร้ายกับหนูน้อยฮาวายกันได้แล้ววันนี้กับ Lilo & Stitch ในโรงภาพยนตร์
#LiloAndStitch






