Mission: Impossible - The Final Reckoning บทสรุปชีวิต ‘อีธาน ฮันท์’

Mission: Impossible - The Final Reckoning บทสรุปชีวิต ‘อีธาน ฮันท์’

พบกับบทสรุปชีวิตสายลับ ‘อีธาน ฮันท์’ ตลอด 30 ปีที่ผ่านมาใน Mission: Impossible - The Final Reckoning ที่ ‘ทอม ครูซ’ ยังคงทุ่มสุดตัวกับบทเสี่ยงตายในวัย 62 ปี

“ใน Mission: Impossible ไม่มีวันไหนเลยซักวันที่เป็นวันง่าย ๆ แล้วผมก็ไม่ได้อยากให้มันเป็นอย่างอื่น”

 

ทอม ครูซ มีรอยยิ้มกว้างขณะพูดถึงหนังสายลับฟอร์มยักษ์ที่ตัวเองรับบท ‘อีธาน ฮันท์’ มาเป็นเวลายาวนานร่วม 3 ทศวรรษ

เอกลักษณ์อันโดดเด่นของแฟรนไชส์ภาพยนตร์ Mission Impossible ที่ทอม ครูซ พยายามรักษาเอาไว้อย่างเหนียวแน่น ไม่ยอมให้มันเลือนหายไปก็คือ การสรรหาภารกิจสุดโลดโผนมานำเสนอต่อผู้ชม โดยที่เขาจะเป็นคนลงมือเล่นฉากเสี่ยงตายเหล่านั้นด้วยตัวเอง เพื่อให้ตัวละคร ‘อีธาน ฮันท์’ มีความหมายเทียบเท่ากับ “การทำสิ่งที่เหลือเชื่อให้สำเร็จลงได้” ให้สมกับชื่อหนัง

ไม่ว่าจะเป็นการปีนตึกเบิร์จ คาลิฟาใน Ghost Protocol, เกาะอยู่ด้านนอกเครื่องบินที่กำลังเหินฟ้าใน Rogue Nation, กระโดดออกจากเครื่องบินในระดับความสูง 25,000 ฟุตใน Fallout หรือขี่มอเตอร์ไซค์ดิ่งลงหน้าผาใน Dead Reckoning

Mission: Impossible - The Final Reckoning บทสรุปชีวิต ‘อีธาน ฮันท์’

 

Mission: Impossible – The Final Reckoning (มิชชั่น: อิมพอสซิเบิ้ล ปิดปฏิบัติการล่าพิกัดมรณะ) เป็นหนังภาคแปด ในขณะที่แฟรนไชส์ภาพยนตร์ชุดนี้มีอายุย่างเข้าปีที่ 30 แล้ว ดังนั้น สิ่งที่ตัวละครต้องเผชิญจึงเป็นความท้าทายที่ซับซ้อนและอันตรายที่สุดเท่าที่พวกเขาเคยเจอมา

“หนังเรื่องใหม่นี้เป็นบทสรุปของทุกอย่าง และผมหมายถึงทุกอย่างจริง ๆ ทุกอย่างที่ผมและแม็คคิว (คริสโตเฟอร์ แม็คควอร์รีย์ ผู้ที่กำกับสี่ภาคล่าสุดของแฟรนไชส์นี้) ได้เรียนรู้ตลอดระยะเวลาที่เราสร้างหนังพวกนี้ The Final Reckoning มีทั้งความสง่างาม ความสลับซับซ้อนและอลังการอย่างเหลือเชื่อ เราสามารถทำในสิ่งที่เราทำไปได้ก็เพราะสิ่งต่าง ๆ ที่เราได้ทำไปแล้วในแฟรนไชส์นี้จนถึงตอนนี้ครับ”

ทอม ครูซกล่าว

ขณะที่แม็คควอร์รีย์กล่าวว่าเป้าหมายของเขาและครูซที่ร่วมกันสร้างสรรค์ภาพยนตร์เรื่องนี้คือ Mission: Impossible ภาคที่ 7 และ 8 เป็นเรื่องราวสองตอนซึ่งทำหน้าที่บทสรุปเรื่องราวทั้งหมดของอีธาน ฮันท์ โดย Final Reckoning จะเล่าเรื่องราวครอบคลุมทั้งแฟรนไชส์ ย้อนกลับไปถึงภาคแรกกันเลยทีเดียว

ผู้กำกับ Final Reckoning กล่าวต่อว่าบทพูดสำคัญที่บ่งบอกถึงธีมหลักของเรื่อง และอุดมการณ์ของทีมงานเบื้องหลังภาพยนตร์เรื่องนี้ก็คือประโยคที่ว่า “ทุกสิ่งที่นายเป็น ทุกอย่างที่เคยทำ นำมาสู่จุดนี้” ซึ่งหากพิจารณาจากมุมมองของตัวละคร นี่คือภาพยนตร์ที่แสดงให้เห็นถึง อีธาน ฮันท์ ในช่วงเวลาที่เขานึกย้อนถึงเรื่องของตัวเองมากที่สุด และเป็นที่เข้าถึงได้มากที่สุดด้วย

 

Mission: Impossible - The Final Reckoning บทสรุปชีวิต ‘อีธาน ฮันท์’ Mission: Impossible - The Final Reckoning บทสรุปชีวิต ‘อีธาน ฮันท์’

 

แฟรนไชส์ภาพยนตร์ Mission: Impossible

  1. Mission: Impossible (1996) ผู้กำกับ Brian De Palma

  2. Mission: Impossible 2 (2000) ผู้กำกับ John Woo

  3. Mission: Impossible III (2006) ผู้กำกับ J. J. Abrams

  4. Mission: Impossible – Ghost Protocol (2011) ผู้กำกับ Brad Bird

  5. Mission: Impossible – Rogue Nation (2015) ผู้กำกับ Christopher McQuarrie

  6. Mission: Impossible – Fallout (2018) ผู้กำกับ Christopher McQuarrie

  7. Mission: Impossible – Dead Reckoning Part One (2023) ผู้กำกับ Christopher McQuarrie

  8. Mission: Impossible – The Final Reckoning (2025) ผู้กำกับ Christopher McQuarrie

 

สานต่อความมันส์จากภาค 7

สำหรับเนื้อหาของ The Final Reckoning นั้นดำเนินต่อเนื่องจาก Dead Reckoning โดยอีธาน ฮันท์พยายามหาทางจัดการกับ ดิ เอ็นทิตี้ ปัญญาประดิษฐ์สุดอำมหิตที่มีความสามารถถึงขนาดทำให้มนุษยชาติสูญสิ้นเผ่าพันธุ์หรือกลายเป็นทาสเอไอได้ผ่านการแทรกซึมเข้าไปยังระบบไอทีทั่วโลก

ฮันท์ซึ่งได้กุญแจมาจากภาคที่แล้ว ต้องใคร่ครวญอย่างหนักว่าจะจัดการเรื่องนี้อย่างไร เขาสามารถไว้ใจรัฐบาลได้หรือไม่ แถมยังมีเวลาจัดการ ดิ เอ็นทิตี้ ภายในเวลาเพียง 72 ชั่วโมงเท่านั้น แล้วในภารกิจที่ยิ่งใหญ่และสำคัญที่สุดเท่าที่เคยประสบพบเจอมา ฮันท์ก็ยังคงได้รับความช่วยเหลือจากทีมไอเอ็มเอฟของเขาที่ประกอบไปด้วย ลูเธอร์ (วิง รามส์), เบนจี้ (ไซมอน เพ็กก์) ไปจนถึงลูกทีมคนใหม่อย่าง เกรซ หญิงสาวผู้กลับใจ (เฮย์เลย์ แอทเวล) รวมไปถึงเพื่อนหน้าเก่าและหน้าใหม่อีกหลายคนที่มาร่วมมือกันช่วยเซฟโลกใบนี้

 

 

โลเคชั่นตื่นตาตื่นใจทั่วโลก

การถ่ายทำ The Final Reckoning ถือเป็นความพยายามระดับนานาชาติ เพราะโลเคชั่นสำคัญตั้งอยู่กระจัดกระจายไปทั่วโลก มีตั้งแต่ ลองครอส ฟิล์ม สตูดิโอส์ ในสหราชอาณาจักร ซึ่งถูกใช้แทนที่ เมานท์ เว็ธเธอร์ ฐานปฏิบัติการทางทหารของสหรัฐฯ ในโลกแห่งความเป็นจริง

เรื่อยไปจนถึงเหมืองมิดเดิลตันของอังกฤษซึ่งมีอุโมงค์หินปูนยาว 30 ไมล์ในระดับสามชั้น, ท้องฟ้าสีครามเหนือดราเคนส์เบิร์ก และที่ราบสูงบรัสเซลส์ในแอฟริกาใต้ หรือแม้กระทั่งช่วงเวลาสามวันบนดาดฟ้าเรือยูเอสเอส จอร์จ เอช.ดับบลิว. บุช นอกชายฝั่งอิตาลี

 

Mission: Impossible - The Final Reckoning บทสรุปชีวิต ‘อีธาน ฮันท์’ Mission: Impossible - The Final Reckoning บทสรุปชีวิต ‘อีธาน ฮันท์’

 

เท่านั้นไม่พอ ทีมงานยังต้องออกเรือไปยังชุมชนที่อยู่เหนือสุดของโลก นั่นคือ ลองเยียร์เบียน บนหมู่เกาะสฟาลบาร์ด ดินแดนของนอร์เวย์ที่อยู่ลึกเข้าไปในแถบอาร์กติก เซอร์เคิล เป็นสถานที่ห่างไกลที่ยังไม่เคยมีใครถ่ายทำที่นั่นมาก่อน และเข้าถึงได้โดยเรือตัดน้ำแข็งเท่านั้น

โดยนักแสดงจะต้องใช้ไดร์เป่าผมในการอบอุ่นร่างกายเป็นประจำระหว่างการเตรียมฉาก เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการบาดแผลหิมะกัดท่ามกลางอุณหภูมิ -40 องศา

 

Mission: Impossible - The Final Reckoning บทสรุปชีวิต ‘อีธาน ฮันท์’

Mission: Impossible - The Final Reckoning บทสรุปชีวิต ‘อีธาน ฮันท์’

 

“ทอมและแม็คคิวตั้งใจให้หนังเรื่องนี้มอบประสบการณ์ระดับโลกให้กับผู้ชมมาโดยตลอด พวกเขาจึงพยายามขยายขอบเขตทางภูมิศาสตร์อยู่เสมอ และพวกเขาก็ทำได้สำเร็จกับหนังเรื่องนี้ เราถ่ายทำกันในแอฟริกาใต้ซึ่งมีภูมิประเทศที่สวยงามอย่างพิเศษ แต่ความท้าทายที่แท้จริงสำหรับทุกคนทั้งในด้านเทคนิคและทางกายภาพคือการเดินทางไปอาร์กติกค่ะ”

เฮย์เลย์ แอทเวลกล่าว

 

“มันเป็นภูมิประเทศที่ถ่ายทำยากมาก ซึ่งช่วยเพิ่มความระทึกขวัญและความดรามาให้กับฉากได้ ความรู้สึกของความเสี่ยงอันตรายและความเสี่ยงเพียงเพื่อที่จะได้ไปถ่ายทำที่นั่น ฉันคิดว่ามันถ่ายทอดออกมาบนกล้องได้อย่างสวยงามค่ะ”

 

เกร็ก ทาร์ซาน เดวิส เห็นด้วยว่า “คุณไม่สามารถจำลองมันขึ้นมาได้ด้วย CGI หรอกครับ ในฐานะนักแสดง การได้อยู่ในสภาพแวดล้อมแบบนั้นทำให้เราได้สัมผัสกับของจริงแทนที่จะมีบลูหรือกรีนสกรีนขนาดใหญ่อยู่ด้านหลัง เราอยู่ในอารยธรรมที่ยังไม่ได้ถูกใช้งานใดๆ ที่ซึ่งสัตว์ต่างๆ ออกหากินอย่างอิสระบนธารน้ำแข็ง”

 

Mission: Impossible - The Final Reckoning บทสรุปชีวิต ‘อีธาน ฮันท์’ Mission: Impossible - The Final Reckoning บทสรุปชีวิต ‘อีธาน ฮันท์’

 

ไซมอน เพ็กก์ กล่าวว่า ประสบการณ์นี้ถือเป็นภารกิจที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาไปโดยสิ้นเชิง “เป็นการผจญภัยที่น่าตื่นเต้นมาก” เขากล่าวพร้อมรอยยิ้ม

“Mission: Impossible ทำให้ผมได้เดินทางไปทั่วโลก ผมไม่เชื่อเลยว่าผ่านไปแล้ว 18 ปี แต่ครั้งนี้เป็นครั้งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและดีที่สุด ผมต้องการให้ผู้ชมสัมผัสได้ถึงความรักที่ทุ่มเทให้กับมัน พวกเราทุกคนทุ่มเทเลือด เหงื่อ และน้ำตาให้กับหนังเรื่องนี้จริงๆ มันถูกสร้างขึ้นมาด้วยความรัก ความทุ่มเท และความมุ่งมั่นอย่างยิ่งใหญ่ต่อวงการหนังครับ”

 

Mission: Impossible - The Final Reckoning บทสรุปชีวิต ‘อีธาน ฮันท์’

 

“หนังเรื่องนี้จะทำให้ผู้ชมตะลึงเพราะมีฉากแอ็กชันมากมาย แต่ทั้งหมดนั่นก็จะเกิดขึ้นในรูปแบบที่แตกต่างกันไปครับ เรามีซีเควนซ์กลางอากาศ ในน้ำ ในเปลวเพลิง ในน้ำแข็ง มันมีฉากแอ็กชันที่สมจริงในทุกสภาพแวดล้อมเลยล่ะครับ” 

ปอม เคลเมนทิฟฟ์เน้นย้ำ

 

“ผมไม่อยากบอกผู้ชมว่าจะต้องรู้สึกอย่างไร ว่าพวกเขาจะเดินออกไปด้วยความรู้สึกแบบไหนหลังจากดูเรื่องนี้ แม้แต่ตัวผมเอง ในฐานะผู้ชม ก็อยากจะสัมผัสประสบการณ์นั้นด้วยตัวเอง สำหรับผม ในฐานะนักเล่าเรื่อง การสื่อสารกับผู้ชมก็เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง”

ทอม ครูซ กล่าว

“ผมอยากให้พวกเขาได้สัมผัสประสบการณ์ของตนเอง หนังของผมเป็นหนังที่คุณต้องมีส่วนร่วมด้วย เป็นหนังที่ผมอยากให้คนดูมีส่วนร่วม ไม่ใช่แค่นั่งเฉยๆ ประโยคหนึ่งที่เราชอบที่สุดเกี่ยวกับหนังพวกนี้คือตอนที่ใครสักคนพูดกับเราว่า ‘ผมซื้อที่นั่งทั้งตัว แต่ผมนั่งแค่ตรงขอบเท่านั้นเอง’ นั่นคือสิ่งที่ผมต้องการ นั่นคือสิ่งที่ผมรู้สึกในฐานะผู้ชมในตอนที่ผมมีความรู้สึกร่วมไปกับเรื่องราว และกับหนังเรื่องนี้ เราก็ทำสำเร็จแล้วครับ”

 

Mission: Impossible - The Final Reckoning บทสรุปชีวิต ‘อีธาน ฮันท์’ Mission: Impossible - The Final Reckoning บทสรุปชีวิต ‘อีธาน ฮันท์’ Mission: Impossible - The Final Reckoning บทสรุปชีวิต ‘อีธาน ฮันท์’ Mission: Impossible - The Final Reckoning บทสรุปชีวิต ‘อีธาน ฮันท์’ Mission: Impossible - The Final Reckoning บทสรุปชีวิต ‘อีธาน ฮันท์’ Mission: Impossible - The Final Reckoning บทสรุปชีวิต ‘อีธาน ฮันท์’ Mission: Impossible - The Final Reckoning บทสรุปชีวิต ‘อีธาน ฮันท์’ Mission: Impossible - The Final Reckoning บทสรุปชีวิต ‘อีธาน ฮันท์’ Mission: Impossible - The Final Reckoning บทสรุปชีวิต ‘อีธาน ฮันท์’ Mission: Impossible - The Final Reckoning บทสรุปชีวิต ‘อีธาน ฮันท์’

 

 

 

“การสร้างหนังเรื่องนี้เข้มข้นกว่าที่ผมคิดไว้มาก พูดตามตรงนะครับ ผมรู้ว่ามันจะต้องเข้มข้น และผมก็สนุกไปกับความท้าทายต่างๆ แต่หนังเรื่องนี้ก็เข้มข้นมากขึ้นเรื่อยๆ” ครูซหัวเราะขณะมองย้อนกลับไปถึงการถ่ายทำที่พิเศษสุดนี้ “มันทะเยอทะยานมาก ทุกช่วงเวลาของมันท้าทายทุกสิ่งที่แม็คคิวและผมมี และทุกอย่างที่เราได้เรียนรู้จากหนังทั้งหมดนี้ The Final Reckoning คือผลลัพธ์ที่สมบูรณ์ของประสบการณ์ทั้งหมดนั้น แต่นั่นคือสิ่งที่เรารัก และตอนนี้เราก็มาถึงจุดนี้แล้ว มันเป็นการผจญภัยที่ยอดเยี่ยมจริงๆ”