Baby Hero ‘สิงคโปร์รักไทย’ l หนังเล่าโลก

เนื่องในวาระครบรอบ 60 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตสิงคโปร์-ไทย สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐสิงคโปร์ประจำประเทศไทย โดยเอกอัครราชทูตหว่อง เสี่ยว ผิง แคเทอรีน จัดฉายภาพยนตร์เรื่อง Baby Hero หรือในชื่อไทยว่า ฮีโร่บ้านทุ่ง รอบกาลาพรีเมียร์ไปเมื่อวันก่อน ตอกย้ำความสัมพันธ์ทางการทูตที่แน่นแฟ้นและหลากหลายมิตินับตั้งแต่สถาปนาความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 20 ก.ย.2508 

Baby Hero  เป็นภาพยนตร์ร่วมทุนสร้างระหว่าง Hong Pictures ของสิงคโปร์และ Hollywood Thailand ของไทย กำกับโดยโก๊ก แมน ฮอน ผู้กำกับชาวมาเลเซียได้นักแสดงจากทั้งสิงคโปร์และไทยมาโชว์ฝีมือ ถ่ายทำในหลายจังหวัดของประเทศไทย เช่น กรุงเทพฯ เพชรบูรณ์ พิษณุโลก สมุทรปราการ และสุโขทัย  มีกำหนดฉายในห้าประเทศทั้ง สิงคโปร์ เวียดนาม มาเลเซีย จีน และไทย เรียกได้ว่าเป็นผลงานนานาชาติจริงๆ 

Baby Hero บอกเล่าเรื่องราวของซัน (หลง ลี) หนุ่มไทยใสซื่อผู้เดินตามความฝันไปเป็นนักดนตรีที่สิงคโปร์ โดยมีแฟนสาวลีน่า (เฮย์ลีย์ วู) ช่วยทั้งผลักทั้งดันให้ซันได้แจ้งเกิดบนเส้นทางดนตรีเสียที แต่ซันก็ไปไม่ถึงฝันจนเจ้าตัวท้อตัดสินใจกลับบ้านที่ประเทศไทยมาช่วยปู่ทำรีสอร์ตโฮมสเตย์ในแฮปปี้วิลเลจ

ซันกลับบ้านได้ไม่เท่าไหร่ ลีน่าก็ทนคิดถึงแฟนไม่ไหวต้องซื้อทัวร์มาเที่ยวแฮปปี้วิลเลจกะทำเซอร์ไพรส์ซัน แต่ทัวร์กรุ๊ปนี้กลับเต็มไปด้วยลูกทัวร์ประหลาด และแน่นอนว่าไม่ดีมีแค่คนดีคนชั่วก็ปะปนมาด้วย คนกลุ่มนี้กำลังคิดการใหญ่ต้องการช่วงชิงบางสิ่งบางอย่างไปจากแฮปปี้วิลเลจ จึงเป็นหน้าที่ของทุกคนที่เหลือที่ต้องช่วยกันปกป้องคุณค่าของหมู่บ้านเอาไว้ 

ก่อนภาพยนตร์ฉาย ท่านทูตหว่อง เสี่ยว ผิง แคเทอรีน กล่าวถึงความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจอันเข้มแข็งระหว่างสองประเทศ ไทยเป็นคู่ค้าอันดับ 9 ของสิงคโปร์ สิงคโปร์เป็นคู่ค้าอันดับ 10 ของไทย สิงคโปร์เป็นหนึ่งในห้าแหล่งลงทุนโดยตรงจากประเทศใหญ่ที่สุดของไทยอย่างต่อเนื่อง ในปีที่ผ่านมานักท่องเที่ยวสิงคโปร์เดินทางมาเยือนไทยกว่า 1 ล้านคน 

ไม่ใช่แค่ที่ท่านทูตพูดเท่านั้น กิจกรรมก่อนหนังฉาย เหล่าพิธีกรและนักแสดงที่ส่วนใหญ่เป็นชาวสิงคโปร์ต่างยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า คนสิงคโปร์ชอบมาเที่ยวเมืองไทยมาก  90% เคยมากันไม่ต่ำกว่า 4-5 ครั้ง ชอบมาชอปปิง รับประทานอาหารอร่อยที่เมืองไทย  

ความชื่นชอบที่คนสิงคโปร์มีต่อประเทศไทย สะท้อนออกมาผ่านวิวสวยๆ ของธรรมชาติบ้านนาที่ชวนให้คิดถึงนโยบายการท่องเที่ยวเมืองรอง นอกจากนี้ยังมีการสอดแทรกสัญลักษณ์และเรื่องราวที่คุ้นเคยของทั้งชาวไทยและสิงคโปร์ แถมเนื้อเรื่องก็มีจังหวะให้ลุ้นตลอด ไม่ผิดเลยที่ท่านทูตบอกว่า

“เรายังคงร่วมมือกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อก้าวข้ามขีดจำกัดและนำพาผลประโยชน์มาสู่ประชาชนของเรา”

Baby Hero สะท้อนภาพความร่วมมือนี้จริงๆ ส่วนชื่อเรื่อง Baby Hero นั้นเป็นการเล่นคำเลียนเสียงภาษาจีน “เบ่บี๊” ที่แปลว่า การโดนบังคับ หรือพูดง่ายๆ ก็คือจำเป็นต้องทำเพราะสถานการณ์พาไป  ส่วนจะเป็นอย่างไรคงต้องไปชมกันเอง โดนใจแค่ไหนขึ้นอยู่กับความเส้นลึกเส้นตื้นของผู้ชมแต่ละคน ในภาพรวมถือว่าดูได้เพลินๆ  แม้แต่ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ยังบอกว่าเป็นภาพยนตร์คลายเครียดหลังเจอแผ่นดินไหว จะได้มีแรงไปลุยงานกันต่อ 

ส่วนตัวหนังเล่าโลกชอบความขโมยซีนของนักแสดงตัวรอง ไม่หล่อแต่เร้าใจ 

ขณะที่ภาพความร่วมมือระหว่างประชาชนสองชาติมีให้เห็นแน่นอน สมแล้วที่เป็นหนังฉลอง 60 ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-สิงคโปร์