ทิโมธี ชาลาเมต์ สร้าง ปวศ. คว้านำชายยอดเยี่ยม จาก A Complete Unknown

‘ทิโมธี ชาลาเมต์’ สวมวิญญาณ ‘บ็อบ ดีแลน’ ในภาพยนตร์ A Complete Unknown ได้สมบทบาทจนคว้ารางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมไปครองจากเวที SAG Awards ในไทยจ่อคิวรอฉาย 27 กพ. นี้
ทิโมธี ชาลาเมต์ (Timothée Chalamet) นักแสดงหนุ่มเชื้อสายอเมริกัน-ฝรั่งเศส วัย 29 ปี สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นนักแสดงอายุน้อยที่สุดที่ได้รับรางวัล “นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม” เวที Screen Actors Guild awards หรือ SAG Awards จากการสวมวิญญาณ บ็อบ ดีแลน ในภาพยนตร์ A Complete Unknown
Credit : SAG Awards, Searchlight Pictures
A Complete Unknown เป็นหนังชีวประวัติที่จะพาคุณย้อนเวลากลับไปยังนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ช่วงต้นทศวรรษ 1960 ท่ามกลางฉากดนตรีที่มีชีวิตชีวา และการพลิกผันทางวัฒนธรรมที่วุ่นวาย หนุ่มลึกลับวัย 19 ปีจากมินนิโซตาที่มีเงินในกระเป๋าเพียง 5 เหรียญ เดินทางมาถึงเวสต์วิลเลจพร้อมกีตาร์และพรสวรรค์ทางดนตรี ซึ่งจะมาสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ให้กับวงการดนตรีอเมริกัน
ทิโมธี ชาลาเมต์ รับบท บ็อบ ดีแลน (Bob Dylan) หนุ่มหัวขบถที่ไม่ยอมให้ตัวเองถูกตีกรอบ เขาตัดสินใจเลือกเส้นทางที่ขัดแย้ง แต่ส่งผลกระทบต่อวัฒนธรรมทั่วโลก และทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในนักร้องนักแต่งเพลงที่ทรงอิทธิพลที่สุดในประวัติศาสตร์วงการดนตรี ผู้เป็นเจ้าของเพลงฮิตอย่าง Blowin' in the Wind, Like a Rolling Stone, Knockin' on Heaven's Door
งดใช้มือถือ 3 เดือนระหว่างเล่นหนัง
ทิโมธีทุ่มสุดตัวในการรับบท บ็อบ ดีแลน ถึงขนาดยอมอดทน ไม่ใช้โทรศัพท์มือถือเป็นเวลานาน 3 เดือนระหว่างถ่ายทำหนังเรื่องนี้ ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยทำมาก่อนเลยในการเล่นหนังเรื่องก่อน ๆ
“มีหนังชีวประวัติคนดนตรีออกมามากมาย ผมอยากทำผลงานที่มันสุดยอด แล้วผมมีเวลาแค่ 3 เดือนที่จะเล่นเป็นบุคคลท่านนี้ ตลอดชีวิตที่เหลือผมอาจไม่ได้เล่นเป็นเขาอีกเลยก็ได้ ผมเลยเข้าโหมดล็อคอิน”
ทิโมธี ชาลาเมต์กล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์รายการพอดคาสต์ This Past Weekend w/ Theo Von เมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา
ทิโมธี ซึ่งใช้เวลาเตรียมตัวสวมบทบาทเป็น บ็อบ ดีแลน นานถึง 5 ปี ขยายความต่อว่า สาเหตุที่ต้องทำถึงขนาดนั้น (งดใช้มือถือ) เพราะเขาไม่อยากให้มีอะไรมากวนใจจนตัวเองต้องหลุดจากคาแรกเตอร์ การเป็นบ็อบ ดีแลน คือสิ่งที่เขาต้องโฟกัสที่สุดในช่วงเวลา 3 เดือนนั้น
“ผมจะมาทำพลาดเพราะเป็นตัวเองไม่ได้ ยังไงซะผมก็สามารถกลับไปเป็น ทิมมี่ ได้ตลอดชีวิตที่เหลือ”
ทิโมธีกล่าว พร้อมเสริมว่าหนังเรื่องนี้จะพูดถึงยุคแรกในชีวิตของบ็อบ ดีแลน คือระหว่างปี 1961-1965 ครอบคลุมช่วงเวลาที่เขาข้ามผ่านจากการเป็นนักร้องเพลงโฟล์คไปสู่ความเป็นอเมริกันร็อคแอนด์โรล
มีลุ้นเข้าชิงออสการ์ 8 สาขา
A Complete Unknown เป็นผลงานการกำกับของ เจมส์ แมนโกลด์ (James Mangold) เจ้าของผลงานคุณภาพที่เคยเข้าชิงออสการ์มาแล้วจากภาพยนตร์หลากหลายแนว ทั้งหนังดรามาหนักหน่วงอย่าง Girl, Interrupted หนังคาวบอยเรื่องเยี่ยม 3:10 to Yuma
หนังซูเปอร์ฮีโร่ตระกูล X-Men อย่าง The Wolverine (2013) และ Logan (2017) ที่เรื่องหลังได้เข้าชิงรางวัลออสการ์สาขาบทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม รวมไปถึงหนังชีวประวัติวงการกีฬาอย่าง Ford v Ferrari ที่เข้าชิงออสการ์ 4 สาขา และได้รับรางวัลไปครอง 2 สาขา คือ ตัดต่อภาพยนตร์ และตัดต่อเสียงยอดเยี่ยม
ในส่วนของภาพยนตร์ชีวประวัติวงการดนตรีนั้น เจมส์ แมนโกลด์ก็เคยทำมาก่อนแล้วใน Walk the Line เรื่องราวเกี่ยวกับ จอห์นนี แคช นักร้องเพลงคันทรีระดับตำนานที่ได้เข้าชิงออสการ์ถึง 5 สาขา โดย รีส วิเธอร์สปูน สามารถคว้ารางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมมาครองได้
สำหรับ A Complete Unknown ได้เข้าชิงออสการ์ในปีนี้ถึง 8 สาขา รวมถึงสาขาหลักอย่าง ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ซึ่งเป็นเรื่องที่ 2 ของทิโมธี ชาลาเมต์ที่ได้เข้าชิงสาขานี้ (ก่อนหน้านี้เขาได้เข้าชิงจากเรื่อง Call Me By Your Name) และการได้รับรางวัลนี้จากเวที SAG Awards ไปครองก็ยิ่งทำให้ทิโมธีมีภาษีที่จะได้ออสการ์มากขึ้น
เพื่อให้การลุ้นผู้ชนะรางวัลออสการ์ ประจำปี 2025 ที่จะมีการประกาศในวันจันทร์หน้ามีสีสันขึ้น สามารถรับชมภาพยนตร์ A Complete Unknown ได้ในโรงภาพยนตร์ วันที่ 27 กุมภาพันธ์ เป็นต้นไป







