วิมานหนาม : ใครน่าสงสารมากที่สุด...ระหว่างโหม๋ จิ่งนะ และทองคำ?

วิมานหนาม พล็อตเรื่องไม่ตามใจคนดู หนังจบ...คนดูไม่จบ ขม เศร้าเคล้าน้ำตา แต่สนุก โดยเฉพาะฉากปาทุเรียนใส่กัน ดราม่าสุดๆ ระหว่างทองคำและโหม๋
หลังจาก วิมานหนาม เปิดให้ชมทาง เน็ตฟลิกซ์ การสปอยหนังตอนนี้คงเป็นเรื่องปกติ แต่ไม่ว่าจะสปอยอย่างไร ก็ไม่เหมือนชมและลุ้นด้วยตัวเอง
วิมานหนาม (The Paradise of Thorns)เป็นหนังที่คนดูวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียลเน็ตเวิร์คมากที่สุดเรื่องหนึ่ง ทั้งฝีมือการแสดง บทแต่ละฉากแต่ละซีน โปรดักชั่นเรื่องนี้ มีดีทั้งการตั้งคำถาม แม้ไม่เอาใจคนดู แต่คนอยากดู เพราะมีสารที่น่าสนใจ
หนังเรื่องนี้เข้าฉายทางโรงภาพยนตร์เมื่อเดือนสิงหาคม 2567 และฉายทางเน็ตฟลิกซ์ เมื่อต้นเดือนมกราคมปี 2568 หนังติดเรท...ความรุนแรง,ความรุนแรงทางเพศ แนวดราม่าทริลเลอร์ ระทึกขวัญ แสดงด้านมืดของมนุษย์ แต่ก็มีด้านดีๆ ซุกซ่อนอยู่ โดยเฉพาะเส้นเรื่องความรักของชายรักชาย ความไม่เท่าเทียมทางเพศ และความเหลื่อมล้ำทางสังคม
วิมานหนามเป็นผลงานของค่ายจีดีเอช และใจ สตูดิโอ กำกับการแสดงโดยบอส นฤเบศ กูโน หรือบอส กูโน หนังเรื่องแรกของเขา โดยก่อนหน้านี้เคยกำกับซีรีย์เรื่อง ฮอร์โมน 3, SIDE BY SIDE พี่น้องลูกขนไก่, แปลรักฉันด้วยใจเธอ ทำให้พีพี บิวกิ้นเป็นที่รู้จัก
ผลงานเรื่องนี้ บอส เป็นทั้งผู้กำกับและเขียนบทร่วมกับการะเกด นรเศรษฐาภรณ์ และจูเนียร์ ณรณ เชิดสูงเนิน ทีมที่เคยร่วมงานกันในซีรีย์แปลรักฉันด้วยใจเธอ
ประเด็นหลักเล่าถึงความไม่เท่าเทียมทางสังคมและสมรสไม่เท่าเทียม เมื่อคู่รักชาย/ชาย เสก (เต้ย พงศกร) เจ้าของสวนทุเรียนเสียชีวิต ทองคำ(เจฟ ซาเตอร์) ทั้งๆ ที่ลงเงินและสร้างสวนมากับเสก ตามกฎหมายเขาไม่มีสิทธิครอบครองที่ดินผืนนั้น ซึ่งเป็นเรื่องน่าเศร้าสำหรับคนรักเพศเดียวกัน เนื่องจากตอนสร้างหนังกฎหมายสมรสเท่าเทียมยังไม่ประกาศใช้ (ประกาศใช้วันที่ 23 ม.ค. 2568 )
เรื่องราวการแย่งสวนทุเรียน ทำให้คนดูได้เห็นการดูแลทุเรียนตั้งแต่ออกดอก ใส่ปุ๋ย และเมื่อออกผลก็ต้องดูแลอย่างดี กว่าจะได้เงินล้านจากสวนทุเรียนไม่ง่ายเลย
สวนทุเรียนที่คู่รักทั้งสองช่วยกันสร้างที่แม่ฮ่องสอน จังหวัดที่ยากจนที่สุด มีคนทำสวนทุเรียนไม่เยอะ และค่อนข้างทำยาก แม้สวนทุเรียนต้องตกเป็นของแม่แสง (สีดา พัวพิมล) แม่ของเสก ทองแดงก็ยังต้องช่วยทำสวน
ส่วนโหม๋ (อิงฟ้า) แม้จะดูแลแม่แสงมานาน 20 ปี น่าจะได้รับความเอ็นดูเหมือนลูก แต่แม่แสงเลี้ยงดูเหมือนคนใช้ เพราะความยากจนและไม่มีความรู้ โหม๋แทบไม่มีทางเลือก
แต่ตอนที่จะเลือก เสกก็ให้ความหวังลมๆ แล้งๆ ยื้อให้โหม๋อยู่ดูแลแม่แสง เมื่อวันเวลาไม่อาจเรียกคืน ผ่านมาสิบกว่าปี ในฉากเกือบท้ายเรื่อง เสกบอกให้โหม๋ออกไปเริ่มต้นใหม่ ซึ่งเป็นเรื่องยาก ฉากนี้เริ่มคลายปมสงสัย...ทำไมโหม๋ทนอยู่กับครอบครัวนี้
สงครามแก่งแย่งสวนทุเรียนที่เรียกว่า วิมานหนาม ระหว่างทองคำและโหม๋ โดยมีจิ่งนะ น้องชายโหม๋มาช่วยทำสวน และในที่สุดก็พบรักกับทองคำ
ในเรื่องนี้ อิงฟ้าแสดงบทโหม๋ได้ดีมาก บางช่วงต้องพูดภาษาไทใหญ่และแสดงอารมณ์ความรู้สึกแบบสุดๆ ไม่เหลือคราบความเป็นนางงามเลย โหม๋เป็นชาติพันธุ์ไทใหญ่ที่ไม่มีความรู้และยากจน แต่ละมื้อมีแค่กระหล่ำปลีเน่าๆ โยนใส่กระทะผัดกิน
ว่ากันว่า ตอนที่ทีมงานเลือกอิงฟ้ามารับบทโหม๋ เพราะเชื่อมั่นว่า เธอจะถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกตัวละครที่ยากจนและขมขื่นได้ดี จากประสบการณ์ชีวิตจริงและความเป็นนักสู้ชีวิตของเธอ
ส่วนหนุ่มตาเศร้า เก่ง-หฤษฎ์ ลูกชาวสวนในภาคเหนือ นักแสดงหน้าใหม่กับหนังเรื่องแรกในบทจิ่งนะ ต้องอู้คำเมือง ก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขา
และสีดา พัวพิมล นักแสดงที่แสดงละครและหนังรวมๆ กว่า 60 เรื่อง ชีวิตจริงเคยสูญเสียลูกชาย(อภิชาติ พัวพิมล) และผ่านความยากลำบากในการใช้ชีวิตในช่วง 10-20 ปีที่ผ่านมา ในบทแม่แสง เธอเล่นได้เป็นธรรมชาติ และคาดว่า เธออาจได้สักรางวัล
ส่วนเจฟ ซาเตอร์ นักร้องและศิลปินที่สวมบททองคำ ตัวหลักที่เฉือดเฉือนกับโหม๋ในแบบที่นึกไม่ถึง และเมื่อชมภาพยนตร์เรื่องนี้แล้ว ลองเข้าไปฟังเอ็มวีเพลงเหมือนวิวาห์ (Rain wedding) บทเพลงเศร้าๆ ขมๆ เล่าถึง ชีวิตและความรักของทองคำ แม้ไม่มีพิธีใดๆ แค่มีเธอ(จิ่งนะ) ก็เหมือนงานวิวาห์ทุกวัน
เจฟทั้งร้องและแต่งเพลง ในเอ็มวีเพลงนี้ ล่าสุดมียอดคนเข้ามาดู 64 ล้านครั้ง(ช่วง 4 เดือน ตั้งแต่ 20 สิงหาคม 2567 -วันที่17 มกราคม 68)
ตัวละครในเรื่องเกือบทั้งหมดโทนสีเทาๆ...ในมุมน่าสงสารของทองคำ ก็มีด้านไม่ดีหลายอย่างที่เขาทำ เขาเลือกใช้การบวชลูกแก้วเป็นข้อต่อรองเรื่องสวนทุเรียน เพราะการบวชลูกแก้วของชาวไตหรือไทใหญ่ในงานปอยส่างลอง คือ งานบุญใหญ่ที่ผู้ชายจะบวชให้พ่อแม่ ผู้หญิงไม่อาจทำเช่นนั้นได้ในสังคมไทย ทองคำจึงใช้การบวชสร้างข้อได้เปรียบ
อีกฉากที่ดูธรรมดาๆ แต่รู้สึกได้ว่า ความยากจน เป็นปัญหาของคนชายขอบ ฉากที่โหม๋พาแม่แสงไปซื้อของในมินิบิ๊กซี เธอเทเศษเหรียญหมดกระเป๋าเพื่อจ่ายเงินซื้อของไม่กี่ชิ้น
และฉากความอัดอั้นตันใจของโหม๋ที่แม่แสงไม่ยอมเซ็นยกที่ดินให้ เธอจับแม่แสงใส่เข่งไว้นอกบ้าน และเดินจากไป แต่แม่แสงกลิ้งตกไปในหลุมขนาดใหญ่ และเรียกเธอให้ช่วย แต่เธอขึ้นไปนอนบนเรือนด้วยความรู้สึกที่ยากจะคาดเดา
แต่ฉากไหนก็ไม่โหดเท่าการขว้างปาทุเรียนใส่กันด้วยความเกลียดชังและมีซีนหนึ่งโหม๋พูดว่า "เกิดมากูยังไม่เคยเห็นใคร น่าสงสารเท่ากู” ก่อนหน้านี้จิ่งนะเคยบอกทองคำว่า “เมียผู้หญิงเขาไว้ดูแลแม่ ส่วนเมียผู้ชายไว้หาเงิน”
ทองคำเก็บความสงสัยไว้ว่า เสกรักเขาหรือเปล่า จนเมื่อได้ยินบางอย่างจากปากโหม๋... ทำให้ทองคำหยุดกระทำในสิ่งที่คนดูนึกไม่ถึง
เมื่อดูวิมานหนามจบ รู้สึกว่าใจร้ายกับทองคำและจิ่งนะจังเลย แต่ก็สงสารชะตากรรมของโหม๋ สุดท้ายแม้ได้ครอบครองสวนทุเรียนกลับรู้สึกว่างเปล่า และเศษกระดาษที่แม่แสงเขียนยกที่ดินให้โหม๋ อาจไม่ใช่หลักฐานที่ทำให้เธอสมหวัง
คนเขียนบทเก่งมากพาอารมณ์คนดูจมดิ่ง กว่าจะกลับมาได้คงหลายวัน แม้จะมีคนเขียนสปอยหนังเรื่องนี้เยอะ สำหรับคนที่ยังไม่ดูหนังเรื่องนี้ ขอบอกว่า คาดเดาความคิดตัวละครได้ยาก ลองดูเถอะ...สนุก
นี่คือ หนังอาร์ตที่มีสีสัน LGBTQ ไม่ใช่แค่เรื่องรักๆ แต่สะท้อนความเหลื่อมล้ำของสังคมและสมรสไม่เท่าเทียม และสุดท้าย คนที่คุณสงสารมากที่สุด ก็แล้วแต่ประสบการณ์คนดูแต่ละคน แม้จิ่งนะจะเป็นตัวละครตัวเดียวที่ไม่คิดร้ายใครเลย หรือโหม๋เป็นตัวละครที่มีด้านมืดมากกว่าด้านดี แต่ก็มีเหตุผลของกระทำ