สิ้น ‘เดวิด ลินช์’ ตำนานเจ้าพ่อหนังคัลต์คลาสสิก Blue Velvet - Mulholland Drive

สิ้น ‘เดวิด ลินช์’ ตำนานเจ้าพ่อหนังคัลต์คลาสสิก Blue Velvet - Mulholland Drive

บรมครูของบรมครู ‘เดวิด ลินช์’ เจ้าของผลงานที่ถูกยกให้เป็น cult classic อย่าง Blue Velvet, Mulholland Drive, ซีรีส์ Twin Peaks จากไปในวัย 78 ปี ย้อนรำลึกถึงชีวิต และผลงานของท่านได้ที่นี่

ล่วงเข้าศักราช 2568 มาได้เพียงครึ่งเดือน วงการบันเทิงก็ต้องสูญเสียผู้กำกับระดับบรมครูที่ทรงอิทธิพลเป็นอย่างยิ่ง ท่านผู้นั้นคือ เดวิด ลินช์ (David Lynch) ผู้กำกับที่มีผลงานเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นจนยากจะหาใครเปรียบเทียบได้จากภาพยนตร์อย่าง Blue Velvet, Mulholland Drive และซีรีส์ Twin Peaks

เพจเฟซบุ๊กออฟฟิเชียลของเดวิด ลินช์เป็นผู้ประกาศการจากไปของเดวิด ลินช์ ในวัย 78 ปี ด้วยแถลงการณ์จากครอบครัวของท่านว่า

“ด้วยความเสียใจอย่างสุดซึ้ง พวกเรา ครอบครัวของท่าน ขอประกาศการจากไปของศิลปิน และชายคนหนึ่ง เดวิด ลินช์ เราจะซาบซึ้งเป็นอย่างยิ่งกับความเป็นส่วนตัวในช่วงเวลานี้ เกิดหลุมใหญ่ขึ้นบนโลกตอนนี้เพราะว่าท่านไม่อยู่กับเราอีกต่อไปแล้ว แต่ ท่านก็คงจะพูดว่า…“เอาตาไปมองที่โดนัททั้งก้อน ไม่ใช่ไปมองที่รู” ... มันเป็นวันที่งดงามพร้อมแสงอาทิตย์สีทอง และท้องฟ้าสีครามตลอดทาง”

สิ้น ‘เดวิด ลินช์’ ตำนานเจ้าพ่อหนังคัลต์คลาสสิก Blue Velvet - Mulholland Drive Credit : REUTERS

 

ในแถลงการณ์ไม่ได้ระบุสาเหตุการเสียชีวิต แต่เมื่อปีที่แล้ว เดวิด ลินช์ออกมาเปิดเผยเองว่าเป็นโรคถุงลมโป่งพองจากการสูบบุหรี่จัดมาเป็นเวลานาน ส่วนเมื่อช่วงโควิด-19 แพร่ระบาด เขาต้องเก็บตัวอยู่ในบ้านเกือบตลอดเวลาเนื่องจากจัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยง

ถึงแม้จะมีอาการป่วย แต่เดวิด ลินช์ก็พูดมาตลอดว่าจะทำงานต่อไปกับประโยคที่ว่า “ผมเต็มไปด้วยความสุข ผมไม่มีวันเกษียณหรอกนะ”

เดวิด ลินช์ อยู่ในวงการภาพยนตร์เกือบ 50 ปี ผลงานของเขาต้องเรียกว่าเป็นแนวเหนือจริง เข้าใจยาก ต้องตีความระดับหนึ่ง แต่ดูสนุก ซึ่งไม่น่าแปลกใจเลยหากพิจารณาจากพื้นเพของเขาที่จบการศึกษาจาก Corcoran School of the Arts and Design ในกรุงวอชิงตัน ดีซี, School of the Museum of Fine Arts ในบอสตัน และ Pennsylvania Academy of Fine Arts

พอสำเร็จการศึกษา ลินช์ทำงานเป็นจิตรกร และ visual artist มาก่อนที่จะผันตัวมาเป็นผู้กำกับ โดยจุดเริ่มต้นของการทดลองสร้างภาพยนตร์ของเขามาจากไอเดียที่ต้องการทำให้ภาพเขียนของตัวเองเคลื่อนไหว

เดวิด ลินช์ พูดถึงจุดเริ่มต้นในการเข้าวงการเอาไว้ในบทสัมภาษณ์เมื่อปี 2540 ดังนี้

“ผมกำลังวาดภาพที่มันดาร์กมาก แล้วผมก็เห็นส่วนเล็กๆ ของฟิกเกอร์นี้มันขยับ แล้วผมก็ได้ยินเสียงลม ผมเลยอยากให้สิ่งเหล่านี้มันเคลื่อนไหวได้เอามากๆ แล้วก็มีเสียงด้วย ผมก็เลยเริ่มทำภาพยนตร์แอนิเมชันออกมาเป็นภาพเขียนที่ขยับได้ เรื่องมันเป็นแบบนี้”

 

ผลงานภาพยนตร์ขนาดยาวเรื่องแรกของลินช์คือ หนัง cult classic เรื่อง Eraserhead ตามมาด้วยหนังที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากเรื่อง The Elephant Man และอีกเรื่องหนึ่งที่คอหนังรุ่นหลังๆ อาจไม่รู้คือ ลินช์เคยกำกับหนังมหากาพย์ไซไฟอวกาศเรื่อง Dune มาก่อน

Blue Velvet (1986) เป็นหนังที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น บ่งบอกความเป็นเดวิด ลินช์ที่เราจะเห็นในผลงานของเขาหลังจากนี้ไปโดยตลอด นั่นคือความบิดเบี้ยว ฟุ้งฝัน เหมือนอยู่ในภาพหลอน พล็อตมักจะเกี่ยวข้องกับเซ็กซ์ ความรุนแรง ฉากของเรื่องมักจะเป็นแถบชานเมือง มีพวกแก๊ง กลุ่มอิทธิพลนอกกฎหมายเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

 

สิ้น ‘เดวิด ลินช์’ ตำนานเจ้าพ่อหนังคัลต์คลาสสิก Blue Velvet - Mulholland Drive

 

ปี 1990 ถือเป็นจุดพีกในชีวิตของเดวิด ลินช์ ก็ว่าได้ เพราะภาพยนตร์ Wild at Heart หนังอาชญากรรมโรแมนติกที่นำแสดงโดย ลอรา เดิร์น และนิโคลาส เคจ ทำให้เขาคว้ารางวัลปาล์มทองคำจากเทศกาลหนังเมืองคานส์กลับบ้าน

ขณะที่ Twin Peaks ก็เป็นงานที่สร้างแรงกระเพื่อมเป็นอย่างมากอีกชิ้นหนึ่งของเขา โดยซีรีส์เกี่ยวกับเจ้าหน้าที่เอฟบีไอที่ทำการสืบสวนหาสาเหตุฆาตกรรมหญิงสาวเจ้าของตำแหน่ง โฮมคัมมิงควีน ในเมืองที่ชื่อ ทวิน พีคส์ ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลเอ็มมี่ถึง 14 รางวัล ในซีซันแรก แม้ว่าจะสร้างไปได้เพียง 2 ซีซันเท่านั้น แต่ Twin Peaks ก็ยังได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในซีรีส์ที่ทรงอิทธิพลที่สุดตลอดกาล

 

สิ้น ‘เดวิด ลินช์’ ตำนานเจ้าพ่อหนังคัลต์คลาสสิก Blue Velvet - Mulholland Drive Credit : REUTERS

 

เดวิด ลินช์ ได้รับรางวัลเกียรติยศจากเทศกาลภาพยนตร์เวนิส ปี 2006 และรางวัลเกียรติยศจากออสการ์ในปี 2019 ในฐานะของผู้ที่ประสบความสำเร็จตลอดชีวิต แต่ถ้าในแง่ของรางวัลที่เกิดจากการชิงชัยกันนั้น เขาเคยได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ 4 ครั้ง เป็นสาขาผู้กำกับยอดเยี่ยม 3 ครั้งจากภาพยนตร์เรื่อง Elephant Man (1980), Blue Velvet (1986) และ Mulholland Drive (2001)

 

สิ้น ‘เดวิด ลินช์’ ตำนานเจ้าพ่อหนังคัลต์คลาสสิก Blue Velvet - Mulholland Drive

 

ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ลินช์วางมือจากการทำหนังไปเป็นเวลานาน หนังใหญ่เรื่องสุดท้ายของเขาคือ หนัง psychological thriller Inland Empire (2006) แต่ระหว่างนั้นเขาหันไปทำหนังสั้น ทำมิวสิกวิดีโอให้กับศิลปินอย่าง Interpol และ Nine Inch Nails เพื่อแก้เหงา

ปี 2017 ลินช์ก็เปิดตัวผลงานที่คนรอคอยกันมายาวนานคือ Twin Peaks ซีซัน 3 “Twin Peaks: The Return” ที่พูดถึงเรื่องราว 25 ปีให้หลังจากเหตุการณ์ในซีซันก่อน

สิ่งหนึ่งที่หลายคนอาจไม่รู้คือ เดวิด ลินช์ ทำผลงานเพลงได้หลากหลายเช่นกัน มีทั้งอัลบั้มเพลงร็อกชื่อ BlueBob ในปี 2001, EP ชื่อ This Train ในปี 2011 และอัลบั้มเพลงบลูแนวใหม่ (modern blues) ชื่อ The Big Dream ในปี 2013

 

สิ้น ‘เดวิด ลินช์’ ตำนานเจ้าพ่อหนังคัลต์คลาสสิก Blue Velvet - Mulholland Drive

 

เดวิด ลินช์ ให้สัมภาษณ์นิวยอร์ก ไทม์สเอาไว้เมื่อปี 2019 ว่า

“ผมเคยอยากจะเป็นแค่จิตรกรอย่างเดียว แต่การวาดภาพมันนำไปสู่การทำภาพยนตร์ ผมมักจะพูดเสมอว่า ผมไปในที่ ที่ไอเดียพาผมไป”

 

อีกแง่มุมหนึ่งในชีวิตของเดวิด ลินช์ที่หลายคนอาจไม่รู้ก็คือ เขาสนใจเรื่องการทำสมาธิในแบบที่เรียกว่า transcendental meditation โดยเริ่มฝึกมาตั้งแต่ปี 1973 นับจากนั้นเป็นต้นมา ไม่มีแม้แต่วันเดียวเขาไม่ได้ทำสมาธิ โดยเขาจะนั่งสมาธิทุกวัน วันละสองครั้ง

“มันทำให้ผมเข้าถึงแหล่งพลังงานสำรอง ความคิดสร้างสรรค์ และความสุขภายในลึกๆ ได้อย่างไม่มีขีดจำกัด และไม่ต้องพยายาม"

 

สิ้น ‘เดวิด ลินช์’ ตำนานเจ้าพ่อหนังคัลต์คลาสสิก Blue Velvet - Mulholland Drive Credit : REUTERS

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์