TIJC ครั้งที่16 เปิดเวทีดนตรีแห่งการผสมผสาน ชวนผู้ชม ฟังแจ๊สในมุมมองใหม่

TIJC ครั้งที่16 เปิดเวทีดนตรีแห่งการผสมผสาน ชวนผู้ชม ฟังแจ๊สในมุมมองใหม่

Thailand International Jazz Conference 2025 หรือ TIJC เทศกาลดนตรีแจ๊สเพื่อทุกคน เตรียมเปิดบ้านต้อนรับคนรักแจ๊ส เสิร์ฟประสบการณ์ดนตรีแจ๊สสุดยิ่งใหญ่ ในบรรยากาศ Art&Caft ในวันที่ 24-26 มกราคม 2025 ณ วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา

การกลับมาอีกครั้งของ "Thailand International Jazz Conference 2025" หรือ TIJC ที่แฟนๆ คนรักดนตรีแจ๊สรอคอย

ในปีนี้ จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 16 ซึ่ง นพดล ถิรธราดล Project Manager เผยถึงการจัดงานครั้งนี้ว่า จากเจตนารมณ์ ที่ต้องการสร้างสรรค์สังคมให้มีความสุขด้วยดนตรีที่ยั่งยืน ทุกรูปแบบ ทุกสถานะ เปิดกว้างในทุกมิติ บรรยากาศของงานในปีนี้ จะทำให้คนที่มามีความสุขในทุกสัมผัส

TIJC ครั้งที่16 เปิดเวทีดนตรีแห่งการผสมผสาน ชวนผู้ชม ฟังแจ๊สในมุมมองใหม่

TIJC ครั้งที่16 เปิดเวทีดนตรีแห่งการผสมผสาน ชวนผู้ชม ฟังแจ๊สในมุมมองใหม่

เพราะนอกจากเสียงดนตรีแล้ว ยังขยายร้านค้า ร้านเครื่องดนตรี อาหาร เพิ่มมากขึ้น มี Art Market งานคราฟต์ต่างๆ ให้เดินชม ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่รื่นรมย์ ถ่ายภาพออกมาสวยทุกมุม โดยภาคกลางวัน เวที Oval Stage มีดนตรีจากทั่วประเทศ และต่างประเทศมาร่วมแสดงให้ชมกันฟรีตั้งแต่ 10:00 - 18:00 น. ส่วนเวที Main Stage ในภาคกลางคืน จำหน่ายบัตรเข้าชมศิลปินแจ๊สระดับโลกได้ทาง ticketmelon

TIJC ครั้งที่16 เปิดเวทีดนตรีแห่งการผสมผสาน ชวนผู้ชม ฟังแจ๊สในมุมมองใหม่

“นับเป็นปีแรกที่ดนตรีมีความหลากหลาย แปลกใหม่ ชวนมาลุ้นกันว่าแต่ละวงจะปล่อยทีเด็ดจัดเต็มขนาดไหน โดยเวที Oval Stage มีวงมาร่วมแสดง 40-50 วง มีการบริหารจัดการระบบเครื่องเสียง ไมโครโฟน ให้มีคุณภาพสูงขึ้น เพราะเราต้องการให้เป็นองค์ความรู้ในด้านการจัดการ เพื่อให้นักดนตรีทุกคนที่ได้มาร่วมงานได้เรียนรู้ถึงสิ่งเหล่านี้”

TIJC ครั้งที่16 เปิดเวทีดนตรีแห่งการผสมผสาน ชวนผู้ชม ฟังแจ๊สในมุมมองใหม่

ในส่วนของ TIJC Jazz Camp ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 20-22 มกราคม 2025 ศิลปินปรมาจารย์ระดับโลกที่จะมาถ่ายทอดความรู้ให้กับผู้เข้าร่วม ได้แก่ วงของ Yotam Silberstein (มือกีตาร์) ซึ่งเป็นวง Trio  มีสมาชิกคือ Tamir Shmerling (เล่นเบส) และ Jimmy Macbride (มือกลอง) เพื่อให้มิติของการศึกษาสมบูรณ์ยิ่งขึ้น

และยังเชิญ Ben Wendel นักแซกโซโฟน มาร่วมให้ความรู้ด้วย ถือเป็นโอกาสอันยอดเยี่ยมสำหรับผู้เข้าร่วมทุกคนที่จะได้รับการถ่ายทอดและเรียนรู้ประสบการณ์ตรงจากศิลปินระดับนี้ไม่ต่างจากคนที่ไปเรียนที่นิวยอร์ก

อีกด้านหนึ่งที่ทีมงาน TIJC ภูมิใจนำเสนอคือวง Big band เด็ก อายุระหว่าง 7-15 ปี ซึ่งเป็นเยาวชนที่ร่วมเข้าแคมป์กับเรา จะร่วมแสดงบนเวที Oval Stage บทเพลงที่เขาจะแสดง อาทิ บทเพลงในตำนานอย่าง Boplicity ในอัลบัม Birth of the Cool ของ Miles Davis ลองมาชมกันว่าเด็กๆ จะเล่นเพลงพวกนี้ออกมาเป็นอย่างไร

TIJC ครั้งที่16 เปิดเวทีดนตรีแห่งการผสมผสาน ชวนผู้ชม ฟังแจ๊สในมุมมองใหม่

ส่วนเวที Cat Stage เปิดกว้างให้นักดนตรีมาปล่อยของก็พร้อมที่จะสร้างความบันเทิงให้กับผู้มาร่วมงานได้ไม่แพ้เวทีอื่นๆ แถมยังมีโอกาสได้ลุ้นว่าจะมีศิลปินระดับโลก ที่จู่ๆ ก็โดดลงมาแจมอีกด้วย

"TIJC เป็นเหมือนบ้านที่อบอุ่น เป็นที่พึ่งของคนแจ๊ส บ้านหลังนี้เปิดต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง มีนักดนตรีมาร่วมงาน 700-800 คน ทั้งจากทวีปอเมริกา ยุโรป เซาธ์อีสต์เอเชีย ญี่ปุ่น ไต้หวัน มาเลเซีย จีน" Project Manager กล่าว

TIJC ครั้งที่16 เปิดเวทีดนตรีแห่งการผสมผสาน ชวนผู้ชม ฟังแจ๊สในมุมมองใหม่

ดริน พันธุมโกมล Artistic Director ของงาน และ รองคณบดีฝ่ายศึกษาวิชาการและวิจัย กล่าวว่าหลังจากที่ TIJC เล่นกับศิลปินแจ๊ส กลุ่มกระแสหลักมานาน ต่อจากนี้ต้องหาความแปลกใหม่ เพิ่มความหลากหลายให้ท่านผู้ชม ดนตรีที่นำเสนอในปีนี้จึงมีทั้งดนตรีแจ๊สในรูปแบบ Main Stream และดนตรีในกลุ่มผสมผสาน ไม่ว่าจะเป็นดนตรีของโลก ดนตรียุโรป ดนตรีชาติพันธุ์ ดนตรีเอเชีย ที่เข้ามามีบทบาทในดนตรีแจ๊สค่อนข้างมาก

และเอ่ยว่า 16 ปี ที่ผ่านมา TIJC เป็นที่รู้จักของประชาคมแจ๊สโลกมากขึ้น ในการคัดสรรศิลปิน ผู้จัดงานฯ ได้รับการติดต่อจากศิลปินจากทุกมุมโลกเข้ามาทั้งกลุ่มใหม่ๆ และที่เคยมาร่วมเวทีนี้ ส่งผลให้งานในครั้งนี้จึงมีศิลปินที่มีความท้าทายใหม่ๆ เกิดขึ้นมา คือ

• Arshid Azarine นักดนตรีที่มาจากฝรั่งเศส เชื้อสายอิหร่าน มีความสนใจในดนตรีพื้นบ้าน เขาจะมาพร้อมกับสิ่งที่เรียกว่า Persian jazz เป็นการผสมผสานดนตรีเปอร์เซียเข้ากับดนตรีแจ๊สเข้ากับดนตรียุโรปหรือคลาสสิก

• วง ALPHA TRIANGULI เป็นครั้งแรกของ TIJC ที่จะมีเครื่องดนตรีแปลกๆ อย่าง Vibraphone หรือระนาดฝรั่ง เข้ามาอยู่ในการแสดง เป็นส่วนผสมของจังหวะที่แปลกใหม่ออกไป

• วง Israel Varela ที่ประกอบด้วยนักดนตรีหลายเชื้อชาติ ทั้งอเมริกัน แคนาดา เม็กซิโก สเปน อินโดนีเซีย วงนี้มีความสนใจในศาสตร์ดนตรีโบราณ และมีจังหวะที่เขาสนใจคือ ฟลาเมงโก และสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นในการแสดง International ของ TIJC เลยคือ การเต้นฟลาเมงโก ไปพร้อมๆ กับการบรรเลงเพลง และที่น่าจับตามองคือวงนี้ยังมีมือแซกระดับเทพเจ้าของโลกคือ Ben Wendel ที่ชอบนำเทคนิกต่างๆ มาใช้เพื่อสร้างสีสันให้กับแซกโซโฟน

• วง Beast mode วงทรีโอหยุดโลก มี Tal Cohen  และสมาชิกที่มีความเดือดสมชื่อปีศาจมาก

• ในส่วนของศิลปินไทย อาทิ อันดา อลันดา ฉันทรัตน มือกีตาร์รุ่นใหม่ ศิษย์เก่าดุริยางคศิลป์ ที่คว้ารางวัลประกวดมากมายทั้งในและต่างประเทศ ผู้ซึ่งผสมผสานแจ๊สเข้ากับดนตรีร็อคแบบเฉพาะตัว และผสมแนวทางแบบ Progressive  และการเล่นไลน์กีตาร์ outside ที่เป็นเอกลักษณ์ และยังมี เอิ๊ต ภัทรวี ศรีสันติสุข นักร้องนักแต่งเพลง จากค่าย มิวสิกมูฟเรคคอร์ด

นอกจากนี้สถานเอกอัครราชทูตออสเตรเลีย และฝรั่งเศส ได้ส่งวงมาร่วมแสดงปีนี้ด้วย เชื่อว่าผู้ชมจะได้รับความบันเทิงอย่างเต็มที่ เพราะมีรูปแบบดนตรีแจ๊สที่หลากหลาย ตั้งแต่หัวค่ำยันดึกรูปแบบไม่ซ้ำกันเลย อาจได้รับมุมมอง หรือแรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการฟังดนตรีแจ๊สในแบบที่ไม่เคยฟังมาก่อน

อย่าพลาดโอกาสสัมผัสประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของวงการดนตรีแจ๊สแห่งปี ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.music.mahidol.ac.th/tijc