Exhuma บาดแผลทางประวัติศาสตร์ที่มาในรูปของ ‘ผี’

Exhuma บาดแผลทางประวัติศาสตร์ที่มาในรูปของ ‘ผี’

ภาพยนตร์เรื่อง ‘Exhuma’ มีอะไรดีถึงทำให้คนเกาหลีแห่กันตีตั๋วเข้าไปชมในโรงจนยอดทะลุ 9 ล้านใบภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งเดือน ตามอ่านบทวิเคราะห์ได้ที่นี่

KEY

POINTS

  • 'Exhuma ขุดมันขึ้นมาจากหลุม' เป็นหนังเกาหลีแห่งปีที่กำลังจะทุบสถิติขายตั๋วได้ถึง 10 ล้านใบเร็วที่สุดในปี 2024
  • ทำไมคนเกาหลีถึงชื่นชอบภาพยนตร์เรื่องนี้มากจนกระแสยังแรงไม่ตก แม้จะเข้าโรงฉายมาเกือบจะครบหนึ่งเดือนแล้ว
  • อ่านบทวิเคราะห์ได้ในสกู๊ปชิ้นดี 

ภาพยนตร์เรื่อง ‘Exhuma’ มีอะไรดีถึงทำให้คนเกาหลีแห่กันตีตั๋วเข้าไปชมในโรงจนยอดทะลุ 9 ล้านใบภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งเดือน ตามอ่านบทวิเคราะห์ได้ที่นี่

ทำไมคนเกาหลีถึงชื่นชอบภาพยนตร์เรื่อง ‘Exhuma ขุดมันขึ้นมาจากหลุม’ มากจนถึงขนาดซื้อตั๋วเข้าชมกันกว่า 9 ล้านใบ ภายในเวลาเพียง 24 วัน กวาดรายได้ร่วม 67.8 ล้านดอลลาร์ (กว่า 2,400 ล้านบาท) หลังจากเข้าฉายได้ไม่ถึงหนึ่งเดือน

 

ความสงสัยใคร่รู้นี้ทำให้ผู้เขียนกระตือรือร้นที่จะไปรับชมหนังเรื่องนี้ตั้งแต่วันที่มีการจัดฉายรอบสื่อเพื่อพิสูจน์ด้วยตาตัวเองว่า Exhuma มีอะไรพิเศษมากกว่าการเป็นหนังผีเกาหลีโดยทั่วไปกระนั้นหรือ

 

คำตอบที่ได้รับคือ สิ่งที่ทำให้ชาวเกาหลีรู้สึก ‘อิน’ กับภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นอย่างมากน่าจะมาจากการที่ ‘จางแจฮยอน’ ซึ่งเป็นทั้งผู้กำกับและคนเขียนบท นำบาดแผลทางประวัติศาสตร์ ความเจ็บแค้นของคนเกาหลีในยุคที่ประเทศของพวกเขาตกเป็นอาณานิคมของญี่ปุ่น มาผูกโยงเข้ากับเรื่องผีปีศาจได้อย่างมีชั้นเชิง

 

Exhuma บาดแผลทางประวัติศาสตร์ที่มาในรูปของ ‘ผี’

แต่ถ้าเป็นในมุมของคนไทยแบบเรา ๆ ที่ถึงแม้จะไม่มีความรู้สึกชาตินิยมเข้ามาเป็นปัจจัยร่วมให้เกิดความอินแบบชาวเกาหลี

              Exhuma ก็ยังคงเป็นหนังผีที่มีพล็อตน่าสนใจ และเส้นเรื่องอันแข็งแรง นำไปสู่การคลี่คลายปมในช่วงท้ายที่ทำให้หนังมีความพีคขึ้นเรื่อย ๆ และความว้าวในแบบที่ทำให้คนต่างชาติแบบเราเกิดความค้างคาในใจถึงขนาดต้องกลับมาค้นข้อมูลเกี่ยวกับประวัติศาสตร์เกาหลีเพิ่มหลังจากดูจบ เพราะอยากเข้าใจหนังให้ลึกซึ้งขึ้น

 

อีกอย่างหนึ่งที่ถือเป็นจุดแข็งของหนังผี หนังซอมบี้จากเกาหลีใต้ คือ การออกแบบสร้างสรรค์ ‘ผี’ หรือ ‘สัตว์ประหลาด’ ให้มีความแปลกใหม่น่าสนใจได้เสมอ อย่างใน Exhuma นี่ต้องยกให้ตัว ‘Last Boss’ ที่ผู้กำกับทำให้เรารู้สึกได้ถึงพลังอำนาจอันยิ่งใหญ่ชนิดที่มนุษย์ตัวเล็ก ๆ แบบเราเห็นแล้วต้องเข่าทรุด ยอมศิโรราบเพราะไม่อาจต่อกรได้

 

ขุดขึ้นมาชำระล้างความเจ็บปวดในอดีต

‘Exhuma ขุดมันขึ้นมาจากหลุม’ เป็นเรื่องเกี่ยวกับร่างทรงหนุ่มสาว 2 คน ซินแสฮวงจุ้ย 1 คน และสัปเหร่อ 1 คน ที่รับงานขุดหลุมศพบรรพบุรุษของเศรษฐีเกาหลีในอเมริกาตระกูลหนึ่งขึ้นมาทำพิธีล้างอาถรรพ์ หลังเกิดเหตุประหลาด ลูกชายคนโตของตระกูลนี้จะมีอาการป่วยอยู่เสมอ แต่กลับกลายเป็นว่าพวกเขาดันไปขุดเอาสิ่งที่ไม่ควรขุดขึ้นมา จึงต้องเผชิญกับเรื่องเลวร้ายสุดคาดคิด

 

 

ผู้กำกับ ‘จางแจฮยอน’ กล่าวในงานแถลงข่าวเปิดตัวหนังที่กรุงโซลเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่าเขาเกิดไอเดียในการสร้าง Exhuma ขึ้นตอนที่ไปร่วมพิธีขุดหลุมศพแห่งหนึ่งแล้วนำมาเปรียบเปรยกับชีวิตมนุษย์

 

“ระหว่างที่ไปร่วมพิธีขุดหลุมศพแห่งหนึ่งเป็นการส่วนตัว ผมเอาแต่ครุ่นคิดว่ามันมีอะไรมากไปกว่าการขุดศพขึ้นมาจากหลุมแล้วนำโลงไปเผาหรือเปล่า

แล้ววันหนึ่งผมก็เกิดความรู้สึกว่า...ถ้าเราขุดเอาบางสิ่งบางอย่างที่ผิดพลาดจากอดีตขึ้นมาล่ะ มันจะเป็นยังไง

หากมองย้อนกลับไปยังอดีตของผืนแผ่นดินที่เราอาศัยอยู่ มันมีเหตุการณ์ที่ก่อให้เกิดบาดแผล เกิดความบอบช้ำทางจิตใจปรากฎขึ้นมากมาย ซึ่งผมอยากที่จะไปขุดเหตุการณ์ประเภทนั้นออกมา แล้วเปลี่ยนคอนเซปต์ดังกล่าวให้กลายเป็นหนังสนุก ๆ ซักเรื่อง”

 

หลังจากที่ตัดสินใจได้แล้วว่าจะทำหนังเรื่อง Exhuma ผู้กำกับจางแจฮยอนยังได้ทำการศึกษาค้นคว้าอย่างหนักด้วยการไปสังเกตการขุดหลุมศพด้วยตัวเองถึงกว่า 15 แห่ง แถมยังไปขอคำปรึกษาจากหมอดูฮวงจุ้ย สัปเหร่อและร่างทรงอีกหลายคน ก่อนจะผุดไอเดียนำไปผูกโยงเข้ากับประวัติศาสตร์เกาหลียุคตกเป็นเมืองขึ้นของญี่ปุ่น โดยเปรียบการขุดหลุมศพเข้ากับการขุดบาดแผลอันเจ็บปวดของชาติขึ้นมา

 

“มีอยู่วันหนึ่ง สัปเหร่อที่ผมไปขอคำปรึกษาเรื่องการทำหนังโทรมาหาตั้งแต่เช้า เรียกให้ผมไปดูการขุดหลุมศพแห่งหนึ่ง แล้วปรากฎว่ามีคนขุดไปโดนท่อน้ำ ทำให้หลุมศพมีน้ำขังอยู่เต็มไปหมด จึงต้องกระทำพิธีฌาปนกิจกันตรงนั้นเลย"

 

"วันนั้นเองที่ผมรู้สึกว่าความหมายเบื้องลึกของการทำพิธีขุดหลุมศพก็คือ การฉุดดึงเอาอดีตออกมาแล้วโยกย้ายมันออกไป หากเรามองประเทศเป็น ‘บุคคล’ มันก็คือเหยื่อที่เต็มไปด้วยบาดแผลมากมาย ผมเลยคิดว่าเราควรขุดมันขึ้นมาเพื่อทำพิธีขจัดออกไป”

 

Exhuma บาดแผลทางประวัติศาสตร์ที่มาในรูปของ ‘ผี’

ผู้กำกับ จางแจฮยอน Credit : Showbox

 

เกร็ดประวัติศาสตร์ที่ควรรู้ใน Exhuma

spoiled alert : บทความช่วงนี้มีการเปิดเผยเนื้อหาบางส่วนของหนัง หากไม่ต้องการรู้ล่วงหน้าก่อนรับชมภาพยนตร์ให้อ่านข้ามไปได้

 

ทั้งนี้ ปมปัญหาหลักของภาพยนตร์เรื่อง Exhuma อยู่ที่ประวัติศาสตร์อันดำมืดในยุคอาณานิคม เมื่อเกาหลีตกเป็นเมืองขึ้นของญี่ปุ่น แต่ถ้าจะเจาะจงให้ละเอียดไปกว่านั้น คือ ในช่วงสงครามอิมจิน (Imjin War) หรือการบุกยึดเกาหลีครั้งแรกของญี่ปุ่น ในช่วงระหว่างปี ค.ศ. 1592–1598 โดยสังเกตจากชุดของ Last Boss ที่เป็นชุดเกราะทหารญี่ปุ่นในช่วงปลายยุคเซนโกคุ (sengoku period)

 

หลังจากที่ต่อสู้มาเป็นเวลายาวนาน 7 ปี เกาหลีก็สามารถมีชัยเหนือญี่ปุ่นที่ถึงแม้ว่าจะยอมถอนตัวออกจากคาบสมุทรเกาหลี แต่ญี่ปุ่นกลับปักเสาเหล็กตรึงเอาไว้ในบริเวณที่เชื่อกันว่าเป็นจุดที่พลังงานแผ่นดินไหลผ่านตามหลักฮวงจุ้ย

โดยการปิดกั้นกระแสพลังงานดังกล่าวมีขึ้นเพื่อขัดขวางความความเจริญรุ่งเรืองของเกาหลีนั่นเอง

 

หลักหมุดอันนี้เองที่แบ่งคาบสมุทรเกาหลีออกเป็น 2 ส่วน และกลายเป็นที่มาของคำพูดที่ว่า “จิ้งจอกกัดหลังเสือ” ดังที่ปรากฎในหนัง เพราะจุดที่ฝังหลักหมุดเอาไว้นั้นเป็นจุดที่อยู่ตรงหลังเสือพอดี (แผนที่เกาหลีมีลักษณะคล้ายเสือ)

 

เพียงแต่ในหนังได้เพิ่มสีสันและความตื่นเต้นด้วยการใส่เรื่อง 'ไดเมียวร่างยักษ์' ตัวสูงใหญ่กว่า 2 เมตร มีความเก่งกาจผิดมนุษย์มนา สามารถสังหารข้าศึกได้นับหมื่นคนในสงคราม จึงถูกร่างทรงหน้าขาวจับมาเปลี่ยนเป็น 'ปีศาจกึ่งภูต' คอยทำหน้าที่อารักขาหมุดดังกล่าวไม่ให้ใครถอนออกไปได้ง่าย ๆ

 

 

 

Exhuma บาดแผลทางประวัติศาสตร์ที่มาในรูปของ ‘ผี’

 

เท่านั้นไม่พอ Exhuma ยังแสดงให้เห็นว่าการตกเป็นอาณานิคมครั้งนี้ยังส่งผลต่อเนื่องมาถึงคนยุคปัจจุบัน เช่น ครอบครัวเศรษฐีเกาหลีในเรื่องที่บรรพบุรุษเป็นฝ่ายโปรญี่ปุ่น ทำให้ครอบครัวร่ำรวยจากการขายชาติ ทรยศเพื่อนร่วมประเทศ

แต่พอมาในยุคหลัง เรื่องดังกล่าวกลับกลายเป็นความอับอายของลูกหลานที่พยายามหลบหนีอดีตด้วยการไปตั้งรกรากไกลถึงอเมริกา แถมยังทอดทิ้งหลุมศพต้นตระกูลให้รกร้าง อยู่บนป่าเขาไร้การเหลียวแล จนผีบรรพบุรุษกลายเป็นวิญญาณอาฆาต

 

‘Exhuma ขุดมันขึ้นมาจากหลุม’ นำแสดงโดยดาราชั้นนำของเกาหลีทั้งรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ ไม่ว่าจะเป็น ชเวมินชิก (The Admiral: Roaring Currents, New World, Old Boy, I Saw the Devil), คิมโกอึน (Guardian: The Lonely, Great God), ยูแฮจิน (A Taxi Driver, Veteran), อีโดฮยอน (Lee Do-hyun) (ผลงาน The Good Bad Mother, The Glory)

 

ฉายแสง แอด.เวนเจอร์ และ โซนี่ พิคเจอร์ส เอ็นเตอร์เทนเมนต์ (ประเทศไทย) นำเข้ามาให้คอหนังชาวไทยได้เข้าชมกันแล้วในโรงภาพยนตร์

 

Exhuma บาดแผลทางประวัติศาสตร์ที่มาในรูปของ ‘ผี’

Exhuma บาดแผลทางประวัติศาสตร์ที่มาในรูปของ ‘ผี’ Exhuma บาดแผลทางประวัติศาสตร์ที่มาในรูปของ ‘ผี’ Exhuma บาดแผลทางประวัติศาสตร์ที่มาในรูปของ ‘ผี’

Exhuma บาดแผลทางประวัติศาสตร์ที่มาในรูปของ ‘ผี’