The Beekeeper เมื่อ ‘เจสัน สเตแธม’ ล้างบางแก๊งคอลเซ็นเตอร์

The Beekeeper เมื่อ ‘เจสัน สเตแธม’ ล้างบางแก๊งคอลเซ็นเตอร์

ราวกับมานั่งอยู่ในใจคนไทย ‘เจสัน สเตแธม’ ลุกขึ้นมาตามไล่ล่า ‘แก๊งคอลเซ็นเตอร์’ เพราะทนไม่ไหวที่หลอกเอาเงินคนแก่ไม่มีทางสู้ใน ‘The BeeKeeper นรกเรียกพ่อ’ หนังแอคชั่นเรื่องใหม่ของเขาที่กำลังลงโรงฉายในบ้านเราอยู่ขณะนี้

เป็นหนังที่เข้ากับสถานการณ์บ้านเมืองเราในขณะนี้เป็นอย่างมาก สำหรับ The Beekeeper นรกเรียกพ่อ เพราะคราวนี้พระเอกสายบู๊ ‘เจสัน สเตแธม’ ขอลุกขึ้นมาล้างบาง ‘แก๊งคอลเซ็นเตอร์’ หลอกเงินคนแก่ที่เฝ้าเก็บหอมรอบริบมาทั้งชีวิตจนหมดตัว ก่อนจะเลือกจบชีวิตลงอย่างน่าเศร้า

เคิร์ต วิมเมอร์ คนเขียนบท เจอประสบการณ์นี้มากับตัว เมื่อหลายปีก่อน ป้าของเขาเป็นหญิงหม้าย อาศัยอยู่ตัวคนเดียวในเยอรมนี มีคนปลอมเป็นแม่บ้านย้ายเข้าไปอยู่บ้านเดียวกัน สร้างความสนิทสนมจนตายใจ ก่อนจะหลอกเอาเลขบัญชีถอนเงินออกไปหมด ทำให้ป้าของวิมเมอร์ตายไปโดยไม่มีเงินเหลืออยู่เลย เขาจำเหตุการณ์นี้ได้ฝังใจจึงมาถ่ายทอดลงใน The Beekeeper

“เมื่อพวกนอกกฏหมายจ้องฉวยโอกาสจากผู้สูงอายุ มันทำให้ผมเดือดปุด ๆ และจุดประกายให้ผม ถ้าผมสร้างโลกที่เอาคืนพวกนั้นได้ล่ะ? หนังเรื่องนี้คือโลกในอุดมคตของผม ผมจะเอาคืนพวกที่จ้องเล่นงานคนที่ปกป้องตัวเองไม่ได้ยังไง? ผมอยากมีอัศวินขี่ม้าขาวมาช่วยยามจำเป็น”

 

เรื่องย่อ ‘The Beekeeper นรกเรียกพ่อ’

อดัม เคลย์ (เจสัน สเตแธม) อดีตเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการลับมือพระกาฬ โค้ดเนม “บีคีปเปอร์” ที่ล้างมือจากวงการมาใช้ชีวิตสันโดษเป็นคนเลี้ยงผึ้งในชนบท แต่แล้วเขาต้องเสียคุณป้าข้างบ้านซึ่งเปรียบเสมือนที่ยึดเหนี่ยวจิตใจเดียวของเขาไป เพราะท่านถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกจนหมดตัว และเลือกจบชีวิตตัวเองลงอย่างน่าเศร้า

 

เมื่อฟางเส้นสุดท้ายขาดลง อดัม เคลย์ จึงตัดสินใจออกตามล่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์แก๊งนี้แล้วพบว่า มันคือหน้าฉากของธุรกิจสีเทาที่มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลเข้ามาพัวพัน เมื่อโครงสร้างทั้งระบบล้มเหลว มาตรการเดียวที่จะทวงคืนความยุติธรรมให้เขาได้ นั่นคือการฆ่าผู้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ทั้งหมด แบบถอนรากถอนโคน

 

 

ขอคำปรึกษาจากเอฟบีไอตัวจริง

รู้หรือไม่ว่า ชัค พรูเนียร์ อดีตเจ้าหน้าที่เอฟบีไอที่มีประสบการณ์การทำงานกว่า 30 รับหน้าที่เป็นที่ปรึกษาให้หนังเรื่องนี้ ทั้งเรื่องการฉ้อโกงและขั้นตอนที่เอฟบีไอรับมือกับมัน

 

โดยทางการสหรัฐฯ จัดตั้งสำนักงานกว่า 56 ทั่วประเทศเพื่อรับมือกับแก๊งคอลเซนเตอร์ แต่จำนวนผู้ตกเป็นเหยื่อยังเพิ่มขึ้นทุกวัน ในปี 2011 แก๊งคอลเซนเตอร์ทำความเสียหายกว่า 4 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยเหยื่อกว่า 60 เปอร์เซ็นต์เป็นผู้สูงอายุ เพราะมีกองทุนเลี้ยงชีพ แถมยังตามเทคโนโลยีไม่ทัน เอฟบีไอเชื่อว่าจำนวนเหยื่อยังมีมากกว่านี้ เพราะผู้สูงอายุส่วนใหญ่ละอายเกินกว่าจะแจ้งความ

 

ขณะที่ เอมมี เทรเวอร์ แลมป์แมน และ บ็อบบี นาเดรี ที่รับบทเป็นคู่หูเอฟบีไอในหนัง ต้องเข้าคลาสการใช้อาวุธจากพรูเนียร์เพื่อให้ชักปืนจากซองจนคล่องไม่ต่างกับเจ้าหน้าที่ตัวจริง

 

The Beekeeper เมื่อ ‘เจสัน สเตแธม’ ล้างบางแก๊งคอลเซ็นเตอร์

ให้ความสำคัญกับ ‘ผึ้ง’ ดุจตัวละครสำคัญในเรื่อง

ไม่ใช่แค่ตั้งชื่อหนังว่า The Beekeeper แล้วให้พระเอกมีอาชีพเป็น คนเลี้ยงผึ้ง เพื่อเป็นกิมมิคเท่านั้น แต่ทางผู้สร้างยังให้ความสำคัญกับ ‘ผึ้ง’ ประดุจตัวละครสำคัญในเรื่อง โดยเลือกใช้บริการจาก เจมส์ ฮามิลล์ ที่เป็นคนเลี้ยงผึ้งมือโปร

 

ความมืออาชีพของฮามิลล์คือ ‘การออดิชันผึ้งตัวเมีย’ กว่า 2 ล้านตัว เพื่อคัดมาใช้ในหนังทั้งสิ้น 250,000 ตัว ซึ่งหลังจากคัดเลือกอยู่เป็นเดือน ๆ ก็มีผึ้งเข้ารอบเหลือ 60 รัง

 

สาเหตุที่ต้องมีการคัดเลือกกันก่อนเพราะผึ้งแต่ละตัวมีนิสัยต่างกัน บางตัวชอบบินเข้าหาแสงสว่าง ซึ่งไม่เหมาะกับการทำงานในกองถ่ายที่เต็มไปด้วยแสงไฟแรงสูง ผึ้งบางตัวจะไม่ยอมบินถ้าอากาศหนาว ขณะที่ผึ้งบางตัวไวกับการเคลื่อนไหว ทำให้พวกมันจะเข้าโจมตีทันที ถ้ามีคนเดินผ่าน

 

The Beekeeper เมื่อ ‘เจสัน สเตแธม’ ล้างบางแก๊งคอลเซ็นเตอร์

ทางด้านของเจสัน สเตแธมเองนั้นก็ต้องทำให้ได้เหมือนคนเลี้ยงผึ้งมืออาชีพตัวจริง โดยต้องใช้เครื่องมือพิเศษในการดึงรังผึ้งที่มีผึ้งอาศัยอยู่กว่าหมื่นตัวขึ้นมา

 

ระหว่างการถ่ายทำจะมีตัวแทนจาก The Humane Society ประจำอยู่ที่กองเพื่อตรวจสอบว่าไม่มีการทรมานสัตว์ถึงจะไฟเขียวถ่ายทำ ซึ่งผลจากการทำงานแบบมืออาชีพนี้จึงไม่มีทีมงานหรือนักแสดงคนไหนถูกผึ้งต่อยระหว่างการถ่ายทำเลย

 

The Beekeeper เมื่อ ‘เจสัน สเตแธม’ ล้างบางแก๊งคอลเซ็นเตอร์ The Beekeeper เมื่อ ‘เจสัน สเตแธม’ ล้างบางแก๊งคอลเซ็นเตอร์ The Beekeeper เมื่อ ‘เจสัน สเตแธม’ ล้างบางแก๊งคอลเซ็นเตอร์ The Beekeeper เมื่อ ‘เจสัน สเตแธม’ ล้างบางแก๊งคอลเซ็นเตอร์