ท้าวทองกีบม้า สูญเสียลูกชายจอร์จ ฟอลคอน เปิดหลักฐานตายเหมือนในละครหรือไม่

ท้าวทองกีบม้า สูญเสียลูกชายจอร์จ ฟอลคอน เปิดหลักฐานตายเหมือนในละครหรือไม่

ย้อนประวัติศาสตร์ไขข้อสงสัย 'จอร์จ ฟอลคอน' หรือ ยอร์ช ฟอลคอน ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของท้าวทองกีบม้า เสียชีวิตเพราะภารกิจจาก 'ขุนหลวงท้ายสระ' หรือ สมเด็จพระที่นั่งท้ายสระ เหมือนกับในละครหรือไม่

ย้อนประวัติศาสตร์ไขข้อสงสัย 'จอร์จ ฟอลคอน' หรือ ยอร์ช ฟอลคอน ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของท้าวทองกีบม้า ในละครพรหมลิขิต EP.8 เมื่อคืนที่ผ่านมา จริงๆแล้วนั้นเสียชีวิตเพราะภารกิจจาก 'ขุนหลวงท้ายสระ' หรือ สมเด็จพระที่นั่งท้ายสระ เหมือนกับในละครหรือไม่

ละคร พรหมลิขิต EP.8 หลังจากเกิดเหตุถูกลอบปลงพระชนม์ ขุนหลวงท้ายสระ (เกรท วรินทร ปัญหกาญจน์) รู้สึกโกรธมากเหตุเพราะแผนที่วางไว้กลับล่มไม่เป็นท่า แถมยังไม่สามารถหาหลักฐานได้ว่าใครเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังในการกระทำนี้ ขุนหลวงมีรับสั่งให้ หลวงชิดภูบาล หรือ 'จอร์จ ฟอลคอน' (คณิน สแตนลีย์) หนึ่งในสหายมหาดเล็กออกไปตามหาหลักฐานเพื่อมัดตัวผู้ที่ก่อกบฏในครั้งนี้หากไม่ได้ก็ต้องกลับมาให้เห็นหน้าอีก

และเมื่อ 'จอร์จ ฟอลคอน' พยายามลักลอบเข้าไปที่เรือนของผู้ต้องสงสัยที่อยู่เบื้องหลังของการก่อกบฏคือ เจ้าพระองค์ดํา (เอ พศิน) ที่เป็นน้องต่างแม่ของพระเจ้าเสือ ปรากฏว่าถูกทหารเขมรฟันจนอาการสาหัสและต้องกระโดดลงน้ำหนี ก่อนมาเจอเรือที่มี ขุนหลวงท้ายสระ ที่กำลังออกสังเกตการณ์ โดยหมื่นริด (โป๊ป ธนวรรธน์  วรรธนะภูติ) ได้กระโดดลงน้ำเพื่อชวนสหายคนสนิทดั่งพี่น้องขึ้นมา แต่ด้วยอาการของ 'จอร์จ ฟอลคอน' ที่ถูกฟันมาจนอาการสาหัส สุดท้ายยื้อชีวิตไม่ไหวและเสียชีวิตในที่สุด โดย ขุนหลวงท้ายสระ รู้สึกเสียใจมากๆกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถึงกับเสียน้ำตา เพราะการจากไปของหนึ่งในสหายมหาดเล็กคนสนิท

ซึ่งข่าวส่งไปถึง ท้าวทองกีบม้า ผู้เป็นแม่ ต่างร้องไห้แทบขาดใจจนอยากตายตามลูกชายหัวแก้วหัวแหวนไป โดยที่มีแม่หญิงการะเกดคอยปลอบ เพราะแม่หญิงการะเกดก็รัก 'จอร์จ ฟอลคอน' ไม่ต่างจากลูกชายคนหนึ่งเช่นกัน

 

ท้าวทองกีบม้า สูญเสียลูกชายจอร์จ ฟอลคอน เปิดหลักฐานตายเหมือนในละครหรือไม่

 

ท้าวทองกีบม้า สูญเสียลูกชายจอร์จ ฟอลคอน เปิดหลักฐานตายเหมือนในละครหรือไม่

 

ท้าวทองกีบม้า สูญเสียลูกชายจอร์จ ฟอลคอน เปิดหลักฐานตายเหมือนในละครหรือไม่

'จอร์จ ฟอลคอน' เสียชีวิตเพราะภารกิจขุนหลวงท้ายสระเหมือนในละคร พรหมลิขิตหรือไม่

เว็บไซต์ศิลปวัฒนธรรม ระบุว่า ในบันทึกทางประวัติศาสตร์กลับปรากฏว่า จอร์จ ฟอลคอน มีชีวิตอยู่อย่างสงบสุขพร้อมหน้าพร้อมตาด้วยภรรยาและเหล่าลูกๆ โดยหลักฐานอันน่าสนใจที่แสดงให้เห็นว่าจอร์จ ฟอลคอนหนึ่งในขุนนางสมัยอยุธยา ไม่ได้เสียชีวิตอย่างในละคร คือ เอกสาร “Journal of the Siam Society” ใน “An Early British Merchant in Bangkok” โดย Moore, R. Adey 

เอกสารดังกล่าวระบุไว้ว่า จอร์จ ฟอลคอน เติบโตและรับราชการในแผ่นดินสยาม ก่อนจะถูกส่งไปทำงานต่างแดนในฐานะทูตที่ “ปอนดิเชอรี” เมืองท่าของฝรั่งเศส ที่ตั้งอยู่ในประเทศอินเดีย ต่อมาเขาตกลงปลงใจใช้ชีวิตร่วมกับหญิงชาวโปรตุเกส มีลูกชายด้วยกัน 1 คน คือ “จอห์น ฟอลคอน” และลูกผู้หญิงอีกหลายคน ก่อนที่ ค.ศ. 1754 จอร์จ ฟอลคอน จะเสียชีวิตลงอย่างสงบในปลายรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ นั่นเอง

รอมแพง เปิดหลักฐานอีกมุม

ในขณะที่เพจ รอมแพง ซึ่งเป็นเจ้าของบทประพันธ์ละคร พรหมลิขิต ก็ได้เปิดหลักฐานการเสียชีวิตของ จอร์จ ฟอลคอน เช่นกันโดยระบุว่า ตามหลักฐานชั้นต้นซึ่งเป็นจดหมายของมิชชันนารีคณะมิสซังต่างประเทศกรุงปารีสในสยามที่เขียนใน ค.ศ. 1711 (พ.ศ. 2254 ยุคพระเจ้าท้ายสระ) ยืนยันว่า จอร์จ ฟอลคอน เสียชีวิตตั้งแต่ ค.ศ. 1709 (พ.ศ. 2252) ปีที่พระเจ้าท้ายสระขึ้นครองราชย์ แล้วยังระบุว่า ลุยซา เมียของจอร์จกับตองกีมาร์ส่งเรื่องขอเงินปันผลจากฝรั่งเศสด้วย และยังกล่าวถึงว่าลูกชายของจอร์จ ก็ชื่อคอนสแตนตินเหมือนสามีของตองกีมาร์ 

ในนิยายจอร์จก็จะมีลูกชายลูกสาวทำให้แม่มะลิต้องเข้มแข็งเลี้ยงหลาน ส่วนหลักฐานที่มีการกล่าวถึงว่า จอร์จ อยู่จนแก่นั้น มามีในสมัยรัตนโกสินทร์ซึ่งห่างจากระยะเวลาที่เกิดเรื่องเป็นร้อยปี น่าจะเป็นการบอกเล่าของคนรุ่นหลังที่อาจจะคลาดเคลื่อนได้ หลักฐานชั้นต้น คือหลักฐานที่ถูกจดบันทึกหรือเขียนขึ้นมาในยุคสมัยเดียวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นหรือยุคสมัยใกล้เคียงกัน ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ว่าจะในละครหรือในนิยายหรือแม้แต่หลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่มีการบันทึกไว้ก็มิควรเชื่อ 100% นะเจ้าคะ

 

 

ภาพและข้อมูลประกอบจาก 

เว็บไซต์ศิลปวัฒนธรรม

ch3Thailand

Broadcast Thai Television

เพจ รอมแพง