อุ้ม ลักขณา เตรียมคัมแบ็ควงการ ตอบชัดไม่คืนดีอดีตสามี ยังไม่พร้อมมีรักใหม่

อุ้ม ลักขณา เตรียมคัมแบ็ควงการ ตอบชัดไม่คืนดีอดีตสามี ยังไม่พร้อมมีรักใหม่

'อุ้ม ลักขณา' เตรียมคัมแบ็ควงการ ตอบชัดไม่รีเทิร์นอดีตสามี ทำแค่หน้าที่พ่อแม่ของลูก ยันยังไม่พร้อมมีรักใหม่ อนาคตขอเจอคู่บุญคู่บารมี

หลังจากที่นักแสดงสาวสุดแซ่บ 'อุ้ม ลักขณา' ได้ออกมาประกาศผ่านรายการดังว่าได้หย่ากับอดีตสามี 'บอล กฤษณะ' แล้ว ต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่พ่อแม่ของลูก ทั้งนี้ยังได้เผยอีกว่าได้พา 'น้องดีสนีย์' ลูกสาวกลับมาอยู่กับครอบครัวที่กรุงเทพฯแล้ว 

 

 

โดยล่าสุด 'อุ้ม ลักขณา' ได้เปิดใจให้สัมภาษณ์หลังกลับมาโสด พร้อมตอบประเด็นที่อดีตสามีกำลังตามง้ออยู่และจะมีโอกาสกลับไปคืนดีกันหรือไม่ ซึ่งเจ้าตัวได้เคลียร์ทุกประเด็นว่า

 

อัปเดตชีวิตตอนนี้?

อุ้ม : ตอนนี้ก็กลับสู่เมืองกรุงค่ะ มาอยู่เป็นสาวกรุงเทพฯเหมือนเดิม เป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว ดูแลลูก คัมแบ็คกลับมาทำงานค่ะ

 

ขนของกลับมาแล้ว?

อุ้ม : ขนใส่รถ 6 ล้อกลับมา ก็เสื้อผ้า ของใช้ที่เป็นของเรากับลูก แต่ก็มีบางอย่างที่เอาไว้ที่เชียงใหม่ เผื่อปิดเทอมลูกกลับไปเที่ยวบ้าง

 

ตัดสินใจนานไหมกลับมาตั้งต้นใหม่?

อุ้ม : นานค่ะ ทุกอย่างใช้เวลา ไม่ใช้แค่อารมณ์ในการตัดสินใจ ต้องใช้สติและคิดไตร่ตรองให้ดี เพราะมันเป็นเรื่องของที่ว่าไม่ใช่อนาคตอุ้มคนเดียว มันคืออนาคตของลูกด้วย อย่างที่บอกว่าไม่มีใครอยากให้ลูกไม่อยู่ครบพร้อมหน้าครอบครัว สุดท้ายมันก็ถึงทางที่เราทั้งสองคนตัดสินใจร่วมกันแล้ว

 

ก่อนหน้านี้ได้ปรับกันมามากน้อยแค่ไหน?

อุ้ม : ก็ 3 เดือนกว่าที่ได้พยายามทุกอย่างแล้ว ที่จะให้มันออกมาสวยงามที่สุดสำหรับความสัมพันธ์ของเราสองคน ที่มันจะไม่ท็อกซิกใส่กัน ไม่โกรธ ไม่เกลียดกัน สามารถทำหน้าที่ของการเป็นพ่อแม่ได้เพื่อลูก ส่วนปัญหาในการตัดสินใจคิดว่าไม่น่าจะต้องพูดถึงแล้วค่ะ เพราะคิดว่าทุกคนน่าจะพอรับทราบเรื่องราวที่มันเกิดขึ้นแล้ว เหตุผลที่ตัดสินใจก็อย่างที่พูดไปเยอะแล้วเหมือนกันในรายการ สุดท้ายแล้วมันคือเรื่องของคนสองคนที่คิดไปคนละทาง เลือกคนละทาง แล้วก็หาจุดจบว่าจะเป็นยังไง สุดท้ายจุดจบมันก็คือการที่เรามาทำหน้าที่ของพ่อกับแม่ให้ดีที่สุดเพื่อลูกดีกว่า

 

ครั้งนี้มันหนักหนาที่สุดสำหรับเรา?

อุ้ม : อุ้มว่ามันก็มีแค่ไม่กี่เรื่องสำหรับหัวอกคนเป็นเมีย หัวอกคนเป็นแม่ ที่จะรับไม่ได้ 

 

อุ้ม ลักขณา เตรียมคัมแบ็ควงการ ตอบชัดไม่คืนดีอดีตสามี ยังไม่พร้อมมีรักใหม่

 

 

ครั้งนี้มันหนักหนาที่สุดสำหรับเรา?

อุ้ม : อุ้มว่ามันก็มีแค่ไม่กี่เรื่องสำหรับหัวอกคนเป็นเมีย หัวอกคนเป็นแม่ ที่จะรับไม่ได้ 

 

มีหลายครั้ง?

อุ้ม : เราคงไม่ต้องลงดีเทลขนาดนั้นว่าจะมีกี่ครั้ง แต่มันเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว มันยาก

 

ก่อนตัดสินใจเราได้ทบทวนก่อนแล้ว?

อุ้ม : ใช่ค่ะ เราตั้งสติก่อน อันดับแรกพอรับรู้เราก็มีการคุยกัน เรากลับมาอยู่บ้าน กลับมาอยู่ในที่เซฟโซนของเราก่อน พอเราสองคนสงบในเรื่องของอารมณ์ทั้งคู่ เราก็มาใช้เหตุผลคุยกันว่าเหตุที่เกิดขึ้นเพราะอะไร การแก้ไขคือยังไง ทางออกคืออะไร สุดท้ายมันก็จบตรงที่เราสองคนจดทะเบียนหย่ากันเรียบร้อย

 

ทุกครั้งที่เกิดปัญหาเราหันไปพึ่งใคร?

อุ้ม : แทบทุกครั้งเวลาที่มีปัญหาอุ้มก็ไม่มีใครเลย เพราะว่ามีแค่เขาอยู่แล้ว เราไม่ได้มีเพื่อนหรือสังคมที่โน่น (เชียงใหม่) แต่อุ้มจะคุยกับพ่อแม่ตลอดทุกเรื่อง พอมีเรื่องอะไรคุณพ่อ คุณแม่ น้องสาว น้องชาย โชคดีที่ตอนนั้นที่มีปัญหาน้องชายอยู่ด้วย อย่างน้อยเราก็มีน้องชายที่เป็นคนในครอบครัวเราตรงนั้นค่ะ

 

เขาขอโอกาสแก้ตัวไหม?

อุ้ม : ขอโอกาสไหมเหรอ อืม... มันไม่ได้มีการกระทำที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่ทำให้เราสัมผัสได้ว่ามันคือการขอโอกาสแก้ตัว มันเป็นเพียงแค่คำพูดเฉยๆ

 

แสดงว่ามันดูไม่จริงใจ?

อุ้ม : ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับการกระทำไหมคะ เหตุที่มันเกิดก็คือการกระทำ เพราะฉะนั้นการแก้ไขมันก็ต้องเป็นการกระทำ ทุกอย่างเราดูที่การกระทำ

 

เขายอมรับความผิดไหม?

อุ้ม : ก็ยอมรับค่ะ

 

อดีตสามีโพสต์ว่าอยากซ่อมบ้าน คนก็ตีความว่าจะง้อเรา?

อุ้ม : ไม่ใช่ค่ะ คือเขาก็ลงโซเชียลของเขาเอง แต่เขาไม่ได้มาพูดอะไรกับอุ้ม คือเราไม่ได้ฟอลฯกันและกันค่ะ อุ้มก็ไม่ได้ทราบว่าตัวเขาจะโพสต์อะไรเมื่อไหร่ ยังไง แล้วอุ้มก็ไม่ได้ติดตามกัน

 

ย้ายกลับมากรุงเทพฯแล้วเขาติดต่อมาบ้างไหม?

อุ้ม : คุยกันแค่เรื่องลูกค่ะ ทุกอย่างก็คือคุยเรื่องลูกอย่างเดียว เพราะว่าเขาก็เป็นคนดูแลน้องดิสนีย์ ตามสัญญาที่เราตกลงกัน

 

มีง้อให้กลับมาบ้างไหม?

อุ้ม : คุยกันแต่เรื่องลูกค่ะ

 

วันที่เห็นว่าเขาบอกอยากซ่อมบ้านรู้สึกยังไง?

อุ้ม : อย่างที่อุ้มบอกค่ะ บ้านใหม่ Only (หัวเราะ) โน รีโนเวทค่ะ รีโนเวทมันก็มีรอยร้าว รอยร้าวนั้นจะให้ทำยังไงอะคะ ยาแนวเราเห็นอยู่ดี ทุบบ้านทำบ้านใหม่ เราก็ยังอยู่ตรงนั้น เพราะฉะนั้นเราก็บ้านใหม่ Only ค่ะ (หัวเราะ)

 

เห็นเขาโพสต์แบบนั้นรู้สึกยังไง?

อุ้ม : อย่างที่บอกค่ะ ทุกอย่างต้องดูที่การกระทำ ระหว่างทางก่อนที่เราจะย้ายกลับมา มันมีเรื่องของการกระทำ เราดูที่การกระทำอย่างเดียว คำพูดใครๆก็พูดได้ เขาพูดได้ทุกอย่าง ทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับการกระทำ เพราะฉะนั้นเราเชื่อการกระทำมากกว่า ณ วันนี้วันที่เราได้มูฟออกมากแล้ว เราก็ดูที่การกระทำเหมือนกัน

 

คิดดีแล้วว่าจะไม่กลับไปแล้ว?

อุ้ม : ในฐานะผู้หญิงคนหนึ่งนะคะ เราต้องรักตัวเองค่ะ เราต้องเห็นคุณค่าของตัวเอง เพราะอุ้มรู้สึกว่าอุ้มอาจจะไม่ใช่ผู้หญิงที่ดีที่สุด อาจจะไม่ได้เพอร์เฟกต์ไปทุกเรื่อง แต่เรื่องความรัก ความซื่อสัตย์ ความใส่ใจ การเสียสละทุกสิ่งทุกอย่าง อุ้มถือว่าอุ้มได้มอบให้กับเขาไปหมดแล้ว หมดทั้งหัวใจจริงๆ หมดทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นที่เราไม่ได้อยู่กับครอบครัวเรา ทิ้งครอบครัว ทิ้งงานในวงการ พี่ๆสื่อก็ไม่เคยเจออุ้มเลยตลอด 4 ปีที่ผ่านมา เราทิ้งแล้วก็ฝากทุกอย่างไว้กับเขาจริงๆ แต่ในเมื่อเขาไม่ได้เห็นคุณค่าและได้ทำลายมันลงไปแล้ว จบไปแล้ว เพราะฉะนั้นทางออกที่ดีที่สุดก็คือเราต้องเป็นพ่อและแม่ที่ดีให้ลูกแค่นั้นเอง

 

สภาพจิตใจตอนนี้เป็นไงบ้าง?

อุ้ม : เอาจริงๆมันก็ดีขึ้นค่ะ เพราะว่าอุ้มมียาใจก็คือน้องดิสนีย์ แล้วเขาเป็นเด็กที่ซัพพอร์ตเราตลอดทุกเรื่องทุกอย่าง อุ้มเลี้ยงดิสนีย์มาด้วยมือของอุ้มเอง ด้วยน้ำพักน้ำแรงด้วยใจของอุ้มจริงๆ เพราะฉะนั้นเขาอยู่กับเราเสมอเลยมีกำลังใจที่จะใช้ชีวิตต่อไป เพียงแต่ว่า ณ วันนี้สถานะภาพของเราสองคนไม่เหมือนกันเดิมแล้ว ดิสนีย์ก็เข้าใจนะคะ

 

อุ้ม ลักขณา เตรียมคัมแบ็ควงการ ตอบชัดไม่คืนดีอดีตสามี ยังไม่พร้อมมีรักใหม่

 

อธิบายกับลูกว่ายังไง?

อุ้ม : ตอนแรกบอกว่าบ้านพัง (ยิ้ม) เขาก็ถามทำไมต้องย้ายบ้าน ทำไมต้องมาเรียนที่กรุงเทพฯ เพราะเมื่อก่อนเวลามากรุงเทพฯคือมาเที่ยวหาอากง อาม่า แต่บ้านเขาเพื่อนเขาโรงเรียนเขาอยู่เชียงใหม่ทำไมหม่าม๊าต้องพาเขาออกมาจากตรงนั้น ก็บอกเขาว่าเห็นไหมบ้านรอยร้าวเต็มไปหมดเลยลูก บ้านจะพังแล้ว เราต้องซ้อมบ้าน เขาก็บอกแล้วป๊ะป๊าล่ะ ทำไมป๊ะป๊าไม่มาด้วย ก็บอกอ๋อป๊าอยู่ซ่อมบ้านกับเจ่เจ้นะ ดิสนีย์ไปอยู่กับหม่าม๊ากับอากงที่กรุงเทพฯ ซึ่งเขาก็ค่อนข้างเข้าใจ

 

ให้น้องรู้แค่นี้ไปก่อน?

อุ้ม : ใช่ค่ะ เพราะเขาก็ยังเด็กอยู่ ก็ไม่ได้ลงรายละเอียดลึกมาก

 

เขามีบอกไหมว่าอยากเจอพ่อ?

อุ้ม : จริงๆดิสนีย์เขาติดอุ้มอยู่แล้ว เพราะว่าอุ้มนอนกับเขามาตลอด เลี้ยงเขามาตลอด เขาเลยไม่ได้พูดถึงอะไรเยอะ

 

เป็นห่วงลูกในอนาคตไหม?

อุ้ม : เอาจริงๆตอนแรกเป็นห่วงมากว่าเขาจะมีปัญหาไหม แต่พอสุดท้ายแล้วเราได้พูดได้คุยได้บอกเขา อธิบายให้เขาฟัง จริงๆเด็กเขาค่อนข้างเข้าใจและโตมากๆ คือเขาได้เห็นโมเมนต์ที่อุ้มทุกข์ร้องไห้เศร้าเขาก็ใจไม่ดี แต่พอวันที่อุ้มเข้มแข็งไม่ร้องไห้แล้ว และมีพลังในการที่จะดูแลเขาได้เหมือนเดิม เขาก็มีความสุขเหมือนเด็กได้พลังที่เราส่งไปให้เขา มันมีผลต่อเด็กมาก ถ้าพ่อแม่มานั่งทะเลาะต่อหน้าลูกจะดีไหม เสียงดังด่ากันต่อหน้าลูกให้เขาเห็นลูกไม่มีความสุขแน่นอน ลูกก็จะอยู่ในสิ่งท็อกซิกและผลกระทบจะตกถึงลูก แต่ถ้าวันนี้เราเป็นพี่น้องกัน เราเป็นเพื่อน เป็นแค่พ่อกับแม่ให้ลูกกลายเป็นว่าบรรยากาศในบ้านมันก็ไม่ตึงเครียด แล้วลูกเขาก็แฮปปี้ เขาก็จะได้พลังดีๆในการใช้ชีวิตของเขา

 

ตั้งแต่ย้ายกลับมากรุงเทพฯเขาได้มาหาลูกบ้างไหม?

อุ้ม : ยังค่ะ แต่ว่าเขาจะมาตอนดีสนีย์จะเปิดเทอม เขาจะมาส่งดีสนีย์เข้าโรงเรียนด้วย ก็มีการคุยกันว่าถ้าเขาอยากจะมาหาลูกบ้าง ช่วงศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ อุ้มก็ไม่ได้กีดกันไม่ให้มา ไม่ให้เจอ ดูตามวาระความเหมาะสม ถ้าเราว่างเราพาลูกไปเจอเขาได้ เขาก็ซื้อคอนโดที่กรุงเทพ เพื่อเวลามาหาลูก ลูกจะได้ไปอยู่กับเขาบ้าง

 

เจอกันได้ คุยกันได้ปกติ?

อุ้ม : เจอได้ ตอนที่อยู่เชียงใหม่ก็อยู่บ้านหลังเดียวกัน อยู่ด้วยกันในระหว่างที่มีปัญหาที่เราเลิกรากัน แต่เราแยกส่วนกัน เขาอยู่อีกหลัง อุ้มอยู่อีกหลัง

 

วันนี้ให้อภัยเขาหรือยัง?

อุ้ม : ทุกอย่างต้องใช้เวลา

 

ตอนนี้มูฟออนแล้ว?

อุ้ม : ที่แน่ๆก็คือมูฟออนค่ะ

 

ตอนนี้มีคนมาเสนอบ้านใหม่หรือยัง?

อุ้ม : ไม่มีเลย (ยิ้ม)

 

แฟนๆบอกว่าบ้านที่ดีคือบ้านใหม่?

อุ้ม : บ้านที่ดีคือบ้านใหม่ก็อยากจะมี แต่ยังไม่มี ยังไม่ได้เปิดใจ อุ้มยังไม่ได้เข้มแข็ง ยังไม่แข็งแรงพอที่จะมีความสัมพันธ์ครั้งใหม่ รู้สึกว่าเรายังไม่อยากเอาใครเข้ามาในความสัมพันธ์ตอนนี้ ในขณะที่เรายังไม่เข้มแข็งพอมันจะทำให้ทุกอย่างมันไม่ราบรื่น มันจะไปได้ไม่สวย อุ้มไม่ได้โฟกัสเรื่องความรักเลย โฟกัสแต่เรื่องลูก เรื่องงาน เรื่องชีวิตดีกว่า อนาคตต่อไปจะเป็นอย่างไร เพราะเราก็อายุมากขึ้นทุกวัน ถ้ามัวมานั่งคิดถึงอดีตว่าทำไมอย่างนั้น ทำไมอย่างนี้ เราก็จะไม่ได้เดินหน้า ตอนนี้ต้องเดินหน้า ต้องทำงาน ต้องหาเงิน ต้องเลี้ยงลูกให้ดีที่สุดและมีความสุขที่สุด ส่วนตัวก็ต้องสวยที่สุด แซ่บที่สุด

 

กลัวการเริ่มต้นใหม่?

อุ้ม : ไอ้เรามันก็คนคลั่งรักซะด้วย เราก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่เป็นคนคลั่งรัก แต่ด้วยประสบการณ์ที่ผ่านมาต่อไปนี้ก็จะไม่คลั่งรักแล้วค่ะ ต้องมีสติ เราเอาลูกเป็นหลัก ถ้าจะมีใครสักคนเข้ามา คนๆนั้นต้องรักลูกเรา และลูกเราต้องรักเขา และดีสนีย์บอกมะม๊าดีสนีย์ขอโอปป้านะ เขาชอบเกาหลี เพราะอุ้มดูซีรีส์เกาหลีเขาก็จะบอกว่าเอาแบบคังโฮได้ไหม คือสายเกาก็โอเค แต่คนเชียร์ไปสายฝอเยอะ อยากรู้ว่าหาที่ไหนคะ ต้องหาที่ไหนกัน

 

คนที่จะเข้ามาต้องเป็นแบบไหน?

อุ้ม : ด้วยความที่อายุแม่ก็ขนาดนี้แล้ว ก็คิดไม่ออกเลยจะกินเด็กจะยังไง (หัวเราะ) เด็กเขาว่าเรามีลูกแล้วไหม เอาจริงก็ยังคิดไม่ออกเลย แต่ต่อไปนี้ขอให้เจอคู่บุญคู่บารมี ถามว่ามูไหมก็ไม่ได้มูเรื่องความรักเลย ขอคู่บุญบารมี ขอหมดเวรหมดกรรมกับคู่เวรคู่กรรมแค่นั้น

 

ไม่ได้สาปใช่ไหม?

อุ้ม : ไม่ได้สาป เราสายบุญไง แต่เราไม่ได้ I told พระแม่ลักษมีนะ แต่ที่บูชาที่บ้านเลยมีหลายองค์ เกือบร้อยองค์ค่ะ ตอนนี้ก็กลับมารับงานแล้วนะคะ ก็มีติดต่อเข้ามาเรื่อยๆ เราก็อยากทำงาน แต่ต้องดูเรื่องเวลาด้วย ลูกเราก็เลี้ยงเขามาตลอด เราเองก็คิดเยอะ กลัวเขาน้อยใจ เสียใจ เรื่องว่าเราไม่มีเวลาให้ ก็ต้องบอกเขาว่าแม่จะไปทำงาน ก็มีงอแงบ้างตามประสา ไม่แน่นะอาจจะผลักดันลูกเข้าวงการเลย

 

อุ้ม ลักขณา เตรียมคัมแบ็ควงการ ตอบชัดไม่คืนดีอดีตสามี ยังไม่พร้อมมีรักใหม่