‘เหลียงเฉาเหว่ย’ สร้างตำนานบทใหม่! เล่น MV ให้ ‘NewJeans’ เกิร์ลกรุ๊ป K-POP

‘เหลียงเฉาเหว่ย’ สร้างตำนานบทใหม่! เล่น MV ให้ ‘NewJeans’ เกิร์ลกรุ๊ป K-POP

บทพิสูจน์ความเก๋า “เหลียงเฉาเหว่ย” ตำนานที่มีลมหายใจแห่งวงการบันเทิงฮ่องกง ล่าสุดโผล่ร่วมแสดงในมิวสิกวิดีโอ “Cool With You” เพลงใหม่ของ “NewJeans” เด็กรุ่นใหม่ฮือฮา.. เขาคือใคร? ตอกย้ำภาพลักษณ์สุดยอดนักแสดงที่อยู่มาทุกยุค

ทำเอาแฟนเพลงทั่วโลกเซอร์ไพรส์กันเป็นแถว เมื่อ “เหลียงเฉาเหว่ย” ปรากฏตัวในมิวสิควิดีโอเพลงใหม่ “Cool With You” ของ “NewJeans” เกิร์ลกรุ๊ปมาแรงแห่งของยุค แม้จะออกมาเพียงไม่กี่วินาที แต่ด้วยพลังทางการแสดงและรูปลักษณ์ที่หล่อเหลาไม่เหมือนคนอายุ 61 ปี ก็ทำให้ผู้ชมตื่นเต้นและไม่คิดว่าซูเปอร์สตาร์ระดับตำนาน จะมาร่วมงานกับศิลปิน “K-POP” ได้

ขณะเดียวกัน เด็กรุ่นใหม่ที่เป็น “บันนี่” แฟนคลับของ NewJeans อาจจะไม่ทันยุครุ่งเรืองของเหลียงเฉาเหว่ย และสงสัยว่าเขาเป็นใคร กรุงเทพธุรกิจ จะพาไปรู้จัก เหลียงเฉาเหว่ยในทุกแง่มุมและผลงานเด่นในวงการตลอด 40 ปีของเขา

 

  • เกิดจากซีรีส์ฮ่องกง

โทนี่ เหลียง” (Tony Leung) หรือที่คนไทยรู้จักกันดีในชื่อ “เหลียงเฉาเหว่ย” เป็นหนึ่งในนักแสดงที่มีรายได้สูงที่สุดของฮ่องกง ด้วยมูลค่าสุทธิ 20 ล้านดอลลาร์ฮ่องกงต่อเรื่อง และมีฝีมือการแสดงที่จัดจ้านเล่นน้อยแต่ได้มาก จนกลายเป็นนักแสดงฮ่องกงที่สามารถคว้ารางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมมากที่สุด โดยเขาได้รางวัลจากเวที Hong Kong Film Awards ถึง 5 ครั้ง และได้รับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจาก Golden Horse Awards งานประกาศรางวัลใหญ่ของไต้หวันอีก 3 รางวัล

อันที่จริงแล้วหลายคนอาจจะต้องเคยผ่านตางานแสดงของเหลียงเฉาเหว่ยกันมาบ้าง แต่อาจจะไม่รู้ว่านั่นคือเขา ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ขึ้นหิ้งของ “หว่องกาไว” หลายต่อหลายเรื่อง หรือแม้แต่บทตัวร้ายในเรื่อง “Shang-Chi and the Legend of the Ten Rings” หนังซูเปอร์ฮีโร่ในจักรวาลมาร์เวล แต่จุดที่ทำให้เหลียงเฉาเหว่ยแจ้งเกิดนั้นมาตั้งแต่สมัยที่เขาเล่นซีรีส์ฮ่องกงตั้งแต่ยุค 80

‘เหลียงเฉาเหว่ย’ สร้างตำนานบทใหม่! เล่น MV ให้ ‘NewJeans’ เกิร์ลกรุ๊ป K-POP เหลียงเฉาเหว่ยในมิวสิควิดีโอ Cool With You ของ NewJeans

เหลียงเฉาเหว่ย เป็นชาวฮ่องกงโดยกำเนิด เกิดมาในครอบครัวยากจน เขากลายเป็นคนที่เงียบขรึมและรู้สึกโดดเดี่ยว หลังจากที่พ่อติดพนันและทิ้งครอบครัวไป จนกระทั่งเหลียงได้เข้าเรียนในโรงเรียนการแสดงของสถานีโทรทัศน์ทีวีบี (TVB) จากการชักชวนของ “โจวชิงฉือ” ซึ่งจุดนี้เองที่ทำให้เขารู้สึกรักการแสดง

“ตอนเด็ก ๆ ผมกลัวที่จะคุยกับเพื่อนร่วมชั้นมาก ผมไม่รู้ว่าจะต้องทำตัวอย่างไร ถ้ามีคนพูดเกี่ยวกับเรื่องครอบครัวขึ้นมา ผมกลายเป็นคนเงียบ ๆ นี่จึงเป็นเหตุผลที่ผมรักการแสดง เพราะสามารถทำให้ผมแสดงความรู้สึกออกมาทั้งหมด ผมร้องไห้ได้โดยไม่อาย ผู้ชมอาจคิดว่านั่นเป็นความรู้สึกของตัวละคร แต่จริง ๆ แล้วเป็นความรู้สึกของผมเอง” เหลียงเฉาเหว่ยให้สัมภาษณ์กับ The New York Times

เหลียงเข้าสู่วงการบันเทิงครั้งแรกในฐานะพิธีกรรายการเด็ก ก่อนจะแจ้งเกิดอย่างเต็มตัวในฐานะนักแสดงจอแก้วจากซีรีส์เรื่อง “อุ้ยเสี่ยวป้อ” (1984) ที่สร้างจากนวนิยายชื่อเดียวกันของ “กิมย้ง” หลังจากนั้นชื่อเสียงของเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างสุดขีดไปทั่วเอเชียในซีรีส์เรื่อง “ขวัญใจโปลิศ ภาค 1” หรือ Police Cadet (1984) ในบทตำรวจหนุ่ม "จางเหว่ยเจี๋ย" ซึ่งเป็นซีรีส์มียอดผู้ชมทั่วโลกเกือบ 90 ล้านคน และเป็น 1 ใน 10 ละครทีวีบีที่มีเรตติ้งสูงสุดในโลกเหลียงเฉาเหว่ยถูกจัดอยู่ในกลุ่มนักแสดงดาวรุ่ง “5 พยัคฆ์ทีวีบี” พร้อมกับ เหมียวเฉียวเหว่ย, ทังเจิ้นเยี่ย, หวงเย่อหัว, และ “หลิวเต๋อหัว” โดยเหลียงยังคงได้รับบทนำในซีรีส์อีกหลายเรื่องซึ่งกลายเป็นผลงานระดับตำนานทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็น  “เตียบ่อกี้” ในซีรีส์ “ดาบมังกรหยก” ตอน เทพบุตรมังกรฟ้า (1986), “ศึกลำน้ำเลือด” (1987) ซึ่งเป็นซีรีส์ฟอร์มยักษ์ฉลองครบรอบ 20 ปีของช่องทีวีบี, เดชเซียวฮื้อยี้ (1988) และเรื่องอื่น ๆ อีกมากมาย จนกลายเป็นพระเอกอันดับหนึ่งของค่ายโทรทัศน์ทีวีบีต่อจาก “โจวเหวินฟะ” และ “หวงเย่อหัว”

  • ร่วมงานกับ “หว่องกาไว” ผู้กำกับคู่บุญ

หลังจากหมดสัญญากับทีวีบี เหลียงเฉาเหว่ยผันตัวเข้าสู่วงการจอเงินเต็มตัว พร้อมแสดงฝีมือทางการแสดงให้ทั่วโลกได้ประจักษ์ จนถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมมากถึง 11 ครั้ง จากวงการภาพยนตร์นานาชาติ และได้รับขนานนามว่าเป็น “นักแสดงยอดฝีมือของวงการภาพยนตร์จีนฮ่องกง” โดยผลงานที่โดดเด่นในช่วงนี้ได้แก่ “A City of Sadness” (1989) เป็นภาพยนตร์ไต้หวันเรื่องแรกที่ ได้รับรางวัลสิงโตทองคำ เป็นรางวัลสูงสุดในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเวนิส ตามมาด้วย “กอดคอกันไว้ อย่าให้ใครเจาะกะโหลก” (1991) ซึ่งเป็นการร่วมงานครั้งแรกกับผู้กำกับจอห์น วู

ในช่วงเดียวกัน เหลียงเฉาเหว่ยได้ร่วมงานกับ “หว่องกาไว” ผู้กำกับหนังเหงาสุดอาร์ต กับเรื่อง “Days of Being Wild” (1991) หลังจากนั้นเขาและหว่องก็ทำงานร่วมกันอีกหลายเรื่องจนกลายเป็นผู้กำกับคู่บุญของเขา ไม่ว่าจะเป็น “Chungking Express” (1994) หรือในชื่อไทยสุดเท่ “ผู้หญิงผมทองฟัดหัวใจโลกตะลึง” ซึ่งเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกที่ทำให้เหลียงได้รับรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม, “Ashes of Time” ภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจาก วรรณกรรมคลาสสิกเรื่อง “มังกรหยก” (1994)

ขณะที่ “Happy Together” (1997) เป็นการพลิกบทบาทการแสดงของเหลียงเฉาเหว่ย โดยรับบทเป็นเกย์คู่กับ “เลสลี จาง” หนังเรื่องนี้ได้รับผลตอบรับที่ดีมาก จนกลายเป็นอีกผลงานมาสเตอร์พีซของเขา เรื่องต่อมาเป็น “In the Mood for Love” (2000) หนังสุดเหงาที่กลายเป็นหนึ่งในผลงานชิ้นโบแดงของเหลียง และเป็นหนังของหว่องกาไวที่คนไทยรู้จักมากที่สุด 

2046” (2004) เป็นอีกหนังเหงา ๆ ที่ได้รับกระแสตอบรับที่ดีพอควร และเรื่องสุดท้ายที่ทั้งคู่ทำงานด้วยกัน คือ “The Grandmaster” (2013) หรือ “ยอดปรมาจารย์ยิปมัน” เป็นภาพยนตร์ชีวประวัติของยิปมัน ปรมาจารย์มวยกังฟูแบบหย่งชุน และเป็นอาจารย์ของบรูซ ลี 

 

  • ก้าวสู่การเป็นนักแสดงระดับโลก

ตลอดเส้นทางในวงการบันเทิงของเหลียงเฉาเหว่ย เขาเล่นภาพยนตร์ไม่ต่ำกว่า 76 เรื่อง หากไม่นับภาพยนตร์ของหว่องแล้ว เรื่องที่สร้างชื่อเสียงและเป็นภาพจำมากที่สุดคงจะหนีไม่พ้น “สองคนสองคม” หรือ Infernal Affairs (2002) ภาพยนตร์แอ็กชันสุดระห่ำ ที่เหลียงต้องประชันบทบาทกับหลิวเต๋อหัว หนังเรื่องนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากทั้งในแง่รายได้และรางวัล จนมีภาคต่อตามออกมาอีก 2 ภาค และได้ถูกนำไปดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ฮอลลีวูดในชื่อว่า “The Departed” (2006) โดยได้ลีโอนาโด ดีคาปริโอ มาปะทะกับแมตต์ เดมอน ซึ่งทำออกมาได้ดีไม่แพ้กันจนได้รับรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจากออสการ์

ส่วน “Lust Caution” (2007) เป็นภาพยนตร์ที่เหลียงเฉาเหว่ยได้ร่วมงานกับผู้กำกับชื่อดังอย่าง “อั้งลี่” ถึงเรื่องนี้จะเป็นที่โจษจันในความหวือหวาของฉากเลิฟซีน แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ได้รับคำชมในด้านเนื้อหาและการแสดงด้วยเช่นกัน

แม้ว่าคนทั่วโลกจะรู้จักเหลียงเฉาเหว่ย อีกทั้งเขาเองก็อยากจะไปโลดแล่นในวงการ “ฮอลลีวู้ด” แต่เขายังรอบทบาทและตัวละครที่เหมาะสม จนในที่สุดเขาได้เป็นส่วนหนึ่งของจักรวาลมาร์เวลในบทบาท เหวินหวู่ วายร้ายของเรื่องที่ผู้ชมไม่สามารถเกลียดได้ลง โดยเขาได้รับค่าตอบแทนไปกว่า 7.7 ล้านดอลลาร์ นับเป็นนักแสดงชายที่รับค่าตัวสูงสุดจากการแสดงภาพยนตร์มาร์เวลเรื่องแรก

ด้วยนิสัยรักสันโดษของเหลียงเฉาเหว่ย ที่ไม่ค่อยจะเปิดเผยชีวิตส่วนตัวเสียเท่าไหร่ และการเลือกรับงานของเขา ทำให้ไม่มีใครคิดว่าจะได้เห็น เหลียงเฉาเหว่ยปรากฏอยู่ในมิวสิควิดีโอของ NewJeans ซึ่งต้องรอดูกันต่อไปว่าเขาจะกลับมาในบทบาทอะไรให้ผู้ชมได้ทึ่งในการแสดงของเขาอีก

 

ที่มา: GQ MagazineMatichon WeeklySouth Morning China PostThe New York Times