ฮอตโซเชียล พิษ 'แอม ไซยาไนด์' แฉนางเอกดังหนัง 100 ล้าน สั่งไปทำอะไร

ฮอตโซเชียล พิษ 'แอม ไซยาไนด์' แฉนางเอกดังหนัง 100 ล้าน สั่งไปทำอะไร

สืบต่อคดีดัง ฮอตโซเชียล พิษ 'แอม ไซยาไนด์' แฉนางเอกหนังดัง ภาพยนตร์ทำเงิน 100 ล้าน สั่งสารพิษไซยาไนด์ไปทำอะไร

กรณีตำรวจสืบคดี "แอม ไซยาไนด์" บุกตรวจค้นโรงงาน ย่านลาดกระบัง ที่พบเลขรหัสนำเข้าจากขวดไซยาไนด์ที่ถูกฝังไว้หลังบ้านของแอม

ต่อมา "บิ๊กโจ๊ก"  พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เผยผู้ที่ซื้อไซยาไนด์ทางออนไลน์ ต้องมีวัตถุประสงค์ ซื้อไปทำอะไร ตอนนี้เรามีข้อมูลทั้งหมดแล้วว่าใครซื้อไปบ้าง รวมถึงบุคคลที่เป็นดาราด้วย ซึ่งมีบุคคลที่ซื้อไปนับ 100 ราย หากพบพิรุธหรือมีความน่าสงสัยจะเรียกมาสอบสวน และคนใดซื้อไปทำผิดวัตถุประสงค์จะดำเนินคดีตามกฎหมาย


 

 

มีรายงานว่า ดาราหญิงที่ซื้อไซยาไนด์ทางออนไลน์ เป็นดาราสาวระดับนางเอกหนังดัง ภาพยนตร์ระดับ 100 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างขยายผลสั่งซื้อไซยาไนด์ไปเพื่อการใดหรือ

 

อัปเดตคดี สรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ หรือ แอม ไซยาไนด์

วานนี้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้เรียก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล,ตำรวจนครบาล ,ตำรวจภูธรภาค 4 ,ตำรวจภูธรภาค 7 ,กองปราบปราม เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ มาประชุมของคณะทำงานคลี่คลายคดีไซยาไนด์ ของ สรารัตน์ รังสิวุฒาพรณ์ หรือ แอมที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.)นานกว่า 2 ชั่วโมง

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า วันนี้มีการประชุมติดตามความคืบหน้าทางคดี โดยทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบความเชื่อมโยงจากการเสียชีวิตของผู้เสียหาย 14 ราย รอดชีวิต 1 ราย รวมเป็น 15 ราย ปัจจุบันออกหมายจับแล้ว 14 คดี ยังมีสงสัยอีก 2-3 คดี

โดยที่ประชุมลงมติให้โอนทั้ง 14 คดี ให้กองบังคับการปราบปราม ดำเนินการ โดยมีหัวหน้าคณะสืบสวน คือ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ และในคณะประกอบด้วย พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค7 ,พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ,พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้บัญชาการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ ซึ่งสั่งให้เร่งรัดดำเนินการทุกวัน ทำงานร่วมกัน เพื่อให้ได้พยานหลักฐานที่แน่นหนาในการเอาผิดกับผู้ต้องหา

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวต่อว่า ในที่ประชุมได้มีการออกแนวทางให้พนักงานสอบสวน กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช ต้องมีการทำงานร่วมกันอย่างบูรณาการ จากนี้กรณีพบการตายไม่ทราบสาเหตุ พนักงานสอบสวนจะไม่ทำงานโดยลำพัง แต่ต้องมีทุกหน่วยทั้งกองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช เข้ามาช่วย 

หากแพทย์นิติเวชตามโรงพยาบาลในต่างจังหวัดไม่สามารถตรวจสอบ ให้ประสานนำส่งมาตรวจที่โรงพยาบาลของรัฐ หรือส่งมาที่นิติเวชโรงพยาบาลตำรวจเป็นหลัก และให้เจ้าหน้าที่ พฐ.เก็บพยานหลักฐานเหตุที่ควรต้องสงสัย

อย่างไรก็ตามใน 14 คดีที่ดำเนินคดีแล้ว ตำรวจได้ย้อนกลับไปเก็บพยานหลักฐานเพิ่มเติม ทำให้มีหลักฐานประกอบในสำนวนคดีต่างๆมากขึ้น การค้นหาไซยาไนด์ ประสานกรมโรงงาน อย. พบแหล่งที่มาอยู่ระหว่างคัดแยกว่าส่วนไหนที่ส่งถึงแอม

ส่วนการส่งพยานหลักฐานให้ อ.อ๊อด ช่วยตรวจสอบครั้งนี้ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ ระบุว่า ถือเป็นการขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ จากนี้พยานหลักฐานทั้งหมด จะเข้าตามระบบ ส่วนหลักฐานของ อ.อ๊อด ยืนยันเอาไปใช้ในชั้นศาลได้ แต่ตำรวจสื่อสารไปแล้วเรื่องการให้ข้อมูลสู่สาธารณะ หลังจากนี้ต้องระมัดระวังเนื่องจากจะมีผลต่อรูปคดี

ทั้งนี้แม้ไม่มีพยานที่รู้เห็นตอนแอมหยอดไซยาไนด์ในอาหาร หรือน้ำดื่มให้ผู้เสียหาย แต่คดีนี้ตำรวจมีประจักษ์พยาน พยานแวดล้อม และหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์แน่นหนาเอาผิดผู้ต้องหาได้ทุกคดีแน่นอน

ด้าน พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ขณะนี้คดีที่เกี่ยวข้อง เหลือเพียงคดีในส่วนสถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ ซึ่งวันจันทร์ ที่ 8 พฤษภาคม ตำรวจจะขอศาลออกหมายจับได้ เนื่องจากการสอบสวนอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายแล้ว 

สำหรับนายตำรวจยศ สิบตำรวจเอก ที่เสียชีวิตเมื่อปี 2565 ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบว่า เกี่ยวข้องกับแอม ด้วยหรือไม่ เบื้องต้นแพทย์ยืนยันว่า ป่วยด้วยโรคมะเร็ง แต่ทั้งหมดนี้ต้องมีการสืบสวนโดยละเอียดอีกครั้ง

ส่วน พ.ต.ท.วิฑูรย์ รังสิวุฒาภรณ์ หรือ รองผู้กำกับอ๊อฟ อดีตสามีแอม ตำรวจพบว่า มีการหย่าร้างทางนิตินัย แต่ทั้งสองยังคงใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน ไม่ได้เลิกกันจริง ส่วนที่ไปมีสามีใหม่ คือแด้ จุดประสงค์ แอม คือต้องการทรัพย์สิน เนื่องจากแอมทราบมาว่า แด้มีทรัพย์สินจำนวนมาก

ซึ่งการสืบสวนของตำรวจเป็นการขยายพื้นที่ ตั้งต้นที่จังหวัดอุดรธานี ทั้งนี้คดีของ นายแด้ เชื่อว่า รองผู้กำกับฯ มีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะหลังก่อเหตุแอมให้ รองผู้กำกับฯ ไปเอารถของนายแด้ที่จังหวัดอุดรธานี จากนั้นทั้งสองไปตระเวนทวงเงินจากลูกหนี้ของนายแด้

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า แอมไม่เคยให้คำตอบเรื่องหย่า แต่สามีที่เป็นรองผู้กำกับฯ ตอบว่าเหตุผลที่หย่ากับแอม เพราะแอมทำผิดหลายอย่าง ตนที่รับราชการเป็นตำรวจ กลัวว่า จะโดนความผิด และได้รับความเดือดร้อนไปด้วยจนถึงขณะนี้อดีตสามีของแอมยังไม่มีการรับสารภาพว่า ร่วมก่อเหตุฆาตกรรมกับแอม จากนี้ในส่วนของคนรอบข้างผู้ต้องหาทั้ง 2 ตำรวจจะยังมีการติดตามตัวมาสอบปากคำในฐานะพยานเพิ่มเติมอีก

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวถึง พยานคนใหม่ในคดี ซึ่งเป็นภรรยาน้อยของ รองผู้กำกับอ๊อฟ ที่ตำรวจเรียกมาให้ปากคำที่สโมสรตำรวจ เวลา 18.00 น. วานนี้ เพื่อสอบถามความเชื่อมโยงในคดี เนื่องจากพบว่า รองผู้กำกับอ๊อฟ แอม และภรรยาน้อย ทั้ง 3 ซึ่งรู้จักกันดี เดินทางไปที่อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หลังแอมก่อเหตุเพื่อสร้างแหล่งที่อยู่ว่า แอมไม่ได้อยู่ในจุดเหตุฆาตกรรม ในท้องที่ สภ.บ้านโป่ง

ทรัพย์สินทั้งหมดที่แอมได้มาจากผู้เสียหาย 

โดยตำรวจกำลังรวบรวม ซึ่งวานนี้(2 พฤษภาคม)ได้ไปเจอร้านทองในจังหวัดนครปฐม มีใบเสร็จที่แอมนำทองมาขายทางร้านที่รับซื้อได้หลอมไปแล้ว

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวยืนยันว่า ผู้เสียหายทั้ง 15 ราย แอม ใช้สารพิษไซยาไนด์ทั้งหมด ไม่ว่าในรูปแบบเป็นน้ำ อาหาร ยาเม็ดแคปซูล ปัญหาการเงินเป็นมูลเหตุจูงใจในการฆ่า ใช้วิธีการโอนเงิน ทั้งแบบหลอกรับจำนำรถยนต์ ขอกู้ยืม เพราะแอมล้มเหลวด้านการเงิน มีหนี้บัตรเครดิตจำนวนมาก 

ทั้งนี้สอดคล้องกับข้อมูลจากการตรวจค้นที่บ้านพักพี่สาวแอม ที่พบแคปซูลเป็นจำนวนมาก ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า ในแคปซูลมีการปนเปื้อนสารไซยาไนด์

สำหรับข้อมูลการใช้โทรศัพท์ การโอนเงิน การทำธุรกรรมธนาคาร เส้นทางการเงินทั้งหมด เพื่อหาความเชื่อมโยงระหว่าง รองผู้กำกับอ๊อฟกับแอม ตำรวจจะได้รับข้อมูลภายในวันศุกร์ ที่ 5 พฤษภาคมนี้ รวมไปถึงบัญชีม้าที่แอมใช้เอง